หลายๆคนคงเห็นคะแนนของหนังเรื่องนี้ผ่านมะเขือเน่าไปแล้ว แล้วก็อาจจะเกิดความลังเลว่าจะเข้าไปดูดีหรือเปล่า ลองมาอ่านกระทู้นี้ประกอบการตัดสินใจดู
เป็นหนึ่งในหนังรีบูทอีกเรื่องของUniversalที่ขุดเอาหนังระดับตำนานอย่าง The Mummyขึ้นมาปัดฝุ่นทำภาคใหม่ แต่ครั้งนี้นั้นต่างออกไปเล็กน้อย นั่นก็คือ ยูนิเวอร์แซลมาพร้อมกับโปรเจคสร้างจักรวาลหนังแบบเดียวกับที่มาร์เวลทำสำเร็จมาแล้ว โดยThe Mummy นั้นเป็นหนังเรื่องแรกของจักรวาลDark Universeหรือจักรวาลหนังรวมพลสัตว์ประหลาดในตำนาน(ของตะวันตก)นั่นเอง
เนื้อเรื่องคร่าวๆก็ เมื่อหัวขโมยคนหนึ่งเผอิญไปเปิดสุสานที่คุมขังมัมมีสาวโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นผลให้หล่อนได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมพกความปราถนาที่ไม่อาจบรรลุก่อนตายมาด้วย พระเอกของเราจึงต้องหาทางยับยั้งเธอ ก่อนที่โลกจะล่มสลาย
สำหรับThe Mummy นั้นนำแสดงโดย ทอมครูซ ผสานกับรัสเซล โครว์ สองดาราใหญ่มากฝีมือที่มีผลงานมาเยอะ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะทั้งคู่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้ดี โดยเฉพาะรัสเซล โคร์วที่แสดงเป็นคนสองบุคลิคได้อย่างน่าทึ่ง (ในเว็บแนะนำหนังมีชื่อตัวละครพร้อมบทอยู่แล้ว เลยไม่นับว่าเป็นสปอย แต่สำหรับคนที่อยากเซอร์ไพรซ์ในโรง อย่ากดสปอยนะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในบทของ ดร.แจ็คเคิล และ มิสเตอร์ ไฮต์
ฉากแอคชั่น+CGนั้นยอดเยี่ยม อาจเป็นเพราะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ได้ทุนมหาศาล ทำให้เอฟเฟครวมถึงกราฟฟิกต่างๆดูดีมาก ส่วนฉากแอคชั่นนั้นก็สนุกตื่นเต้นเร้าใจดีมาก
ตัวบทนั้นถูกเขียนโดยมือระดับพระกาฬที่เขียนบทหนังรีบูทปังๆออกมาแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้นั้นเป็นหนังเรื่องแรกที่เขากำกับเอง ซึ่งอาจะเป็นเพราะเหตุนี้เอง ทำให้การเล่าเรื่องนั้นออกจะงงในหลายจุด(ถ้าไม่ตั้งใจดูพอ) ประเด็นเกือบทั้งหมดถูกเฉลยในเรื่อง เพียงแต่หลายประเด็นไม่ค่อยแตะมาก อย่างมากก็พูดถึงแค่1-2ประโยค ไม่ก็ออกมาในรูปของฉากหลังหรืออุปกรณ์ประกอบฉาก ทำให้คนที่ไม่ตั้งใจดูอาจจะพลาดรายละเอียดบางอย่างได้ รวมถึงการตัดไปมาและกระโดดๆซึ่งชวนเวียนหัวได้มาก(แต่ถ้าคิดถึงเหตุผลตามจากในเรื่องก็พอรับได้) ส่วนมุขตลกนั้นก็ใส่มาได้ถูกจังหวะในหลายๆซีน แต่ก็ต้องพูดว่า บางมุกก็แป็กนะ
มุมกล้องเองก็ชวนเวียนหัวโดยเฉพาะฉากแอคชั่นซึ่งค่อนข้างเร็ว ทำให้มุมกล้องถูกเปลี่ยนค่อนข้างบ่อย บวกกับฉากที่ดูทึมๆทำให้หลายๆคนอาจตามไม่ทัน (แต่ถ้าคิดว่าเป็นเพราะสัตว์ประหลาดสู้กับมนุษย์ ก็พอรับได้)
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการเล่าเรื่องนั้นเป็นปัญหาของเรื่องนี้ ถ้าลองดูแล้วคิดตามดีๆ มันให้อารมณ์เหมือนเอานักเขียนมาทำหนัง เดาว่าตัวบทบนกระดาษเขียนได้ดีมาก แต่พอเอามาเล่าลงเป็นหนัง ทำให้บรรยายได้ไม่ดีเท่าตัวอักษรบนกระดาษ
ส่วนตอนจบ โอเค เข้าใจนะว่าเป็นหนังเรื่องแรกของซีรีย์ยาว แต่ฉากจบค่อนข้างห้วนมาก (สงสัยเป็นเพราะผู้กำกับไม่อยากให้มีEnd Creditแบบมาร์เวล ทำให้เรื่องราวถูกจบไว้แค่ในเรื่องแบบนั้นเลย) ถ้ามีEnd Creditบอกต่ออีกหน่อยก็จะดี
สิ่งที่ต้องพูทอีกอย่างก็คือ Easter Egg หรือกิมมิกที่จะเชื่อมโยงถึงหนังเรื่องถัดๆไปในซีรีย์ มีแน่นอนครับ แต่ต้องตาไวนิดนึงนะเพราะเยอะมาก แล้วก็มีอันนึงที่คาดว่าเป็นมุกของผู้กำกับ(ซึ่งไม่รู้จะเอามาใช้ในอนาคตหรือไม่)ที่มาจากมัมมี่ภาคเก่า (ดูดีๆนะครับ)
ส่วนตัวก็เป็นหนังที่สนุก เป็นหนังเปิดจักรวาลที่ดี แต่ถ้าให้เทียบกับหนังชื่อเดียวกันที่เป็นภาคแรกของเรื่องยาวเหมือนกันในปี1999 ขอพูดตรงๆว่าด้อยกว่ามาก แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นหนังที่ควรค่ากับการดูในโรงอยู่ดี ส่วนคะแนน ให้7/10ครับ
[รีวิว ไม่สปอย] แม่จ๋า (The Mummy) ปี2017
เป็นหนึ่งในหนังรีบูทอีกเรื่องของUniversalที่ขุดเอาหนังระดับตำนานอย่าง The Mummyขึ้นมาปัดฝุ่นทำภาคใหม่ แต่ครั้งนี้นั้นต่างออกไปเล็กน้อย นั่นก็คือ ยูนิเวอร์แซลมาพร้อมกับโปรเจคสร้างจักรวาลหนังแบบเดียวกับที่มาร์เวลทำสำเร็จมาแล้ว โดยThe Mummy นั้นเป็นหนังเรื่องแรกของจักรวาลDark Universeหรือจักรวาลหนังรวมพลสัตว์ประหลาดในตำนาน(ของตะวันตก)นั่นเอง
เนื้อเรื่องคร่าวๆก็ เมื่อหัวขโมยคนหนึ่งเผอิญไปเปิดสุสานที่คุมขังมัมมีสาวโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นผลให้หล่อนได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมพกความปราถนาที่ไม่อาจบรรลุก่อนตายมาด้วย พระเอกของเราจึงต้องหาทางยับยั้งเธอ ก่อนที่โลกจะล่มสลาย
สำหรับThe Mummy นั้นนำแสดงโดย ทอมครูซ ผสานกับรัสเซล โครว์ สองดาราใหญ่มากฝีมือที่มีผลงานมาเยอะ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะทั้งคู่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้ดี โดยเฉพาะรัสเซล โคร์วที่แสดงเป็นคนสองบุคลิคได้อย่างน่าทึ่ง (ในเว็บแนะนำหนังมีชื่อตัวละครพร้อมบทอยู่แล้ว เลยไม่นับว่าเป็นสปอย แต่สำหรับคนที่อยากเซอร์ไพรซ์ในโรง อย่ากดสปอยนะ)[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฉากแอคชั่น+CGนั้นยอดเยี่ยม อาจเป็นเพราะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ได้ทุนมหาศาล ทำให้เอฟเฟครวมถึงกราฟฟิกต่างๆดูดีมาก ส่วนฉากแอคชั่นนั้นก็สนุกตื่นเต้นเร้าใจดีมาก
ตัวบทนั้นถูกเขียนโดยมือระดับพระกาฬที่เขียนบทหนังรีบูทปังๆออกมาแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้นั้นเป็นหนังเรื่องแรกที่เขากำกับเอง ซึ่งอาจะเป็นเพราะเหตุนี้เอง ทำให้การเล่าเรื่องนั้นออกจะงงในหลายจุด(ถ้าไม่ตั้งใจดูพอ) ประเด็นเกือบทั้งหมดถูกเฉลยในเรื่อง เพียงแต่หลายประเด็นไม่ค่อยแตะมาก อย่างมากก็พูดถึงแค่1-2ประโยค ไม่ก็ออกมาในรูปของฉากหลังหรืออุปกรณ์ประกอบฉาก ทำให้คนที่ไม่ตั้งใจดูอาจจะพลาดรายละเอียดบางอย่างได้ รวมถึงการตัดไปมาและกระโดดๆซึ่งชวนเวียนหัวได้มาก(แต่ถ้าคิดถึงเหตุผลตามจากในเรื่องก็พอรับได้) ส่วนมุขตลกนั้นก็ใส่มาได้ถูกจังหวะในหลายๆซีน แต่ก็ต้องพูดว่า บางมุกก็แป็กนะ
มุมกล้องเองก็ชวนเวียนหัวโดยเฉพาะฉากแอคชั่นซึ่งค่อนข้างเร็ว ทำให้มุมกล้องถูกเปลี่ยนค่อนข้างบ่อย บวกกับฉากที่ดูทึมๆทำให้หลายๆคนอาจตามไม่ทัน (แต่ถ้าคิดว่าเป็นเพราะสัตว์ประหลาดสู้กับมนุษย์ ก็พอรับได้)
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการเล่าเรื่องนั้นเป็นปัญหาของเรื่องนี้ ถ้าลองดูแล้วคิดตามดีๆ มันให้อารมณ์เหมือนเอานักเขียนมาทำหนัง เดาว่าตัวบทบนกระดาษเขียนได้ดีมาก แต่พอเอามาเล่าลงเป็นหนัง ทำให้บรรยายได้ไม่ดีเท่าตัวอักษรบนกระดาษ
ส่วนตอนจบ โอเค เข้าใจนะว่าเป็นหนังเรื่องแรกของซีรีย์ยาว แต่ฉากจบค่อนข้างห้วนมาก (สงสัยเป็นเพราะผู้กำกับไม่อยากให้มีEnd Creditแบบมาร์เวล ทำให้เรื่องราวถูกจบไว้แค่ในเรื่องแบบนั้นเลย) ถ้ามีEnd Creditบอกต่ออีกหน่อยก็จะดี
สิ่งที่ต้องพูทอีกอย่างก็คือ Easter Egg หรือกิมมิกที่จะเชื่อมโยงถึงหนังเรื่องถัดๆไปในซีรีย์ มีแน่นอนครับ แต่ต้องตาไวนิดนึงนะเพราะเยอะมาก แล้วก็มีอันนึงที่คาดว่าเป็นมุกของผู้กำกับ(ซึ่งไม่รู้จะเอามาใช้ในอนาคตหรือไม่)ที่มาจากมัมมี่ภาคเก่า (ดูดีๆนะครับ)
ส่วนตัวก็เป็นหนังที่สนุก เป็นหนังเปิดจักรวาลที่ดี แต่ถ้าให้เทียบกับหนังชื่อเดียวกันที่เป็นภาคแรกของเรื่องยาวเหมือนกันในปี1999 ขอพูดตรงๆว่าด้อยกว่ามาก แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นหนังที่ควรค่ากับการดูในโรงอยู่ดี ส่วนคะแนน ให้7/10ครับ