สูญเงิน 152,244 บาท ให้ธนาคารกสิกรไทย และเมืองไทยประกันชีวิต จริงๆเราเรียกร้องอะไรได้บ้างคะ

เรื่องเกิดเมื่อกลางปีที่แล้ว เรากับแฟนไปทำธุรกรรมที่กสิกรกรไทยบ่อยจนคุ้นหน้าคุ้นตากับ จนท.กสิกรไทย ผ่านมาซักระยะนึง ได้มาเสนอผลิตภัณฑ์ให้ในรูปแบบที่อธิบายว่าเป็นการออมเงิน เพราะเห็นว่าแฟนเราทำธุรกิจ เหมาะสมในการลงทุนด้านการออมเงินระยะยาวแบบนี้ และได้รับการคุ้มครองประกันชีวิต 3.6 ล้าน ถึงอายุ99ปี โดยมีการชำระเบี้ยประกันปีละ152,244 บาท ระยะเวลา 9 ปีจะได้รับดอกเบี้ยคืนทุกปีมีการคุ้มครองให้ด้วย และหลังจาก9ปี ถ้ายกเลิก ได้เงินคืนครบ แต่การคุ้มครองก็จะถูกยกเลิกไป

เรากับแฟนยังไม่ตัดสินใจทำในทันที ขอคิดดูก่อน มาธนาคารเจอหน้ากันก็พูดเรื่องนี้กันอีก ทีนี้เราอยู่ด้วย เราถามเค้าว่าหลังจากเราส่งหมด9ปี เราจะได้เงินคืนครบตามที่เราส่งไปเลยใช่มั้ย จะได้ถือซะว่าเอาไว้ให้ลูกเรียน เค้าตอบว่า ใช่และได้ครบ!!! เราเลยตัดสินใจให้แฟนทำ คิดซะว่าเก็บไว้เป็นค่าเทอมลูกในอนาคต บวกกับพนักงานจะได้ยอดด้วย เพราะเรามีการพูดคุยกันกับเค้าทำให้รู้ว่าเค้าต้องหายอดให้ได้ หลังจากซื้อฉบับนี้ เดือนถัดๆมาเราช่วยเค้าซื้อตัวอื่นเพิ่ม2-3อันเป็นรูปแบบประกันภัย หลักๆเพราะช่วยเรื่องยอดขายเค้ากับเพื่อนเค้าเหมือนเดิม แถมท้ายว่าหลังจากนี้จะไม่ขายอะไรให้เรากับแฟนแล้ว ก็ขำๆกันไป

พอช่วงที่ผ่านมาครบปี ได้เวลาต่อเบี้ยประกัน เกิดเอะใจ ได้ข่าวเรื่องไม่ค่อยดีมาเยอะ คิดว่าไม่น่าใช่ตัวเดียวกัน ไปศึกษาใหม่ ศึกษาในที่นี้คือลองอ่านกรมธรรม์ แต่ไม่เข้าใจอยู่ดี โทรหาcall centerเมืองไทยให้เค้าอธิบายหน่อย

สรุปคือ...ส่งครบถ้าจะใช้เงิน ทำได้ค่ะ แต่ก็ต้องเป็นลักษณะการกู้เงินตัวเองออกไปใช้ และไม่ได้เต็มจำนวนที่ส่งไปด้วย ถ้าอยากได้คืนครบตามที่ส่งไป มันจะมีจุดคุ้มทุนอยู่ให้รอตอนนั้น (รู้สึกจะปีที่15) แล้วก็ไม่ได้มีดอกเบี้ยระหว่างปีนะคะ แต่ถ้าอยู่ถึงอายุ99ก็รับไป3.6ล้านอ้าว!!!!! ตอนขายไม่ได้มาขายแบบนี้นะ แฟนเราเลยร้องเรียน เพื่อขอยกเลิก และขอเงินคืนทั้งหมด จาก บ. เมืองไทยประกันชีวิต เพราะไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่แจ้งมา และสาระสำคัญของกรมธรรม์ฉบับนี้ มันคนละเรื่องกับที่เสนอขายมาเลย

ระยะเวลาเดือนครึ่ง กับการติดตามเรื่องราว ซึ่งเป็นเราเองที่ตามจิกฝ่ายร้องเรียน ผลสรุปออกมา2ครั้ง ไม่ยอมคืนเงินให้แฟนเรา โดยให้เหตุผลว่าได้ตรวจสอบจากพนักงานแล้ว ยืนยันว่าให้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว โดย เมืองไทยประกันชีวิต+ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน ร่วมกันตรวจสอบ บวกกับตอนที่มีcall center โทรยืนยันกรมธรรม์ แล้วแฟนเราตอบตกลงไป แฟนเราเค้าบอกฟังไม่รู้เรื่องภาษาประกัน ซึ่งตรงนี้ถือว่าทางเราพลาดเอง ที่ใช้เเต่ความไว้วางใจ ความสนิทใจ ในตัวผู้ขายซึ่งดูน่าเชื่อถือแทน แล้วตอนเซ็นชื่อกัน จนท.ก็ติ๊กๆให้ ให้แฟนเรานั่งเซ็นอย่างเดียว มันเสียความรู้สึกมากๆนะ ซึ่งผลสรุปและเหตุผลแบบนี้ก็ได้ออกมาตามที่คาดไว้แต่แรก และฝ่ายร้องเรียนแจ้งว่าได้พยายามช่วยเหลือแล้วถึง2ครั้งแต่ไม่เป็นผล แล้วเค้าก็คงไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว ได้แต่แสดงความเสียใจกับเรา  ได้แต่คิด นี่มันอะไรกัน

ส่วนประเด็นการยกเลิกกรมธรรม์ หลังจากเซ็นรับกรมธรรม์แล้ว15วันนั้น เนื่องจากทางเราไม่ได้มีเจตนาที่จะยกเลิกเพราะอยู่ๆเกิดเปลี่ยนใจ ประเด็นเรื่องการยกเลิกมันไม่ได้อยู่ในหัวในขณะนั้นเลยค่ะ แล้วทราบมาว่า การยกเลิกให้นับจากวันที่ผู้ที่ทำประกันเซ็นรับด้วยตัวเอง ถ้าพูดกันจุดนี้ทางเราได้แย้งไปว่า แฟนเราเค้ายังไม่ได้เซ็นรับด้วยตัวเองนะ ช่วงที่ส่งมาเค้าอยู่หน้างานไปๆมาๆระหว่างบ้านเค้า หน้างาน ออฟฟิต และบ้านเรา อันนี้กรมธรรม์ส่งมาที่บ้านเราค่ะ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เนื่องจากเคสเราเป็นการซื้อผ่านนายหน้า จะยึดตามที่เซ็นรับจากไปรษณีย์ เป็นใครเซ็นก็ได้ถือว่าสมบูรณ์แล้ว และกว่าจะมาเปิดดูก็อีกนานเลยค่ะ แต่ถ้าซื้อผ่านตัวแทนจะต้องยึดตามลายเซ็นของผู้ทำประกันเท่านั้น เอ้า เป็นงั้นไป

แต่เรื่องนี้เราจะไม่ปล่อยผ่านแน่ค่ะ เราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ก็ต้องไปยื่นตามหน่วยงานที่รับเรื่องต่างๆ แล้วก็ตั้งทนายขึ้นมาฟ้องกัน  ซึ่งก็มีแต่คนบอกว่าไม่ได้ความหรอก น่าจะยาก แต่เราก็จะทำ เพราะมันยังมีความค้างคาใจหลายอย่างในเรื่องนี้ค่ะ มีหน่วยงานไหน หรือกฎหมายข้อไหน หรือใคร ที่จัดการอะไรแบบนี้ได้บ้างมั้ยอ่ะคะ
ปล.เห็น K-Expert ออกแคมเปญ K-Expert Workshop "ทบทวนกรมธรรม์ เพื่อให้ไม่พลาดทุกสิทธิ์ที่มี" ....ในกรณีที่พลาดไปแล้ว เยียวยายังไงดีคะ  อันนี้ถามแบบอยากได้คำตอบจริงๆค่ะ  แต่ถ้าจะตอบว่า ปรับเปลี่ยนรูปแบบประกันให้ตรงความต้องการ งั้นเอาเงินคืนมาก่อนค่ะ แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน

ขอบคุณทุกท่านค่ะ ที่สละเวลาที่อ่านเรื่องยาวๆ และก็เป็นเรื่องเดิมๆ เราอยากให้ทุกคน ระวัง การซื้อประกันผ่านนายหน้าจากทางแบงค์ให้มากๆ ทางที่ดีที่สุดให้ซื้อกับตัวแทนโดยตรงจะดีกว่า คำพูดนี้เจ้าหน้าที่เมืองไทยประกันชีวิตบอกเองเลยค่ะ

ส่วนเราก็คงต้องเหนื่อยต่อไป เรียกได้ว่านอนไม่หลับกันเลยทีเดียวค่ะช่วงนี้...ทั้งเสียใจ ปนรู้สึกผิดมากๆ ที่ตัดสินใจไปบอกแฟนให้ทำค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเป็นประกันออมทรัพย์แบบ 12-20 ปี  อันนี้ผมว่าพอรับได้   ส่วนตัวทำแบบ 8/20  ส่ง 8 ปี  คุ้มครอง 20 ปี  ได้เงินคืนตอนอายุ 50 (เผื่อตอนนั้นเจอปัญหาชีวิต หมดตัว ยังมีเงินแสนมาทำทุนขายหมูปิ้ง)

แต่ที่ จขกท. โดน น่าจะเป็นแนวคุ้มครองยันตาย  คนที่ได้เงินคือลูกหลาน  อันนี้ผมว่าถ้าไม่ได้ตั้งใจเผื่อให้ลูกหลานใช้จริงๆ อย่าทำเลย เอาเงินไปทิ้งเปล่าๆ  จนท. ที่หลอกขายคนอื่นได้นี่ต้องอำมหิตขนาดไหน ถึงหลอกให้คนเอาเงินไปดองไว้ 50-60 ปี...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่