ลายเซ็นที่อยากเห็นบนสัญญาของลิเวอร์พูล และวิถีปฏิบัติต่อนักเตะที่ควรเป็น

.
              แม้ฤดูกาลใหม่ที่ยังไม่เริ่มแข่งขัน แต่ความครุกรุ่นรุนแรงในสมรภูมิแย่งชิงตัวนักเตะก็หาได้ด้อยกว่าเกมส์ลูกหนังที่เน้นพลังกายเข้าบดบี้กันของเกมส์พรีเมียร์ลีคแต่อย่างใด ยังขับเคี่ยวเข้มข้น แม้ยอดค่าตัวจะถูกปั่นจนท่วมท้น จนแลดูจะมากกว่าความเป็นจริงหลายเท่าก็ตามสำหรับนักเตะที่จัดว่าเป็นดาวดัง ตัวความหวังของทีม ขนาดฟานไดร์ยัง 60-70 ลป. แล้วลูกาลู แฮรี่ เคน หรือ เดเล่ อัลลี่ จะเท่าไรกันนั้น จินตนาการความแพงไม่ออกเลย

       แต่ก็ช่างมันเถอะ จะราคาเท่าไรก็ไม่เกี่ยวกับทีมของเรา เพราะที่เราเฝ้ารอและอยากได้อย่าง ฟานไดร์มันก็จบไปแล้ว

       ฟานไดร์นั้น ผมก็อยากได้ลายเช็นของเขามาเป็นสัญญาซื้อขายนักเตะของทีมเราในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ แต่มีข้อแม้นิดเดียวคือในราคาที่เหมาะสม ซึ่งพูดไปก็ไร้ประโยชน์เพราะแฟนบอลทั้งสองทีม ต่างก็หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองกันทั้งนั้น ว่าราคาไหนในสายตาของใครถึงจะเหมาะสม และทางสโมสรก็มีปัญหากัน จนบานปลายกลายเป็นจบกันแบบไม่ค่อยจะสู้ดีนักอย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่

       เมื่อมันจบไปแล้วก็ไม่ต้องไปฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไรให้ปวดกบาล ปล่อยให้มันจบไปนั้นแหละดีที่สุดแล้ว

       ถึงผมจะชอบฟานไดร์และอยากได้เขามาร่วมทีมมาก จนไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกยังไงกับความล้มเหลวในการเจรจา หรือถึงผมจะสนใจและภาวนาให้ทีมงานเจรจารีบกระชากตัว นาบี เกอิต้าเข้ามาร่วมทีมสักปานใด และอยากได้แบ๊คซ้ายมืออาชีพมากแค่ไหน เพื่อมาลงเล่นจะได้ไม่ต้องใช้มิลเนอร์มาเล่นแก้ขัดสักที อยากมีผู้เล่นปีกริมเส้นที่ไว้ใจได้มาช่วยแบ่งเบาภาระมาเน่อีกสักคน แต่ที่สุดแล้ว นักเตะที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ก็ไม่มีคนใดเลย ที่ผมอยากให้ลงลายเซ็นในสัญญาของทางสโมสร มากกว่าชายที่ชื่อว่า ลูคัส เปซซีนี เลว่า



       ครับ ข้อความของผม ไม่ได้ผิดพลาดแต่ประการใด ท่านอ่านและเข้าใจถูกต้องแล้ว ว่าตัวผมอยากให้ มหาเทพลูลู่อยู่กับเราต่อไปอีก และอยากให้เป็นที่อยู่จนถึงวันสุดท้ายในบั้นปลายชีวิตค้าแข้งของเขาเลย หากว่าเป็นไปได้

       แน่นอนว่าสัญญานี้ ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายยกระดับสภาพการเล่นของทีม
       ไม่ใช่สัญญาที่มุ่งหวังความเป็นเลิศในการแข่งขัน
       และไม่ใช่สัญญาที่หวังความคุ้มค่าทางธุรกิจ
       แต่เป็นสัญญาที่หวังให้เป็นวิถีปฏิบัติกับนักเตะที่จงรักภักดีและรับใช้สโมสรมายาวนาน

       Mr.Liverpool คือสมญาของ Ronnie Moran ชายผู้อุทิศตัวทำงานให้กับสโมสรมายาวนานจนถึงบั้นปลายของชีวิต และวันนี้เขาจากไปอย่างสงบแล้ว ตอนที่ผมเริ่มเชียร์ทีมนี้ด้วยตัวเอง ไม่นับช่วงเวลาที่เชียร์ตามพ่อ พูดง่ายๆก็คือนับตั้งแต่ที่ตัวเองดูบอล”พอจะเป็น”บ้างแล้ว หากลองนึกย้อนไปก็มีนักเตะหลายๆคน ที่เป็นขวัญใจมหาชน แต่ชื่อเดียวที่ผมนึกถึงว่าสมควรเป็น Mr.Liverpool เลยก็ไม่ใช่ดาวดังที่สุดของยุคนั้น เพราะผมนึกถึง สตีฟ นิโคล ดาวเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งแบ๊คขาวและกองกลางตัวริมเส้น

        ทีเขาสมควรได้รับฉายานี้จากผมไม่ใช่เพราะเก่งกว่าคนอื่นในทีมแต่อย่างใด เพราะทีมในยุคเขานั้น มีทั้ง จอห์น อัดดริช  เอียนรัช จอห์น บาร์น ปีเตอร์ เบียดลีส์ แกรี่ แม็ค อัลลิเตอร์ แยน โมลบี้ฯลฯ เรียกว่าดาวดังยุค 80-90ยั๊วเยี๊ยะไปหมด แต่ที่ผมนึกถึง สตีฟ นิโคล ก็เพราะเขาอยู่กับทีม 12 ฤดูกาล สถิติกับลิเวอร์พูล : ลงสนามทั้งหมดทุกถ้วย 468 เกม ก่อนจะแขวนสตั๊ดในขณะที่คนอื่นๆรับใช้สโมสรไม่ต่อเนื่องและยาวนานเท่าเขา หรือเลือกไปจบชีวิตค้าแข้งกับทีมอื่นไม่อยู่กับลิเวอร์พูลถึงวันสุดท้ายของอาชีพ

จะว่าไปทีมเราก็มีน้อยนะ กับนักเตะที่อยู่กับทีมยาวนานเกิน 10 ปีและแขวนสตั๊ดที่แอนฟิลด์ของเรา

ในฟุตบอลยุคที่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีคแล้ว
       ซึ่งก็ ไม่ค่อยมีการจากลาแบบสวยๆระหว่างสโมสรกับนักเตะที่รับใช้ทีมมาอย่างยาวนานเลย ทั้งๆที่มีหลายๆคนคู่ควรเป็น Mr.Liverpool เช่นเดียวกับ สตีฟ นิโคล เลย นักเตะกลุ่มสไปซ์บอยผู้โด่งดังในยุคของ รอย อีแว่นซ์ ต่อเนื่องถึง เฌอราร์ อูลีเย่ห์ ผู้เล่นกลุ่มนี้ทั้ง แม๊คก้า เรดแนป ฟาวเลอร์ ก็แยกย้ายกันไปคนล่ะทาง ไม่ได้มีความทรงจำว่า แอนฟิลด์คือที่สุดท้ายของชีวิตค้าแข้ง

       สมัยราฟาเอล เบนิเตช ยอดกัปตันอย่าง ซามี่ ฮูเปียต้องลาจากตอนบั้นปลายไปจบชีวิตค้าแข้งสุดท้ายที่เยอรมัน ทั้งที่เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมมาหนึ่งทศวรรษ คู่เช็นเตอร์คู่หูอย่าง สเตฟาน อองโช ก็ไม่ต่างกันทั้งที่เจ้าตัวนั้นอยากแขวนสตั๊ดที่แอนฟิลด์ แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้น

       แม้กระทั่งโคตรตำนานของสโมสรอย่าง สตีเฟ่น เจอร์ราดยังไม่ได้รับ โอกาสที่ว่านี้เลย ต้องระหกระเหินไปจบชีวิตค้าแข้งที่ต่างแดนต่างทวีป ถึงแผ่นดินอเมริกา  และยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อมา อย่าง รีเซ่ แอ๊คเกอร์ สเคอเทล เรน่า ที่ต่างก็รับใช้สโมสรมายาวนาน แค่เอ่ยชื่อนักเตะเหล่านี้ขึ้นมาสิ่งแรกที่คนรับรู้ คือ ชื่อเหล่านี้คือนักเตะลิเวอร์พูล แต่สุดท้าย บั้นปลายชีวิตค้าแข้งของพวกเขา ไม่มีสักคนเลยในรายชื่อเหล่านี้ที่ถูกสดุดีจากสโมสรด้วยการยอมให้จบชีวิตค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์

       พวกเขาเหล่านี้สำหรับผม ล้วนแต่เป็น Mr.Liverpool ทั้งสิ้น มีเพียงตนเดียวมั้งที่ได้รับโอกาสนี้ เหมือน สตีฟ นิโคล เท่าที่ผมจำได้ คือ เจมี่ คาราเกอร์ ที่ได้จบชีวิตค้าแข้งในขณะที่ยังสวมชุดแดงและได้ลาแฟนๆในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2013

เกือบ 30 ปีในการติดตามและเชียร์สโมสรนี้มา ผมนึกออกแค่เพียง 2 คน น้อยมาก ผมจึงอยากให้ ลูคัส ได้รับเกียรตินั้นเป็นคนที่ 3



       ตามความรู้สึกผมนี้คือ วิถีปฏิบัติที่ผ่านมาไม่ดีเท่าไรสำหรับสโมสรที่มีเกียรติประวัติอันยาวนาน กับตำนานนักเตะที่ทุ่มเทรับใช้สโมสรอย่างเต็มที่ในยามที่พวกเขานั้นสวมชุดแดงร่วมแรงร่วมใจกับแฟนบอล ไล่ล่าความสำเร็จมาให้สโมสร สำหรับดาวดังที่ยังมีความสนใจจากทีมอื่นที่พร้อมข้อเสนองามๆก่อนลาชีวิตในสนามไปก็ไม่เป็นไร แต่นักเตะหลายๆคนก็ไม่ได้รับข้อเสนอแบบนั้น กลับเป็นต้องยอมย้ายออกไปเพราะไม่เป็นที่ต้องการของสโมสรมากกว่า ซึ่งนับได้ว่าเป็นความเจ็บปวดกับการที่ได้รับการตอบแทนหลังจากที่ทุ่มเทให้กับอะไรสักอย่างเป็นเวลานานๆ

       และในนักเตะชุดปัจจุบันนี้ ลูคัส เลว่า คือนักเตะที่ทุ่มเทรับใช้ด้วยใจภักดีด้วยเวลาอันยาวนานเหมือนนักเตะรุ่นพี่คนอื่นๆที่กล่าวมาข้างต้น เขาคือคนที่แม้มีโอกาสที่ดีกว่าในการลงสนาม เมื่อมีสโมสรอื่นยื่นข้อเสนอมาให้ แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไปเพราะได้รับการขอร้องจากผู้จัดการทีม(ปีที่แล้ว JK ขอร้องให้ลูคัสอยู่ต่อ)

       ลูคัส แม้ไม่ได้เป็น สเกาเซอร์(นักเตะท้องถิ่นที่อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่เป็นเยาวชน) ไม่ได้เป็นตัวเด่นตัวสำคัญในทุกยุคทุกผู้จัดการที่เคยคุมทีมตอนเขาค้าแข้งกับลิเวอร์พูลมา แต่กลับเป็นนักเตะคนแรกที่ผมคิดว่า เป็นลิเวอร์พูลแท้ๆในนักเตะชุดปัจจุบันนี้ คูตินโญ่อาจเป็นขวัญใจแฟนบอล สเตอริจน์อาจเป็นกองหน้าพรสวรรค์ เฮนโด้อาจเป็นกัปตัน เบนจามิน วู้ดเบิร์นอาจเป็นดาวเด่นในอนาคต แต่ไม่มีใครสักคนเลยที่มีความเป็นลิเวอร์พูลมากเท่าลูคัส ตามความรู้สึกของผม

       แน่นอนว่าสักวัน คูตี้หรือนักเตะคนอื่นๆในทีมอาจจะมีสิ่งที่ว่านี้ในความรู้สึกผมมากกว่าลูคัส หากเขายังอยู่รับใช้สโมสรต่อเนื่องและยาวนานเหมือนที่ลูคัสทำ แต่ในวันนี้ Mr.Liverpool ของผมคือลูคัส จึงคงไม่เป็นการมากเกินไป ที่ผมอยากให้วันสุดท้ายของการค้าแข้ง เขาได้ใส่ชุดแดงบอกลาแฟนๆที่เขารัก ถ้าลูคัสยังคิดจะเล่นต่อ ก็ต่อสัญญาเถอะครับ บอส ให้เขาได้รับเกียรติสมกับที่รับใช้สโมสรของเรามา เราหลั่งน้ำตาด้วยกันมาก็นับครั้งไม่ถ้วน หรือหัวเราะล่วนด้วยความยินดีกับความสำเร็จร่วมกันมาก็ไม่น้อย แล้วทำไมเราจะปล่อยให้ตำนานอีกคนหนึ่งของเรา อาจจะไม่ได้มีความทรงจำสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งร่วมกับเราล่ะ...?

ตอบแทนเขาเถอะ ช่วยขอลายเซ็นของเขา บนสัญญาใหม่ร่วมกับเราเถอะครับ
ให้เขาได้เป็นตำนานจนวันสุดท้าย สมกับที่ทำงานหนักให้เรามาตลอดเถอะครับ

*แก้ไขคำผิด
*แก้ไขคำตกหล่นรอบ 2 10.51น.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่