เห็นที่เค้าเคลมไว้ว่า “ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง” ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที เพราะคิดว่ามันจะต้อง “ไม่กัดหน้า ไม่ทำให้เป็นสิว” แน่ๆ (เราเป็นคนผิวแพ้ง่ายด้วย) และก็ตรงตามความต้องการเรื่อง “ความขาวกระจ่างใส” ด้วย แต่ปกติแล้วเราจะคุ้นเคยกับ SMOOTH E ในเรื่องของ “รักษาริ้วรอยแผลเป็น” ซะส่วนใหญ่ ต้องมาดูกันว่าในเรื่องที่เค้าเคลมไว้มันจะจริงมากน้อยแค่ไหน



             เนื้อครีมอาจจะไม่ถูกใจทุกคนสักเท่าไหร่ เพราะ Texture แน่นมาก เวลาใช้จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เยอะเลย เพราะแค่บีบนิดเดียวก็สามารถเกลี่ยได้ทั่วหน้าแล้ว ความรู้สึกเวลาทาจะมีความเย็นหน่อยๆ กลิ่นก็หอมแบบอนามัยๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นหอมแบบแรงๆ อย่างเราเป็นที่สุด




            เค้าเคลมหนักมากว่า “White Speed เร็วใน 3 วัน” แต่รู้สึกว่าจะต้องใช้คู่กับ “เซรั่ม” ที่ออกใหม่มั้ง (แต่เราไม่ได้ซื้อมา -0-) แต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของ GARNIER มานานแสนนานว่า “ใช้แล้วขาวจริง!” แต่จะเหมาะกับเรามั้ย ต้องมาดูกันอีกที




    เนื้อครีมก็ปกติทั่วไปนะ ถ้ามองด้วยตาจะรู้สึกว่า “แน่น” แต่ความจริงก็ไม่ขนาดนั้น แต่สิ่งที่ไม่ถูกจริตเราเท่าไหร่ก็คือ “กลิ่น” มันเป็นมะนาวแบบมะน๊าววววววว เปิดกระปุกมากลิ่นตีจมูกสุด แต่พอได้ลองเกลี่ยๆ เราก็จะชินกับกลิ่นมันไปเอง





           แน่นอนว่าเค้าต้องเคลมเรื่อง “ผิวกระจ่างใส” อยู่แล้ว แต่ที่เพิ่มเติมมาคือ “ความอมชมพู” ด้วย แต่จะชมพูมั้ย ก็ต้องขึ้นอยู่ที่พื้นเพของผิวแต่ละคนด้วยนะ อย่างเราเป็นคนผิวขาวเหลือง ก็เลยไม่ได้คาดหวังความอมชมพู แต่ขอแค่รู้สึกผิวกระจ่างใสมาสักสเต็ปก็พอแล้ว




    เนื้อครีมคล้ายๆ กับ GARNIER คือมันก็เป็นครีมทั่วๆ ไป ตอนแรกคิดว่าทาแล้วจะรู้สึกหนักหน้า เพราะ Texture ของเนื้อครีมก็ดูเข้มข้นอยู่ แต่พอทาแล้วไม่เหนอะหนะอย่างที่คิด (แต่เรื่องของการซึมซาบต้องมาดูกันอีกทีนะ) ส่วนเรื่องกลิ่นก็หอมแบบอ่อนๆ เหมือนครีมที่แม่ใช้เลยค่ะ




            ชอบคำเคลมของแบรนด์นี้มาก ตรงที่ “ปรับเซลล์หมองคล้ำนับล้านๆ เซลล์ให้ดูจางลง” คือมันเกิดความคาดหวังขึ้นทันทีเลยว่า ผิวจะต้องขาวกระจ่างใสขึ้นแน่นอน และก็เป็นแบรนด์ที่เราชอบแพคเกจที่สุดเลย มีความเป็นผู้หญิงสวยๆ เหมือนตลับครีมของเจ้าหญิง ฮ่าๆ ><

    
             เนื้อครีมของ POND’S แน่นจริงอะไรจริง เหมือนครีมที่อยู่บนหน้าเค้ก คิดไว้แล้วว่าตอนเกลี่ยลงบนหน้าจะต้องรู้สึกเหนอะหนะแน่นอน แต่เอาจริงๆ แล้ว ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นสักเท่าไหร่ แต่ต้องใช้เวลา ส่วนกลิ่นก็หอมอ่อนๆ แบบผู้หญิ๊งผู้หญิง





       10 10 10 ไปเลยจ่ะ เห็นเค้าเคลมแล้วหน้ามาดามมดก็ลอยมาทันที ฮ่าๆ ถือว่าเคลมมาได้ตรงจุดนะ เพราะเราต้องการให้ผิวหน้าดูขาวขึ้น และก็กระจ่างใสด้วย ส่วนความอมชมพูก็เป็นผลพลอยได้ละกันเนอะ


        เนื้อครีมของ L’OREAL มีความแปลกกว่าแบรนด์อื่น ตรงที่มันเหมือน “โลชั่นทาผิว” มากกว่า “ครีมทาหน้า”  และสีครีมก็ออกสีฟ้าอ่อนๆ จนแอบตกใจเบาๆ ส่วนกลิ่นไม่ค่อยถูกจริตเราเท่าไหร่ มีความเป็น For Men มากๆ เหมือนกลิ่นเมนทอลอะไรทำนองนั้น ส่วนแพคเกจจิ้งก็แตกต่างจากเจ้าอื่น เพราะใช้วิธีกดๆ เอานะ







             อย่างที่บอกว่าเรารู้จัก SMOOTH E เพราะเค้าเด่นเรื่อง “รักษาริ้วรอยแผลเป็น” ตอนใช้เลยไม่ได้คาดหวังว่ามันจะทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขนาดนั้น แต่ปรากฎว่าหลังจากใช้ไปประมาณ 2-3 วัน หน้ารู้สึกชุ่มชื้นขึ้นมากดูฉ่ำน้ำ และพอใช้ไปอีกสักระยะ มันก็ช่วยเรื่องความคล้ำเสียของผิวหน้าได้จริงๆ เพราะเห็นได้ชัดเลยว่ามันช่วยปรับสีผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น แบบว่าผิวขาวเนียนละเอียดอะไรอย่างนี้ เลิฟทันที <3


            ผลลัพธ์หลังจากใช้ไม่กี่วันนั่นก็คือ “แพ้” ค่ะ สงสัยความมะนาวมันจะแรงจริงอะไรจริง แต่ก็มีหลายคนที่ใช้แล้วบอกว่าขาวจริงเหมือนกันนะ แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ “ผิวแพ้ง่าย” เท่าไหร่ เราเลยไม่สามารถให้คำตอบเรื่องขาว/ไม่ขาว ได้จริงๆ T^T


            ถ้าเรื่อง “ความกระจ่างใส” ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่สำหรับเรานะ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมกับตอนที่ไม่ได้ทา แต่รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น หน้านุ่มเบาๆ ก็ถือว่ายังดี ในราคาแค่นี้อะเนอะ และก็ไม่ได้มีความรู้สึกแพ้ หรือระคายต่อผิวใดๆ แค่อาจจะเหมาะกับเด็กวัยรุ่นมากกว่าล่ะมั้ง


            จริงๆ อันนี้เป็นครีมตัวแรกๆ ที่เราเคยได้ลองใช้เลยก็ว่าได้ แต่ที่เลิกใช้ไปก็เพราะว่า มันไม่ได้ทำให้หน้าเรากระจ่างใสขึ้นอย่างที่ต้องการสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ช่วยได้มากๆ เลยก็คือ “จุดด่างดำดูจางลง” แบบว่าใช้แค่ 7 วัน ก็เห็นได้ชัดเลยว่าจางลงจริงๆ เลยจะแนะนำสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาเรื่องจุดด่างดำก็แล้วกัน น่าจะตอบโทย์ได้ตรงจุดกว่า


            ตอนแรกที่บอกว่าเนื้อครีมมีสีฟ้าอ่อนๆ สิ่งที่กังวลมากก็คือ “หน้าวอก” แต่พอทาแล้วไม่เป็นแบบนั้น รู้สึกว่ามันปรับสีผิวของเราให้ดูสว่างขึ้นมา 1 สเต็ป และก็รู้สึกว่ามันพอจะทดแทนกับครีมกันแดดได้นิดหน่อย (ในวันที่แดดไม่ค่อยแรงอะนะ) หลังจากใช้มาสักระยะก็รู้สึกว่ามันลดเลือนริ้วรอยได้ดี ความกระจ่างใสไม่ได้เห็นผลมาก แต่ที่แน่ๆ ควบคุมความมันได้โอเคเลยอะ