ดิฉันแทบจะทานข้าวติดคอ..เห็นมีคนโพสต์กระทู้ยางพาราราคาตก
พอดีได้ฟังมาว่า ราคายางพาราตกลงไปในระยะนี้ว่าเกิดจากอะไร...
สาเหตุ...

-ชาวต่างชาติที่เคยรับซื้อยางพาราจากไทยชะลอการซื้อยางในในช่วงนี้ คาดไม่นานนัก
-มีสต๊อกยางพาราที่ต่างชาติเก็บไว้ยังมากอยู่ เป็นเหตุให้ยังไม่รับซื้อจากไทย
-ค่าของเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากในระยะนี้ ชาวต่างชาติยังคงชะลอการซื้อ ก็คงไม่นานนักเช่นกัน
-นักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐ(เฟด)
-ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
-มีการกดราคายางพาราลงไปเพื่อรับซื้อในราคาถูก ชาวสวนยางรีบขายเพราะกลัวราคายางตกต่ำลงกว่านี้
ฯลฯ
หนทางแก้ไขคือ...ชะลอการขายไว้ก่อนค่ะ


นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงในช่วงต้นสัปดาห์ เป็นเพราะผู้ประกอบการชะลอการซื้อขายยาง มีนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐ(เฟด) และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากซัพพลายจากสหรัฐที่อาจจะเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าสถานการณ์ยางพาราดังกล่าวจะเกิดช่วงสั้นๆ และราคายางจะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น ตามแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง และปริมาณสต็อกยางในตลาดหลักลดลง และปริมาณยางที่ยังเข้าสู่ตลาดน้อยจากฝนตกต่อเนื่องในภาคใต้ของไทย ประกอบความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลก
“หากราคายางไม่เป็นที่น่าพอใจชาวสวนยาง ก็อย่าเพิ่งเร่งขาย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อราคายางในตลาดได้ ให้พิจารณาจากข้อมูลที่ กยท. แนะนำประกอบการตัดสินใจก่อน แม้ว่าราคายางจะลดลงไปในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้ราคายางจะขยับสูงขึ้นตามกลไกที่แท้จริงของตลาดได้ สำหรับราคายางตลาดกลางยางพาราจ.สงขลาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ยางแผ่นดิบแตะระดับ 53.35 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ลดลง 2.66 บาทต่อกก. และยางแผ่นรมควันแตะระดับ 57.07บาทต่อกก.ลดลง 0.72 บาทต่อกก. เมื่อเทียบกับวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา”นายธีธัชกล่าว และว่า ปัจจุบัน กยท.กำลังเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคายางด้วย
https://www.matichon.co.th/news/575874
((มาลาริน)) ^_^ ชาวสวนยางที่รักฟังทางนี้ค่ะ...."กยท.”คาดสัปดาห์นี้ราคายางขยับขึ้นตามตลาดแนะชาวสวนชลอขายก่อน
พอดีได้ฟังมาว่า ราคายางพาราตกลงไปในระยะนี้ว่าเกิดจากอะไร...
สาเหตุ...
-ชาวต่างชาติที่เคยรับซื้อยางพาราจากไทยชะลอการซื้อยางในในช่วงนี้ คาดไม่นานนัก
-มีสต๊อกยางพาราที่ต่างชาติเก็บไว้ยังมากอยู่ เป็นเหตุให้ยังไม่รับซื้อจากไทย
-ค่าของเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากในระยะนี้ ชาวต่างชาติยังคงชะลอการซื้อ ก็คงไม่นานนักเช่นกัน
-นักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐ(เฟด)
-ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
-มีการกดราคายางพาราลงไปเพื่อรับซื้อในราคาถูก ชาวสวนยางรีบขายเพราะกลัวราคายางตกต่ำลงกว่านี้
ฯลฯ
หนทางแก้ไขคือ...ชะลอการขายไว้ก่อนค่ะ
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงในช่วงต้นสัปดาห์ เป็นเพราะผู้ประกอบการชะลอการซื้อขายยาง มีนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐ(เฟด) และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากซัพพลายจากสหรัฐที่อาจจะเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าสถานการณ์ยางพาราดังกล่าวจะเกิดช่วงสั้นๆ และราคายางจะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น ตามแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง และปริมาณสต็อกยางในตลาดหลักลดลง และปริมาณยางที่ยังเข้าสู่ตลาดน้อยจากฝนตกต่อเนื่องในภาคใต้ของไทย ประกอบความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลก
“หากราคายางไม่เป็นที่น่าพอใจชาวสวนยาง ก็อย่าเพิ่งเร่งขาย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อราคายางในตลาดได้ ให้พิจารณาจากข้อมูลที่ กยท. แนะนำประกอบการตัดสินใจก่อน แม้ว่าราคายางจะลดลงไปในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้ราคายางจะขยับสูงขึ้นตามกลไกที่แท้จริงของตลาดได้ สำหรับราคายางตลาดกลางยางพาราจ.สงขลาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ยางแผ่นดิบแตะระดับ 53.35 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ลดลง 2.66 บาทต่อกก. และยางแผ่นรมควันแตะระดับ 57.07บาทต่อกก.ลดลง 0.72 บาทต่อกก. เมื่อเทียบกับวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา”นายธีธัชกล่าว และว่า ปัจจุบัน กยท.กำลังเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคายางด้วย
https://www.matichon.co.th/news/575874