JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภควูบครั้งแรกรอบ 6 เดือน

กระทู้คำถาม
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน สาเหตุหลักจากมีความกังวลใจเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ รวมถึงราคาพืชเกษตรหลักทั้ง ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์ม สับปะรดราคาวูบ ทำกำลังซื้อตจว.ขยายตัวต่ำ

ผศ.ดร.ธนวรรธน์  พลวิชัย  ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  และนายวาทิตร รักษ์ธรรม    อาจารย์ประจำศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมแถลงผลการสำรวจดัชนีความเชือมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพฤษภาคม 2560 (8 มิ.ย.) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรโดยส่วนใหญ่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และหลายรายการมีราคาปรับลดลงในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเช่นยางพารา มันสำปะหลัง  ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมันและสัปปะรดโรงงาน  เป็นต้น ทำให้กำลังซื้อทั่วไปในต่างจังหวัดขยายตัวต่ำ  ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นมากนัก

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 64.3 70.9 และ 92.7 ตามลำดับ โดยปรับตัวลดลงทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนเมษายน 2560 ที่อยู่ในระดับ 65.4 71.6 และ 94.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก

การปรับตัวลดลงของดัชนีทุกรายการดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เช่นเดียวกันโดยอยู่ที่ระดับ 76.0 การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนสูง ราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะราคาข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และยางพารายังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ยังคงเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อมั่นโดยรวม

สำหรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 53.7 แสดงว่าผู้บริโภครู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ในอนาคตปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เช่นเดียวกันโดยปรับตัวสู่ระดับ 85.3 ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ในอนาคต

การปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการในเดือนนี้ เป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวที่อาจเกิดขึ้นชั่วคราวจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม  อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นควบคู่กันซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 3-6 เดือนข้างหน้าคือการปรับตัวลดลงของสินค้าเกษตรหลายรายการได้แก่ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  มันสำปะหลัง และสัปปะรดโรงงาน ตลอดจนการทรงตัวระดับต่ำของราคาข้าว ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดซึมตัวลง  ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐและเร่งรัดการลงทุนของภาครัฐให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนทั่วประเทศจะช่วยให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการใช้จ่ายของภาคประชาชนปรับตัวดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่