แม่เราเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาทะเลาะกันแม่จะใช้คำพูดที่ฟังแล้วมันทำร้ายจิตใจ เขาไม่ได้ทะเลาะแค่กับเรา แต่เป็นกับคนรอบตัวทุกคน บางครั้งก็กับพ่อ บางครั้งก็กับเพื่อนรวมงาน และหนึ่งในนั้นคือเรา
เราไม่ได้อยู่กับแม่มาตั้งแต่ห้าขวบจนแม่กลับมาตอนอายุสิบสอง ตลอดเจ็ดปีที่ไม่มีแม่ เราวาดฝันมาตลอดว่าแม่จะใจดีเหมือนกับแม่ของเพื่อนเรา การมีแม่นี่ดีจังเลย มีคนทำอาหารอร่อยๆให้ทาน มีคนเล่านิทานให้ฟัง มีคนกล่อมเราหลับ อ้อมกอดของแม่อุ่นขนาดไหนกันนะ ครั้งล่าสุดที่ได้กอดนั้นมันก็นานจนจำไม่ได้
ในความคิดเด็กอายุสิบสองวันนั้นดีใจมากที่แม่กลับมา ชีวิตที่มีแม่นั้นมีความสุขมาก จนเมื่อหนึ่งเดือนผ่านไป มีอยู่วันนึงเรางอนพ่อ เราเดินไปหลังบ้าน(สมัยก่อนเราอยู่คอนโด) แม่เดินตามไปกระชากผมเราลากกลับเข้าไปห้องนอน ผลักเราลงที่เตียง แล้วตบตีเราอยู่นาน ในตอนนั้นเราไม่เข้าใจอะไรเลย ทำแม่ต้องตบเรา พอแม่ตบเสร็จก็ได้แต่แอบอยู่หลังผ้าม่าน ใจตอนนั้นมันกลัวไปหมด มองรอยแผลรอยแดงตามตัว ไม่กล้าออกจากผ้าม่าน จนแม่มาบอกทีหลังว่าที่กระชากเข้าไปในห้องเพราะคิดว่าเราจะกระโดดตึกตาย...
หลังจากนั้นยังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่เรื่อยๆ ครอบครัวเราซื้อบ้านอยู่ เราดีใจมากที่มีห้องเป็นของตัวเอง เราคิดว่าอย่างน้อยห้องนี้ก็ไม่มีแม่ เราไม่ต้องโดนด่าโดนตีอีกแล้ว แต่เราคิดผิด แม่ยังพังประตูเข้ามา ลูกบิดที่คิดล็อคไว้ได้นั้นหายไปแล้ว เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำๆต่อไป
เราปรึกษาพ่อว่าเราควรทำยังไง เราเจ็บ เราเสียใจ พ่อได้แต่บอกเราว่า อดทนสิ เราก็รู้ว่าแม่เขาเป็นแบบนี้ แค่นี้เรายังทนไม่ได้โตไปจะไปทำอะไร ถ้าแม่เขาด่าให้นั่งฟังเงียบๆ ยังไงเขาก็แม่เรา อย่าไปพูดตอบโต้จะเป็นบาป
สามปีผ่านไป ยังมีเหตุการณ์นี้เหมือนเดิม วันนึงเราทนไปไหว ระหว่างที่กระชากคอเสื้อเราอยู่เราสะบัดมือเขาทิ้งแล้วเดินออกจากบ้าน พร้อมเสียงที่ตามไล่หลังมา"ถ้าไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก" ตอนนั้นเรายอม เราทนไม่ไหวกับคำพูดของเขา มีเงินติดตัวแค่ยี่สิบ นั่งรถสองแถวออกมาระหว่างทางความคิดในหัวก็ตีกันไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง จนถึงที่หมายคือโลตัสแถวบ้าน(เดินเหม่อลงมาลืมจ่ายค่ารถอีก หนูขอโทษนะคะคุณลุง หนูใจลอยจนลืมไปเลย) พอถึงโลตัสก็ไปหาที่นั่ง ญาติพี่น้องโทรเข้าโทรศัพท์เป็นสิบๆสาย ในตอนนั้นไม่อยากรับสายใครเลย ไม่อยากพูด ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น คิดแต่ว่าอยากอยู่คนเดียว ระหว่างนั้นก็ทำการบ้านไปเรื่อยๆรู้ตัวอีกทีโลตัสจะปิดแล้วไม่รู้จะไปที่ไหน เห็นพ่อโทรเข้ามาพอดีเลยตัดสินใจรับ พ่อพูดคำแรกน้ำตาเราไหลออกมาเลย เสียงพ่อเมามาก ถามแต่ว่า"อยู่ไหนลูก บอกพ่อได้มั้ย ให้พ่อไปหานะลูก ไม่มีหนูพ่อจะอยู่ยังไง"เรารู้สึกผิดมาก พ่อเลิกเหล้าตั้งแต่เราจำความได้ แต่เราเป็นคนทำให้พ่อกลับไปกินมันอีกครั้ง
เรายอมกลับบ้านกับพ่อ เช้าวันพรุ่งขึ้นพ่อพาเราไปที่ทำงานด้วยเพื่อจะไม่ต้องอยู่กับแม่ ก่อนจะออกรถยังได้ยินแม่ด่าไล่หลังมาอยู่เลย ลูกพี่ลูกน้องที่เลี้ยงตอนยังเด็กถามเราว่าอยากกลับไปอยู่กับเขามั้ย ใจนึงอยากไปมากเลย แต่อีกใจนึงก็อยากอยู่กับพ่อเลยเลือกจะปฏิเสธไป หลังจากเหตุการณ์นี้แม่เอาพวงมาลัยให้เราขอขมาแม่ ให้แม่อโหสิกรรมให้ แม่บอกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมานี้เป็นเพราะเวรกรรม
หลังจากนั้นแม่ต้องไปทำงานนอกบ้าน ไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนๆ เราเริ่มมีเวลาโฟกัสการเรียน ทุกๆอย่างเริ่มดีขึ้น ถึงแม้ทุกครั้งที่แม่กลับบ้านจะมีเหตุการณ์เหมือนเดิม แต่อย่างน้อยมันก็ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน
แต่ช่วงหลังมานี้เราทนฟังเขาด่าไปเรื่อยๆเหมือนเดิมไม่ได้ น้ำตามันชอบไหลออกมาทั้งที่ไม่เคยเป็น เราต้องเดินหนีไปทั้งที่รู้ว่าขัดคำสั่งที่พ่อบอกให้นั่งฟังเฉยๆ บางทีทะเลาะกันบนรถเราเปิดประตูลงจากรถ นั่งแท๊กซี่ไปหาเพื่อน ไประบายร้องไห้กับเพื่อน กลับบ้านมาก็ร้องไห้ มันหยุดไม่ได้ โกรธตัวเองที่ไม่กลับไปหาพี่ตามคำชวน ทั้งๆที่ถ้าไปก็ไม่ต้องเจอแบบนี้อีก ร้องจนเหมือนใจมันจะขาด ร้องจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่คิดถึงก็คือแม่พาลให้ร้องไห้จนหลับไปอีก ไปเรียนบ่ายเลยวันนั้น โดนเพื่อนดุอีกว่าไปโรงเรียนทำไม ไปก็ไปนั่งร้องไห้ แต่ตอนนั้นเรารู้ตัวว่าถ้าอยู่บ้านต้องเป็นบ้าแน่ พอไปโรงเรียนมันได้คิดเรื่องอื่น คุยกับเพื่อน โฟกัสเนื้อหาที่ครูสอนถึงได้ลืมเรื่องแม่ไปได้
ตอนนี้ได้มหาลัยแล้ว แม่เป็นคนขับรถพาไปดูหอระหว่างทางกลับบ้านก็ทะเลาะกันอีก คราวนี้แม่ถึงขั้นพูดตัดแม่ตัดลูก เราไม่รู้จะพูดอะไร ขอเขาขอลงจากรถได้มั้ย ตอนนั้นเรากลั้นน้ำตาไม่ไหว อยู่บนรถไม่รู้จะไปแอบร้องไห้ตรงไหน สุดท้ายก็นั่งร้องอยู่ข้างๆเขานั้นแหละ ตอนนั้นรถติดบนทางด่วนได้แต่คิดว่าสะพานมันสูงพอมั้ยนะ ถ้าโดดจะตายเลยมั้ย แต่ก็ได้แต่คิด
จนคืนเมื่อวานก็ทะเลาะกันอีก เราล็อคห้อง เราขอพ่อขอหนูอยู่คนเดียวนะ อย่าเพิ่งเข้ามา เพราะรู้ว่าถ้าเปิดประตูไปตอนนี้แม่ต้องระเบิดลงแน่ อยากให้แม่ใจเย็นก่อนค่อยคุยกัน แต่พ่อไม่รับคำขอนั้น พ่อพังประตูเข้ามาแล้วแม่ก็ระเบิดลงจริงๆ เราขอให้เขาทั้งคู่ออกไปก่อน แต่สิ่งที่แม่ตอบกลับมาคือ"นี่บ้านกูทำไมกูต้องไป สิต้องไป กูเป็นคนคลอดมาหัดสำนึกไว้บ้าง" จะผลักหัวเราแต่พ่อมากั้นไว้ก่อน เราไม่รู้จะยังไง ได้แต่หันไปพูดกับพ่อว่านี่ไง หนูขอแค่นี้เอง ขอแค่อย่าเพิ่งเข้ามาเพราะหนูรู้ว่าเข้ามาจะต้องเป็นแบบนี้ พ่อก็พูดว่าแล้วพ่อจะรู้มั้ย มีอะไรทำไมไม่บอก ตอนนั้นเราอ่อนใจแล้ว ไม่รู้จะบอกอะไร บอกไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันเหมือนเดิมมาเจ็ดปีแล้ว โดนแบบนี้มาเจ็ดปีบอกพ่อไปไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ตอนนั้นเราเก็บกระเป๋าแล้วนี่ไม่ใช่บ้านเรา พ่อห้ามไว้แต่เราทนไม่ไหวแล้ว ขอเราไปพักเถอะ ร้องไห้จนหายใจไม่ทันแล้ว
อยู่ๆพ่อเล่าให้ฟังว่าโดนเจ้านายเรียกไปด่ามาสองชั่วโมง พ่อยังทนได้เลย เราได้แต่พูดเสียงสั่นๆกับพ่อ"เจ้านายด่ากับย่าด่า อันไหนพ่อเจ็บกว่ากันหรอ พ่อบอกให้หนูอดทนกับแม่มาตลอด แต่หนูไม่เคยเข้าใจ ทำไมคนที่หนูต้องอดทนคือคนไหนบ้านหรอ บ้านไม่ใช่ที่ที่ทำให้สบายใจหรอ ไม่ใช่ที่ที่อยู่แล้วมีความสุขหรอ หนูไม่อยากอยู่บ้านเลยพ่อ หนูหัวเราะมีความสุขกับเพื่อนกับโทรศัพท์มากกว่าคนในบ้านอีก"เราพูดไปทั้งที่รู้ว่าไม่ควรพูดแบบนั้นเลย แต่มันอึดอัด ช่วงม.ปลายมันเครียดเรื่องมหาลัย หวังว่ากลับบ้านจะมีความสุข มีกำลังใจอ่านหนังสือ แต่ไม่เลย มันไม่เคยเป็นแบบนั้น มีแต่เรียนพิเศษเสร็จถึงบ้านก็หลับเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับแม่
เราอิจฉาลูกน้องแม่ เขาทนอารมณ์แม่ไม่ไหวเขาลาออกได้ แต่เราลาออกจากความเป็นลูกไม่ได้ เพื่อนแนะนำให้เราไปหาหมอแต่เราไม่กล้าไปคนเดียวเพื่อนก็เสนอตัวจะไปเป็นเพื่อน แต่พ่อไม่อยากให้ไป แกบอกนั่นจะทำให้เรามีประวัติว่าไปหาหมอจิตเวช เราเลยไม่รู้จะทำยังไง ขลุกตัวอยู่ในห้องมาเป็นเดือนๆ ไม่อยากกินไม่อยากทำอะไรเลย คิดแต่จะแก้ปัญหานี้ยังไง เราไม่อยากโดนด่าแบบนี้ไปเรื่อยๆ พูดก็โดนดุว่าเถียง เงียบก็ว่าเถียงในใจ เดินหนีก็ว่าอดทนไม่เป็นยอมใครไม่เป็น แม่บอกให้เข้าใจแม่บ้าง แม่ทำงานแม่เครียด เราก็พยายามเข้าใจเขามาเจ็ดปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ร้องไห้มันทรมาณมันปวดหัวไปหมด อยากตายๆไปจะได้ไม่ต้องทรมาณอีกแล้ว ไม่อยากฝันว่าโดนแม่ไล่ฆ่าทุกวันๆ เสิร์ชหาวิธีตายทุกวัน แต่ก็คิดถึงพ่อคิดถึงพี่ที่เลี้ยงมา คิดถึงเพื่อนที่มันปลอบเรามาตลอด ยังอยากอยู่กับพวกเขา ยังอยากไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชอบ แต่ทุกครั้งที่คิดถึงคำที่แม่พูดก็อยากตายๆไป รู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำไมไม่เข้าใจแม่บ้าง แม่ด่าแค่นี้ยังอดทนไม่ได้ อ่อนแอขนาดนี้ก็ตายๆไปเหอะ
ความคิดมันตีกันในหัวไปหมด เราควรทำยังไงดี หาทางออกไม่เจอ เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวไปอยู่มหาลัยก็ไม่ต้องเจอแล้ว แต่เราคิดว่ายังไงเขาแก่ไปเราก็ต้องเลี้ยงตอบแทนบุญคุณเขาอยู่ดี รู้ว่าการตายมันเป็นทางออกที่โง่มาก แต่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงจริงๆ
ยาวไปเนอะ พิมพ์ไม่ค่อยรู้เรื่องน้ำตาทำตาเบลอไปหมด ไม่รู้ว่ากดตั้งกระทู้ไปจะโดนด่าอีกมั้ย ด่าได้แต่อย่าแรงเลยนะคะ ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นก็ได้ ถือว่าให้เด็กมันได้มีที่ระบาย สงสารหนูเถอะ มันสุดจริงๆหนูถึงได้ตั้งกระทู้นี้ มันตันไปหมด
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นล่วงหน้านะคะ หนูจะเก็บทุกๆความคิดเห็นไปคิดและปรับปรุงตัวเอง ขอบคุณค่ะ
อยากตายเพราะแม่ควรทำยังไง
เราไม่ได้อยู่กับแม่มาตั้งแต่ห้าขวบจนแม่กลับมาตอนอายุสิบสอง ตลอดเจ็ดปีที่ไม่มีแม่ เราวาดฝันมาตลอดว่าแม่จะใจดีเหมือนกับแม่ของเพื่อนเรา การมีแม่นี่ดีจังเลย มีคนทำอาหารอร่อยๆให้ทาน มีคนเล่านิทานให้ฟัง มีคนกล่อมเราหลับ อ้อมกอดของแม่อุ่นขนาดไหนกันนะ ครั้งล่าสุดที่ได้กอดนั้นมันก็นานจนจำไม่ได้
ในความคิดเด็กอายุสิบสองวันนั้นดีใจมากที่แม่กลับมา ชีวิตที่มีแม่นั้นมีความสุขมาก จนเมื่อหนึ่งเดือนผ่านไป มีอยู่วันนึงเรางอนพ่อ เราเดินไปหลังบ้าน(สมัยก่อนเราอยู่คอนโด) แม่เดินตามไปกระชากผมเราลากกลับเข้าไปห้องนอน ผลักเราลงที่เตียง แล้วตบตีเราอยู่นาน ในตอนนั้นเราไม่เข้าใจอะไรเลย ทำแม่ต้องตบเรา พอแม่ตบเสร็จก็ได้แต่แอบอยู่หลังผ้าม่าน ใจตอนนั้นมันกลัวไปหมด มองรอยแผลรอยแดงตามตัว ไม่กล้าออกจากผ้าม่าน จนแม่มาบอกทีหลังว่าที่กระชากเข้าไปในห้องเพราะคิดว่าเราจะกระโดดตึกตาย...
หลังจากนั้นยังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่เรื่อยๆ ครอบครัวเราซื้อบ้านอยู่ เราดีใจมากที่มีห้องเป็นของตัวเอง เราคิดว่าอย่างน้อยห้องนี้ก็ไม่มีแม่ เราไม่ต้องโดนด่าโดนตีอีกแล้ว แต่เราคิดผิด แม่ยังพังประตูเข้ามา ลูกบิดที่คิดล็อคไว้ได้นั้นหายไปแล้ว เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำๆต่อไป
เราปรึกษาพ่อว่าเราควรทำยังไง เราเจ็บ เราเสียใจ พ่อได้แต่บอกเราว่า อดทนสิ เราก็รู้ว่าแม่เขาเป็นแบบนี้ แค่นี้เรายังทนไม่ได้โตไปจะไปทำอะไร ถ้าแม่เขาด่าให้นั่งฟังเงียบๆ ยังไงเขาก็แม่เรา อย่าไปพูดตอบโต้จะเป็นบาป
สามปีผ่านไป ยังมีเหตุการณ์นี้เหมือนเดิม วันนึงเราทนไปไหว ระหว่างที่กระชากคอเสื้อเราอยู่เราสะบัดมือเขาทิ้งแล้วเดินออกจากบ้าน พร้อมเสียงที่ตามไล่หลังมา"ถ้าไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก" ตอนนั้นเรายอม เราทนไม่ไหวกับคำพูดของเขา มีเงินติดตัวแค่ยี่สิบ นั่งรถสองแถวออกมาระหว่างทางความคิดในหัวก็ตีกันไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง จนถึงที่หมายคือโลตัสแถวบ้าน(เดินเหม่อลงมาลืมจ่ายค่ารถอีก หนูขอโทษนะคะคุณลุง หนูใจลอยจนลืมไปเลย) พอถึงโลตัสก็ไปหาที่นั่ง ญาติพี่น้องโทรเข้าโทรศัพท์เป็นสิบๆสาย ในตอนนั้นไม่อยากรับสายใครเลย ไม่อยากพูด ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น คิดแต่ว่าอยากอยู่คนเดียว ระหว่างนั้นก็ทำการบ้านไปเรื่อยๆรู้ตัวอีกทีโลตัสจะปิดแล้วไม่รู้จะไปที่ไหน เห็นพ่อโทรเข้ามาพอดีเลยตัดสินใจรับ พ่อพูดคำแรกน้ำตาเราไหลออกมาเลย เสียงพ่อเมามาก ถามแต่ว่า"อยู่ไหนลูก บอกพ่อได้มั้ย ให้พ่อไปหานะลูก ไม่มีหนูพ่อจะอยู่ยังไง"เรารู้สึกผิดมาก พ่อเลิกเหล้าตั้งแต่เราจำความได้ แต่เราเป็นคนทำให้พ่อกลับไปกินมันอีกครั้ง
เรายอมกลับบ้านกับพ่อ เช้าวันพรุ่งขึ้นพ่อพาเราไปที่ทำงานด้วยเพื่อจะไม่ต้องอยู่กับแม่ ก่อนจะออกรถยังได้ยินแม่ด่าไล่หลังมาอยู่เลย ลูกพี่ลูกน้องที่เลี้ยงตอนยังเด็กถามเราว่าอยากกลับไปอยู่กับเขามั้ย ใจนึงอยากไปมากเลย แต่อีกใจนึงก็อยากอยู่กับพ่อเลยเลือกจะปฏิเสธไป หลังจากเหตุการณ์นี้แม่เอาพวงมาลัยให้เราขอขมาแม่ ให้แม่อโหสิกรรมให้ แม่บอกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมานี้เป็นเพราะเวรกรรม
หลังจากนั้นแม่ต้องไปทำงานนอกบ้าน ไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนๆ เราเริ่มมีเวลาโฟกัสการเรียน ทุกๆอย่างเริ่มดีขึ้น ถึงแม้ทุกครั้งที่แม่กลับบ้านจะมีเหตุการณ์เหมือนเดิม แต่อย่างน้อยมันก็ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน
แต่ช่วงหลังมานี้เราทนฟังเขาด่าไปเรื่อยๆเหมือนเดิมไม่ได้ น้ำตามันชอบไหลออกมาทั้งที่ไม่เคยเป็น เราต้องเดินหนีไปทั้งที่รู้ว่าขัดคำสั่งที่พ่อบอกให้นั่งฟังเฉยๆ บางทีทะเลาะกันบนรถเราเปิดประตูลงจากรถ นั่งแท๊กซี่ไปหาเพื่อน ไประบายร้องไห้กับเพื่อน กลับบ้านมาก็ร้องไห้ มันหยุดไม่ได้ โกรธตัวเองที่ไม่กลับไปหาพี่ตามคำชวน ทั้งๆที่ถ้าไปก็ไม่ต้องเจอแบบนี้อีก ร้องจนเหมือนใจมันจะขาด ร้องจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่คิดถึงก็คือแม่พาลให้ร้องไห้จนหลับไปอีก ไปเรียนบ่ายเลยวันนั้น โดนเพื่อนดุอีกว่าไปโรงเรียนทำไม ไปก็ไปนั่งร้องไห้ แต่ตอนนั้นเรารู้ตัวว่าถ้าอยู่บ้านต้องเป็นบ้าแน่ พอไปโรงเรียนมันได้คิดเรื่องอื่น คุยกับเพื่อน โฟกัสเนื้อหาที่ครูสอนถึงได้ลืมเรื่องแม่ไปได้
ตอนนี้ได้มหาลัยแล้ว แม่เป็นคนขับรถพาไปดูหอระหว่างทางกลับบ้านก็ทะเลาะกันอีก คราวนี้แม่ถึงขั้นพูดตัดแม่ตัดลูก เราไม่รู้จะพูดอะไร ขอเขาขอลงจากรถได้มั้ย ตอนนั้นเรากลั้นน้ำตาไม่ไหว อยู่บนรถไม่รู้จะไปแอบร้องไห้ตรงไหน สุดท้ายก็นั่งร้องอยู่ข้างๆเขานั้นแหละ ตอนนั้นรถติดบนทางด่วนได้แต่คิดว่าสะพานมันสูงพอมั้ยนะ ถ้าโดดจะตายเลยมั้ย แต่ก็ได้แต่คิด
จนคืนเมื่อวานก็ทะเลาะกันอีก เราล็อคห้อง เราขอพ่อขอหนูอยู่คนเดียวนะ อย่าเพิ่งเข้ามา เพราะรู้ว่าถ้าเปิดประตูไปตอนนี้แม่ต้องระเบิดลงแน่ อยากให้แม่ใจเย็นก่อนค่อยคุยกัน แต่พ่อไม่รับคำขอนั้น พ่อพังประตูเข้ามาแล้วแม่ก็ระเบิดลงจริงๆ เราขอให้เขาทั้งคู่ออกไปก่อน แต่สิ่งที่แม่ตอบกลับมาคือ"นี่บ้านกูทำไมกูต้องไป สิต้องไป กูเป็นคนคลอดมาหัดสำนึกไว้บ้าง" จะผลักหัวเราแต่พ่อมากั้นไว้ก่อน เราไม่รู้จะยังไง ได้แต่หันไปพูดกับพ่อว่านี่ไง หนูขอแค่นี้เอง ขอแค่อย่าเพิ่งเข้ามาเพราะหนูรู้ว่าเข้ามาจะต้องเป็นแบบนี้ พ่อก็พูดว่าแล้วพ่อจะรู้มั้ย มีอะไรทำไมไม่บอก ตอนนั้นเราอ่อนใจแล้ว ไม่รู้จะบอกอะไร บอกไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันเหมือนเดิมมาเจ็ดปีแล้ว โดนแบบนี้มาเจ็ดปีบอกพ่อไปไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ตอนนั้นเราเก็บกระเป๋าแล้วนี่ไม่ใช่บ้านเรา พ่อห้ามไว้แต่เราทนไม่ไหวแล้ว ขอเราไปพักเถอะ ร้องไห้จนหายใจไม่ทันแล้ว
อยู่ๆพ่อเล่าให้ฟังว่าโดนเจ้านายเรียกไปด่ามาสองชั่วโมง พ่อยังทนได้เลย เราได้แต่พูดเสียงสั่นๆกับพ่อ"เจ้านายด่ากับย่าด่า อันไหนพ่อเจ็บกว่ากันหรอ พ่อบอกให้หนูอดทนกับแม่มาตลอด แต่หนูไม่เคยเข้าใจ ทำไมคนที่หนูต้องอดทนคือคนไหนบ้านหรอ บ้านไม่ใช่ที่ที่ทำให้สบายใจหรอ ไม่ใช่ที่ที่อยู่แล้วมีความสุขหรอ หนูไม่อยากอยู่บ้านเลยพ่อ หนูหัวเราะมีความสุขกับเพื่อนกับโทรศัพท์มากกว่าคนในบ้านอีก"เราพูดไปทั้งที่รู้ว่าไม่ควรพูดแบบนั้นเลย แต่มันอึดอัด ช่วงม.ปลายมันเครียดเรื่องมหาลัย หวังว่ากลับบ้านจะมีความสุข มีกำลังใจอ่านหนังสือ แต่ไม่เลย มันไม่เคยเป็นแบบนั้น มีแต่เรียนพิเศษเสร็จถึงบ้านก็หลับเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับแม่
เราอิจฉาลูกน้องแม่ เขาทนอารมณ์แม่ไม่ไหวเขาลาออกได้ แต่เราลาออกจากความเป็นลูกไม่ได้ เพื่อนแนะนำให้เราไปหาหมอแต่เราไม่กล้าไปคนเดียวเพื่อนก็เสนอตัวจะไปเป็นเพื่อน แต่พ่อไม่อยากให้ไป แกบอกนั่นจะทำให้เรามีประวัติว่าไปหาหมอจิตเวช เราเลยไม่รู้จะทำยังไง ขลุกตัวอยู่ในห้องมาเป็นเดือนๆ ไม่อยากกินไม่อยากทำอะไรเลย คิดแต่จะแก้ปัญหานี้ยังไง เราไม่อยากโดนด่าแบบนี้ไปเรื่อยๆ พูดก็โดนดุว่าเถียง เงียบก็ว่าเถียงในใจ เดินหนีก็ว่าอดทนไม่เป็นยอมใครไม่เป็น แม่บอกให้เข้าใจแม่บ้าง แม่ทำงานแม่เครียด เราก็พยายามเข้าใจเขามาเจ็ดปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ร้องไห้มันทรมาณมันปวดหัวไปหมด อยากตายๆไปจะได้ไม่ต้องทรมาณอีกแล้ว ไม่อยากฝันว่าโดนแม่ไล่ฆ่าทุกวันๆ เสิร์ชหาวิธีตายทุกวัน แต่ก็คิดถึงพ่อคิดถึงพี่ที่เลี้ยงมา คิดถึงเพื่อนที่มันปลอบเรามาตลอด ยังอยากอยู่กับพวกเขา ยังอยากไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชอบ แต่ทุกครั้งที่คิดถึงคำที่แม่พูดก็อยากตายๆไป รู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำไมไม่เข้าใจแม่บ้าง แม่ด่าแค่นี้ยังอดทนไม่ได้ อ่อนแอขนาดนี้ก็ตายๆไปเหอะ
ความคิดมันตีกันในหัวไปหมด เราควรทำยังไงดี หาทางออกไม่เจอ เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวไปอยู่มหาลัยก็ไม่ต้องเจอแล้ว แต่เราคิดว่ายังไงเขาแก่ไปเราก็ต้องเลี้ยงตอบแทนบุญคุณเขาอยู่ดี รู้ว่าการตายมันเป็นทางออกที่โง่มาก แต่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงจริงๆ
ยาวไปเนอะ พิมพ์ไม่ค่อยรู้เรื่องน้ำตาทำตาเบลอไปหมด ไม่รู้ว่ากดตั้งกระทู้ไปจะโดนด่าอีกมั้ย ด่าได้แต่อย่าแรงเลยนะคะ ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นก็ได้ ถือว่าให้เด็กมันได้มีที่ระบาย สงสารหนูเถอะ มันสุดจริงๆหนูถึงได้ตั้งกระทู้นี้ มันตันไปหมด
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นล่วงหน้านะคะ หนูจะเก็บทุกๆความคิดเห็นไปคิดและปรับปรุงตัวเอง ขอบคุณค่ะ