ตม. เกาหลี !! ด่านแรกก่อนจะไปตามหาโอปป้า เราก็ต้องผ่านด่านขุ่นพี่ ตม. ในตำนานไปให้ได้ก่อน!!
จากที่เคยได้ยินคำร่ำลือถึง ความโหด หิน ของขุ่นพี่ ตม. มาเยอะ ทำให้มีความกังวลมากมาย ก่อนจะเดินทาง อะไรที่เค้าว่าควรเตรียม จัดหมดเลยค่ะ ขอชัวร์ไว้ก่อน ก็จะขอแบ่งการเตรียมตัวตามหัวข้อด้านล่าง ไปดูกันเลยค่า
การแต่งกาย
ควรแต่งตัวให้เหมือนไปเที่ยว เช่น ใส่รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่รองเท้าแตะ และสำหรับผู้หญิงนะคะ ชุดไม่จำเป็นต้องสุภาพ แต่ขอแนะนำว่า “
ไม่โป๊” จะดีกว่า เพราะการที่พี่ ตม. เจอเราครั้งแรก เค้าไม่เคยรู้จักเรา ก็จะมองจากลักษณะภายนอกก่อนเลย ว่าดูน่าเชื่อถือมั๊ย เป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือเปล่า การแต่งกายจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
เอกสาร และสิ่งที่ควรพกติดตัว
1. ใบบุ๊คกิ้งเครื่องบินขากลับ เพื่อยืนยันวันเดินทางกลับของเราว่าชั้นกลับแน่ๆ จ้ะ no worries
2. ใบจองโรงแรม มีชื่อเรา รวมถึงระบุชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรโรงแรม รวมถึงระบุวันที่ชัดเจน ว่าเราพักตั้งแต่วันไหน ถึงวันไหน เพื่อยืนยันว่ามาเที่ยว มีที่พักเรียบร้อย สามารถตรวจสอบกับทางโรงแรมได้เลย
3. จม. รับรองการทำงาน, นามบัตร ถ้าเป็น freelance ให้ถ่ายรูปในตอนที่เราทำงานไว้หลายๆ รูปในโทรศัพท์ค่ะ หรือถ้าเป็นแม่ค้าออนไลน์ก็ปริ๊นหน้าเว็บที่เราขายของเลยค่ะ เพื่อยืนยันว่าเรามีงานทำ มีรายได้ ไม่แอบมาทำงานในประเทศ คุณหรอก กรณีเป็นนักเรียนให้พกบัตรนักศึกษาไปด้วยค่ะ
4. เงินสด และบัตรเครดิต (ถ้ามี) เพื่อแสดงว่าชั้นมีเงินมาเที่ยวนะจ๊ะ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเพียงพอกับจำนวนวันที่จะมาเที่ยว
5. แผนการเดินทาง ว่าเรามีแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง ในแต่ละวัน
6. ถ้าไปกันเป็นกลุ่ม ควรถ่ายรูปพาสปอร์ตของคนที่เราไปด้วยไว้ในโทรศัพท์ และถ่ายรูปด้วยกันไว้บ้างค่ะ
ทริคการผ่านด่าน ตม.
1. ไม่เล่นโทรศัพท์ ไม่ถ่ายรูป และคุยกันระหว่างรอคิวค่ะ (มีป้ายขึ้นเลยนะคะ ว่า No photo, No mobile)
2. ถ้ามาเป็นกลุ่มให้ต่อแถวเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ตม. คนเดียวกัน และบอกได้ว่ามากับคนข้างหน้า/ ข้างหลังนะ แบบว่ามีคนมาด้วยกันจริง ไม่ได้มโนค่ะ และถ้าคนแรกในกลุ่มผ่านเข้าไปแล้ว คนต่อไปจะมีโอกาสผ่านสูงเลยค่ะ ถ้าเราต่อคนละแถวเพื่อนเราอาจจะผ่านเข้าไปแล้วกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เค้าอาจจะไม่เห็นค่ะว่าเรามาด้วยกันจริงๆ
3. เดินเข้าไปเจอเจ้าหน้าที่ให้ ยิ้ม และทักทาย Hello ซักนิด เพื่อสร้าง First impession ค่ะ (จิตวิทยา หรา!) อันนี่ส่วนตัวคิดว่าช่วยได้นิดนึงนะคะ พอยิ้มให้ และทักทายนิดหน่อย ขุ่นพี่ ตม. เค้ายิ้มนิดๆ ตอบเราค่ะ และหน้าเค้าดู relax ขึ้น จากตอนแรกหน้าเครียดๆ และดูโหดๆ (อยากจะบอกพี่ ตม. ว่าหนูเครียดกว่าพี่อี๊กกก จะได้เข้าไหม เกาหลีเนี่ย แต่ยิ้มสู้ค่ะ ^^)
4. เตรียมตัวตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ถามอะไรมาควรตอบไปเลยทันที อย่าอึกอักค่ะ ไม่ต้องถึงกับภาษาเป๊ะเว่อร์ แต่สื่อสารให้เค้าพอเข้าใจได้ และรีบตอบออกไปเลย ถ้าเราคิดนานเค้าอาจจะคิดว่าเราไม่ได้พูดเรื่องจริงค่ะ (เพราะเรื่องจริงไม่ต้องคิดเยอะ)
ประสบการณ์ ที่อยากแชร์ค่ะ
ตอนแรกเราต่อแถวเจ้าหน้าที่ผู้หญิงค่ะ แล้วอีกแถวมันสั้นกว่า เราก็เลยย้ายแถวไป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย เราจะบอกว่าพอเราย้ายแถวมาปั๊ป คนก่อนหน้าเราแถวเดียวกัน 3 คนโดนเข้าห้องเย็นหมดเลยค่ะ ส่วนแถวก่อนที่เราจะย้ายผ่านไวม๊ากก ผ่านรวด น้ำตาจะไหล (ไม่น่าย้ายเลยตรู - -!) ใจเราตุ๊มๆ ต่อมๆ มากค่ะ หัวใจเต้นรัววว กลัวมาก
พอมาถึงกลุ่มเรา ให้หลานเราเข้าก่อนเลยค่ะ คิดว่าหลานน่าจะผ่านแน่ๆ เพราะว่าเป็นนักเรียนเลยให้เข้าเป็นคนแรก เค้าก็ถามว่ามากับใคร หลานก็บอกว่ามากับแม่ และน้า ที่ต่อคิวอยู่ด้านหลัง (แอบปูทางมาให้ค่ะ) พอมาถึงพี่สาวเค้าก็ถามอีกค่ะ ว่ามากับใคร ก็บอกว่าลูกสาวที่เพิ่งผ่านเข้าไป และน้องสาวที่ต่อคิวอยู่ด้านหลัง (คือชั้นมากันเป็นกลุ่มนะจ๊ะ) พูดตรงกัน พอมาถึงเราก็ถามเหมือนเดิมค่ะว่ามากับใคร เราก็บอกว่ามากับพี่สาว และหลาน (กลุ่มเดียวกันจ้ะ) เหมือนเค้าอยากจะเช็คว่าพูดตรงกันมั้ย
อันนี้คือข้อดีของการต่อแถวเดียวกันค่ะ ข้อมูลมันต่อเนื่องเพราะเจ้าหน้าที่คนเดียวกัน และถ้าคนแรกผ่านคนต่อไปก็น่าจะผ่านง่ายขึ้นค่ะเพราะมาด้วยกัน
คำถามที่เราเจอนะคะ
ตม. : Who do you come with? (คุณมากับใคร)
เรา : My sister and my niece. (พี่สาว และหลาน)
ตม. : Why your last name and your sister’s last name are different?
(ทำไมนามสกุลของคุณ และพี่สาวไม่ตรงกัน)
เรา : Because she got married.
(เพราะว่าพี่แต่งงาน)
ตม. : Why the place of birth in your passport and your address in arrival card are different?
(ทำไมสถานที่เกิดใน พาสปอร์ต ไม่ตรงกับที่อยู่ในบัตรขาเข้า)
เรา : I was born in Bangkok but now I move to Kanchanaburi.
(ฉันเกิดที่กรุงเทพ แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่กาญจนบุรี)
จากนั้นก็ประทับตรา ผ่านนน !! เย้ๆๆ ดีใจระดับสิบ บอกเลย
ใครที่จะไปก็เตรียมตัวกันตามที่แนะนำไปข้างบนนะคะ ไม่ต้องกังวล จะบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ ผ่านง่ายกว่าที่นึกไว้เยอะเลย ขอให้โชคดีผ่านด่าน ตม. ทุกคนค่าาา
[CR] แชร์ประสบการณ์ ตม. เกาหลี พค. 2560 ไม่ได้ยากอย่างที่คิด พร้อมทริคในการเตรียมตัว!!!
จากที่เคยได้ยินคำร่ำลือถึง ความโหด หิน ของขุ่นพี่ ตม. มาเยอะ ทำให้มีความกังวลมากมาย ก่อนจะเดินทาง อะไรที่เค้าว่าควรเตรียม จัดหมดเลยค่ะ ขอชัวร์ไว้ก่อน ก็จะขอแบ่งการเตรียมตัวตามหัวข้อด้านล่าง ไปดูกันเลยค่า
ควรแต่งตัวให้เหมือนไปเที่ยว เช่น ใส่รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่รองเท้าแตะ และสำหรับผู้หญิงนะคะ ชุดไม่จำเป็นต้องสุภาพ แต่ขอแนะนำว่า “ไม่โป๊” จะดีกว่า เพราะการที่พี่ ตม. เจอเราครั้งแรก เค้าไม่เคยรู้จักเรา ก็จะมองจากลักษณะภายนอกก่อนเลย ว่าดูน่าเชื่อถือมั๊ย เป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือเปล่า การแต่งกายจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
1. ใบบุ๊คกิ้งเครื่องบินขากลับ เพื่อยืนยันวันเดินทางกลับของเราว่าชั้นกลับแน่ๆ จ้ะ no worries
2. ใบจองโรงแรม มีชื่อเรา รวมถึงระบุชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรโรงแรม รวมถึงระบุวันที่ชัดเจน ว่าเราพักตั้งแต่วันไหน ถึงวันไหน เพื่อยืนยันว่ามาเที่ยว มีที่พักเรียบร้อย สามารถตรวจสอบกับทางโรงแรมได้เลย
3. จม. รับรองการทำงาน, นามบัตร ถ้าเป็น freelance ให้ถ่ายรูปในตอนที่เราทำงานไว้หลายๆ รูปในโทรศัพท์ค่ะ หรือถ้าเป็นแม่ค้าออนไลน์ก็ปริ๊นหน้าเว็บที่เราขายของเลยค่ะ เพื่อยืนยันว่าเรามีงานทำ มีรายได้ ไม่แอบมาทำงานในประเทศ คุณหรอก กรณีเป็นนักเรียนให้พกบัตรนักศึกษาไปด้วยค่ะ
4. เงินสด และบัตรเครดิต (ถ้ามี) เพื่อแสดงว่าชั้นมีเงินมาเที่ยวนะจ๊ะ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเพียงพอกับจำนวนวันที่จะมาเที่ยว
5. แผนการเดินทาง ว่าเรามีแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง ในแต่ละวัน
6. ถ้าไปกันเป็นกลุ่ม ควรถ่ายรูปพาสปอร์ตของคนที่เราไปด้วยไว้ในโทรศัพท์ และถ่ายรูปด้วยกันไว้บ้างค่ะ
1. ไม่เล่นโทรศัพท์ ไม่ถ่ายรูป และคุยกันระหว่างรอคิวค่ะ (มีป้ายขึ้นเลยนะคะ ว่า No photo, No mobile)
2. ถ้ามาเป็นกลุ่มให้ต่อแถวเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ตม. คนเดียวกัน และบอกได้ว่ามากับคนข้างหน้า/ ข้างหลังนะ แบบว่ามีคนมาด้วยกันจริง ไม่ได้มโนค่ะ และถ้าคนแรกในกลุ่มผ่านเข้าไปแล้ว คนต่อไปจะมีโอกาสผ่านสูงเลยค่ะ ถ้าเราต่อคนละแถวเพื่อนเราอาจจะผ่านเข้าไปแล้วกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เค้าอาจจะไม่เห็นค่ะว่าเรามาด้วยกันจริงๆ
3. เดินเข้าไปเจอเจ้าหน้าที่ให้ ยิ้ม และทักทาย Hello ซักนิด เพื่อสร้าง First impession ค่ะ (จิตวิทยา หรา!) อันนี่ส่วนตัวคิดว่าช่วยได้นิดนึงนะคะ พอยิ้มให้ และทักทายนิดหน่อย ขุ่นพี่ ตม. เค้ายิ้มนิดๆ ตอบเราค่ะ และหน้าเค้าดู relax ขึ้น จากตอนแรกหน้าเครียดๆ และดูโหดๆ (อยากจะบอกพี่ ตม. ว่าหนูเครียดกว่าพี่อี๊กกก จะได้เข้าไหม เกาหลีเนี่ย แต่ยิ้มสู้ค่ะ ^^)
4. เตรียมตัวตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ถามอะไรมาควรตอบไปเลยทันที อย่าอึกอักค่ะ ไม่ต้องถึงกับภาษาเป๊ะเว่อร์ แต่สื่อสารให้เค้าพอเข้าใจได้ และรีบตอบออกไปเลย ถ้าเราคิดนานเค้าอาจจะคิดว่าเราไม่ได้พูดเรื่องจริงค่ะ (เพราะเรื่องจริงไม่ต้องคิดเยอะ)
ตอนแรกเราต่อแถวเจ้าหน้าที่ผู้หญิงค่ะ แล้วอีกแถวมันสั้นกว่า เราก็เลยย้ายแถวไป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย เราจะบอกว่าพอเราย้ายแถวมาปั๊ป คนก่อนหน้าเราแถวเดียวกัน 3 คนโดนเข้าห้องเย็นหมดเลยค่ะ ส่วนแถวก่อนที่เราจะย้ายผ่านไวม๊ากก ผ่านรวด น้ำตาจะไหล (ไม่น่าย้ายเลยตรู - -!) ใจเราตุ๊มๆ ต่อมๆ มากค่ะ หัวใจเต้นรัววว กลัวมาก
พอมาถึงกลุ่มเรา ให้หลานเราเข้าก่อนเลยค่ะ คิดว่าหลานน่าจะผ่านแน่ๆ เพราะว่าเป็นนักเรียนเลยให้เข้าเป็นคนแรก เค้าก็ถามว่ามากับใคร หลานก็บอกว่ามากับแม่ และน้า ที่ต่อคิวอยู่ด้านหลัง (แอบปูทางมาให้ค่ะ) พอมาถึงพี่สาวเค้าก็ถามอีกค่ะ ว่ามากับใคร ก็บอกว่าลูกสาวที่เพิ่งผ่านเข้าไป และน้องสาวที่ต่อคิวอยู่ด้านหลัง (คือชั้นมากันเป็นกลุ่มนะจ๊ะ) พูดตรงกัน พอมาถึงเราก็ถามเหมือนเดิมค่ะว่ามากับใคร เราก็บอกว่ามากับพี่สาว และหลาน (กลุ่มเดียวกันจ้ะ) เหมือนเค้าอยากจะเช็คว่าพูดตรงกันมั้ย
อันนี้คือข้อดีของการต่อแถวเดียวกันค่ะ ข้อมูลมันต่อเนื่องเพราะเจ้าหน้าที่คนเดียวกัน และถ้าคนแรกผ่านคนต่อไปก็น่าจะผ่านง่ายขึ้นค่ะเพราะมาด้วยกัน
คำถามที่เราเจอนะคะ
ตม. : Who do you come with? (คุณมากับใคร)
เรา : My sister and my niece. (พี่สาว และหลาน)
ตม. : Why your last name and your sister’s last name are different?
(ทำไมนามสกุลของคุณ และพี่สาวไม่ตรงกัน)
เรา : Because she got married.
(เพราะว่าพี่แต่งงาน)
ตม. : Why the place of birth in your passport and your address in arrival card are different?
(ทำไมสถานที่เกิดใน พาสปอร์ต ไม่ตรงกับที่อยู่ในบัตรขาเข้า)
เรา : I was born in Bangkok but now I move to Kanchanaburi.
(ฉันเกิดที่กรุงเทพ แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่กาญจนบุรี)
ใครที่จะไปก็เตรียมตัวกันตามที่แนะนำไปข้างบนนะคะ ไม่ต้องกังวล จะบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ ผ่านง่ายกว่าที่นึกไว้เยอะเลย ขอให้โชคดีผ่านด่าน ตม. ทุกคนค่าาา
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น