ผมเป็นคนที่ขับรถ (จักยานยนต์) มีมารยาท(คิดว่าดี)ครับ ไฟเลี้ยวไม่เคยขาด ให้ทาง-ชะลอ เป็นนิสัย เบรคมากกว่าเร่ง safety first จะบิดก็ต่อเมื่อทางโล่งๆ ตรงๆ ยาวๆ เวลาไปทำงานหรือกลับบ้านนะครับ
ที่นี้ ผมมาสังเกตุตัวเอง จะไม่ค่อยหงุดหงิดกับอะไรง่ายๆ แต่พอขับรถแล้ว จะหงุดหงิดง่ายกับเหตุการบางอย่าง เช่น
-พวกคุยโทรศัพท์ตอนขับรถ(ทุกประเภท) และจะหงุดหงิด x2 เมื่อแม่มขับ

ๆ
-พวกออกไม่ดู/ไม่เปิดไฟเลี้ยว บางเคสแม่มรวมกับเคสโทรศัพท์ บ่อยครั้งที่แม่มปาดหน้าผมจนเกือบชน
-พวกเลี้ยวไม่เปิดไฟเลี้ยว อันนี้เบสิก ความรุนแรงของอารมณ์ขึ้นอยู่กับว่าสร้างความเสียหายแค่ไหน ถ้าเลี้ยวเข้าซอยแล้วไม่เปิดอันนี้พอหยวนๆ เพราะผมจอดอยู่. แต่ถ้ามันยูเทิร์นกลางถนนแล้วรถยนต์ที่ขับตามมันเบี่ยงรถมาเบียดผม อันนี้หัวร้อนหนักมาก และอีก ฯลฯ ที่ขอละไว้เพราะขี้เกียจจำ
ป.ล.จริงๆผมเป็นคนขับรถเร็วมาก แต่ตอยวัยรุ่นปลายๆเจอดีมาหนักมาก ทุกวันนี้เลยขยาด และพอได้ขับรถยนต์ เลยมีมารยาทไปโดยปริยายครับ ใจเขาใจเรา รู้เลยว่าพอเจอพวกขับคล้ายตัวเองเมื่อก่อนเป็นยังไง
แก้ความหัวร้อนเวลาขับรถ ทุกท่านใช้วิธีไหนกับตัวเองบ้างครับ
ที่นี้ ผมมาสังเกตุตัวเอง จะไม่ค่อยหงุดหงิดกับอะไรง่ายๆ แต่พอขับรถแล้ว จะหงุดหงิดง่ายกับเหตุการบางอย่าง เช่น
-พวกคุยโทรศัพท์ตอนขับรถ(ทุกประเภท) และจะหงุดหงิด x2 เมื่อแม่มขับ
-พวกออกไม่ดู/ไม่เปิดไฟเลี้ยว บางเคสแม่มรวมกับเคสโทรศัพท์ บ่อยครั้งที่แม่มปาดหน้าผมจนเกือบชน
-พวกเลี้ยวไม่เปิดไฟเลี้ยว อันนี้เบสิก ความรุนแรงของอารมณ์ขึ้นอยู่กับว่าสร้างความเสียหายแค่ไหน ถ้าเลี้ยวเข้าซอยแล้วไม่เปิดอันนี้พอหยวนๆ เพราะผมจอดอยู่. แต่ถ้ามันยูเทิร์นกลางถนนแล้วรถยนต์ที่ขับตามมันเบี่ยงรถมาเบียดผม อันนี้หัวร้อนหนักมาก และอีก ฯลฯ ที่ขอละไว้เพราะขี้เกียจจำ
ป.ล.จริงๆผมเป็นคนขับรถเร็วมาก แต่ตอยวัยรุ่นปลายๆเจอดีมาหนักมาก ทุกวันนี้เลยขยาด และพอได้ขับรถยนต์ เลยมีมารยาทไปโดยปริยายครับ ใจเขาใจเรา รู้เลยว่าพอเจอพวกขับคล้ายตัวเองเมื่อก่อนเป็นยังไง