วอลเลย์บอลสาวไทยจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพี่ๆรุ่นใหญ่
เป็นเวลามากกว่า10ปีที่เป็นยุคทองของวงการวอลเลย์บอลไทย ซึ่งนำมาซึ่งความชื่นชมไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยแต่ยังรวมถึงประเทศเวียดนามด้วย ทั้งสปิริตในการแข่งขันและเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาเป็นยังคู่แข่งที่ปลุกกระแสความนิยมต่อวอลเลย์บอลหญิงของเวียดนามอีกด้วย
ความสำเร็จของวอลเลย์บอลไทยก้าวข้ามกระแสของวอลเลย์บอลสมัยใหม่ ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาใช้ผู้เล่นที่มีความสูงไม่มากนักแต่มีสไตล์เฉพาะเป็นของตัวเอง ความแข็งแกร่งและความคล่องตัวเป็นรูปแบบการเล่นที่ไทยนำมาใช้เป็นกุญแจสำคัญของการประสบความสำเร็จ โดยในช่วงปี 2004-2008 ไทยได้สร้างความประหลาดใจและสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งไปได้เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีความสูงเฉลี่ยเพียงแค่ 174 ซม. แต่กลับมีบอลโจมตีที่ทรงพลัง ช่วงเวลานี้เองที่ได้ถือกำเนิดผู้เล่นยุคทองของวอลเลย์บอลไทย:วิลาวัณย์, ปลื้มจิตร์, นุศรา, มลิกา, อัมพร, อรอุมา และวรรณา
การแข่งขัน asian championship ในปี 2009 ถูกจัดขึ้นที่ Horse stadium ณ กรุงฮานอย ไทยสามารถคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกหลังจากโค่นพี่ใหญ่อย่างจีนลงได้ เป็นการเติบโตอย่างสำคัญของ 6 เซียนในตำนาน ช่วงปี 2009-2011 แม้มีสโมสรในเอเชียเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขายังคงประสบความสำเร็จโดยในปี 2012 และปี 2013 พวกเขายังคงครองความเป็นเจ้าอย่างต่อเนื่องทั้งใน asian cup และ asian championship ทว่าสิ้นฤดูกาลปี 2013 อัมพรก็ได้อำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการเพื่อไปเป็นคุณแม่ และในปี 2014 มลิกาก็เกิดบาดเจ็บอย่างกระทันหันและไม่อาจคืนฟอร์มที่ดีได้
ในช่วงปี 2015 ช่วงปิดฤดูกาล และการที่วิลาวัณย์มีฟอร์มการเล่นขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ปลื้มจิตร์ที่บาดเจ็บ ไทยก็เริ่มทดสอบผู้เล่นรุ่นเด็ก ตัวหลักที่ยังเหลืออย่างอรอุมาก็กลับต้องลดบทบาทลงเนื่องจาก abdominal trauma ส่วนนุศราก็ไม่อาจรักษา stability อย่างที่เคยเป็นในอดีตได้ อย่างไรก็ตามการบาดเจ็บของตัวหลักเหล่านี้ไม่ได้เป็นการบาดเจ็บที่หนักหนา จึงไม่กระทบต่อการเล่นมากนัก
ในปัจจุบัน เมื่อวรรณาได้ยุติการเล่นอย่างเป็นทางการแล้ว และอรอุมาได้รับบาดเจ็บ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้เล่นรุ่นเด็กจะได้รับโอกาสและพิสูจน์ตัวเอง ทั้งนี้ในรายการ montreux master 2017 นี้ ทีมชาติไทยมีตัวเทพเพียงแค่ 2 คนคือวิลาวัณย์กับปลื้มจิตร์ โดยใช้ผู้เล่นเด็กที่เป็นอนาคตของวงการวอลเลย์บอลไทย อย่างไรก็ตามอัจฉราพร (คิดว่าเขาน่าจะหมายถึงทัดดาวมากกว่า) ไม่ได้ลงเล่นรับใช้ทีมชาติในรายการนี้ด้วยเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
หลังจากพ่ายแพ้ไปในสองเกมแรก ไทยก็ต้องเจอกับปัญหาในการเล่นที่ขาดเสถียรภาพ
มันค่อนข้างชัดว่าปัจจุบันที่เป็นยุคเปลี่ยนผ่านและไม่ได้ใช้รุ่นใหญ่ เวียดนามจะไม่ต้องมีระยะห่างตามหลังไทยมากอีกต่อไป นับเป็นสัญญาณที่ดีของวงการวอลเลย์บอลเวียดนาม ที่จะกลับมาเป็นตัวเองพร้อมกับเป้าหมายและผลงานใหม่ๆในปีนี้ ส่วนไทยนั้นก็เป็นที่ชัดเจนว่าหลังจากยุค 6 เซียนก็คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสร้างทีมที่ครบเครื่องแบบนั้นขึ้นมาได้อีก
แปลจากภาษาเวียดนามเป็นอังกฤษ หากผิดพลาดต้องขออภัย
ที่มา:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://thethao247.vn/248-bong-chuyen-thai-lan-se-ra-sao-neu-thieu-vang-nhung-chi-dai-d143604.html
คอมเม้นต์แฟนวอลเลย์บอล
Hung Manh Nguyen: ไม่กล้าฝันว่าจะตามทันไทยในอนาคตอันใกล้หรอก ถึงไม่มี 6 เซียนก็ยังมี อัจฉราพร ชัชชุอร หัตถยา ทัดดาว โสรยา พรพรรณที่มีประสบการณ์ท่วมท้น
Huynh Duc: นี่สินะ หลังจากช่วงเวลาอันยาวนานที่ไทยมีนักกีฬาที่สตรองอย่างอรอุมา และฉลาดอย่างวิลาวัณย์
Minhtuan Ngo: ตำแหน่ง b1 ยังไม่ค่อยดีเลยทำให้เล่นตามแทคติคไม่ค่อยได้ จังหวะตบลูกก็สุดยอดสู้รุ่นเก่าไม่ได้ ส่วนตำแหน่ง 4 กับ 2 ก็ถูกจับได้ง่ายถ้าเจอบล็อคที่สูงกว่า แต่ถึงยังไงเวียดนามก็ยังห่างไกลจากทีมไทยมาก
Như Huỳnh: แค่กำลังเปลี่ยนผ่านแต่ก็สมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ เกมรับอาจจะไม่ดีเท่า 6 เซียน แต่เกมรุกไม่แน่นะ อัจฉราพร ชัชชุอร พิมพิชยายังเด็กอยู่ และมีเวลาพัฒนาในการเจอทีมในระดับนานาชาติซึ่งโหดมาก
Nhong Thỉ: รุ่นใหญ่ ตอนนี้เหลือแค่ 3 (วิลาวัณย์, ปลื้มจิตร์, นุศรา) ก็หวังว่าตัวท็อปรุ่นเด็ก (ชัชชุอร, อัจฉราพร, หัตถยา, พิมพิชยา, พรพรรณ, โสรยา, ปิยะนุช) จะเจริญรอยตามตัวเทพและสรรสร้างการเล่นที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ชม
Hoang Le: ก็ธรรมดาละ ไม่เห็นต้องถาม อายุมากขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดากับเส้นทางมืออาชีพอย่างประเทศไทย แต่ยังไงไทยก็ยังคงเป็นทีมหัวแถวของเอเชียอยู่อย่างมั่นคงเสมอ!
Nam Nguyễn: ถึงใช้ทีมเด็กแบบที่ Montreux ก็ยังชนะเวียดนามได้อยู่ดี
Võ Xuân Đỉnh: ญี่ปุ่นก็เหมือนกันหมดยุคทองละ เหลือแต่ Risa ส่วน Ebata ก็ไม่มีชื่อติด ที่เหลือก็เลิกเล่น
Trần Nam: อย่าฝันไปเลยเวียดนาม
Nobita Huynh: ตั้งแต่ไม่มีโค้ชอ๊อด ทำไมการโจมตีของไทยไม่สวยงามเหมือนแต่ก่อน
Nhớ Nhà Rồi: ไทยทั้งเก่งมีพรสวรรค์มาก น่าชื่นชมจริงๆ
Phạm Trường: ถึงไม่มี 6 เซียนเราก็ไม่แน่ว่าจะชนะเค้า
Tâm Jessy: ถึงไงไทยก็แกร่งเกินไปเมื่อเทียบกับชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็ยังเป็น Top 4 ของเอเชียอยู่
Tuấn Minh Trần: อาจจะต้องเสียตำแหน่งในระดับโลก แต่ก็ยังแกร่งเกินไปเมื่อเทียบกับชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหลือ
Duy Cao: ถึงเป็นทีมเด็กก็ยังเก่งกว่าเรา ทั้งในระดับภูมิภาคกับระดับทวีป แต่ระดับโลกคงยากจะเป็นเหมือนวันเก่าๆ
Thọ Noo: เอาละสิ เวียดนามมีโอกาสได้เหรียญทองในซีเกมส์ที่กำลังจะมาถึงละเว้ย
Tuyên Hà Đỗ: คิดว่ายังไงซีเกมส์ครั้งที่ 29 ก็ยังยากอยู่ดี เอาชนะอินโดให้ได้ก่อนค่อยฝันถึงเหรียญทอง
ตอบกลับ
Nguyễn Khánh Hưng: ยังมีปินส์อีกนะ เสี้ยนอยากจะชนะเวียดนามจะแย่
Phèo Chờ Nở: พวกปินส์หวังจะชนะไทยแล้วครองแชมป์โลก
Hoàng Thao: 5555
Tuyên Hà Đỗ: ทีมปินส์คือยุโรปโอนสัญชาติ
Nam Hee: ไทยจะยังช่วยเราป้องกันเหรียญเงินในซีเกมส์ 😂😂😂
สื่อเวียดนามมองลูกยางสาวไทย: จะเป็นอย่างไรในวันที่ไร้ 6 เซียน+ Comments
เป็นเวลามากกว่า10ปีที่เป็นยุคทองของวงการวอลเลย์บอลไทย ซึ่งนำมาซึ่งความชื่นชมไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยแต่ยังรวมถึงประเทศเวียดนามด้วย ทั้งสปิริตในการแข่งขันและเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาเป็นยังคู่แข่งที่ปลุกกระแสความนิยมต่อวอลเลย์บอลหญิงของเวียดนามอีกด้วย
ความสำเร็จของวอลเลย์บอลไทยก้าวข้ามกระแสของวอลเลย์บอลสมัยใหม่ ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาใช้ผู้เล่นที่มีความสูงไม่มากนักแต่มีสไตล์เฉพาะเป็นของตัวเอง ความแข็งแกร่งและความคล่องตัวเป็นรูปแบบการเล่นที่ไทยนำมาใช้เป็นกุญแจสำคัญของการประสบความสำเร็จ โดยในช่วงปี 2004-2008 ไทยได้สร้างความประหลาดใจและสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งไปได้เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีความสูงเฉลี่ยเพียงแค่ 174 ซม. แต่กลับมีบอลโจมตีที่ทรงพลัง ช่วงเวลานี้เองที่ได้ถือกำเนิดผู้เล่นยุคทองของวอลเลย์บอลไทย:วิลาวัณย์, ปลื้มจิตร์, นุศรา, มลิกา, อัมพร, อรอุมา และวรรณา
การแข่งขัน asian championship ในปี 2009 ถูกจัดขึ้นที่ Horse stadium ณ กรุงฮานอย ไทยสามารถคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกหลังจากโค่นพี่ใหญ่อย่างจีนลงได้ เป็นการเติบโตอย่างสำคัญของ 6 เซียนในตำนาน ช่วงปี 2009-2011 แม้มีสโมสรในเอเชียเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขายังคงประสบความสำเร็จโดยในปี 2012 และปี 2013 พวกเขายังคงครองความเป็นเจ้าอย่างต่อเนื่องทั้งใน asian cup และ asian championship ทว่าสิ้นฤดูกาลปี 2013 อัมพรก็ได้อำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการเพื่อไปเป็นคุณแม่ และในปี 2014 มลิกาก็เกิดบาดเจ็บอย่างกระทันหันและไม่อาจคืนฟอร์มที่ดีได้
ในช่วงปี 2015 ช่วงปิดฤดูกาล และการที่วิลาวัณย์มีฟอร์มการเล่นขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ปลื้มจิตร์ที่บาดเจ็บ ไทยก็เริ่มทดสอบผู้เล่นรุ่นเด็ก ตัวหลักที่ยังเหลืออย่างอรอุมาก็กลับต้องลดบทบาทลงเนื่องจาก abdominal trauma ส่วนนุศราก็ไม่อาจรักษา stability อย่างที่เคยเป็นในอดีตได้ อย่างไรก็ตามการบาดเจ็บของตัวหลักเหล่านี้ไม่ได้เป็นการบาดเจ็บที่หนักหนา จึงไม่กระทบต่อการเล่นมากนัก
ในปัจจุบัน เมื่อวรรณาได้ยุติการเล่นอย่างเป็นทางการแล้ว และอรอุมาได้รับบาดเจ็บ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้เล่นรุ่นเด็กจะได้รับโอกาสและพิสูจน์ตัวเอง ทั้งนี้ในรายการ montreux master 2017 นี้ ทีมชาติไทยมีตัวเทพเพียงแค่ 2 คนคือวิลาวัณย์กับปลื้มจิตร์ โดยใช้ผู้เล่นเด็กที่เป็นอนาคตของวงการวอลเลย์บอลไทย อย่างไรก็ตามอัจฉราพร (คิดว่าเขาน่าจะหมายถึงทัดดาวมากกว่า) ไม่ได้ลงเล่นรับใช้ทีมชาติในรายการนี้ด้วยเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
หลังจากพ่ายแพ้ไปในสองเกมแรก ไทยก็ต้องเจอกับปัญหาในการเล่นที่ขาดเสถียรภาพ
มันค่อนข้างชัดว่าปัจจุบันที่เป็นยุคเปลี่ยนผ่านและไม่ได้ใช้รุ่นใหญ่ เวียดนามจะไม่ต้องมีระยะห่างตามหลังไทยมากอีกต่อไป นับเป็นสัญญาณที่ดีของวงการวอลเลย์บอลเวียดนาม ที่จะกลับมาเป็นตัวเองพร้อมกับเป้าหมายและผลงานใหม่ๆในปีนี้ ส่วนไทยนั้นก็เป็นที่ชัดเจนว่าหลังจากยุค 6 เซียนก็คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสร้างทีมที่ครบเครื่องแบบนั้นขึ้นมาได้อีก
แปลจากภาษาเวียดนามเป็นอังกฤษ หากผิดพลาดต้องขออภัย
ที่มา: [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คอมเม้นต์แฟนวอลเลย์บอล
Hung Manh Nguyen: ไม่กล้าฝันว่าจะตามทันไทยในอนาคตอันใกล้หรอก ถึงไม่มี 6 เซียนก็ยังมี อัจฉราพร ชัชชุอร หัตถยา ทัดดาว โสรยา พรพรรณที่มีประสบการณ์ท่วมท้น
Huynh Duc: นี่สินะ หลังจากช่วงเวลาอันยาวนานที่ไทยมีนักกีฬาที่สตรองอย่างอรอุมา และฉลาดอย่างวิลาวัณย์
Minhtuan Ngo: ตำแหน่ง b1 ยังไม่ค่อยดีเลยทำให้เล่นตามแทคติคไม่ค่อยได้ จังหวะตบลูกก็สุดยอดสู้รุ่นเก่าไม่ได้ ส่วนตำแหน่ง 4 กับ 2 ก็ถูกจับได้ง่ายถ้าเจอบล็อคที่สูงกว่า แต่ถึงยังไงเวียดนามก็ยังห่างไกลจากทีมไทยมาก
Như Huỳnh: แค่กำลังเปลี่ยนผ่านแต่ก็สมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ เกมรับอาจจะไม่ดีเท่า 6 เซียน แต่เกมรุกไม่แน่นะ อัจฉราพร ชัชชุอร พิมพิชยายังเด็กอยู่ และมีเวลาพัฒนาในการเจอทีมในระดับนานาชาติซึ่งโหดมาก
Nhong Thỉ: รุ่นใหญ่ ตอนนี้เหลือแค่ 3 (วิลาวัณย์, ปลื้มจิตร์, นุศรา) ก็หวังว่าตัวท็อปรุ่นเด็ก (ชัชชุอร, อัจฉราพร, หัตถยา, พิมพิชยา, พรพรรณ, โสรยา, ปิยะนุช) จะเจริญรอยตามตัวเทพและสรรสร้างการเล่นที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ชม
Hoang Le: ก็ธรรมดาละ ไม่เห็นต้องถาม อายุมากขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดากับเส้นทางมืออาชีพอย่างประเทศไทย แต่ยังไงไทยก็ยังคงเป็นทีมหัวแถวของเอเชียอยู่อย่างมั่นคงเสมอ!
Nam Nguyễn: ถึงใช้ทีมเด็กแบบที่ Montreux ก็ยังชนะเวียดนามได้อยู่ดี
Võ Xuân Đỉnh: ญี่ปุ่นก็เหมือนกันหมดยุคทองละ เหลือแต่ Risa ส่วน Ebata ก็ไม่มีชื่อติด ที่เหลือก็เลิกเล่น
Trần Nam: อย่าฝันไปเลยเวียดนาม
Nobita Huynh: ตั้งแต่ไม่มีโค้ชอ๊อด ทำไมการโจมตีของไทยไม่สวยงามเหมือนแต่ก่อน
Nhớ Nhà Rồi: ไทยทั้งเก่งมีพรสวรรค์มาก น่าชื่นชมจริงๆ
Phạm Trường: ถึงไม่มี 6 เซียนเราก็ไม่แน่ว่าจะชนะเค้า
Tâm Jessy: ถึงไงไทยก็แกร่งเกินไปเมื่อเทียบกับชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็ยังเป็น Top 4 ของเอเชียอยู่
Tuấn Minh Trần: อาจจะต้องเสียตำแหน่งในระดับโลก แต่ก็ยังแกร่งเกินไปเมื่อเทียบกับชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหลือ
Duy Cao: ถึงเป็นทีมเด็กก็ยังเก่งกว่าเรา ทั้งในระดับภูมิภาคกับระดับทวีป แต่ระดับโลกคงยากจะเป็นเหมือนวันเก่าๆ
Thọ Noo: เอาละสิ เวียดนามมีโอกาสได้เหรียญทองในซีเกมส์ที่กำลังจะมาถึงละเว้ย
Tuyên Hà Đỗ: คิดว่ายังไงซีเกมส์ครั้งที่ 29 ก็ยังยากอยู่ดี เอาชนะอินโดให้ได้ก่อนค่อยฝันถึงเหรียญทอง
ตอบกลับ
Nguyễn Khánh Hưng: ยังมีปินส์อีกนะ เสี้ยนอยากจะชนะเวียดนามจะแย่
Phèo Chờ Nở: พวกปินส์หวังจะชนะไทยแล้วครองแชมป์โลก
Hoàng Thao: 5555
Tuyên Hà Đỗ: ทีมปินส์คือยุโรปโอนสัญชาติ
Nam Hee: ไทยจะยังช่วยเราป้องกันเหรียญเงินในซีเกมส์ 😂😂😂