ทริปนี้ตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ถามใคร ไม่ชวนใคร และไม่ปริปากบอกใคร ยกเว้นเพื่อนสนิทคนเดียว(แอบบอกที่เก็บเอกสารสำคัญเผื่อaccident)
จุดเริ่มต้นเริ่มจากการสอดส่ายสายตาส่องตั๋วเครื่องบินราคาถูก วันนั้นไม่รู้อารมณ์ไหน เจอ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์แล้วสะดุดกึก คิดในใจว่าลองดูดีมั้ยทั้งที่ปกติก็เคยเจอสายการบินหลายแห่งมีโปรลดแต่ต้องต่อเตรื่องที่เมืองต่างๆ ก็ไม่เคยมีความคิดจะนั่งเครื่องไปญีปุ่นโดยการต่อเตรื่อง หลังจากลองเข้าไปกดๆเลือกๆ ก็ดันได้ตั๋วราคาดี เวลาโอเคคือ ราคา9,1xxบาท ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ห้าโมง กว่า ลงทีฮานอยใช้เวลาประมาณ2ชม.หน่อยๆ แล้วรอ transit ประมาณ3ชม. ราวๆเที่ยงคืนก็ขึ้นเครื่องไปญีปุ่น ถึงญีปุ่น 8โมงเช้า
ขากลับก็เช่นเดียวกันแต่เราเลือกกลับเช้าเพื่อที่จะถึงกทม.ไม่ดึกเกินไป
สำหรับตั๋วเครื่องบินและที่พัก จองล่วงหน้าประมาณ2เดือนค่ะ ที่พักเลือกพักเป็นhostel หอพักรวมหญิง
ในส่วนของจุดหมายที่จะไปนั้นก็มาค้นgoogleหลังจากได้ตั๋วเครื่องบินมากอดแล้ว
ลองพิมพ์คำว่าญีปุ่นเดือน พ.ค ก็พบรีวิวค่อนข้างน้อยค่ะ.ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ จนไปเจอรายการ สุโก้ยเจแปน พาไปที่kamikochi วิวสวยมาก ทำให้เกิดทริปนี้ ขึ้นมา
สรุปทริปนี้ 9วัน8คืน
Day 1-2 Tokyo. ,hitachi seaside park,Ashikaga flower park
Day3-4 Kawaguchiko
Day5-7 matsumoto,kamikochi
Day8 nagoya ,karuizawa
Day9 กลับtokyo
ค่าใช้จ่าย
ค่ารถไฟ JR+รถไฟอื่นๆ,รสบัส=17,000+11,900¥=28,000¥
ค่าที่พัก8คืน=21,200¥
ค่ากิน=14,500¥
ค่าเข้าชม ค่าบริการอื่นๆ=1,500¥
รวมเงินเยน64,200¥>>>19,500฿(อัตรา100¥=30.2บาท)
ค่าเครื่องบิน=9,200฿
รวมทั้งสิ้น28,700บาท ไม่รวมค่าช็อบของฝากกลับบ้าน
ไม่เน้นกินหรู กินอาหารกล่อง7 ทำกับข้าวกินเองแต่ส่วนมากเหลือทิ้ง กินขนมกินน้ำ กินผลไม้ ได้
มาต่อกันค่ะ เริ่มที่ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ให้คะแนน8/10ที่นั่งไม่อึดอัด มีอาหาร หอบกระเป๋าได้เต็มที่ไม่ต้องระแวงว่าจะเกิน เสียเวลาต่อเครื่องนิดหน่อย แต่ก็ไปถึงเช้าเที่ยวได้เลยเหมือนบินตรง ไปคนเดียวต่อเครื่องกลัวมั้ย? ทำไมชิลมากก็ไม่รู้ ราบรื่นเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ในส่วนของgate ที่เวียดนาม ต้องไปดูที่เวียดนามอีกครั้ง มันอาจจะเปลี่ยนจาก boarding passที่ออกจากเมืองไทยนะคะ
เช้าวันที่12 พค. 60 ก็มาถึง นารีตะ ผ่าน ตม.โดนซักนิดหน่อย ไม่ได้น่ากลัว ผ่านกระบวนการเข้าเมืองเรียบร้อย ก็ต้องมา แลกvoucher ที่เค้าเตอร์JR รอบนี้ซื้อ nagano east pass 5 วัน ใช้เวลาต่อแถวพอสมควร สำหรับใครที่มีแพลนออกเที่ยวแต่เช้าต้องเผื่อเวลาประมาณ1ชม. หลังจากได้ตั๋ว เราเปิดใช้วันนี้เป็นวันแรกก็เลย นั่งNEX เข้าโตเกียวและจอง ชินคันเซนเพื่อไปสวน ashikagaกันเลย โดยวางแผนว่าจะฝากกระเป๋าที่สถานีโตเกียวซึ่งจะต้องต่อชินคันเซนที่นี่ แต่ปรากฏว่าผิดแผนไม่มีเวลาที่จะหาล๊อกเกอฝากกระเป๋าต้องลากขึ้นชินคันเซนไปด้วย ลงที่สถานี Oyama แต่ ล๊อกเกอร์ฝากกระเป๋า มีแต่ขนาดเล็กค่ะ เหวอไปเลย จะลากกระเป๋าไปก็ยังต้องต่อ local train อีก30นาที แล้วต่อด้วยเดินไปอีก10นาที ทำไงหล่ะทีนี้ จะไปต่อแล้วเกิดไม่มีที่ฝากกระเป๋า ต้องเดินลากกระป๋าเป็นกิโล จะไหวมั้ย เดินวนไปวนมาจะฝากที่พนักงานรถไฟก็ไม่รับ สุดท้ายยอมยกธง เวลาก็เลยบ่ายโมงมาแล้ว จะเสี่ยงไปก็เหลือเวลาน้อย ขากลับอาจตกรถ ยอมนั่งรถกลับโตเกียวเข้าที่พักดีกว่า คิดในใจถ้ามาหลายคน อาจมีหงุดหงิด เที่ยวคนเดียวมันดีตรงที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะผิดพลาด เปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลาแล้วก็กลับโตเกียวเพื่อเข้าที่พัก
ลุยเดี่ยวเที่ยวญีปุ่น. ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ. ทริปพิสูจน์ใจตัวเอง
ทริปนี้ตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ถามใคร ไม่ชวนใคร และไม่ปริปากบอกใคร ยกเว้นเพื่อนสนิทคนเดียว(แอบบอกที่เก็บเอกสารสำคัญเผื่อaccident)
จุดเริ่มต้นเริ่มจากการสอดส่ายสายตาส่องตั๋วเครื่องบินราคาถูก วันนั้นไม่รู้อารมณ์ไหน เจอ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์แล้วสะดุดกึก คิดในใจว่าลองดูดีมั้ยทั้งที่ปกติก็เคยเจอสายการบินหลายแห่งมีโปรลดแต่ต้องต่อเตรื่องที่เมืองต่างๆ ก็ไม่เคยมีความคิดจะนั่งเครื่องไปญีปุ่นโดยการต่อเตรื่อง หลังจากลองเข้าไปกดๆเลือกๆ ก็ดันได้ตั๋วราคาดี เวลาโอเคคือ ราคา9,1xxบาท ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ห้าโมง กว่า ลงทีฮานอยใช้เวลาประมาณ2ชม.หน่อยๆ แล้วรอ transit ประมาณ3ชม. ราวๆเที่ยงคืนก็ขึ้นเครื่องไปญีปุ่น ถึงญีปุ่น 8โมงเช้า
ขากลับก็เช่นเดียวกันแต่เราเลือกกลับเช้าเพื่อที่จะถึงกทม.ไม่ดึกเกินไป
สำหรับตั๋วเครื่องบินและที่พัก จองล่วงหน้าประมาณ2เดือนค่ะ ที่พักเลือกพักเป็นhostel หอพักรวมหญิง
ในส่วนของจุดหมายที่จะไปนั้นก็มาค้นgoogleหลังจากได้ตั๋วเครื่องบินมากอดแล้ว
ลองพิมพ์คำว่าญีปุ่นเดือน พ.ค ก็พบรีวิวค่อนข้างน้อยค่ะ.ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ จนไปเจอรายการ สุโก้ยเจแปน พาไปที่kamikochi วิวสวยมาก ทำให้เกิดทริปนี้ ขึ้นมา
สรุปทริปนี้ 9วัน8คืน
Day 1-2 Tokyo. ,hitachi seaside park,Ashikaga flower park
Day3-4 Kawaguchiko
Day5-7 matsumoto,kamikochi
Day8 nagoya ,karuizawa
Day9 กลับtokyo
ค่าใช้จ่าย
ค่ารถไฟ JR+รถไฟอื่นๆ,รสบัส=17,000+11,900¥=28,000¥
ค่าที่พัก8คืน=21,200¥
ค่ากิน=14,500¥
ค่าเข้าชม ค่าบริการอื่นๆ=1,500¥
รวมเงินเยน64,200¥>>>19,500฿(อัตรา100¥=30.2บาท)
ค่าเครื่องบิน=9,200฿
รวมทั้งสิ้น28,700บาท ไม่รวมค่าช็อบของฝากกลับบ้าน
ไม่เน้นกินหรู กินอาหารกล่อง7 ทำกับข้าวกินเองแต่ส่วนมากเหลือทิ้ง กินขนมกินน้ำ กินผลไม้ ได้
เช้าวันที่12 พค. 60 ก็มาถึง นารีตะ ผ่าน ตม.โดนซักนิดหน่อย ไม่ได้น่ากลัว ผ่านกระบวนการเข้าเมืองเรียบร้อย ก็ต้องมา แลกvoucher ที่เค้าเตอร์JR รอบนี้ซื้อ nagano east pass 5 วัน ใช้เวลาต่อแถวพอสมควร สำหรับใครที่มีแพลนออกเที่ยวแต่เช้าต้องเผื่อเวลาประมาณ1ชม. หลังจากได้ตั๋ว เราเปิดใช้วันนี้เป็นวันแรกก็เลย นั่งNEX เข้าโตเกียวและจอง ชินคันเซนเพื่อไปสวน ashikagaกันเลย โดยวางแผนว่าจะฝากกระเป๋าที่สถานีโตเกียวซึ่งจะต้องต่อชินคันเซนที่นี่ แต่ปรากฏว่าผิดแผนไม่มีเวลาที่จะหาล๊อกเกอฝากกระเป๋าต้องลากขึ้นชินคันเซนไปด้วย ลงที่สถานี Oyama แต่ ล๊อกเกอร์ฝากกระเป๋า มีแต่ขนาดเล็กค่ะ เหวอไปเลย จะลากกระเป๋าไปก็ยังต้องต่อ local train อีก30นาที แล้วต่อด้วยเดินไปอีก10นาที ทำไงหล่ะทีนี้ จะไปต่อแล้วเกิดไม่มีที่ฝากกระเป๋า ต้องเดินลากกระป๋าเป็นกิโล จะไหวมั้ย เดินวนไปวนมาจะฝากที่พนักงานรถไฟก็ไม่รับ สุดท้ายยอมยกธง เวลาก็เลยบ่ายโมงมาแล้ว จะเสี่ยงไปก็เหลือเวลาน้อย ขากลับอาจตกรถ ยอมนั่งรถกลับโตเกียวเข้าที่พักดีกว่า คิดในใจถ้ามาหลายคน อาจมีหงุดหงิด เที่ยวคนเดียวมันดีตรงที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะผิดพลาด เปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลาแล้วก็กลับโตเกียวเพื่อเข้าที่พัก