คือต้องบอกก่อนว่าเรามีสวัสดิการเงินกู้ภายใน และก่อนหน้านี้ที่บ้านเราให้ไปกู้เงินสินเชื่อจากธนาคารมา 160,000฿
แต่ดูๆแล้วเป็นภาระหนี้มากเลยเราจึงตัดสินใจผู้เงินสวัสดิการมาปิดหนี้นั้นจำนวน 2 แสนบาทถ้วนโดยระยะการผ่อน 10 ปี
โดยหักจากเงินเดือนเราประมาณเดือนละ 2-3 พัน/เดือน และจะลดจำนวนการหักลงไปเรื่อยๆ และเราก็ไม่ได้มีภาระใดๆจึงมีเงินให้เค้ายืมค่ะ
ประเด็นอย่างย่อคือ
พี่สาว ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง (สถานะลูกของลุงค่ะ) เค้ารู้เรื่องการกู้สินเชื่อธนาคารมาเพื่อหมุนภายในครอบครัวเรา
แต่เค้าและคนในครอบครัวเราไม่มีใครรู้ว่าเราได้กู้เงินสวัสดิการไปปิดแล้ว และปกติเค้าก็ไม่เคยมายุ่งหรือมาอะไรกับเงินเรานะ
แต่เมื่อมี.ค. 60 ที่ผ่านมาเค้ามีปัญหากับสามี(ที่ไม่เอาไหนและสมควรจะเลิกมาตั้งนานละ)
เค้าเลยจะหย่าและจะเคลียร์ภาระหนี้จะเคลียร์นั่นนี่ให้หมดจะได้จบๆไป
เค้าจึงมายืมเงินกู้เราไป 4 หมื่นเพื่อจะนำไปปิดหนี้นอกระบบ ซึ่งเดือนๆนึงดอกร้อยละ 20 รวมๆแล้วก็เกินเงินเดือนเค้าแหละ
และเราก็เห็นว่าเค้าลำบากกว่าเราเยอะ ถ้าได้เงินเราไปปิดก็พอจะบางเบาไปบ้าง แล้วตกลงกับเราว่า
จะผ่อนคืนเราเดือนละ 3 พัน
รวมดอกเท่ากับเดือนละ 3,300฿ น่ะค่ะ (คือเค้าเป็นคนยื่นข้อเสนอให้เราคิดดอกเค้าร้อยละ 10 เองเพราะเค้าบอกว่ายังดีกว่าจ่ายเดือนละเป็นหมื่น)
และเราเองก็ต้องเสียดอกเหมือนกัน
แต่จนป่านนี้แล้วเรายังไม่ได้เงินคืนเลยสักบาทค่ะ
เราไม่ได้ทวงเค้าแต่เค้าก็บอกเราว่า
"พี่ยังไม่ได้เคลียร์อะไรนอกจากรถ /พี่ไม่ได้ลืมนะแต่พี่ขอเคลียร์นั่นนี่ /ลูกก็เข้าร.ร.อีก" อะไรทำนองนั้นซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงค่ะ
แต่ตอนนี้เรามาคิดๆดูแล้วแบบ เออจริงๆเค้าควรมาคืนมาทยอยคืนเรามั่งแล้วป่ะ พันสองพันไม่เอาดอกก็ได้ นี่ก็เดือนมิ.ย.60
แล้วเราก็กลัวว่าเราจะกลายเป็นหนี้อยู่คนเดียวโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมาน่ะค่ะ คือแบบเค้าจะไม่คืนเลยสักบาทก็ยังได้
เพราะไม่มีสัญญาการกู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร จะว่าเราโง่ก็ได้นะแต่มันเป็นเพราะเราเห็นแก่ญาติๆที่เค้าก็เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กเหมือนกันมันเลยพูดยาก
เราเองก็ลำบากใจที่จะทวงจริงๆ แต่มันถึงเวลาที่ต้องพูดบ้างแล้วล่ะ เลยอยากรู้ว่า
ควรจะต้องเริ่มพูดตรงไหนยังไงดีแบบถนอมน้ำใจน่ะค่ะ
เรื่องนี้พ่อแม่เราก็รู้ไม่ได้ซะอีกเพราะแกมีแพลนจะให้เรากู้เงินสวัสดิการก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นถ้าแกรู้ว่าเรากู้มาปิดสินเชื่อคงจะเป็นเรื่องขึ้นมาเลยเชียว เฮ้อ มันงงมันสับสนไปหมด เลยอยากได้คำแนะนำจากชาวพันทิปหน่อยค่ะ
ทวงเงินหลักหมื่นจากญาติคนนึงซึ่งลำบากกว่าเรา แบบถนอมน้ำใจควรพูดยังไงดีคะ
แต่ดูๆแล้วเป็นภาระหนี้มากเลยเราจึงตัดสินใจผู้เงินสวัสดิการมาปิดหนี้นั้นจำนวน 2 แสนบาทถ้วนโดยระยะการผ่อน 10 ปี
โดยหักจากเงินเดือนเราประมาณเดือนละ 2-3 พัน/เดือน และจะลดจำนวนการหักลงไปเรื่อยๆ และเราก็ไม่ได้มีภาระใดๆจึงมีเงินให้เค้ายืมค่ะ
ประเด็นอย่างย่อคือ พี่สาว ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง (สถานะลูกของลุงค่ะ) เค้ารู้เรื่องการกู้สินเชื่อธนาคารมาเพื่อหมุนภายในครอบครัวเรา
แต่เค้าและคนในครอบครัวเราไม่มีใครรู้ว่าเราได้กู้เงินสวัสดิการไปปิดแล้ว และปกติเค้าก็ไม่เคยมายุ่งหรือมาอะไรกับเงินเรานะ
แต่เมื่อมี.ค. 60 ที่ผ่านมาเค้ามีปัญหากับสามี(ที่ไม่เอาไหนและสมควรจะเลิกมาตั้งนานละ)
เค้าเลยจะหย่าและจะเคลียร์ภาระหนี้จะเคลียร์นั่นนี่ให้หมดจะได้จบๆไป
เค้าจึงมายืมเงินกู้เราไป 4 หมื่นเพื่อจะนำไปปิดหนี้นอกระบบ ซึ่งเดือนๆนึงดอกร้อยละ 20 รวมๆแล้วก็เกินเงินเดือนเค้าแหละ
และเราก็เห็นว่าเค้าลำบากกว่าเราเยอะ ถ้าได้เงินเราไปปิดก็พอจะบางเบาไปบ้าง แล้วตกลงกับเราว่า จะผ่อนคืนเราเดือนละ 3 พัน
รวมดอกเท่ากับเดือนละ 3,300฿ น่ะค่ะ (คือเค้าเป็นคนยื่นข้อเสนอให้เราคิดดอกเค้าร้อยละ 10 เองเพราะเค้าบอกว่ายังดีกว่าจ่ายเดือนละเป็นหมื่น)
และเราเองก็ต้องเสียดอกเหมือนกัน แต่จนป่านนี้แล้วเรายังไม่ได้เงินคืนเลยสักบาทค่ะ
แต่ตอนนี้เรามาคิดๆดูแล้วแบบ เออจริงๆเค้าควรมาคืนมาทยอยคืนเรามั่งแล้วป่ะ พันสองพันไม่เอาดอกก็ได้ นี่ก็เดือนมิ.ย.60
แล้วเราก็กลัวว่าเราจะกลายเป็นหนี้อยู่คนเดียวโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมาน่ะค่ะ คือแบบเค้าจะไม่คืนเลยสักบาทก็ยังได้
เพราะไม่มีสัญญาการกู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร จะว่าเราโง่ก็ได้นะแต่มันเป็นเพราะเราเห็นแก่ญาติๆที่เค้าก็เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กเหมือนกันมันเลยพูดยาก
เรื่องนี้พ่อแม่เราก็รู้ไม่ได้ซะอีกเพราะแกมีแพลนจะให้เรากู้เงินสวัสดิการก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นถ้าแกรู้ว่าเรากู้มาปิดสินเชื่อคงจะเป็นเรื่องขึ้นมาเลยเชียว เฮ้อ มันงงมันสับสนไปหมด เลยอยากได้คำแนะนำจากชาวพันทิปหน่อยค่ะ