เป็นทริปสั้นๆ 3 วัน 2 คืน
28-30 พ.ค.2560
เนื่องจากเราไปหัวหินรอบที่ 5 แล้ว ก็เลยไม่แวะข้างทางและเก็บสถานที่เที่ยวสำคัญจนหมดแล้ว รอบนี้ ตรงไปที่ โรงแรมเลย
ออกเดินทางเวลา ประมาน 11.00 ถึงโรงแรมประมาน 14.30 น.
อาศิราบูทีค เป็นโรงแรมเปิดใหม่ อยู่กลางเมืองหัวหินเลย ติดกับคิวรถตู้ กทม.-หัวหิน
ได้รับการต้อนรับด้วย welcome 's drink น้ำพันช์รสชาติดีเลย ถ้าร้อนๆ มาก็จะชื่นใจหน่อยๆ แต่เรามากับฝนก็ชุ่มชำดีค่ะ
ต่อไปเดินทางไปที่ห้องพักกันค่ะ
เราได้ชั้น 3 แต่จำเลขห้องไม่ได้แล้ว แหะๆ
- มีลิฟท์ เล็กๆ ไว้บริการ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเล็กไปนิดนึง
- ประตูห้องเป็นระบบคีย์การ์ด
- อุปกรณ์ในห้องมีครบทุกอย่างนะคะ
ชุดคลุม สลีปเปอร์ ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม
- เตียงนิ่ม
- ห้องน้ำดี
- แอร์เย็น
- ห้องกว้าง
- ถ่ายภาพสวย
ไฮไลท์เลย มีนมอัดเม็ดจิตรลดา กับ นมจิตรลดา ใส่ไว้ในตู้เย็นให้ด้วยค่ะ ฟรีนะคะ
เราพักห้อง Triple Deluxe 2 คืน พัก 3 คน พร้อมอาหารเช้า
จองผ่าน อโกด้า ราคา 6300 ค่ะ
เมนูอาหารเช้า เป็นแบบ บุฟเฟ่ต์
มีทั้ง อเมริกันฯ ข้าวต้ม ผัดซีอิ้ว หมูปิ้ง และขนมหวานต่างๆ รสชาติพอใช้ได้ค่ะ
บรรยากาศโรงแรมโดยรวม
ทำเลที่ตั้ง ดีมาก !!!! เพราะเป็นโซนที่พูดไปใครก็รู้จัก
บริการก็ค่อนข้างโอเค พนักงานยิ้มแย้ม
ตอนฝนตกก็ไม่กังวลดีค่ะ นอนพักที่ รร. ได้บรรยากาศมากๆ เพราะค่อนข้างเขียวๆ ถ่ายรูปก็สวยค่ะ
ต่อไปเป็นบรรยากาศสระว่ายน้ำนะคะ
ขอเป็นภาพเดียวนะคะเนื่องจากไม่ได้ถ่ายเฉพาะวิวของสระไว้เลย 😣
อ๋อ ลืมบอกไปที่นี่มีห้องพูลวิลล่านะคะ แต่ว่าเต็มเร็วมาก
สรุปในส่วนของ. รร. เราค่อนข้างพอใจมากค่ะ
ต่อไปจะเป็นแนวทางทริปเผื่อใครคิดไม่ออกว่า
ถ้าฝนตกแล้วจะเที่ยวยังไงในหัวหิน
วันแรกเราเปิดท้องกันที่ "ส้มตำถนนตก" เดินออกจากโรงแรมมาทานได้เลยค่ะ ไม่ถึง 100 ม.
รสชาติแซ่บนัวเหมือนเดิม
หลังจากนั้นก็กลับมาพักผ่อนที่ รร. แล้วเดินทางไปต่อ
- seen space
- cicada และ
- ตลาดโต้รุ่ง ค่ะ เป็นอันจบวัน
อันนี้ภาพยังไม่มา รอมาเพิ่มเติมนะคะ
วันที่ 2
หลังจากทานอาหารเช้าก็ไปหาที่ย่อยอาหารกันค่ะ
คือ For art sake ค่าเข้าราคา 180 บ. เช็คอินได้รับส่วนลดนะคะ
- พนักงานดีเวอร์ตั้งแต่จอดรถ ยันจุดสุดท้ายของการถ่ายรูป คอยเช็คจุด และคอยถ่ายภาพให้เราด้วย
- มี 2 ชั้นนะคะ มีที่ให้ถ่ายเยอะ ทั้งเดี่ยวทั้งหมู่ ระบุจุดถ่ายภาพ และจุดยืนที่ชัดเจนค่ะ
ขออนุญาตลงตัวอย่างภาพ นะคะ
ใช้พลังอาหารเช้าหมดไปหากาแฟทานกันค่ะ
ร้าน waggingtalescafe ซอย หัวหิน 43 เป็นร้านกาแฟที่มีน้องหมามาให้เราเล่นด้วยค่ะ น้องหมาเป็นพันธ์ุ เทาว์เซิ้ล เวย์ นะคะ ค่อนข้างเฟรนลี่ เดินหาคนตลอด
พี่บาริสต้าก็น่ารักค่ะ ปล่อยให้เราใช้เวลาเล่นกับน้องๆ ได้เต็มที่
ที่เราไปจะเจอ 2 ตัว
ตัวเล็ก ชื่อพุดดิ้ง ส่วนตัวโตชื่อนมสด ค่ะ
ราคาเครื่องดื่มปกติ นะคะ ไม่ได้+ อะไรเพิ่ม
เติมพลังด้วยเครื่องดื่มแล้วก็ต้องเติมด้วยอาหาร
ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเจ๊เซี้ยม" เมนูเด็ดคือ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น และลูกชิ้นหมูปิ้ง ซึ่ง!!!! เราไม่ได้กินสักอย่าง เลยได้
ก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ และทอดมัน แทนค่ะ
ไปต่อค่ะ "วัดห้วยมงคล"
ด้านหลังของวัดมีถ้ำ และแพ ที่คาดว่าจะทำเป็นตลาดน้ำด้วยอย่าลืมแวะไปนะคะ
หลังจากนั้นก็ไปหาที่ถ่ายรูปชิคๆและของหวานกินตามประสาสาย...
ร้าน "Skoop Beach Cafe" อยู่โซนเขาตะเกียบนะคะ
ไอติมดีงาม โคนละ 75 บ. เนื่องจากเราไปฝนลงเม็ดทางร้านเลยเก็บ ฟูกหมอน ริมทะเลซะหมด 😭
ไปต่อค่ะ สายกินต้องไม่พลาด มาหัวหินทั้งที่ จัดเต็ม ซีฟู๊ด
"ร้านป้าพรน้องหยก" โซนเขาตะเกียบเช่นกัน
ซื้อกลับมาทานที่ รร. ขอช้อน ขอจาน และที่ใส่น้ำแข็งได้นะคะ
มื้อนี้หมดไป ไม่เกิน 1400 ค่ะ จำราคาที่แน่นอนไม่ได้
กุ้ง ปูม้านึ่ง ปลาหมึก หอยแครง หอยนางรม ปลาทอดน้ำปลา และข้าวจาก F_mi_l_ Mart ซึ่งอบไม่สุกตามเคย
นอนอิ่มไปสักพัก อ่านวงในเจอของที่ต้องลองคือ
"กู โรตีชาชัก ซอย 51" เดินออกจาก รร.ไปได้เช่นเคย สะดวกซู๊ดดด
- โรตีทิชชู (โรตีกรอบๆแผ่นบางๆ แต่กรอบจริงๆนะ) ต้องลองค่ะ
- น้ำเราสั่ง ชานม นมสด ชาเขียว ลงความเห็นกันว่า อร่อยเหมือนกันหมด
- ราคาปกติค่ะ ร้านปิดดึก เหมาะกับคนท้องร้องตอนกลางคืน
จบวันที่ 2 ด้วยความแน่นท้องแบบสุดๆ
เช้ามาวันที่ 3 เราไม่มีเพลนไปไหนอยู่แล้ว เลยทานอาหารเช้า แล้วเช็คเอ้ากลับ กทม. ระหว่างทางแวะร้านกาแฟเติมคาเฟอีนหน่อย
"ร้านโมอาย" น่าจะช่วงเพชรบุรีแล้วค่ะ
จบทริปหัวหิน 3 วัน 2 คืน ของพวกเรา ไม่ได้เที่ยวสถานที่ยอดฮิตของหัวหินเนื่องจากเก็บมาหมดแล้ว
แต่มีเวลาพักผ่อน 2-3 วันหลังออกจากงานเลยหาทริปสั้นๆ.มาพักผ่อนแบบไม่ต้องวางแผน และไม่ต้องกังวลอะไรมาก หัวหินจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
อย่าลืมหาเวลาชาร์จแบตให้ร่างกายกันนะคะ
ปล. แก้ไขคำผิด
ปล.2 เดี๋ยวจะหาเวลามาเพิ่มรูปนะคะ
หัวหินรอบที่ 5 พัก อาศิรา บูทีค ซอย 51
28-30 พ.ค.2560
เนื่องจากเราไปหัวหินรอบที่ 5 แล้ว ก็เลยไม่แวะข้างทางและเก็บสถานที่เที่ยวสำคัญจนหมดแล้ว รอบนี้ ตรงไปที่ โรงแรมเลย
ออกเดินทางเวลา ประมาน 11.00 ถึงโรงแรมประมาน 14.30 น.
อาศิราบูทีค เป็นโรงแรมเปิดใหม่ อยู่กลางเมืองหัวหินเลย ติดกับคิวรถตู้ กทม.-หัวหิน
ได้รับการต้อนรับด้วย welcome 's drink น้ำพันช์รสชาติดีเลย ถ้าร้อนๆ มาก็จะชื่นใจหน่อยๆ แต่เรามากับฝนก็ชุ่มชำดีค่ะ
ต่อไปเดินทางไปที่ห้องพักกันค่ะ
เราได้ชั้น 3 แต่จำเลขห้องไม่ได้แล้ว แหะๆ
- มีลิฟท์ เล็กๆ ไว้บริการ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเล็กไปนิดนึง
- ประตูห้องเป็นระบบคีย์การ์ด
- อุปกรณ์ในห้องมีครบทุกอย่างนะคะ
ชุดคลุม สลีปเปอร์ ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม
- เตียงนิ่ม
- ห้องน้ำดี
- แอร์เย็น
- ห้องกว้าง
- ถ่ายภาพสวย
ไฮไลท์เลย มีนมอัดเม็ดจิตรลดา กับ นมจิตรลดา ใส่ไว้ในตู้เย็นให้ด้วยค่ะ ฟรีนะคะ
เราพักห้อง Triple Deluxe 2 คืน พัก 3 คน พร้อมอาหารเช้า
จองผ่าน อโกด้า ราคา 6300 ค่ะ
เมนูอาหารเช้า เป็นแบบ บุฟเฟ่ต์
มีทั้ง อเมริกันฯ ข้าวต้ม ผัดซีอิ้ว หมูปิ้ง และขนมหวานต่างๆ รสชาติพอใช้ได้ค่ะ
บรรยากาศโรงแรมโดยรวม
ทำเลที่ตั้ง ดีมาก !!!! เพราะเป็นโซนที่พูดไปใครก็รู้จัก
บริการก็ค่อนข้างโอเค พนักงานยิ้มแย้ม
ตอนฝนตกก็ไม่กังวลดีค่ะ นอนพักที่ รร. ได้บรรยากาศมากๆ เพราะค่อนข้างเขียวๆ ถ่ายรูปก็สวยค่ะ
ต่อไปเป็นบรรยากาศสระว่ายน้ำนะคะ
ขอเป็นภาพเดียวนะคะเนื่องจากไม่ได้ถ่ายเฉพาะวิวของสระไว้เลย 😣
อ๋อ ลืมบอกไปที่นี่มีห้องพูลวิลล่านะคะ แต่ว่าเต็มเร็วมาก
สรุปในส่วนของ. รร. เราค่อนข้างพอใจมากค่ะ
ต่อไปจะเป็นแนวทางทริปเผื่อใครคิดไม่ออกว่า
ถ้าฝนตกแล้วจะเที่ยวยังไงในหัวหิน
วันแรกเราเปิดท้องกันที่ "ส้มตำถนนตก" เดินออกจากโรงแรมมาทานได้เลยค่ะ ไม่ถึง 100 ม.
รสชาติแซ่บนัวเหมือนเดิม
หลังจากนั้นก็กลับมาพักผ่อนที่ รร. แล้วเดินทางไปต่อ
- seen space
- cicada และ
- ตลาดโต้รุ่ง ค่ะ เป็นอันจบวัน
อันนี้ภาพยังไม่มา รอมาเพิ่มเติมนะคะ
วันที่ 2
หลังจากทานอาหารเช้าก็ไปหาที่ย่อยอาหารกันค่ะ
คือ For art sake ค่าเข้าราคา 180 บ. เช็คอินได้รับส่วนลดนะคะ
- พนักงานดีเวอร์ตั้งแต่จอดรถ ยันจุดสุดท้ายของการถ่ายรูป คอยเช็คจุด และคอยถ่ายภาพให้เราด้วย
- มี 2 ชั้นนะคะ มีที่ให้ถ่ายเยอะ ทั้งเดี่ยวทั้งหมู่ ระบุจุดถ่ายภาพ และจุดยืนที่ชัดเจนค่ะ
ขออนุญาตลงตัวอย่างภาพ นะคะ
ใช้พลังอาหารเช้าหมดไปหากาแฟทานกันค่ะ
ร้าน waggingtalescafe ซอย หัวหิน 43 เป็นร้านกาแฟที่มีน้องหมามาให้เราเล่นด้วยค่ะ น้องหมาเป็นพันธ์ุ เทาว์เซิ้ล เวย์ นะคะ ค่อนข้างเฟรนลี่ เดินหาคนตลอด
พี่บาริสต้าก็น่ารักค่ะ ปล่อยให้เราใช้เวลาเล่นกับน้องๆ ได้เต็มที่
ที่เราไปจะเจอ 2 ตัว
ตัวเล็ก ชื่อพุดดิ้ง ส่วนตัวโตชื่อนมสด ค่ะ
ราคาเครื่องดื่มปกติ นะคะ ไม่ได้+ อะไรเพิ่ม
เติมพลังด้วยเครื่องดื่มแล้วก็ต้องเติมด้วยอาหาร
ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเจ๊เซี้ยม" เมนูเด็ดคือ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น และลูกชิ้นหมูปิ้ง ซึ่ง!!!! เราไม่ได้กินสักอย่าง เลยได้
ก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ และทอดมัน แทนค่ะ
ไปต่อค่ะ "วัดห้วยมงคล"
ด้านหลังของวัดมีถ้ำ และแพ ที่คาดว่าจะทำเป็นตลาดน้ำด้วยอย่าลืมแวะไปนะคะ
หลังจากนั้นก็ไปหาที่ถ่ายรูปชิคๆและของหวานกินตามประสาสาย...
ร้าน "Skoop Beach Cafe" อยู่โซนเขาตะเกียบนะคะ
ไอติมดีงาม โคนละ 75 บ. เนื่องจากเราไปฝนลงเม็ดทางร้านเลยเก็บ ฟูกหมอน ริมทะเลซะหมด 😭
ไปต่อค่ะ สายกินต้องไม่พลาด มาหัวหินทั้งที่ จัดเต็ม ซีฟู๊ด
"ร้านป้าพรน้องหยก" โซนเขาตะเกียบเช่นกัน
ซื้อกลับมาทานที่ รร. ขอช้อน ขอจาน และที่ใส่น้ำแข็งได้นะคะ
มื้อนี้หมดไป ไม่เกิน 1400 ค่ะ จำราคาที่แน่นอนไม่ได้
กุ้ง ปูม้านึ่ง ปลาหมึก หอยแครง หอยนางรม ปลาทอดน้ำปลา และข้าวจาก F_mi_l_ Mart ซึ่งอบไม่สุกตามเคย
นอนอิ่มไปสักพัก อ่านวงในเจอของที่ต้องลองคือ
"กู โรตีชาชัก ซอย 51" เดินออกจาก รร.ไปได้เช่นเคย สะดวกซู๊ดดด
- โรตีทิชชู (โรตีกรอบๆแผ่นบางๆ แต่กรอบจริงๆนะ) ต้องลองค่ะ
- น้ำเราสั่ง ชานม นมสด ชาเขียว ลงความเห็นกันว่า อร่อยเหมือนกันหมด
- ราคาปกติค่ะ ร้านปิดดึก เหมาะกับคนท้องร้องตอนกลางคืน
จบวันที่ 2 ด้วยความแน่นท้องแบบสุดๆ
เช้ามาวันที่ 3 เราไม่มีเพลนไปไหนอยู่แล้ว เลยทานอาหารเช้า แล้วเช็คเอ้ากลับ กทม. ระหว่างทางแวะร้านกาแฟเติมคาเฟอีนหน่อย
"ร้านโมอาย" น่าจะช่วงเพชรบุรีแล้วค่ะ
จบทริปหัวหิน 3 วัน 2 คืน ของพวกเรา ไม่ได้เที่ยวสถานที่ยอดฮิตของหัวหินเนื่องจากเก็บมาหมดแล้ว
แต่มีเวลาพักผ่อน 2-3 วันหลังออกจากงานเลยหาทริปสั้นๆ.มาพักผ่อนแบบไม่ต้องวางแผน และไม่ต้องกังวลอะไรมาก หัวหินจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
อย่าลืมหาเวลาชาร์จแบตให้ร่างกายกันนะคะ
ปล. แก้ไขคำผิด
ปล.2 เดี๋ยวจะหาเวลามาเพิ่มรูปนะคะ