เงินหรือได้อยู่กับพ่อแม่ เลือกอย่างไหนดรกว่ากัน

นี่เป็นกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยคับ
เมื่อวันก่อนอ่าน pantip มีคนตั้งกระทู้ว่า
อยู่ออส มา 7 ปี จะกลับไทยดีมั้ย พอได้อ่านแล้วก็นึกถึงตัวเอง
ตอนนี้อยู่ออสมา 10 ปีแล้ว ทุกอย่างที่ยี่ลงตัวหมด ทำงานส่งอาหารตามบ้าน งานไม่ได้หนักอะไร
เงินก็ถ้าเทียบกับทำงานเมืองไทยก็ถือว่าเยอะพอสมควร
มีธุรกิจร้านนวด เปิดกับแฟนที่คบกันมาตั้งแต่เมืองไทย
ทุกอย่างไปได้ดี มีเงินเก็บที่เมืองไทย มีตึกแถวปล่อยให้เช่า
ทุกอย่างหามาได้จาก 10 ปีที่อยู่ที่นี่
ถ้าอยู่ต่อไปก็น่าจะมีมากขึ้นกว่าเดิม แต่มีนก็ต้องแลกกับการต้องอยู่ห่างไกลพ่อแม่และครอบครัว
อยู่ออสมา 10 ปี เคยกลับไทยมา 3 ครั้ง ทุกครั้งก็จะเห็นพ่อแม่แก่ลงทุกที
พ่อแม่ใกล้จะ 70 แล้ว ส่วนผม 37
ทุกๆวันที่อยู่ที่ออส จะได้ยินแต่ข่าวร้ายของครอบครัวของเพื่อนร่วมงาน
ผลัดกันไปทีละคนสองคน แล้วถ้าวันนึงมันมาถีงคิวของเราบ้างล่ะ
กลัวทุกวันที่มีคนโทรมาจากไทย หรือส่งไลน์มาว่าจะเป็นข่าวร้าย
แล้วเงินที่หามาได้มันจะมีประโยชน์อะไรมั้ย ถ้าต้องแลกกับเวลาที่จะต้องเสียไป
แทนที่จะไ้ด้อยู่ดูแลพ่อแม่พาท่านไปเที่ยวไปกิน
กลับต้องเอาเวลานั้นไปทำงานเพื่อให้ตัวเลขในบัญชีสูงขึ้น
อยากตัดสินใจกลับไทยแต่ก็ต้องทิ้งทุกอย่างที่ออสแล้วไปเริ่มใหม่ที่ไทย
แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร อยู่ที่ออสมา 10 ปี อายุก็จะ 40 แล้ว คงไปทำงานบริษัทไม่ได้
ให้ไปลงทุนที่เมืองไทยก็กลัวเงินที่สะสมมาจะหมดไป(มีตัวอย่างจากเพื่อนร่วมงานที่กลับไป)
ถ้ามาล้มที่เมืองไทย จะยิ่ง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เงินคือสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครับ ผมเชื่ออย่างงั้นและเชื่อมาตลอด
คนจน มีความทุกข์ของคนจน
คนรวยมีความทุกข์ของคนรวย

เมื่อก่อนวันที่ไม่มีเงิน ผมต้องการ ไขว่คว้า  พยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา
แต่วันที่มีมันแล้ว พอแล้ว มันกลับถามตัวเองย้อนกลับมาว่า เรามีทุกอย่างไปเพื่ออะไร ในเมื่อเราดีใจอยุ่คนเดียว?

จขกท มีแฟน ผมก็ดีใจด้วยครับ ที่มีความสุขกับแฟน

ส่วนพ่อแม่ ก็อยากให้ จขกทดูแลดีๆละกันครับ

พ่อแม่ผมเคยบอกว่า เงินเป็นล้านเขาก็ไม่เอา ถ้าไม่ได้เจอหน้าลูก
ขอแค่ได้เห็นลูกมานั่งกินข้าวที่บ้าน กินข้าวริมถนนด้วยกัน แค่นั้นเขาก็พอใจ
ไม่เคยต้องการอาหารจานละหลายพัน ไม่เคยต้องการบ้านติดแอร์หรูๆ

วันนั้นที่ผมได้ยิน น้ำตาร่วงยังกับท่อน้ำแตก

มันเหมือนกับว่าทุกอย่างที่เราทำมา มันพังลงตรงหน้า
จริงอยู่ว่าชีวิตอยู่สบายขึ้น เงินทำให้ชีวิตสบายขึ้น ความกังวลเรื่องเงินน้อยลง

แต่บางครั้งเราก็ลืมมองคนที่ไม่ได้ต้องการเงินจากเรา ว่าเขาต้องการอะไรจากเรากันแน่
เงินหายไป500 หาใหม่ได้ครับ  แต่เวลาผ่านไปแล้ว 10นาที ไม่มีทางย้อน10นาทีนั้นกลับมา

ผมไม่ได้จะบอกให้ จขกท เลือกทางไหน แต่อยากบอกว่าถ้าจะต้องเลือก คิดให้ดีๆครับ

บนโลกใบนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ไม่มีอะไรยั่งยืน ความสุขที่เห็น ก็เป็นความความทุกข์น้อยชั่วคราวเท่านั้น

มนุษย์ไม่ค่อยเสียใจกับสิ่งที่เราได้ทำลงไปหรอกครับ
ส่วนใหญ่มนุษย์จะเสียใจกับสิ่งที่ไม่ได้ทำต่างหาก

สู้ๆครับ จขกท ค่อยๆคิดครับ

แต่ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมขอกลับไปนั่งทานข้าวริมถนน เดินจูงมือช่วยแม่ถือของไปตลาดดีกว่า
ผมว่า มันรู้สึกดีกว่านั่งรถหรูไปเดินParagon ครับ

ความสุขทางใจ มันสำคัญกว่าความสุขทางกายครับ
^___^
ความคิดเห็นที่ 2
คุณรู้มั้ยนี่เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการตัดสินใจพี่อ่านแล้วเสียใจมากพระคุณพ่อพี่อายุ 72 ท่านสิ้นอายุขัยไปเมื่อปีที่แล้วในขณะที่พี่อยู่เมืองนอกตลอดก็ได้เจอท่านเพราะพี่บินกลับไทยปีละ 2 ครั้งหรือเท่ารัยก้อได้ที่ต้องการ แต่ก้อไม่เหมือนอยู่ดูเเลท่านตลอดเหมือนพี่น้องพี่ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดท่าน

ยังดีที่พี่ได้กลับไปดูแลท่านสองเดือนก่อนท่านจากไป หลังจากท่านจากไปคุณแม่พี่ก็เริ่มดูแก่ลงไปมาก เนื่องจากท่านคงเสียใจที่คุนพ่อจากไป ขณะที่อ่านเนื้อหาของคุณ หัวใจพี่เต้นแบบรู้สึกไม่ค่อยดีต้องขอโทษทีนะคงเข้ามาให้คำตอบที่ดีกับคุณไม่ได้เพราะก็นึกถึงตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่สำหรับพี่พี่บอกคุณแม่ว่ายังไงสุดท้ายเเล้วพี่ก็จะกลับไป เพราะถึงอยู่ ตปท มีชีวิตที่สบายมากมาย เเต่อยู่ที่ไหนก้อไม่อบอุ่นหัวใจเหมือนอยู่ใกล้พี่น้องครอบครัวที่เมืองไทย ก็อยากให้คุณไปคำนวณข้อดีข้อเสียก่อนนะคะคิดให้ดีดีคิดให้เยอะเยอะแล้วก็ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าสิ่งที่คุณสร้างมามันพอไหมสำหรับการใช้ชีวิตต่อไปกับเวลาที่ใช้กับคุณแม่คุณพ่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่