**กระทู้แรก มือใหม่ค่ะ ขออภัยหากผิดพลาดประการใด**
อยากแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้เพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองค่ะ มะม้วนไปได้ ทุกคนก็ไปได้ค่ะ ไม่ยากจริง ๆ ไม่เกริ่นยาวมาเริ่มกันเลยค่ะ
หมายเหตุ*
ทริปนี้เดินทาง 2 คน คือมะม้วนและคุณผู้ชาย ซึ่งทั้งคู่ไม่เก่งภาษาค่ะ พอสื่อสารได้งูๆปลาๆ และฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง อาศัยก่อนเดินทางทำการบ้านไปดีข้อมูลแน่นทุก ๆ สถานที่ที่จะไปค่ะ และได้วางแผนการเดินทางไว้ก่อนตั้งแต่ปี 2559 ว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าหนาว ซึ่งก็คือช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ 2560 อยากสัมผัสหิมะและอากาศหนาว ซึ่งเมืองไทยบ้านเราไม่มี และเนื่องจากญึ่ปุ่นมีหลายเมืองที่น่าไป จากการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ โดยการท่องเวปพันทิปทำให้เราทั้งคู่ตัดสินใจว่าเลือกท่องเที่ยวในโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นค่ะ
เริ่มอันดับแรกซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนเลยค่ะ
ตั๋วเครื่องบินที่พาเราสองคนเดินทางไปถึงญึ่ปุ่นนั้นเป็นของสายการบิน AirasiaX ซึ่งตอนนั้นที่ซื้อมีโปรโมชั่นนะคะ (ซื้อตั๋วประมาณเดือนมกราคม 2560) เราจองได้ในราคา 32,699.83 บาท ราคานี้รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับดอนเมือง-นาริตะ 2 ทีนั่ง และที่พักย่าน UENO 4 คืน โรงแรมที่เลือกพักชื่อ HOTEL MYSTAYS Ueno East (รายละเอียดที่พักจะกล่าวถึงในต่อไปนะคะ) โดยเราได้เลือกช่วงวันเดินทางคือวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2560 ซึ่งราคานี้หารสอง ก็เฉลี่ยแล้วคนละ 16,350 บาท ถือว่าเป็นราคาพอใจมากสำหรับเราสองคนค่ะ

หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินและที่พักเรียบร้อย ลำดับต่อไปมะม้วนก็ทำการศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางในโตเกียว ซึ่งแรกเริ่มเลยก็หาทุกอย่างจากในเวปพันทิป แต่จับต้นชนปลายไม่ถูก ยิ่งอ่านยิ่งงง สับสน เพราะข้อมูลเยอะมาก เลยตัดสินใจไปซื้อหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวญี่ปุ่นมา 1 เล่ม เออ รู้สึกว่าดีขึ้น เริ่มเข้าใจและมองภาพออกว่าจะท่องเที่ยวและเดินทางยังไงได้บ้าง เนื่องจากในหนังสือเค้าจะรวบรวมทุก ๆ อย่างที่เราต้องรู้หากจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แต่ข้อมูลบางอย่างก็ละเอียด บางอย่างก็ไม่ละเอียด ก็อาศัยหาเพิ่มเติมจากพันทิปแหละค่ะ

หลังจากอ่านหนังสือจบ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปไว้ในใจคร่าว ๆ แระค่ะ จากนั้นจึงเริ่มศึกษาการเดินทางว่าแต่ละสถานที่ที่เราจะไปนั้น เดินทางยังไงจึงจะสะดวกสุดสำหรับคนไม่เก่งภาษาอย่างเราสองคน มะม้วนเลยเลือกการเดินทางด้วยรถไฟค่ะ เนื่องจากดูแผนที่รถไฟฟ้าของญี่ปุ่นในหนังสือที่ซื้อมานั้น คิดว่าเส้นทางมันครอบคลุมทุกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไป หน้าตาแผนที่ประมาณนี้นะคะ ถ้าจะดูชัด ๆ เสริช์หา google ได้เลยค่ะ

มะม้วนเชื่อว่าหลาย ๆ คน พอเห็นแผนที่นี้ครั้งแรก คงรู้สึกไม่ต่างจากมะม้วน คือ งง สับสน อะไรยังไง จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เชื่อไม๊คะว่าพอเราศึกษามันเข้าใจ มันไม่ยากเลยค่ะ ง่ายมาก ๆ ชัดเจนสุดๆ แต่ที่มันทำให้เรารู้สึกงง ๆ นั้นก็เพราะมันมีรถไฟหลายสายนั่นเองค่ะ (ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟ ขอไม่พูดถึงนะคะ เนื่องจากมีคนตั้งกระทู้อธิบายไว้มากมายแล้วค่ะ) เมื่อมะม้วนเลือกแล้วว่าจะเดินทางด้วยรถไฟ สิ่งต่อมาที่ทำคือคิดว่าจะเดินทางยังไงให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ pass ต่าง ๆ สรุปมาจบที่ Tokyo Wide Pass ซึ่ง Pass นี้เราสามารถขึ้นรถไฟของ JR ได้ฟรี 3 วัน รวมถึงได้นั่งรถไฟ Shinkansen บางสายฟรีด้วยค่ะ (คุณผู้ชายนางใฝ่ฝันอยากนั่ง Shinkansenค่ะ เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราเลือกใช้ Pass นี้)

เมื่อเลือก Pass แล้ว ทำให้ต้องมากำหนดสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปให้คุ้มกับ Pass ที่เลือก เลยกำหนดไว้ตามนี้ค่ะ
วันแรก วัดเซ็นโซจิ,Tokyo Skytree,สะพานแดง,Asahi Beer Tower,ตลาดอะเมะโยะโกะ (ยังไม่ใช้ Pass)
วันที่ 2 Gala Yuzawa,พระราชวังโตเกียว,Shibuya (เริ่มใช้ Pass วันแรก)
วันที่ 3 Mt.Fuji,ศาลเจ้าเมจิ,Shinjuku (ใช้ Pass วันที่ 2)
วันที่ 4 Kawazu,เกาะโอไดบะ (ใช้ Pass วันสุดท้าย)
วันที่ 5 ตลาดปลา Tsukiji,Ueno Park,เดินทางกลับประเทศไทย
หลังจากนั้นก็มาใส่รายละเอียดเพิ่มเติมลงในไฟล์ Excle ค่ะ (รูปแบบตารางอิงจากกระทู้ท่านอื่นในพันทิปนี่แหละค่ะ)
วันเดินทางจาก โคราช - นาริตะ

วันที่แรกในโตเกียว



วันที่ 2


วันที่ 3



วันที่ 4


วันที่ 5


เพลนไว้แน่นๆ แบบนี้เลยค่ะ คืออยากเก็บสถานที่สำคัญให้มากที่สุด โดยรวมถือว่าค่อนข้างพอใจมากกะเพลนที่วางไว้ เพราะทำได้ตามเพลนทุกอย่าง ยกเว้นวันหลัง ๆ เนื่องเดินเยอะจนเท้าอักเสบ ปวดเท้าแทบเดินไม่ไหว ประคองร่างกลับถึงสนามบินได้ ถือว่าเป็นบุญของมะม้วนมากแล้วค่ะ
**เวลาเดินทางโดยรถไฟเอามาจากเวป
http://www.hyperdia.com/en/
>>เพิ่มเติมอีกนิดค่ะสิ่งสำคัญมาก ๆ อีกอย่างที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางคือ การใช้งาน Internet ค่ะ มะม้วนเลือกใช้ Sim2Fly ของ AIS คนละซิมกะคุณผู้ชาย ราคา 399 บาท 4G 8 วัน สัญญานดีมากทุกที่ ๆ ไป มีขาดหายแค่ช่วงเดินทางช่วงสั้น ๆ ที่รถไฟลอดอุโมง และผ่านช่องเขาค่ะ ใช้ Data ค่อนข้างเยอะนะคะ หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ตารางรถไฟ อัฟรูปและไลฟ์ผ่าน FB ด้วย วันกลับถึงเมืองไทยลองเชค Data เหลืออีกประมาณ 2G ค่ะ คุ้มมาก อันนี้แนะนำเลยค่ะ ดีจริงๆ
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว มาเริ่มเดินทางไปญี่ปุ่นพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
V
V
V
เดินทางจากโคราช-ดอนเมือง
ด้วยรถทัวร์ของนครชัยแอร์ เบาะที่นั่งสบายนวดได้ด้วย มีที่ชาร์ทโทรศัพท์ส่วนตัวเบาะใครเบาะมัน และมีขนมแจกด้วยค่ะ บริการดี ประทับใจ

ถึงสนามบินดอนเมือง ก็เชคอินปกติ ขึ้นเครื่องหลับยาว ๆ ไป (เราเดินทางประมาณ 5 ทุ่มไปถึงสนามบินนาริตะตอนเช้าค่ะ) พอใกล้ถึงก็จะมีเอกสารมาแจกให้กรอกข้อมูลตามนี้ค่ะ


แนะนำให้กรอกให้เสร็จตั้งแต่ก่อนลงจากเครื่องนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาตอนที่จะผ่านตม.ค่ะ
ถึงแว้วๆๆ สนามบินนาริตะ ภาพแรกที่ทุกคนจะต้องเห็นคือบริเวณนี้ค่ะ

ลงจากเครื่องก็ให้เดินตามรูปกระเป๋าไปเรื่อย ๆ ก็จะไปเจอจุดตรวจ ตม.ค่ะ

รูปที่จุดตรวจตม.ไม่มีนะคะ แอบมีความตื่นเต้นนิดหน่อยตรงจุดนี้ค่ะ เนื่องจากเสพข้อมูลมาเยอะ บางคนบอกว่าผ่านยาก มะม้วนก็เลยพิมพ์เอกสารทุกอย่างมา เผื่อเจ้าหน้าที่สอบถามค่ะ มะม้วนให้คุณผู้ชายนางเดินนำหน้ากลัวว่าเผื่อเจ้าหน้าที่ถามอะไรแล้วนางจะตอบไม่ได้ เพราะนางไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการเพลนทริปครั้งนี้ พอนางถึงจุดตรวจก็สแกนนิ้วมือตามเจ้าหน้าที่สั่ง มะม้วนก็โล่งใจเห็นเจ้าหน้าที่ก้มหน้าก้มตาปั๊ม ๆ ในพาสปอร์ต แต่ตอนจะยื่นให้ เจ้าหน้าที่คุยกะนาง มะม้วนคิดในใจเอาแล้วๆๆ นางจะตอบเค้าได้ไม๊เนี๊ย?? เห็นไกล ๆ นางพยายามสื่อสารกะเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายคงไม่เข้าใจกัน นางก็ชี้ ๆ มาทางมะม้วน เจ้าหน้าที่เลยหันมาถามมะม้วนว่ามาด้วยกันใช่ไม๊ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แค่นั้นค่ะ ทุกอย่างก็จบและผ่านตม.มาได้ด้วยดี
ออกจากตม.มาจุดต่อไปก็รับกระเป๋าและก็เดินออกไปหาซื้อ Tokyo Wide Pass กันค่ะ จุดที่เราจะไปซื้อกันนั้น เมื่อออกมาจากจุดรับกระเป๋าจะเจอบันไดเลื่อนทางซ้ายมือให้ลงบันไดเลื่อนไป แล้วมองหาตัวอักษร JR สีเขียวจะเป็นห้องอยู่ฝั่งซ้ายมือหลังจากลงบันไดเลื่อนไปนะคะ จุดนี้ต่อคิวซื้อค่อนข้างนานค่ะ ถ้าหิวแนะนำให้ซื้อของกินตามร้านสะดวกซื้อรองท้องก่อนเลย และหากเรามีเพลนชัดเจนอยู่แล้วว่าจะไปไหนบ้าง เราสามารถจองที่นั่งและเที่ยวรถไฟได้จากที่นี่เลยค่ะ (เฉพาะสถานที่เที่ยวนอกเมืองโตเกียวนะคะ เดินทางในโตเกียวไม่ต้องจองที่นั่งค่ะ แค่โชว์ Pass ให้เจ้าหน้าที่ดูก็เข้า - ออกได้เลยค่ะ) ราคา Tokyo Wide Pass ราคา 10,000 เยนต่อใบค่ะ

และเนื่องจากมะม้วนพิมพ์เอกสารเพลนการเดินทางมาด้วย จึงเอาให้เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วรถไฟดู ว่าเราจะเดินทางแบบนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะช่วยแนะนำและจองที่นั่งให้ทั้งหมดเลยค่ะ (ก็คือมีจองที่นั่งไปกลับMt.Fuji,Gala Yusawa,Kawazu) โดยเราได้นั่ง Shinkansen แค่ไปกลับ Gala Yusawa เท่านั้นค่ะ เป็นขบวน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จองให้ชั้นสอง เห็นวิวชัดเจน สวยงามมากค่ะ



ห้องจำหน่าย Pass เป็นห้องแบบนี้ค่ะ

จากนั้นเราก็เดินทางเข้าเมืองไปโรงแรมด้วยรถไฟ Keisei Narita Sky Access Exp. for Haneda Airport {1450 เยน} เราเลือกแบบราคาถูก เพราะไม่รีบค่ะ เน้นประหยัด เก็บตังไว้ Shopping ค่ะ

มะม้วนซื้อบัตร Suica จากตู้ที่หน้าทางเข้าไปชานชลาและเติมเงินไว้ในบัตร เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายค่ารถไฟในวันแรกและวันสุดท้ายค่ะ (วันอื่นใช้ Tokyo Wide Pass นั่งรถไฟของ JR ฟรีทุกเที่ยว)

ระหว่างรอรถไฟเข้าเมือง ตรงจุดนี้มันมีห้องน้ำค่ะ คนไม่ค่อยเยอะ แนะนำให้ล้างหน้า แปรงฟัน เอาน้ำลูบๆตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ เรานั่งรถไฟจากสนามบินนาริตะไปยังสถานีปลายทางคือ Inaricho ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงนิดๆค่ะ
ถึงโรงแรมก็ชี้ ๆ ที่กระเป๋า เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจแระค่ะ ว่าต้องการฝากกระเป๋า 555 เค้าก็จะให้บัตรฝากกระเป๋ามา และก็ให้เรากรอกข้อมูลในการเข้าพักไว้ก่อน และแจ้งเราว่าเชคอินได้ในเวลา 15.00 น.นะจ๊ะ เรียบร้อยจากตรงนี้เราก็ออกเที่ยวกันตามเพลนเลยค่ะ
เที่ยวญี่ปุ่น ใช้งบน้อย ไปเองได้ง่ายนิดเดียว
อยากแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้เพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองค่ะ มะม้วนไปได้ ทุกคนก็ไปได้ค่ะ ไม่ยากจริง ๆ ไม่เกริ่นยาวมาเริ่มกันเลยค่ะ
หมายเหตุ*
ทริปนี้เดินทาง 2 คน คือมะม้วนและคุณผู้ชาย ซึ่งทั้งคู่ไม่เก่งภาษาค่ะ พอสื่อสารได้งูๆปลาๆ และฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง อาศัยก่อนเดินทางทำการบ้านไปดีข้อมูลแน่นทุก ๆ สถานที่ที่จะไปค่ะ และได้วางแผนการเดินทางไว้ก่อนตั้งแต่ปี 2559 ว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าหนาว ซึ่งก็คือช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ 2560 อยากสัมผัสหิมะและอากาศหนาว ซึ่งเมืองไทยบ้านเราไม่มี และเนื่องจากญึ่ปุ่นมีหลายเมืองที่น่าไป จากการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ โดยการท่องเวปพันทิปทำให้เราทั้งคู่ตัดสินใจว่าเลือกท่องเที่ยวในโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นค่ะ
เริ่มอันดับแรกซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนเลยค่ะ
ตั๋วเครื่องบินที่พาเราสองคนเดินทางไปถึงญึ่ปุ่นนั้นเป็นของสายการบิน AirasiaX ซึ่งตอนนั้นที่ซื้อมีโปรโมชั่นนะคะ (ซื้อตั๋วประมาณเดือนมกราคม 2560) เราจองได้ในราคา 32,699.83 บาท ราคานี้รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับดอนเมือง-นาริตะ 2 ทีนั่ง และที่พักย่าน UENO 4 คืน โรงแรมที่เลือกพักชื่อ HOTEL MYSTAYS Ueno East (รายละเอียดที่พักจะกล่าวถึงในต่อไปนะคะ) โดยเราได้เลือกช่วงวันเดินทางคือวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2560 ซึ่งราคานี้หารสอง ก็เฉลี่ยแล้วคนละ 16,350 บาท ถือว่าเป็นราคาพอใจมากสำหรับเราสองคนค่ะ
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินและที่พักเรียบร้อย ลำดับต่อไปมะม้วนก็ทำการศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางในโตเกียว ซึ่งแรกเริ่มเลยก็หาทุกอย่างจากในเวปพันทิป แต่จับต้นชนปลายไม่ถูก ยิ่งอ่านยิ่งงง สับสน เพราะข้อมูลเยอะมาก เลยตัดสินใจไปซื้อหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวญี่ปุ่นมา 1 เล่ม เออ รู้สึกว่าดีขึ้น เริ่มเข้าใจและมองภาพออกว่าจะท่องเที่ยวและเดินทางยังไงได้บ้าง เนื่องจากในหนังสือเค้าจะรวบรวมทุก ๆ อย่างที่เราต้องรู้หากจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แต่ข้อมูลบางอย่างก็ละเอียด บางอย่างก็ไม่ละเอียด ก็อาศัยหาเพิ่มเติมจากพันทิปแหละค่ะ
หลังจากอ่านหนังสือจบ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปไว้ในใจคร่าว ๆ แระค่ะ จากนั้นจึงเริ่มศึกษาการเดินทางว่าแต่ละสถานที่ที่เราจะไปนั้น เดินทางยังไงจึงจะสะดวกสุดสำหรับคนไม่เก่งภาษาอย่างเราสองคน มะม้วนเลยเลือกการเดินทางด้วยรถไฟค่ะ เนื่องจากดูแผนที่รถไฟฟ้าของญี่ปุ่นในหนังสือที่ซื้อมานั้น คิดว่าเส้นทางมันครอบคลุมทุกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไป หน้าตาแผนที่ประมาณนี้นะคะ ถ้าจะดูชัด ๆ เสริช์หา google ได้เลยค่ะ
มะม้วนเชื่อว่าหลาย ๆ คน พอเห็นแผนที่นี้ครั้งแรก คงรู้สึกไม่ต่างจากมะม้วน คือ งง สับสน อะไรยังไง จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เชื่อไม๊คะว่าพอเราศึกษามันเข้าใจ มันไม่ยากเลยค่ะ ง่ายมาก ๆ ชัดเจนสุดๆ แต่ที่มันทำให้เรารู้สึกงง ๆ นั้นก็เพราะมันมีรถไฟหลายสายนั่นเองค่ะ (ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟ ขอไม่พูดถึงนะคะ เนื่องจากมีคนตั้งกระทู้อธิบายไว้มากมายแล้วค่ะ) เมื่อมะม้วนเลือกแล้วว่าจะเดินทางด้วยรถไฟ สิ่งต่อมาที่ทำคือคิดว่าจะเดินทางยังไงให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ pass ต่าง ๆ สรุปมาจบที่ Tokyo Wide Pass ซึ่ง Pass นี้เราสามารถขึ้นรถไฟของ JR ได้ฟรี 3 วัน รวมถึงได้นั่งรถไฟ Shinkansen บางสายฟรีด้วยค่ะ (คุณผู้ชายนางใฝ่ฝันอยากนั่ง Shinkansenค่ะ เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราเลือกใช้ Pass นี้)
เมื่อเลือก Pass แล้ว ทำให้ต้องมากำหนดสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปให้คุ้มกับ Pass ที่เลือก เลยกำหนดไว้ตามนี้ค่ะ
วันแรก วัดเซ็นโซจิ,Tokyo Skytree,สะพานแดง,Asahi Beer Tower,ตลาดอะเมะโยะโกะ (ยังไม่ใช้ Pass)
วันที่ 2 Gala Yuzawa,พระราชวังโตเกียว,Shibuya (เริ่มใช้ Pass วันแรก)
วันที่ 3 Mt.Fuji,ศาลเจ้าเมจิ,Shinjuku (ใช้ Pass วันที่ 2)
วันที่ 4 Kawazu,เกาะโอไดบะ (ใช้ Pass วันสุดท้าย)
วันที่ 5 ตลาดปลา Tsukiji,Ueno Park,เดินทางกลับประเทศไทย
หลังจากนั้นก็มาใส่รายละเอียดเพิ่มเติมลงในไฟล์ Excle ค่ะ (รูปแบบตารางอิงจากกระทู้ท่านอื่นในพันทิปนี่แหละค่ะ)
วันเดินทางจาก โคราช - นาริตะ
วันที่แรกในโตเกียว
วันที่ 2
วันที่ 3
วันที่ 4
วันที่ 5
เพลนไว้แน่นๆ แบบนี้เลยค่ะ คืออยากเก็บสถานที่สำคัญให้มากที่สุด โดยรวมถือว่าค่อนข้างพอใจมากกะเพลนที่วางไว้ เพราะทำได้ตามเพลนทุกอย่าง ยกเว้นวันหลัง ๆ เนื่องเดินเยอะจนเท้าอักเสบ ปวดเท้าแทบเดินไม่ไหว ประคองร่างกลับถึงสนามบินได้ ถือว่าเป็นบุญของมะม้วนมากแล้วค่ะ
**เวลาเดินทางโดยรถไฟเอามาจากเวป http://www.hyperdia.com/en/
>>เพิ่มเติมอีกนิดค่ะสิ่งสำคัญมาก ๆ อีกอย่างที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางคือ การใช้งาน Internet ค่ะ มะม้วนเลือกใช้ Sim2Fly ของ AIS คนละซิมกะคุณผู้ชาย ราคา 399 บาท 4G 8 วัน สัญญานดีมากทุกที่ ๆ ไป มีขาดหายแค่ช่วงเดินทางช่วงสั้น ๆ ที่รถไฟลอดอุโมง และผ่านช่องเขาค่ะ ใช้ Data ค่อนข้างเยอะนะคะ หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ตารางรถไฟ อัฟรูปและไลฟ์ผ่าน FB ด้วย วันกลับถึงเมืองไทยลองเชค Data เหลืออีกประมาณ 2G ค่ะ คุ้มมาก อันนี้แนะนำเลยค่ะ ดีจริงๆ
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว มาเริ่มเดินทางไปญี่ปุ่นพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
V
V
V
เดินทางจากโคราช-ดอนเมือง
ด้วยรถทัวร์ของนครชัยแอร์ เบาะที่นั่งสบายนวดได้ด้วย มีที่ชาร์ทโทรศัพท์ส่วนตัวเบาะใครเบาะมัน และมีขนมแจกด้วยค่ะ บริการดี ประทับใจ
ถึงสนามบินดอนเมือง ก็เชคอินปกติ ขึ้นเครื่องหลับยาว ๆ ไป (เราเดินทางประมาณ 5 ทุ่มไปถึงสนามบินนาริตะตอนเช้าค่ะ) พอใกล้ถึงก็จะมีเอกสารมาแจกให้กรอกข้อมูลตามนี้ค่ะ
แนะนำให้กรอกให้เสร็จตั้งแต่ก่อนลงจากเครื่องนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาตอนที่จะผ่านตม.ค่ะ
ถึงแว้วๆๆ สนามบินนาริตะ ภาพแรกที่ทุกคนจะต้องเห็นคือบริเวณนี้ค่ะ
ลงจากเครื่องก็ให้เดินตามรูปกระเป๋าไปเรื่อย ๆ ก็จะไปเจอจุดตรวจ ตม.ค่ะ
รูปที่จุดตรวจตม.ไม่มีนะคะ แอบมีความตื่นเต้นนิดหน่อยตรงจุดนี้ค่ะ เนื่องจากเสพข้อมูลมาเยอะ บางคนบอกว่าผ่านยาก มะม้วนก็เลยพิมพ์เอกสารทุกอย่างมา เผื่อเจ้าหน้าที่สอบถามค่ะ มะม้วนให้คุณผู้ชายนางเดินนำหน้ากลัวว่าเผื่อเจ้าหน้าที่ถามอะไรแล้วนางจะตอบไม่ได้ เพราะนางไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการเพลนทริปครั้งนี้ พอนางถึงจุดตรวจก็สแกนนิ้วมือตามเจ้าหน้าที่สั่ง มะม้วนก็โล่งใจเห็นเจ้าหน้าที่ก้มหน้าก้มตาปั๊ม ๆ ในพาสปอร์ต แต่ตอนจะยื่นให้ เจ้าหน้าที่คุยกะนาง มะม้วนคิดในใจเอาแล้วๆๆ นางจะตอบเค้าได้ไม๊เนี๊ย?? เห็นไกล ๆ นางพยายามสื่อสารกะเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายคงไม่เข้าใจกัน นางก็ชี้ ๆ มาทางมะม้วน เจ้าหน้าที่เลยหันมาถามมะม้วนว่ามาด้วยกันใช่ไม๊ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แค่นั้นค่ะ ทุกอย่างก็จบและผ่านตม.มาได้ด้วยดี
ออกจากตม.มาจุดต่อไปก็รับกระเป๋าและก็เดินออกไปหาซื้อ Tokyo Wide Pass กันค่ะ จุดที่เราจะไปซื้อกันนั้น เมื่อออกมาจากจุดรับกระเป๋าจะเจอบันไดเลื่อนทางซ้ายมือให้ลงบันไดเลื่อนไป แล้วมองหาตัวอักษร JR สีเขียวจะเป็นห้องอยู่ฝั่งซ้ายมือหลังจากลงบันไดเลื่อนไปนะคะ จุดนี้ต่อคิวซื้อค่อนข้างนานค่ะ ถ้าหิวแนะนำให้ซื้อของกินตามร้านสะดวกซื้อรองท้องก่อนเลย และหากเรามีเพลนชัดเจนอยู่แล้วว่าจะไปไหนบ้าง เราสามารถจองที่นั่งและเที่ยวรถไฟได้จากที่นี่เลยค่ะ (เฉพาะสถานที่เที่ยวนอกเมืองโตเกียวนะคะ เดินทางในโตเกียวไม่ต้องจองที่นั่งค่ะ แค่โชว์ Pass ให้เจ้าหน้าที่ดูก็เข้า - ออกได้เลยค่ะ) ราคา Tokyo Wide Pass ราคา 10,000 เยนต่อใบค่ะ
และเนื่องจากมะม้วนพิมพ์เอกสารเพลนการเดินทางมาด้วย จึงเอาให้เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วรถไฟดู ว่าเราจะเดินทางแบบนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะช่วยแนะนำและจองที่นั่งให้ทั้งหมดเลยค่ะ (ก็คือมีจองที่นั่งไปกลับMt.Fuji,Gala Yusawa,Kawazu) โดยเราได้นั่ง Shinkansen แค่ไปกลับ Gala Yusawa เท่านั้นค่ะ เป็นขบวน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จองให้ชั้นสอง เห็นวิวชัดเจน สวยงามมากค่ะ
ห้องจำหน่าย Pass เป็นห้องแบบนี้ค่ะ
จากนั้นเราก็เดินทางเข้าเมืองไปโรงแรมด้วยรถไฟ Keisei Narita Sky Access Exp. for Haneda Airport {1450 เยน} เราเลือกแบบราคาถูก เพราะไม่รีบค่ะ เน้นประหยัด เก็บตังไว้ Shopping ค่ะ
ระหว่างรอรถไฟเข้าเมือง ตรงจุดนี้มันมีห้องน้ำค่ะ คนไม่ค่อยเยอะ แนะนำให้ล้างหน้า แปรงฟัน เอาน้ำลูบๆตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ เรานั่งรถไฟจากสนามบินนาริตะไปยังสถานีปลายทางคือ Inaricho ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงนิดๆค่ะ
ถึงโรงแรมก็ชี้ ๆ ที่กระเป๋า เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจแระค่ะ ว่าต้องการฝากกระเป๋า 555 เค้าก็จะให้บัตรฝากกระเป๋ามา และก็ให้เรากรอกข้อมูลในการเข้าพักไว้ก่อน และแจ้งเราว่าเชคอินได้ในเวลา 15.00 น.นะจ๊ะ เรียบร้อยจากตรงนี้เราก็ออกเที่ยวกันตามเพลนเลยค่ะ