สาวน้อยมหัศจรรย์ ตรีมูรติแห่ง DC Comic

สาวน้อยมหัศจรรย์ หรือ Wonder Woman ถือเป็น Trinity หรือ ตรีเอกานุภาพแห่ง DC Comic
ในคติโรมัน คาเทอริก ประกอบด้วย


ซุปเปอร์แมน
มนุษย์ค้างคาว
สาวน้อยมหัศจรรย์
โดยคอมมิคที่วางจำหน่าย เรียงลำดับจากข้างต้น สาวน้อยวางจำหน่ายอันดับสาม

สามตัวการ์ตูนมีพลังโดยรวมไล่เลี่ยกัน ไม่สามารถชนะกันเด็ดขาดได้ง่าย คล้ายกับตรีมูรติในคติฮินดู
แต่เมื่อทั้งสามรวมตัวกัน ยากหาผู้มาต่อกรได้


ประพันธ์โดย ดร.วิลเลียม โมลตัน มาร์สตัน ใช้นามปากกาว่า ชาร์ลส์ โมลตัน
นักจิตวิทยาผู้คิดค้นทฤษฎีที่นำไปสู่การประดิษฐ์เครื่องมือจับเท็จ
วาดภาพโดย  แฮร์รี จี. ปีเตอร์  

เปิดตัวครั้งแรกเมื่อธันวาคม 1941 ใน All Star Comics เล่ม 8 เล่าเรื่องราวเครื่องบินของสตีฟ เทรเวอร์
บินไปตกลงบนเกาะพาราไดซ์ และสตีฟได้เดินทางกลับอเมริกาพร้อมกับไดอาน่า

ต่อมาย้ายไปสังกัด Sensation Comics เล่ม 1 มกราคม 1942
และมีรวมเล่มเป็นของตนเอง เล่ม1 จำหน่าย มิถุนายน 1942


เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ สมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2


เป็นสัญลักษณ์ สิทธิสตรีอเมริกัน



เป็นสาวพรหมจรรย์ รักความถูกต้อง ไร้เล่ห์เพทุบาย


ผู้คู่ควรยก ค้อนโยเนียร์


ชาติกำเนิด

ต้นฉบับ ไดอาน่าเป็นลูกสาวของราชินีฮิพโพลิต้า เกาะเธอมิสซิล่า โดยนำดินหน้าบันไดวิหารเทพีอาเธน่า
มาปั้นแล้วชุบชีวิต แต่ฮาเดส(เทพแห่งโททารัส) พี่ของ ซุส และ โพไซดอน มักเปรยเสมอๆว่า
นางเป็นลูกสาวของเขาที่เกิดกับราชินีฮิพโพลิต้า ดังนั้นต้นกำเนิดของเธอจึงยังเป็นปริศนาอยู่

โททารัส บ่อแห่งวิญญาณของศาสนากรีก มีเทพฮาเดส เจ้าแห่งนรกเป็นผู้ดูแล มีทางเข้าอยู่ใต้นครเธอมิสซิล่า
ราชินีฮิพโพลิต้า อายุประมาณ700 ปีขึ้นไป เป็นแม่ของไดอาน่า
(ในคอมมิค ราชินีฮิพโพลิต้า เคยเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ มาก่อนไดอาน่า)


มาร์สตันผูกเรื่องจากตำนานกรีกที่เขาชื่นชอบ เรื่องของนักรบหญิงชาวอะเมซอนและเทพนิยายกรีก
ผนวกกับแนวคิดสังคมบรรพกาลที่หญิงเป็นผู้นำและแม่แบบ ก่อนที่ชายจะมีอำนาจเหนือกว่า

สาวน้อยประสบความสำเร็จอย่างงดงาม หลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะความรู้ในทางจิตวิทยาของเขา
ทำให้มาร์สตันรู้สูตรเขียนเรื่องโดนใจคนอ่าน เช่น ชุดแรกของสาวน้อยนั้นสวมกระโปรง
ก่อนเปลี่ยนเป็นกางเกงในอีกไม่กี่เล่มถัดมา ตลอดเวลาที่มาร์สตันเขียนสาวน้อยก่อนที่เขาเสียชีวิตนั้น
การ์ตูนชุดนี้ขายดีมาโดยตลอด หลังจากเขาเสียชีวิตยอดขายได้ตกลง

ยุค 70 มีการปรับปรุงตัวการ์ตูนเอกของบริษัท หลังขายกิจการให้ไทม์ วอร์เนอร์ของดีซีคอมิคส์
เทำให้มนุษย์ค้างคาวเป็นอัศวินรัตติกาล และให้คลาร์ก เคนท์ เป็นนักข่าวโทรทัศน์แทนนักนสพ.
สาวน้อยถูกเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เธอถูกลดพลังวิเศษ แม้แต่ชุดก็เปลี่ยน
แต่การเปลี่ยนแปลงคราวนี้ไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องแก้คืนในไม่กี่ฉบับ


การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสาวน้อยก็มาถึง หลังเหตุการณ์จัดระเบียบจักรวาลของดีซี
อย่าง Crisis on Infinite Earth การเริ่มต้นใหม่ของสาวน้อย
ประพันธ์โดย จอร์จ เปเรซ คนวาดภาพ

เปเรซ ขณะนั้นเป็นนักวาดผู้โด่งดังติดอันดับหนึ่งในวงการด้วยลายเส้นที่มีรายละเอียด
และสร้างสรรค์ตัวละครมากมาย ได้นำสาวน้อย กลับสู่รากเหง้าเดิมที่ มาร์สตัน สร้างสรรค์ไว้
แต่มีการเปลี่ยนแปลงจากโลกยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายมาเป็นยุคปัจจุบันแทน
ชุดยังคงแบบเดิมที่ดัดแปลงจากธงชาติสหรัฐ แต่ปรับเปลี่ยนบ้างนิดหน่อย
และเหล่าเทพเจ้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชาวอะเมซอน จากเดิมมาร์สตัน นำชื่อเทพกรีกและโรมันมาผสมกัน
โดยเน้นจากความคุ้นหูเป็นหลัก เปเรซเปลี่ยนชื่อโดยยึดจากกรีกเป็นหลัก

ที่เปลี่ยนไปมากคือตัวของสาวน้อยเอง จากที่เป็นลูกสาวในไส้ของราชินีฮิปโปลิต้า(ฮาเดสเป็นพ่อ)
เปลี่ยนให้เธอเป็นลูกสาวที่ฮิปโปลิต้าอยากได้ แต่ไม่อาจมีได้จึงอ้อนวอนจากพระแม่ธรณีไกอา
โดยได้ปั้นดินขึ้นเป็นตัวไดอาน่า แล้วไกอาชุบชีวิตให้เธอ ฮิปโปลิต้ารับเธอเป็นลูกสาว

แก้ให้เธอเหาะเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งวิมานล่องหนอีก
พลังกายแกร่งขึ้นพอๆกับซูเปอร์แมน และเลิกปลอมตัวเป็น ไดอาน่า พรินซ์ ไปซะ

เปเรซเห็นว่าเธอมาจากโลกที่บริสุทธิ์เกินกว่า ที่จะคิดเรื่องปลอมตัวได้
และเธอมีฐานะเป็นราชฑูตจากเกาะเธอมิสคิร่า จึงไม่จำเป็นต้องปลอมตัวอยู่ในสังคมมนุษย์
นับจากนั้นจักรวาลดีซีนับเอาสาวน้อยจากแนวคิดของจอร์จ เปเรซเป็นมาตรฐานต่อมาจนถึงปัจจุบัน
โดยแต่งเสริมว่าสาวน้อยที่ปรากฏตัวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้น คือฮิปโปลิต้าแม่ของไดอาน่านั่นเอง


คอมมิค The New 52 ปี 2011 เขียนกำเนิดของเธอใหม่ว่า เป็นธิดาของราชินีฮิพโพลิต้า และซุส
ทำให้เธอเป็นลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพ แต่แม่เล่าให้ฟังว่า ปั้นไดอาน่ามาจากดินแล้วขอให้ซุสชุบชีวิต
และเธอนั้น มีน้องชายฝาแฝด


อาวุธประจำกาย


สัจจะบาศ หรือ บ่วงสารภาพ

เดิมคือ ประคดทองคำของไกอา เทพมารดรแห่งเขาโอลิมปัส
เมื่อบ่วงรัดเหยื่อยากจะดิ้นหลุด และกล่าวคำจริงเมื่อถูกถาม

ใช้รัดและชักพระอาทิตย์

ดึงคนออกจากหลุมดำ



บ่วงบาศ มีใช้แต่สมัยอียิปต์ จากภาพสลักนูนต่ำ ฟาโรห์เซติขว้างบ่วง วิหารอบิดอส


ยมบาศ หรือ บ่วงคร่าวิญญาณ อาวุธของพระยม ผู้ใดต้องบ่วงต้องตายทุกคน
จึงมีสาวกบางคนอ้อนวอนมหาเทพศิวะมาแก้บ่วงพระยม


วลัยคู่ไร้พ่าย


วลัย(กำไล) หรือ สนับแขนเงิน ดัดแปลงจากโล่ของซุส
ป้องกันการโจมตีทุกรูปแบบ และสะท้อนพลังนั้นกลับไปหาศัตรู


รัดเกล้าหลวง

เครื่องแสดงอิสริยยศ อิสริยศักดิ์ เจ้าหญิงแห่งเธอมิสซิล่า
และใช้ต่างกงจักรได้ โดยบินกลับมายังผู้ใช้


ภาพวาด ทรงผมสาวกรีกโบราณ สวมรัดเกล้า


รัดเกล้า แสดงอิสริยยศ อิสริยศักดิ์

Ancient Egyptian amuletic winged globe, by Carlo and Arthur Guiliano, London, c. 1900.

amuletic winged globe set centrally with a citrine, by Child and Child, c. 1900.


ชุดเกราะ

ชุดเกราะหลักที่ไดอาน่าสวมใส่ เบา คล่องตัว มีพาหุรัดป้องกันต้นแขน
แต่มีเกราะชุดใหญ่ซึ่งป้องกันหัวไหล่ ศีรษะ น่อง หนักกว่า เคลื่อนไหวลำบาก


โล่
ในหนังสาวน้อย กับ ซุปตบแบท โล่หน้าตาต่างกัน จึงไม่สามารถระบุได้แน่ชัด

ว่าในหนังสาวน้อยคือโล่ใด

แต่ใน ซุปตบแบท น่าจะเป็นโล่อาเธน่า

จารึกอักษรกรีกโบราณรอบวงโล่ อ่านจากซ้ายไปขวา

AΛΡΙFΑΛΨFΑΛΑ ΘΣΑΗΣΑΔΑΤΙΚΑ ΗΣΑΖΟΘΡΑΣΑ ΡΑΤΙΨFΑΗΑΣΑΤΙ
↑ΥFΑΝΑΜΡΑΜΑΝ ΤΑΜ ↑UFΑΝΑΜΛ ΑΤΙΥFΛΗΣΑΤΙ ΑΤΗΘΑΒΑΛΑΝΤ

ดาบ
ในหนังสาวน้อย กับ ซุปตบแบท ดาบหน้าตาต่างกัน จึงไม่สามารถระบุได้แน่ชัด


ดาบในหนังสาวน้อย คือ ดาบเทวทัณฑ์  ตีโดยเทพไททัน


แต่ใน ซุปตบแบท น่าจะเป็นดาบอาเธน่า


จารึกอักษรกรีกโบราณ ในร่องเลือดของใบดาบ ภาพจากงานComic-Con ซานดิเอโก้ 2015

แถวบน     ↑ΥFΑΝΑΜΡ ΑΜΑΝΤΑΙΝΑΜΡ ΑΜΑΝΙΑΜ↑ΥFΑ∀AΜΛΑ ΤΙΨΡΑHΑΣ
แถวกลาง  ΑΤΙΑΤΙΙΘΑΡΑΛΑΝΨΑΤΙΙΘΑΡΑNΨΑ ΛΡΙΕΑΓΨΕΑΡΑΘΣΑΗΣ
แถวล่าง    ΑΔΑΤΙΚΑ ΗΣΑΖΑOΘΡΑΣΑΛΑΤΙΨ HΑΗΑΣΑΤII


รูปสลักนกอินทรีเท้าเกี่ยวสายฟ้า ที่โคนใบดาบ สัญลักษณ์เทพซุส


ต้นแบบมาจากเหรียญกษาปณ์ สมัยพระเจ้าทอเลมีที่ 3 ยูเออร์เกดตีส ราชาแห่งอียิปต์



ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่