สวัสดีค่ะ
เราตามอ่านพันทิปมาตลอดแต่ไม่เคยตั้งกระทู้เลย วันนี้เรามีเรื่องจะมาระบายรวมถึงรบกวนขอคำปรึกษาชาวพันทิปสักนิดนึงค่ะ
เรากำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 4 ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.ดังแห่งนึงค่ะ จะเรียนจบปีหน้า ตอนนี้เราเครียดมากและเคว้งมากค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะเลือกคณะนี้เท่าไรเพราะเราไม่ได้สนใจหรืออินการเมือง หรือมีเป้าหมายในแนวทางนี้ เราชอบเที่ยว ชอบอ่านหนังสือ และมีคณะรวมถึงมหาวิทยาลัยในใจไว้แล้ว แต่เราสอบไม่ติดค่ะ 55555 ตอนนั้นเราตัดสินใจเลือกคณะนี้เพราะคะแนนเราถึง และเราอยากเข้ามหาวิทยาลัยนี้ ความผิดดอกที่หนึ่งของเราเลยค่ะที่เลือกชื่อมหาวิทยาลัย แต่เอกที่เราเลือกเข้าเป็นเอกที่เราเคยดูๆ ไว้เหมือนกันนะคะ แต่เพราะคิดว่าคะแนนสูงปรี๊ดเลยไม่กล้าเข้า แต่พอมาวันนั้นคะแนนเราถึงเราเลยตัดสินใจเลือกค่ะ ตอนนั้นเราสละสิทธิ์รับตรงทุกที่เพื่อมาแอดคณะนี้ บ้านเราแทบแตกแหนะค่ะตอนนั้นเพราะพ่อแม่เราไม่อยากให้เราสละสิทธิ์ แต่สักพักหนึ่งเค้าก็ยอม และถามว่าเราจะแอดเข้าคณะอะไร พอเราบอกไปเค้าก็ตอบกลับมาว่า อืมดี อนาคตจะได้เป็นข้าราชการ มีสวัสดิการดี ตอนนั้นเราก็พยักหน้ารับไปค่ะ และเราก็แอดติดคณะนี้จริงๆ อย่างที่เราคิดไว้
พอเราเข้ามาเรียนจริงๆ เราก็ไม่ได้อินการเมืองหรือชอบอะไรเลยค่ะ ขณะที่เพื่อนหลายคนมีเป้าหมายมุ่งมั่น อยากเป็นทูต อยากทำองค์การระหว่างประเทศ ฯลฯ เรากลับไม่มีเป้าหมายแบบนั้นเลย การเรียนของเราคือเรียนไปวันๆ จริงๆค่ะ แต่ถามว่าเรียนได้มั้ย ได้ค่ะ เกรดพอใช้ได้ บางวิชาดีบางวิชาแย่ และเราก็ไม่ได้รู้สึกทรมานใจอะไร เรายังคิดเลยว่า เออดีเนอะ การที่เราเลือกคณะนี้แบบไม่ได้ตั้งใจแต่เราก็ไม่ได้ทรมานกับมันมาก เราเริ่มชอบสไตล์คณะนี้ค่ะ เราชอบการที่เรามองโลกได้กว้างขึ้น เริ่มคิด วิเคราะห์ ได้มากขึ้น และมองหลายสิ่งหลายอย่างอย่างที่เราไม่เคยคิดมาก่อน โลกของเรากว้างขึ้นเพราะคณะนี้เลยค่ะ
ช่วงปีหนึ่งปีสองผ่านไปแบบไม่มีปัญหาค่ะ เราปรับตัวได้ เราเรียนได้ เรามีความสุข เรารู้สึกว่าเออนี่สบายกว่ามัธยมอีกแหนะ ไม่มีการเรียนพิเศษมากมาย เข้าสายได้ มีวันหยุด (เราจัดตารางเรียนให้มีหยุดเพื่อเคลียร์งาน) แต่หายนะมาเยือนตอนปีสามนี่แหละค่ะ หลายคนเตือนไว้แล้วว่าปีสามมันหนักนะ หลายคนป่วย น๊อกไปเลยก็มี เราเองก็หวั่นๆ ค่ะ พอเรามาเรียนจริงๆ มันหนักมากค่ะ ปีนี้เป็นปีที่เข้าเอกแล้วด้วย และทุกคนเก่งกันมาก วิชาในเอกก็ยากมากกว่าวิชาเรียนรวมที่เคยผ่านๆ มา เราเริ่มเครียดละ ไม่แฮปปี้ละ แต่เราก็ยังประคองตัวผ่านมาได้ในเทอมแรกค่ะ
จนเทอมสองนี่แหละค่ะที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เราเริ่มมีปัญหากับงานชิ้นนึง อันที่จริงไม่ใช่เราคนเดียวนะคะที่มีปัญหา แต่เราเครียดมาก เราเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยว่าทำไมเราง่อยแบบนี้ เวลาของเราเริ่มถูกใช้ไปกับงานชิ้นนี้มากขึ้น เครียดมากขึ้น เราเริ่มร้องไห้เวลาอยู่คนเดียว คิดในแง่ลบ เช่น ฉันไม่น่ามาเรียนเลย เสียดายเวลา เสียดายเงิน (แต่พออารมณ์ดีขึ้นก็ไม่คิดแล้วค่ะ) เครียดมากถึงขั้นจะบุกเดี่ยวไปพบจิตแพทย์เลย แต่ยังไม่ได้ไป เราเริ่มคิดแล้วว่านี่เรามาทำอะไรตรงนี้ จบไปเราจะทำอะไรดีล่ะ เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นเป็ดง่อย กลวง ทำได้แต่ไม่ได้ดีเลย เราเริ่มเสียใจกับทุกอย่างที่ผ่านมา อีกท้ังคนรอบตัวเราดูมีอนาคตที่ดี สดใส หลายคนมีเงิน ไปต่างประเทศได้ เราเริ่มคิดว่าเราน่าจะเก็บเงินและไปต่างประเทศกับเขาบ้าง ทำไมเราไม่ทำนะ เรามัวแต่ทำอะไรอยู่ ทุกอย่างถาโถมกลับมาที่เราในช่วงปีสามเทอมสองนี่เลยค่ะ ภายนอกเราปกติทุกอย่าง เรายิ้ม ร่าเริง สดใส คุยเล่นปกติ แต่เวลาเราอยู่คนเดียวเราแทบจะร้องไห้ตลอด ร้องไปพิมพ์งานไป ไม่ร้องก็คิดลบตลอดเวลา พอมีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจเราก็จะดีขึ้น แต่พออยู่คนเดียวมันก็คิดแบบนี้ตลอด แต่เรายังนอนได้ปกตินะคะ เหนื่อยมาก หัวถึงหมอนแล้วหลับป๊อกเลย (ตอนเรียนก็มีบ้าง5555)
จนตอนนี้เราปิดเทอมอยู่ค่ะ ตอนแรกเราตั้งใจแน่วแน่มากว่าเราจะฝึกงาน เราจะไม่ฟุ้งซ่านอีกต่อไป แต่ด้วยความขัดข้องและความโง่เง่าของเราเองทำให้เราไม่ได้ฝึกค่ะ เราเองเลยคิดวางแผนไว้หลายอย่าง ทั้งทำพาร์ทไทม์ ทำงานอาสา หัดขับรถ ฯลฯ แต่ยังไม่ได้เริ่มสักอย่างเลย เราเองกลัวว่าพ่อแม่จะว่าเราทำไม่ได้หรอก เราเหลาะแหละ เราเริ่มคิดเรื่องการเตรียมทำ resume แล้วพอมานั่งดู เออ เราจะใส่อะไรลงไปดี เราทำกิจกรรมมาบ้างประปรายรวมถึงกิจกรรมอาสา แต่พอช่วงเรียนหนักๆ โดยเฉพาะปีสาม เราหยุดทุกอย่างเลย หยุดแม้กระทั่งสิ่งที่เรารักมาตลอดอย่างการอ่านหนังสือ เราไม่รู้ว่าเราเป็นคนเดียวไหม หรือยังไง แต่เราเคว้งมากค่ะ เหมือนโดนปล่อยลอยคอกลางทะเลและไม่มีทุ่นให้ยึดเกาะเลย และทั้งหมดนี้เพราะเราทำตัวเองโดยแท้ การที่เราเรียนได้มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เราไม่มี passion อะไรในชีวิต และความมั่นใจในตัวเองก็ถดถอยลงไปเรื่อยๆ เราเอาแต่คิดว่า รู้งี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะทำ ..... แต่แน่นอนค่ะว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราเลยต้องหาทางกอบกู้ไอ้ที่เสียไปนี้ให้กลับมาได้มากที่สุด
พูดมาซะยาวเลย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราไม่ปรึกษาพ่อแม่หรือคนรอบตัวเลย เราไม่สนิทกับใครเลยค่ะ เราชอบอยู่คนเดียวมากกว่า คิดอะไรคนเดียว เรามีพ่อแม่โอบอุ้มมาตลอด บ้านเราฐานะปานกลางค่ะ เคยดีกว่านี้แต่ตอนหลังแย่ลงมาก ตึงบ่อยๆ แต่พ่อแม่เลี้ยงเราดีมาก เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เหมือนลูกคุณหนูทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่ใช่ ซึ่งเรามองต่อไปว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราแย่แน่ เราต้องค่อยๆ ปรับตัวแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากกก คือความคาดหวังของพ่อแม่ค่ะ ตอนแรกเหมือนเขาไม่อยากให้เราสละสิทธิ์ใช่ไหมคะ แต่ตอนนี้เขาภูมิใจมากที่เราเรียนคณะนี้ เขาชอบบอกว่าเรามีอนาคตดีแล้ว จบไปให้รับราชการและจะให้ดีเป็นทูตนะ เราก็อืม ค่ะ เราไม่อยากทำลายความฝันของพ่อแม่ แต่เราก็ไม่อยากบอกเลยว่าเป็นทูตนี่มันยากนะ เป็นข้าราชการก็ต้องสอบด้วย เราเองยินดีจะสอบนะคะ แต่เราไม่แน่ใจว่าภาพที่พ่อแม่วาดหวังไว้มันจะใช่สิ่งที่เราทำได้และจะเกิดขึ้นจริงรึเปล่านี่สิ เราอยากบอกว่าอย่าคาดหวังมากเลย เราจะทำให้ดีที่สุด แต่เราไม่รับประกันว่ามันจะเหมือนภาพที่เขาหวังไว้ไหม แต่จะไม่ให้คาดหวังคงไม่ได้เนาะ เพราะเขาส่งเราเรียนมาขนาดนี้แล้ว อีกอย่างหนึ่งคือเขาอยากให้เราสอบเรียนต่อ (ในไทย) ค่ะ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ค่าเทอมแน่นอนว่าเราออกเอง ซึ่งเราก็ อื้ม ค่ะ แต่ในใจก็คิดว่าคงคิดอีกที เพราะถ้าเราเพิ่งทำงานและยังไม่มีเป้าหมายแน่นอนเราคงอยากเก็บเงินมากกว่าก่อน
เราอยากจะขอคำปรึกษาจากทุกท่านเลยค่ะ เรารู้ว่าทุกอย่างนี่เราทำตัวเอง เราเหมือนซุกฝุ่นไว้ใต้พรมมาตลอด และวันนี้ไอ้พรมที่ว่าก็เริ่มเปิดออกแล้วและเห็นฝุ่นเต็มไปหมด เราคงเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป เราควรจะก้าวไปทางไหนต่อดีคะ เราเคว้งไปหมดเลย ตอนพวกคุณจะเรียนจบกันพวกคุณเริ่มทำยังไงกันคะ รบกวนแบ่งปันประสบการณ์นิดนึงนะคะ ถ้าเราคิดว่าจะทำงานก่อน เก็บเงิน หาเป้าหมายแล้วค่อยหาทุนไปเรียนต่อจะดีไหมคะ เห็นว่าถ้าเรียนต่อเลยโดยไม่มีประสบการณ์อาจจะหางานยาก และเราก็ไม่อยากใช้ข้ออ้างเรียนต่อยืดเวลาในการทำงานออกไป โดยเฉพาะเมื่อบ้านเราไม่ได้ฐานะดีแบบนี้แล้ว แล้วยิ่งตัวเรากลวงๆ แบบนี้ด้วยแล้ว เราควรจะทำยังไงดีคะ เราไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวังเลย แต่เรามองดูความเป็นจริงแล้วการจะไปให้ถึงจุดทีพ่อแม่เราวาดฝันไว้คงยากมากเหลือเกิน รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ เรายินดีรับทุกคอมเม้นท์เลยค่ะ
ขอบคุณมากจริงๆนะคะ
ปล. แท๊กผิดขออภัยนะคะ เราตั้งกระทู้ครั้งแรก
ปีหน้าจะเรียนจบแล้วค่ะ ตอนนี้เครียดและเคว้งมากเลย รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ
เราตามอ่านพันทิปมาตลอดแต่ไม่เคยตั้งกระทู้เลย วันนี้เรามีเรื่องจะมาระบายรวมถึงรบกวนขอคำปรึกษาชาวพันทิปสักนิดนึงค่ะ
เรากำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 4 ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.ดังแห่งนึงค่ะ จะเรียนจบปีหน้า ตอนนี้เราเครียดมากและเคว้งมากค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะเลือกคณะนี้เท่าไรเพราะเราไม่ได้สนใจหรืออินการเมือง หรือมีเป้าหมายในแนวทางนี้ เราชอบเที่ยว ชอบอ่านหนังสือ และมีคณะรวมถึงมหาวิทยาลัยในใจไว้แล้ว แต่เราสอบไม่ติดค่ะ 55555 ตอนนั้นเราตัดสินใจเลือกคณะนี้เพราะคะแนนเราถึง และเราอยากเข้ามหาวิทยาลัยนี้ ความผิดดอกที่หนึ่งของเราเลยค่ะที่เลือกชื่อมหาวิทยาลัย แต่เอกที่เราเลือกเข้าเป็นเอกที่เราเคยดูๆ ไว้เหมือนกันนะคะ แต่เพราะคิดว่าคะแนนสูงปรี๊ดเลยไม่กล้าเข้า แต่พอมาวันนั้นคะแนนเราถึงเราเลยตัดสินใจเลือกค่ะ ตอนนั้นเราสละสิทธิ์รับตรงทุกที่เพื่อมาแอดคณะนี้ บ้านเราแทบแตกแหนะค่ะตอนนั้นเพราะพ่อแม่เราไม่อยากให้เราสละสิทธิ์ แต่สักพักหนึ่งเค้าก็ยอม และถามว่าเราจะแอดเข้าคณะอะไร พอเราบอกไปเค้าก็ตอบกลับมาว่า อืมดี อนาคตจะได้เป็นข้าราชการ มีสวัสดิการดี ตอนนั้นเราก็พยักหน้ารับไปค่ะ และเราก็แอดติดคณะนี้จริงๆ อย่างที่เราคิดไว้
พอเราเข้ามาเรียนจริงๆ เราก็ไม่ได้อินการเมืองหรือชอบอะไรเลยค่ะ ขณะที่เพื่อนหลายคนมีเป้าหมายมุ่งมั่น อยากเป็นทูต อยากทำองค์การระหว่างประเทศ ฯลฯ เรากลับไม่มีเป้าหมายแบบนั้นเลย การเรียนของเราคือเรียนไปวันๆ จริงๆค่ะ แต่ถามว่าเรียนได้มั้ย ได้ค่ะ เกรดพอใช้ได้ บางวิชาดีบางวิชาแย่ และเราก็ไม่ได้รู้สึกทรมานใจอะไร เรายังคิดเลยว่า เออดีเนอะ การที่เราเลือกคณะนี้แบบไม่ได้ตั้งใจแต่เราก็ไม่ได้ทรมานกับมันมาก เราเริ่มชอบสไตล์คณะนี้ค่ะ เราชอบการที่เรามองโลกได้กว้างขึ้น เริ่มคิด วิเคราะห์ ได้มากขึ้น และมองหลายสิ่งหลายอย่างอย่างที่เราไม่เคยคิดมาก่อน โลกของเรากว้างขึ้นเพราะคณะนี้เลยค่ะ
ช่วงปีหนึ่งปีสองผ่านไปแบบไม่มีปัญหาค่ะ เราปรับตัวได้ เราเรียนได้ เรามีความสุข เรารู้สึกว่าเออนี่สบายกว่ามัธยมอีกแหนะ ไม่มีการเรียนพิเศษมากมาย เข้าสายได้ มีวันหยุด (เราจัดตารางเรียนให้มีหยุดเพื่อเคลียร์งาน) แต่หายนะมาเยือนตอนปีสามนี่แหละค่ะ หลายคนเตือนไว้แล้วว่าปีสามมันหนักนะ หลายคนป่วย น๊อกไปเลยก็มี เราเองก็หวั่นๆ ค่ะ พอเรามาเรียนจริงๆ มันหนักมากค่ะ ปีนี้เป็นปีที่เข้าเอกแล้วด้วย และทุกคนเก่งกันมาก วิชาในเอกก็ยากมากกว่าวิชาเรียนรวมที่เคยผ่านๆ มา เราเริ่มเครียดละ ไม่แฮปปี้ละ แต่เราก็ยังประคองตัวผ่านมาได้ในเทอมแรกค่ะ
จนเทอมสองนี่แหละค่ะที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เราเริ่มมีปัญหากับงานชิ้นนึง อันที่จริงไม่ใช่เราคนเดียวนะคะที่มีปัญหา แต่เราเครียดมาก เราเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยว่าทำไมเราง่อยแบบนี้ เวลาของเราเริ่มถูกใช้ไปกับงานชิ้นนี้มากขึ้น เครียดมากขึ้น เราเริ่มร้องไห้เวลาอยู่คนเดียว คิดในแง่ลบ เช่น ฉันไม่น่ามาเรียนเลย เสียดายเวลา เสียดายเงิน (แต่พออารมณ์ดีขึ้นก็ไม่คิดแล้วค่ะ) เครียดมากถึงขั้นจะบุกเดี่ยวไปพบจิตแพทย์เลย แต่ยังไม่ได้ไป เราเริ่มคิดแล้วว่านี่เรามาทำอะไรตรงนี้ จบไปเราจะทำอะไรดีล่ะ เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นเป็ดง่อย กลวง ทำได้แต่ไม่ได้ดีเลย เราเริ่มเสียใจกับทุกอย่างที่ผ่านมา อีกท้ังคนรอบตัวเราดูมีอนาคตที่ดี สดใส หลายคนมีเงิน ไปต่างประเทศได้ เราเริ่มคิดว่าเราน่าจะเก็บเงินและไปต่างประเทศกับเขาบ้าง ทำไมเราไม่ทำนะ เรามัวแต่ทำอะไรอยู่ ทุกอย่างถาโถมกลับมาที่เราในช่วงปีสามเทอมสองนี่เลยค่ะ ภายนอกเราปกติทุกอย่าง เรายิ้ม ร่าเริง สดใส คุยเล่นปกติ แต่เวลาเราอยู่คนเดียวเราแทบจะร้องไห้ตลอด ร้องไปพิมพ์งานไป ไม่ร้องก็คิดลบตลอดเวลา พอมีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจเราก็จะดีขึ้น แต่พออยู่คนเดียวมันก็คิดแบบนี้ตลอด แต่เรายังนอนได้ปกตินะคะ เหนื่อยมาก หัวถึงหมอนแล้วหลับป๊อกเลย (ตอนเรียนก็มีบ้าง5555)
จนตอนนี้เราปิดเทอมอยู่ค่ะ ตอนแรกเราตั้งใจแน่วแน่มากว่าเราจะฝึกงาน เราจะไม่ฟุ้งซ่านอีกต่อไป แต่ด้วยความขัดข้องและความโง่เง่าของเราเองทำให้เราไม่ได้ฝึกค่ะ เราเองเลยคิดวางแผนไว้หลายอย่าง ทั้งทำพาร์ทไทม์ ทำงานอาสา หัดขับรถ ฯลฯ แต่ยังไม่ได้เริ่มสักอย่างเลย เราเองกลัวว่าพ่อแม่จะว่าเราทำไม่ได้หรอก เราเหลาะแหละ เราเริ่มคิดเรื่องการเตรียมทำ resume แล้วพอมานั่งดู เออ เราจะใส่อะไรลงไปดี เราทำกิจกรรมมาบ้างประปรายรวมถึงกิจกรรมอาสา แต่พอช่วงเรียนหนักๆ โดยเฉพาะปีสาม เราหยุดทุกอย่างเลย หยุดแม้กระทั่งสิ่งที่เรารักมาตลอดอย่างการอ่านหนังสือ เราไม่รู้ว่าเราเป็นคนเดียวไหม หรือยังไง แต่เราเคว้งมากค่ะ เหมือนโดนปล่อยลอยคอกลางทะเลและไม่มีทุ่นให้ยึดเกาะเลย และทั้งหมดนี้เพราะเราทำตัวเองโดยแท้ การที่เราเรียนได้มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เราไม่มี passion อะไรในชีวิต และความมั่นใจในตัวเองก็ถดถอยลงไปเรื่อยๆ เราเอาแต่คิดว่า รู้งี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะทำ ..... แต่แน่นอนค่ะว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราเลยต้องหาทางกอบกู้ไอ้ที่เสียไปนี้ให้กลับมาได้มากที่สุด
พูดมาซะยาวเลย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราไม่ปรึกษาพ่อแม่หรือคนรอบตัวเลย เราไม่สนิทกับใครเลยค่ะ เราชอบอยู่คนเดียวมากกว่า คิดอะไรคนเดียว เรามีพ่อแม่โอบอุ้มมาตลอด บ้านเราฐานะปานกลางค่ะ เคยดีกว่านี้แต่ตอนหลังแย่ลงมาก ตึงบ่อยๆ แต่พ่อแม่เลี้ยงเราดีมาก เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เหมือนลูกคุณหนูทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่ใช่ ซึ่งเรามองต่อไปว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราแย่แน่ เราต้องค่อยๆ ปรับตัวแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากกก คือความคาดหวังของพ่อแม่ค่ะ ตอนแรกเหมือนเขาไม่อยากให้เราสละสิทธิ์ใช่ไหมคะ แต่ตอนนี้เขาภูมิใจมากที่เราเรียนคณะนี้ เขาชอบบอกว่าเรามีอนาคตดีแล้ว จบไปให้รับราชการและจะให้ดีเป็นทูตนะ เราก็อืม ค่ะ เราไม่อยากทำลายความฝันของพ่อแม่ แต่เราก็ไม่อยากบอกเลยว่าเป็นทูตนี่มันยากนะ เป็นข้าราชการก็ต้องสอบด้วย เราเองยินดีจะสอบนะคะ แต่เราไม่แน่ใจว่าภาพที่พ่อแม่วาดหวังไว้มันจะใช่สิ่งที่เราทำได้และจะเกิดขึ้นจริงรึเปล่านี่สิ เราอยากบอกว่าอย่าคาดหวังมากเลย เราจะทำให้ดีที่สุด แต่เราไม่รับประกันว่ามันจะเหมือนภาพที่เขาหวังไว้ไหม แต่จะไม่ให้คาดหวังคงไม่ได้เนาะ เพราะเขาส่งเราเรียนมาขนาดนี้แล้ว อีกอย่างหนึ่งคือเขาอยากให้เราสอบเรียนต่อ (ในไทย) ค่ะ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ค่าเทอมแน่นอนว่าเราออกเอง ซึ่งเราก็ อื้ม ค่ะ แต่ในใจก็คิดว่าคงคิดอีกที เพราะถ้าเราเพิ่งทำงานและยังไม่มีเป้าหมายแน่นอนเราคงอยากเก็บเงินมากกว่าก่อน
เราอยากจะขอคำปรึกษาจากทุกท่านเลยค่ะ เรารู้ว่าทุกอย่างนี่เราทำตัวเอง เราเหมือนซุกฝุ่นไว้ใต้พรมมาตลอด และวันนี้ไอ้พรมที่ว่าก็เริ่มเปิดออกแล้วและเห็นฝุ่นเต็มไปหมด เราคงเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป เราควรจะก้าวไปทางไหนต่อดีคะ เราเคว้งไปหมดเลย ตอนพวกคุณจะเรียนจบกันพวกคุณเริ่มทำยังไงกันคะ รบกวนแบ่งปันประสบการณ์นิดนึงนะคะ ถ้าเราคิดว่าจะทำงานก่อน เก็บเงิน หาเป้าหมายแล้วค่อยหาทุนไปเรียนต่อจะดีไหมคะ เห็นว่าถ้าเรียนต่อเลยโดยไม่มีประสบการณ์อาจจะหางานยาก และเราก็ไม่อยากใช้ข้ออ้างเรียนต่อยืดเวลาในการทำงานออกไป โดยเฉพาะเมื่อบ้านเราไม่ได้ฐานะดีแบบนี้แล้ว แล้วยิ่งตัวเรากลวงๆ แบบนี้ด้วยแล้ว เราควรจะทำยังไงดีคะ เราไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวังเลย แต่เรามองดูความเป็นจริงแล้วการจะไปให้ถึงจุดทีพ่อแม่เราวาดฝันไว้คงยากมากเหลือเกิน รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ เรายินดีรับทุกคอมเม้นท์เลยค่ะ
ขอบคุณมากจริงๆนะคะ
ปล. แท๊กผิดขออภัยนะคะ เราตั้งกระทู้ครั้งแรก