เมื่อคืนดูเรื่องBody of Liesแผนบงการยอดจารชนสะท้านโลกปี2008ช่องMono 29หนังสายลับระหว่างประเทศที่เป็นยานอนหลับชั้นดีเลย

กระทู้คำถาม
เพิ่งได้ดูเมื่อวานนี้นะครับ หนังดีมากๆๆๆ สุดยอด เป็นหนังทริลเลอร์การเมืองผสมสายลับ แต่ไปเน้นบทสนทนา เน้นการหักเหลี่ยมใช้สมอง ตอนแรกคิดว่าาหวังว่า จะเจอAction กระหน่ำแบบหนังเจมส์ บอนด์น่ะ   ตัวหนังไม่เน้นบู๊ Action ก็อาจจะไม่มันส์เท่าไหร่นักนะครับ
หนังค่อนข่าง เครียดๆ ตึงๆ และเน้นอะไรที่สมจริงเข้าว่า ถ้าชอบแบบนั้นก็น่าจะชอบเรื่องนี้ครับ แต่ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย
หนัง  นำเราไปสู่โลกของเจ้าหน้าที่อเมริกันที่ต้องลงสนามล่าพวกผู้ก่อการร้าย วันๆ มีแต่เรื่องเครียดครับ ไหนจะต้องเอาตัวรอด สืบหาแหล่งกบดานผู้ร้าย ดูคนตายต่อหน้า แล้วยังมาเจอเรื่องการเมืองเบื้องบนบีบเข้าให้อีก ไม่เครียดก็แปลกล่ะครับ

ผมว่านะ คนที่ชอบหนังทริลเลอร์การเมืองเข้มๆ ผสมแอ็กชันน้อยๆๆ อาจจะชอบนะ  การเดินเรื่องน่าติดตาม มีอะไรชวนให้คิดตลอด ไม่ว่าจะการกัดเรื่องการเมืองฟากมะกันที่พวกนั่งโต๊ะชอบยื่นมือเข้ามาสอดแย่งผลงาน แต่สอดแบบไม่รู้เรื่องครับ ทำเรื่องเสียประจำ ส่วนพวกภาคสนามก็ต้องซวย คอยแก้ไข ดีไม่ดีโดนจับได้ตายซะอีก ดูไปแล้วสงสารเฟอร์ริสเลยครับ จริงๆ เขาเป็น CIA ฝีมือดีนะ จริงใจ มองเกมออก แต่ชอบเจอฮอฟฟ์แมนมาขัดขาทำแผนเสียอยู่เรื่อย

DiCaprio เหมาะกับบทประเภทชายหนุ่มรักอิสระหรือไม่ก็เศรษฐีเพลย์บอย แต่พอเล่นเป็นสายลับหรือตำรวจทีไร หน้าพระเอกกึ่งละอ่อนของเขาไม่ค่อยเข้ากับ บุคลิกเถื่อนนิดๆ ยังไงก็ไม่ทราบ แต่ถ้าไม่คิดมากเรื่องรูปร่าง  หน้าตา ผมว่าเขาเล่นดีนะ ส่วน Crowe แกดูเป็นพวกเบื้องบนที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ห่วงการเมืองจริงๆ แต่มีฉากหนึ่งเล่นเอาผมชอบสุดๆ ตอนที่โดนยันเข้าให้จนตกเก้าอี้นั่นแหละ ครับ

ถ้าคนที่ดู หนังแนวนี้ทีไรมักหนักหัว ทุกที มันไม่ค่อยเจริญตาเจริญใจเท่าไรหรอกครับ ดูคนฆ่ากันด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ก็ศาสนา
คนที่เครียดง่ายๆ นี้อาจจะไม่ค่อบชอบนะผมว่า

เห็นมีคนบ่นกันเยอะว่าบู๊ไม่ยักกะมันส์ มีแต่พูดกันทั้งเรื่อง โธ่ ก็มันไม่ใช่หนังAction  มันทริลเลอร์การเมืองครับ เวลาเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองเดินเรื่องทำอะไรสักอย่าง เขาทำยังไงกันล่ะครับ ก็คุยจริงเยอะมากๆๆๆ
แต่ถ้าคนเป็นคอหนังแนวนี้ อาจจะชอบดูนะครับ คนที่ชอบดูประเด็นนัยทางการเมืองหรือสไตล์การเจรจาที่แทรกอยู่ในบทสนทนาผมว่าน่าจะชื่นชอบ ส่วนผมนั้นก็ชอบหลายอย่างครับ ดาราก็ดี เดินเรื่องก็น่าติดตาม มีลุ้น มีหักเหลี่ยมกันพอประมาณ แต่ที่ผมชอบมากคือการคุยกันแบบแทรกจิตวิทยาหรือไม่ก็ประเด็นชวนคิดอยู่ตลอดเรื่อง แต่ยังดีที่หนังไม่ค่อยยาวด้วย แค่สองชั่วโมงนิดๆ กำลังดีครับ
ขอบคุณมากๆๆๆ ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่