วันนี้ได้ผ่านตากับคำว่า Uefa Naions league มันคืออะไรไม่เคยได้ยิน เลยหาข้อมูลดู พบว่าเคยมีกระทู้มาบอกกล่าวกันไว้รอบนึงซึ่งนานมาแล้ว (ตั้ง 3 ปี) ตามนี้
https://pantip.com/topic/31861845 เห็นว่าเป็นรายการที่น่าสนใจ วันนี้เลยจะมาขอเล่าและอัพเดตกันอีกรอบหนึ่ง
Uefa Nations league คืออะไร?
เป็นการนำทีมชาติฟุตบอลในสมาชิก Uefa มาเตะกันในรูปแบบลีค ซึ่งมีการตกชั้น และเลื่อนชั้นด้วย จะจัดการแข่งทุกๆ 2 ปี ทีมที่ร่วมเข้าแข่ง ณ ปัจจุบันคือ 55 ทีม (เพิ่มจากเดิมจากข้อมูลในกระทู้ก่อน 1 ทีมโดยทีมชาติ โคโซโว) โดยจะแบ่งเป็น 4 ดิวิชั่น คือ ดิวิชั่น A มีทีมทั้งหมด 12 ทีม ดิวิชั่น B 12 ทีม ดิวิชั่น C 15 ทีม และดิวิชั่น D 16 ทีม ทีมชาติที่มี Ranking สูง ก็จะอยู่ ดิวิชั่น A ไล่ลงมาถึง ดิวิชั่น D ก็จะเป็น Ranking ต่ำสุด โดยจะยึดอันดับ Ranking หลังจบรอบคัดเลือกบอลโลกในเดือนพฤศจิกายนนี้ และในแต่ละดิวิชั่นจะแบ่งเป็นกรุ๊ปย่อยอีกดิวิชั่นละ 4 กรุ๊ป กรุ๊ปละ 3-4 ทีม ตามรูป
ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าในการแบ่งกรุ๊ปย่อยนี้จะแบ่งยังไง จะจับสลากหมดเลย หรือจะมีทีมวางด้วยหรือเปล่า หรือจะไล่ตาม Ranking หมดเลย ส่วนการแข่งกันก็จะเจอกันแค่ในกรุ๊ปตัวเอง ใช้ระบบเหย้าเยือน อย่างดิวิชั่น A/B มีกรุ๊ปละ 3 ทีม ก็จะแข่งทั้งหมด 4 นัด C/D แข่งทั้งหมด 6 นัด โดยที่ดิวิชั่น A จะพิเศษหน่อยตรงที่ แชมป์ของแต่ละกรุ๊ปจะได้สิทธิ์พิเศษ(?) ไปแข่งทัวร์นาเมนต์ที่บียอนขึ้นไปอีกขั้นนั่นคือ UEFA Nations League champions "final four competition" ซึ่งเป็นการเอาแชมป์ของกรุ๊ปทั้ง 4 กรุ๊ปมาเตะ 2 คู่รอบรอง ชนะก็เข้าไปเตะรอบชิง แพ้ก็ไปเตะชิงที่ 3 โดยจะเตะนัดเดียวจบ โดยยูฟ่าจะเลือกเจ้าภาพ 2 สนาม จาก 4 ทีมที่เข้ามาเตะ ส่วนในดิวิชั่น B-D แชมป์ของแต่ละกรุ๊ปจะได้เลื่อนชั้นขึ้นดิวิชั่นที่สูงกว่า ส่วนบ๊วยก็ตกชั้นไปในดิวิชั่นต่ำกว่า
Uefa Nations league สู่ Uero 2020
ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Uefa Nations league (ซึ่งอาจสำคัญกว่าหาแชมป์ของ final four ซะอีก) ก็คือทางยูฟ่าจะให้โควต้า(จะเรียกว่าพิเศษก็ได้)ในการไปเตะยูโรรอบสุดท้าย โดยผ่านการเพลย์ออฟใน uefa nations league โดยจะยกเลิกการเพลย์ออฟในระบบปกติ และมาใช้อันดับใน uefa nations league แทน เพราะฉะนั้นการคัดเลือก 24 ทีมที่จะไปเล่นยูโรรอบสุดท้าย จะแบ่งได้เป็น 2 โควต้า
1.รอบคัดเลือกปกติจะแบ่งกลุ่มเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม 5 กลุ่ม (แข่งทั้งหมด 8 นัด)และกลุ่มละ 6 ทีม 5 กลุ่ม (แข่งทั้งหมด 10 นัด) แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มทั้งหมด 20 ทีมได้เข้าไปเล่นยูโรรอบสุดท้าย ที่ 3 ไม่ได้เพลย์ออฟแล้วนะจ๊ะ
2. อีก 4 ทีม จะหาจาก uefa nation league โดยแต่ละดิวิชั่น จะได้สิทธิ์ ดิวิชั่นละ 1 ทีม ซึ่งเอาแชมป์แต่ละกรุ๊ปมาเตะ 2 นัด รอบรองและรอบชิง (ไม่มีเหย้าเยือน โดยจะประกาศสนามเจ้าภาพล่วงหน้า) คล้ายๆกับ การแข่งของ final four ผู้ชนะของแต่ละดิวิชั่นก็ไปยูโรรอบสุดท้ายไป โดยสมมติถ้ามีดิวิชั่นไหนที่มีทีมที่ยังไม่ได้ไปยูโรรอบสุดท้ายน้อยกว่า 3 ทีม ก็ให้เอาทีมที่อันดับดีที่สุดของดิวิชั่นถัดไปมาเตะเพลย์ออฟแทน เช่น ทีมดิวิชั่น A เตะรอบคัดเลือกปกติ ได้ไปรอบสุดท้ายแล้ว 10 ทีม เหลืออีกแค่ 2 ที่ยังไม่ได้ไป ก็เอา 2 ทีมที่ดีที่สุด จาก ดิวิชั่น B ที่อันดับไม่ถึงที่จะได้เตะเพลย์ออฟกับดิวิชั่นตัวเองมาเตะเพลย์ออฟกับดิวิชั่น A แทน
มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกอย่างคือ ทีมที่ได้เข้าแข่ง final four เวลาแข่งรอบคัดเลือกปกติ จะได้อยู่ในกลุ่มที่มี 5 ทีม เสมอ เพราะต้องใช้ match day ไปแข่ง final four
Uefa Nations league จะรุ่งหรือจะร่วง?
ข้อดีที่ทางยูฟ่าเคลมไว้คือ จะทำให้เกมอุ่นเครื่องที่ไม่ค่อยมีความหมาย ให้มีความหมายมากขึ้น มีการให้รางวัลให้คุณค่าและมูลค่าเพิ่มเข้าไป ทำให้ทีมเล็กๆได้ลืมตาอ้าปาก มีโอกาสไปยูโรรอบสุดท้ายมากขึ้น อย่างน้อยๆก็ได้ไปแน่ๆ 1 ทีม ได้มีโอกาสแข่งกับทีมระดับเดียวกันมากขึ้น ไม่งั้นก็ไปโดนทีมใหญ่ๆตบอย่างเดียวในระบบคัดเลือกปกติ ส่วนข้อเสียก็ต้องดูกันต่อไปในอนาคตว่า พวกดิวิชั่นสูงๆจะเห็นคุณค่าแค่ไหน หรือจะเตะแบบขอไปที (เพราะยังไงถ้วยยูโรก็ขลังกว่าอยู่แล้ว) หรืออาจจะมีการเตะเพื่ออยากตกชั้นเพื่อที่มีโอกาสเจอทีมอ่อนเพื่อโควต้ายูโรหรือเปล่า หรือจะใช้ระบบนี้ในการคัดบอลโลกด้วยหรือเปล่า เพราะปีที่จัดแข่งก่อนบอลโลกจะไม่มีความหมายเลย (เช่น ปี 2018 ได้แชมป์กรุ๊ป ได้โควต้ายูโร ได้เลื่อนชั้น พอปี 2020 ตั้งใจตกชั้น เพราะไม่มีโควต้าอะไรพิเศษ พอปี 2022 ก็เตะให้ได้แชมป์กรุ๊ปใหม่ เพื่อโควต้ายูโร) หรือทีมดิวิชั่นล่างๆจะไม่มีโอกาสได้เจอทีมนอกทวีปเลย เพราะตารางมันเต็มไปหมด ส่วนทีมใหญยังพอเจอทีมนอกทวีปได้บ้าง เพราะ ดิวิชั่น A B มีแค่กรุ๊ปละ 3 ทีม รวมทั้งการเพลย์ออฟในโควต้าของ Uefa nations league กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเดือนมีนา ก่อนรอบสุดท้ายแค่ 3 เดือน มันจะวุ่นๆไปหรือเปล่า ก็ต้องรอดูกันต่อไป
มาอัพเดต Uefa Nations league รายการใหม่ สด ซิง ที่จะเปิดฉากในปี 2018
Uefa Nations league คืออะไร?
เป็นการนำทีมชาติฟุตบอลในสมาชิก Uefa มาเตะกันในรูปแบบลีค ซึ่งมีการตกชั้น และเลื่อนชั้นด้วย จะจัดการแข่งทุกๆ 2 ปี ทีมที่ร่วมเข้าแข่ง ณ ปัจจุบันคือ 55 ทีม (เพิ่มจากเดิมจากข้อมูลในกระทู้ก่อน 1 ทีมโดยทีมชาติ โคโซโว) โดยจะแบ่งเป็น 4 ดิวิชั่น คือ ดิวิชั่น A มีทีมทั้งหมด 12 ทีม ดิวิชั่น B 12 ทีม ดิวิชั่น C 15 ทีม และดิวิชั่น D 16 ทีม ทีมชาติที่มี Ranking สูง ก็จะอยู่ ดิวิชั่น A ไล่ลงมาถึง ดิวิชั่น D ก็จะเป็น Ranking ต่ำสุด โดยจะยึดอันดับ Ranking หลังจบรอบคัดเลือกบอลโลกในเดือนพฤศจิกายนนี้ และในแต่ละดิวิชั่นจะแบ่งเป็นกรุ๊ปย่อยอีกดิวิชั่นละ 4 กรุ๊ป กรุ๊ปละ 3-4 ทีม ตามรูป
ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าในการแบ่งกรุ๊ปย่อยนี้จะแบ่งยังไง จะจับสลากหมดเลย หรือจะมีทีมวางด้วยหรือเปล่า หรือจะไล่ตาม Ranking หมดเลย ส่วนการแข่งกันก็จะเจอกันแค่ในกรุ๊ปตัวเอง ใช้ระบบเหย้าเยือน อย่างดิวิชั่น A/B มีกรุ๊ปละ 3 ทีม ก็จะแข่งทั้งหมด 4 นัด C/D แข่งทั้งหมด 6 นัด โดยที่ดิวิชั่น A จะพิเศษหน่อยตรงที่ แชมป์ของแต่ละกรุ๊ปจะได้สิทธิ์พิเศษ(?) ไปแข่งทัวร์นาเมนต์ที่บียอนขึ้นไปอีกขั้นนั่นคือ UEFA Nations League champions "final four competition" ซึ่งเป็นการเอาแชมป์ของกรุ๊ปทั้ง 4 กรุ๊ปมาเตะ 2 คู่รอบรอง ชนะก็เข้าไปเตะรอบชิง แพ้ก็ไปเตะชิงที่ 3 โดยจะเตะนัดเดียวจบ โดยยูฟ่าจะเลือกเจ้าภาพ 2 สนาม จาก 4 ทีมที่เข้ามาเตะ ส่วนในดิวิชั่น B-D แชมป์ของแต่ละกรุ๊ปจะได้เลื่อนชั้นขึ้นดิวิชั่นที่สูงกว่า ส่วนบ๊วยก็ตกชั้นไปในดิวิชั่นต่ำกว่า
Uefa Nations league สู่ Uero 2020
ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Uefa Nations league (ซึ่งอาจสำคัญกว่าหาแชมป์ของ final four ซะอีก) ก็คือทางยูฟ่าจะให้โควต้า(จะเรียกว่าพิเศษก็ได้)ในการไปเตะยูโรรอบสุดท้าย โดยผ่านการเพลย์ออฟใน uefa nations league โดยจะยกเลิกการเพลย์ออฟในระบบปกติ และมาใช้อันดับใน uefa nations league แทน เพราะฉะนั้นการคัดเลือก 24 ทีมที่จะไปเล่นยูโรรอบสุดท้าย จะแบ่งได้เป็น 2 โควต้า
1.รอบคัดเลือกปกติจะแบ่งกลุ่มเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม 5 กลุ่ม (แข่งทั้งหมด 8 นัด)และกลุ่มละ 6 ทีม 5 กลุ่ม (แข่งทั้งหมด 10 นัด) แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มทั้งหมด 20 ทีมได้เข้าไปเล่นยูโรรอบสุดท้าย ที่ 3 ไม่ได้เพลย์ออฟแล้วนะจ๊ะ
2. อีก 4 ทีม จะหาจาก uefa nation league โดยแต่ละดิวิชั่น จะได้สิทธิ์ ดิวิชั่นละ 1 ทีม ซึ่งเอาแชมป์แต่ละกรุ๊ปมาเตะ 2 นัด รอบรองและรอบชิง (ไม่มีเหย้าเยือน โดยจะประกาศสนามเจ้าภาพล่วงหน้า) คล้ายๆกับ การแข่งของ final four ผู้ชนะของแต่ละดิวิชั่นก็ไปยูโรรอบสุดท้ายไป โดยสมมติถ้ามีดิวิชั่นไหนที่มีทีมที่ยังไม่ได้ไปยูโรรอบสุดท้ายน้อยกว่า 3 ทีม ก็ให้เอาทีมที่อันดับดีที่สุดของดิวิชั่นถัดไปมาเตะเพลย์ออฟแทน เช่น ทีมดิวิชั่น A เตะรอบคัดเลือกปกติ ได้ไปรอบสุดท้ายแล้ว 10 ทีม เหลืออีกแค่ 2 ที่ยังไม่ได้ไป ก็เอา 2 ทีมที่ดีที่สุด จาก ดิวิชั่น B ที่อันดับไม่ถึงที่จะได้เตะเพลย์ออฟกับดิวิชั่นตัวเองมาเตะเพลย์ออฟกับดิวิชั่น A แทน
มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกอย่างคือ ทีมที่ได้เข้าแข่ง final four เวลาแข่งรอบคัดเลือกปกติ จะได้อยู่ในกลุ่มที่มี 5 ทีม เสมอ เพราะต้องใช้ match day ไปแข่ง final four
Uefa Nations league จะรุ่งหรือจะร่วง?
ข้อดีที่ทางยูฟ่าเคลมไว้คือ จะทำให้เกมอุ่นเครื่องที่ไม่ค่อยมีความหมาย ให้มีความหมายมากขึ้น มีการให้รางวัลให้คุณค่าและมูลค่าเพิ่มเข้าไป ทำให้ทีมเล็กๆได้ลืมตาอ้าปาก มีโอกาสไปยูโรรอบสุดท้ายมากขึ้น อย่างน้อยๆก็ได้ไปแน่ๆ 1 ทีม ได้มีโอกาสแข่งกับทีมระดับเดียวกันมากขึ้น ไม่งั้นก็ไปโดนทีมใหญ่ๆตบอย่างเดียวในระบบคัดเลือกปกติ ส่วนข้อเสียก็ต้องดูกันต่อไปในอนาคตว่า พวกดิวิชั่นสูงๆจะเห็นคุณค่าแค่ไหน หรือจะเตะแบบขอไปที (เพราะยังไงถ้วยยูโรก็ขลังกว่าอยู่แล้ว) หรืออาจจะมีการเตะเพื่ออยากตกชั้นเพื่อที่มีโอกาสเจอทีมอ่อนเพื่อโควต้ายูโรหรือเปล่า หรือจะใช้ระบบนี้ในการคัดบอลโลกด้วยหรือเปล่า เพราะปีที่จัดแข่งก่อนบอลโลกจะไม่มีความหมายเลย (เช่น ปี 2018 ได้แชมป์กรุ๊ป ได้โควต้ายูโร ได้เลื่อนชั้น พอปี 2020 ตั้งใจตกชั้น เพราะไม่มีโควต้าอะไรพิเศษ พอปี 2022 ก็เตะให้ได้แชมป์กรุ๊ปใหม่ เพื่อโควต้ายูโร) หรือทีมดิวิชั่นล่างๆจะไม่มีโอกาสได้เจอทีมนอกทวีปเลย เพราะตารางมันเต็มไปหมด ส่วนทีมใหญยังพอเจอทีมนอกทวีปได้บ้าง เพราะ ดิวิชั่น A B มีแค่กรุ๊ปละ 3 ทีม รวมทั้งการเพลย์ออฟในโควต้าของ Uefa nations league กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเดือนมีนา ก่อนรอบสุดท้ายแค่ 3 เดือน มันจะวุ่นๆไปหรือเปล่า ก็ต้องรอดูกันต่อไป