พักกายพักใจ ที่กุ้ยหลินเมืองไทย

เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน  ไม่ไหวแล้ว  พลังงานชีวิตใกล้หมด   ถึงเวลาชาร์ตแบทกันสักที  ที่ไหนก็ได้สักแห่งที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์  แต่สัญญาณใจขอให้มีก็พอ  (มุขเสี่ยวๆ😁)    ติ๊กต็อคๆๆ  คิดออกแล้ว ไปกุ้ยหลินเมืองไทยกันดีกว่า   "เขื่อนเชี่ยวหลาน" แห่งเมืองหอยใหญ่  แหล่งธรรมะ นี้ไง

นั่งเครื่องจากกรุงเทพโดยสายการบินแอร์เอเซีย รอบ 7.10 น. มาถึง สนามบินสุราษธานี 8.10 น.  ตรงเวลาดีมาก   รอรถของทางแพมารับ
9.00   น. ขึ้นรถจากสนามบินไปที่ท่าเรือ เดินทาง 1 ชม.
10.00 น  ถึงท่าเรือ
11.30 น  ขึ้นเรือไปที่พัก  เป็นเวลา 30 นาที
12.00 น. ถึงที่พักในเขื่อน


เราเลือกพักที่ แพพันวารีย์ เพราะ เป็นแพแห่งเดียวที่ด้านหลังติดภูเขาสวยและมีห้องน้ำในตัว  
จองช้าไปสักหน่อย  ได้ห้องพักชั้น 2 ถึงแม้จะไม่มีท่าน้ำส่วนตัว แต่วิวจากห้องนี้ สวยถูกใจมาก ให้อภัยๆ

มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องกันดีกว่า  มีทีวี  แอร์  พัดลม ตู้เย็นครบครัน  ไม่ได้ถ่ายรูปห้องน้ำ(เป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปห้องน้ำ ฮ่าๆ คงไม่ว่ากันเหนาะ)

เก็บข้าวของเข้าที่พักเรียบร้อย  เป็นอาหารมื้อแรกที่ทางพันวารีย์จัดมาต้อนรับ ไข่เจียว  ต้มไก่ขมิ้น  คั่วกลิ้งหมู ผัดผักรวมมิตร   2 คน กินกันไม่หมด
อิ่มแต่เราไม่นอน   มาถึงกุ้ยหลินจะหลับตาลงได้ยังไง ไปออกกำลังกายกันสักหน่อย
ตอนพายเรือคายัค  นึกถึงตอนไปวังเวียง   บรรยากาศใช่เลย  แต่ เฮ้ย  มันสวยกว่ามาก  นี้ก็บลูลากูนกว้างกว่าตั้งเยอะ
ช่วงเวลานี้ไฟฟ้าจะไม่มีให้บริการ  ต้องหลัง 5โมงเย็น เท่านั้น   เพราะฉนั้นเราต้องทำกิจกรรมเท่านั้น  มีเล่นน้ำ  พายเรือ  หรือไป ไปถ้ำประการัง ซึ่งต้องจ่ายเพิ่มจากแพ็คเกจ  พายเรือจนเหนื่อย ขึ้นมาอาบน้ำ อาบท่า  รอ16.30 น.  ทางพันวารีย์  จะไปไปล่องเรือ ชมเขา3 เกลอกัน
อ้อลืม   มีที่พักเหนื่อยแบบชิลๆ ด้วยนะ เป็นตาข่ายที่ขึงเอาไว้ ให้นอนชมวิวรับลม
ท้องฟ้าสดใส สายลมพริ้วไหว กลิ่นไอแสงแดด  เติมเต็มชีวิต ที่อ่อนล้าได้ดีทีเดียว

16.30 น.  ถึงเวลาล่องเรือ ชมเขาสามเกลอ  แสงแดดอ่อนๆกระทบผิวน้ำ ช่างงดงามดั่งมีมนต์สะกด

ระดับในเขื่อนนี้มีความลึกมาก   ไกด์บอกว่า ถ้าหากทำโทรศัพท์ตกไป  ไม่มีใครงมให้นะคับ

เมื่อถึงจุดชมวิว ที่ทุกคนมาต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ไกด์จะจอดเรือนิ่งสนิทเพื่อให้เราถ่ายรูปกัน  นางแบบได้แค่นี้ก็ยืดขาสุดๆแหละ 👯😅
18.00 น ก็พาเรากลับมายังที่พัก  เพื่อกินมื้อเย็น
ระหว่างรออาหารมื้อเย็น มาชิมออเดริฟก่อน  อันนี้เอามาเองจากฝั่ง แต่ทีแพก็มีจำหน่ายนะ
ระหว่างลิ้มลองความละมุนจากแก้วนี้  มีเจ้าหน้าที่ทางแพ มาร้องเพลง ดีดกีตาร์ให้ฟังสดๆกันเลย  ชิลอะไรเยี่ยงนี้
มาดูหน้าตาอาหารมื้อเย็นกันจร้า  ปลาราดพริก  แกงส้มยอดมะพร้าว  กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา  แกงจืดแตงกวายัดไส้หมูสับ  จัดไว้ให้เป็นโต๊ะๆ  ไม่นั่งรวมกับกลุ่มอื่น
อิ่มอร่อย  สดใหม่   หลับสบายแหละคืนนี้  ตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างใช้ได้ปกติ เปิดแอร์นอนให้เย็นช่ำเลย
เดียวพรุ่งนี้ ยังมีเที่ยวต่ออีก 1 วัน  จากแพ็คเกจแพพันวารีย์ 2 คืน 1 วัน
ปิดท้ายคืนนี้ด้วยความทรงจำที่เต็มอิ่ม  
ฉันรักท้องฟ้า  ทะเล  สายน้ำและธรรมชาติที่งดงามอยากให้ทุกคนรักและดูแล เพื่อให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสตลอดไป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่