ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้ลองศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับหูฟังบลูธูทแบบไร้สายรุ่นใหม่ๆ เพราะตัวเก่าเริ่มงอแงหลังจากที่ใช้งานมา 1 ปี (ตัวเก่าเป็น Bluetooth Earbud แบบ2หูที่มีสายเชื่อมต่อระหว่างข้างขวาและข้างซ้าย ไม่ขอบอกยี่ห้อนะครับ แต่มีเคลมเปลี่ยนใหม่ทั้งอันไป 1 ครั้ง) ซึ่งจากที่เข้าไปอ่านในรีวิวจากท่านอื่นๆ ก็จะเจอปัญหาเดียวกันคือปุ่มกดเปิดปิดและเร่งเสียงจะเริ่มรวนเมื่อเปียกเหงื่อทั้งที่เคลมว่ากันน้ำ (บางคนบอกว่าไม่ทันเปียกเหงื่อเลยใช้แค่ไม่กี่วันปุ่มก็พังแล้ว) ซึ่งอาการนี้จะเป็นทุกครั้งที่เหงื่อไหลไปโดนปุ่มกดจะทำให้ใช้งานปุ่มไม่ได้ ต้องทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งจึงจะสามารถกลับมาใช้งานได้แต่ก็ยังมีรวนเป็นพักๆ จนล่าสุดนี่ไม่สามารถกดอะไรได้อีกเลย จึงจำเป็นต้องรีบหาตัวใหม่มารองรับ ซึ่งก็ได้ไปเจอกับเจ้า X2T ในเว็บไซต์นึงที่มีคนมารีวิวเจ้าตัวนี้ไว้ ก็เริ่มสนใจและหาข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งค่อนข้างจะหายากอยู่สักหน่อยเนื่องจากยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย อาจจะด้วยข้อจำกัดของสินค้าทำให้ไม่ตรงกับความต้องการของคนไทยหรือเพราะยังใหม่เกินไปก็ไม่ทราบ ผมก็เลยต้องเข้าไปค้นคว้าเอาตามเว็บไซต์ต่างประเทศ จนสุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อเมื่อได้ไปพบกับตัวเป็นๆ ที่ห้างดังแห่งหนึ่งที่เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ และได้ทำการทดลองใช้
เจ้า X2T นี้มีชื่อเต็มตามชื่อข้างหลังกล่องว่า X2T TWS Wireless Earphone แต่บางเว็บไซต์ก็จะตั้งชื่อให้มันแตกต่างกันไป (ไม่รู้ว่าทำไมต้องไปตั้งชื่ออะไรให้มันเยอะแยะมากมาย) แต่รวมๆ แล้วก็ประมาณว่า X2T Mini TWS Bluetooth Earbud ซึ่งคำว่า TWS ย่อมาจาก True Wireless Stereo ซึ่งถ้าแปลตรงตัวแบบคำต่อคำก็คือ “หูฟังบลูธูทไร้สาย(จริงๆ)เสียงสเตริโอแบบเสียบหูขนาดจิ๋ว” กล่าวคือมันเป็นหูฟังที่มี 2 หูแต่ไม่มีสายเชื่อมต่อระหว่างข้างซ้ายกับข้างขวาเพราะใช้สัญญาณบลูธูทเชื่อมต่อแทนจึงเป็นหูฟังบลูธูทไร้สายขนานแท้ไม่ต้องมีสายระโยงระยางให้เกะกะหรือรำคาญและไม่มีปุ่มกดที่สายให้ต้องเปียกเหงื่อแล้วรวนอีกต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าครับ
ผมต่อรองเจ้านี่มาได้ในราคา 1,xxx บาท จากราคาตั้งต้น 2,xxx บาท (ซื้อในเว็บถูกกว่านี้แน่นอน แต่ผมเลือกซื้อกับหน้าร้านเพราะได้เห็นได้ลองและเป็นร้านที่ซื้อของอย่างอื่นประจำจึงไว้ใจได้) ผมเลือกสีดำจากที่มีให้เลือก 3 สีในร้าน (อาจมีสีมากกว่านี้ถ้าซื้อจากร้านอื่นหรือในเน็ต) กล่องที่ใส่บรรจุสินค้ามาเป็นกล่องกระดาษแข็งแบบเรียบๆ มีฝาพลาสติกใสเพื่อให้เห็นผลิตภัณฑ์ข้างในชัดเจน ดูแล้วค่อนข้าง “cheap” ไปหน่อยเมื่อเทียบสินค้ากับราคาขนาดนี้
แต่เมื่อแกะกล่องออกมาและได้สัมผัสกับตัวผลิตภัณฑ์ก็รู้สึกได้ถึงความ “luxury” ของมันตั้งแต่การออกแบบและวัสดุที่ใช้ซึ่งถือว่าทำได้ดีทีเดียว อุปกรณ์ภายในประกอบด้วย 1.หูฟัง 2.เคสสำหรับเสียบเก็บหูฟัง 3.ซองผ้ากำมะหยี่สำหรับใส่เคสและอุปกรณ์ 4.จุกยางเล็กใหญ่สามคู่สามขนาด 5.สายชาร์จ 6.คู่มือการใช้งาน
ทีนี้เรามาดูจุดเด่นจากการใช้งานของเจ้า X2T นี่กันครับ
1. อันดับแรกเลยต้องบอกว่าประทับใจกับรูปทรงและวัสดุของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นหูฟังทรงกลมที่ผลิตจากพลาสติกมันวาวเกรดดีดูแข็งแรงไม่ก๊อกแก๊กเหมือนของคู่แข่งที่วางอยู่ข้างๆ แถมยังขนาดกำลังดีน้ำหนักเบาให้ความรู้สึกมั่นใจว่าใส่แล้วกระชับไม่หลุดหรือทำให้หนักหูแน่นอน ตัวหูฟังฝังชิพที่มีสัญญาณบลูธูท 2 พอร์ท คือพอร์ทที่ใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์และพอร์ทที่ใช้เชื่อมต่อกันเองระหว่างหูทั้ง 2 ข้าง ขนาดของหูฟังแม้จะไม่จิ๋วสมชื่อแต่ถ้าเทียบว่ามันต้องจุทั้งชิพต่างๆพร้อมแบตเตอรี่และลำโพงอยู่ภายในด้วยแล้วก็ต้องถือว่าออกแบบมาได้กะทัดรัดทีเดียว
หรือจะเป็นเคสสำหรับเสียบเก็บหูฟังรูปทรง power bank ขนาดสี่เหลี่ยมที่มีโค้งด้านข้างผลิตจากพลาสติกดำด้านเกรดดี แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอลูมีเนียมราคาสูง ขนาดกระทัดรัดน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
หรือแม้แต่ซองผ้ากำมะหยี่สำหรับใส่เคสและอุปกรณ์ต่างๆ ให้สัมผัสหรูและยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนในยามพกพาติดตัวไปในทุกๆ ที่อีกด้วย ซึ่งทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่านี่คือที่มาว่าทำไมกล่องใส่ผลิตภัณฑ์ถึงดูราคาถูกเพราะเมื่อเราแกะของทั้งหมดออกใส่ในซองผ้าแล้วกล่องมันก็จะถูกทิ้งทันที
โดยรวมจากความรู้สึกส่วนตัวผมแล้วพอใจกับ “look and feel” ที่ได้จากผลิตภัณฑ์เลยทีเดียว ให้ 4 เต็ม 5 ครับ
2. เคสสำหรับเสียบเก็บหูฟังรูปทรง power bank นั้นนอกจากจะดูหรูหราแล้วยังเป็นที่ชาร์จไฟและสำรองไฟในตัวอีกด้วย ที่ตัวเคสจะมีช่องเสียบ micro usb สำหรับชาร์จไฟเข้าสำรองในตัวเคส ส่วนที่ตัวหูฟังและภายในช่องเสียบหูฟังที่ตัวเคสจะมีขั้วเล็กๆ ฝั่งละ 2 ขั้วเป็นฉนวนชาร์จไฟ เวลาที่เราเสียบหูฟังเก็บเข้าไปในตัวเคสมันก็จะทำการชาร์จไฟอัตโนมัติ ซึ่งในการสำรองไฟในเคสให้เต็ม100% นั้นสามารถชาร์จหูฟังได้ 5-6 ครั้งเลยทีเดียว (ตามที่อ่านเจอในรีวิวของคนอื่นอีกทีนะครับ ส่วนของจริงยังใช้งานไปไม่ถึงขนาดนั้นเลยไม่รู้ว่าได้เท่านั้นจริงหรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวแล้วได้สัก 3-4 ครั้งผมก็แฮปปี้แล้วครับ 555) ข้อดีอีกอย่างนึงของการชาร์จไฟในเคสคือที่หูฟังไม่ต้องมีช่องเสียบชาร์จไฟเพื่อความสวยงาม (บางยี่ห้อต้องชาร์จไฟที่ตัวหูฟังจึงมีช่องเสียบสายชาร์จที่หูฟังดูไม่สวยงาม)
โดยรวมแล้วข้อนี้ผมให้ 4.5 เต็ม 5 เลยครับ
3. เสียงคุณภาพคับหูจริงๆ ต้องบอกว่าสำหรับหูฟังขนาดเล็กที่ต้องรวมทั้งชิพและแบตเตอรี่ไว้ข้างในด้วยกันขนาดนี้แล้วยังสามารถจุลำโพงที่ให้เสียงครบทั้ง bass และ treble จนคุณสามารถแยกเสียงจากต้นกำเนิดเสียงต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในการฟังเพลง หรือเสียงจากปืนกลรถถังเครื่องบินในการดูหนังสงคราม เป็นอะไรที่ทำให้ผมอึ้งไปเลยทีเดียว ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมได้ทดลองฟังเสียงของเจ้า X2T นี้ผมถึงกับต้องแอบยิ้มมุมปากเลยทีเดียว (ต้องแอบยิ้มเก็บอาการไม่ให้คนขายเห็นจะได้ต่อรองราคาง่ายหน่อย อิอิ) เพราะวันนั้นที่ตั้งใจไปเดินหาซื้อหูฟังใหม่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจจะเลือกเจ้าตัวนี้ แต่ใช้เวลา3ชั่วโมงเดินเลือกและทดลองหลายๆ ยี่ห้อที่เป็นประเภทเดียวกันก็รู้สึกผิดหวังกับทุกยี่ห้อที่ได้ลองยกเว้นเจ้าตัวนี้ล่ะ
โดยรวมแล้วข้อนี้ผมให้ 4.5 เต็ม 5 เลยครับ
4. ชาร์จเต็มภายใน 1-2 ชั่วโมง แสตนด์บายนาน 60-120 ชั่วโมง ใช้งานนาน 3-6 ชั่วโมง ข้อนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ที่ชัดเจนเพราะพึ่งเริ่มใช้งานได้ไม่กี่วัน และแต่ละเว็บที่เข้าไปหาข้อมูลก็ได้มาไม่เหมือนกัน แต่เท่าที่ใช้ดูก็ไม่ต่ำกว่านี้แน่นอนครับ ซึ่งสำหรับผมแค่นี้เหลือเฟือจนเกินความจำเป็นครับ เพราะผมใช้งานต่อเนื่องนานสุดก็ 1.5-2 ชั่วโมงต่อครั้ง (เวลาเดินทางจากบ้านมาออฟฟิศด้วยรถไฟฟ้า) ใช้เสร็จก็เสียบกลับเข้าเคสแป็บเดียวก็เต็มอีก เอาออกมาใช้อีกแล้วก็เสียบกลับเข้าไป วนไปวนมาอยู่อย่างนี้แบตไม่มีวันหมดแน่นอน
โดยรวมแล้วข้อนี้ผมให้ 5 เต็ม 5 ไปเลยครับ
คราวนี้เรามาดูจุดด้อยของเจ้า X2T กันบ้าง
1.สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ IOS เท่านั้นจึงจะเสถียรที่สุด การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรืออื่นๆ ยังต้องมีการพัฒนาอีกมากเพราะไม่เสถียรเอาเสียเลย คือ สัญญาณติดๆดับๆ เสียงขาดๆหายๆ ตลอดการใช้งานไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนก็แล้วแต่ ส่วนกับ IOS นั้นก็ใช่ว่าจะ 100% ตลอดเวลา ยังมีบาง moment ที่เสียงขาดหายไปเช่น อยู่ในพื่นที่ที่มีคลื่นประเภทอื่นรบกวนเยอะๆ ขยับศรีษะไปมาแบบกระทันหันแบบเวลาที่หันขวับไปมองด้านข้างหรือด้านหลัง หูฟังกับอุปกรณ์อยู่ห่างกันแบบมีสิ่งกีดขวางเยอะๆหรือกำแพงหนาๆ
2.ห้ามหลุดจากหูหรือหล่นลงพื้นเด็ดขาด หูฟังบลูธูทแบบสองหูรุ่นอื่นๆ เวลาหลุดจากหูก็ไม่ร่วงลงพื้นแน่นอนเพราะมีก้านหรือมีสายรั้งไว้ แต่ถ้าเป็นรุ่นนี้หลุดก็ร่วงถึงพื้นคว้าไม่ทันแน่นอน และถ้าหล่นถึงพื้นเมื่อไหร่ก็ทำใจได้เลยว่าพังแน่ เพราะฉนั้นเวลาใช้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องเลือกขนาดของจุกยางให้พอดีกับรูหูเพื่อความกระชับไม่ให้หลุดร่วงลงมาได้ ขณะสวมใส่ก็ให้ตรวจเช็คอยู่ตลอดเวลาว่ามันเข้าที่ดี หากต้องการใช้งานขณะออกกำลังกายควรเป็นการออกกำลังกายอยู่กับที่ ไม่ควรใส่ทำกิจกรรมที่ต้องออกท่าออกทางขยับศรีษะหมุนตัวไปมาอยู่ตลอดเวลาเพราะจะหลุดได้ง่าย
3.เรื่องอะไหล่ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเปลี่ยนแน่นอน ถ้าพังก็เคลมอันใหม่อย่างเดียว แต่ถ้าพังตอนหมดประกันก็เตรียมซื้อใหม่ได้เลย เพราะฉนั้นเลือกร้านที่รับประกันนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ (แต่ละร้านรับประกันไม่เท่ากัน) และเป็นร้านที่เชื่อถือได้ (บางร้านเล่นแง่อ้างนู่นนี่นั่นไม่ยอมให้เคลม)
ภาพรวมจากที่รีวิวมาทั้งหมด ผมมีความสุขกับเจ้า X2T มากครับ เรื่องราคากับความคุ้มค่านี่ต้องพูดถึงบ่อยๆ เพราะได้ของคุณภาพสูงในราคาที่ถูกมาก เรื่องการใช้งานนี่ก็ต้องเม้าท์มอยให้เพื่อนได้อิจฉากันเพราะมันตอบโจทย์คนฟังดนตรีอย่างผมที่ได้ฟังเสียง treble ใสๆ bass หนักๆ ทุกวัน วันละ 3-4 ชั่วโมงแบบไม่มีติดขัด เรื่องความสะดวกสบายนี่ก็ต้องประทับใจกันไปอีกนานเพราะอยู่กับมันทุกวันถ้าไม่สะดวกสบายก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันรุ่นไกล้เคียงกันในระดับราคาที่เท่าๆกันผมบอกได้เลยว่า X2T ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ อย่าไปเทียบกับของแบรนด์เนมราคาเหยียบหมื่นนะ ผมไม่อยากเทียบจริงๆ เพราะถือเป็นการชกข้ามรุ่น แล้วผมเองก็ไม่คิดจะไปไกลขนาดนั้น (แต่ถ้าให้ชกข้ามรุ่นกันจริงๆ เจ้า X2T ก็ไม่ยอมแพ้แบบโยนผ้าแน่ๆ คู่ต่อสู้ก็ต้องมีหอบแฮ่กๆล่ะ ครับ)
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ที่กำลังหาซื้อหูฟังอันใหม่อยู่นะครับ และหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็เข้ามาช่วยกันเม้นต์กันแชร์ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ
[CR] รีวิวหูฟังไร้สาย X2T Mini TWS Bluetooth Earbud
เจ้า X2T นี้มีชื่อเต็มตามชื่อข้างหลังกล่องว่า X2T TWS Wireless Earphone แต่บางเว็บไซต์ก็จะตั้งชื่อให้มันแตกต่างกันไป (ไม่รู้ว่าทำไมต้องไปตั้งชื่ออะไรให้มันเยอะแยะมากมาย) แต่รวมๆ แล้วก็ประมาณว่า X2T Mini TWS Bluetooth Earbud ซึ่งคำว่า TWS ย่อมาจาก True Wireless Stereo ซึ่งถ้าแปลตรงตัวแบบคำต่อคำก็คือ “หูฟังบลูธูทไร้สาย(จริงๆ)เสียงสเตริโอแบบเสียบหูขนาดจิ๋ว” กล่าวคือมันเป็นหูฟังที่มี 2 หูแต่ไม่มีสายเชื่อมต่อระหว่างข้างซ้ายกับข้างขวาเพราะใช้สัญญาณบลูธูทเชื่อมต่อแทนจึงเป็นหูฟังบลูธูทไร้สายขนานแท้ไม่ต้องมีสายระโยงระยางให้เกะกะหรือรำคาญและไม่มีปุ่มกดที่สายให้ต้องเปียกเหงื่อแล้วรวนอีกต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าครับ
ผมต่อรองเจ้านี่มาได้ในราคา 1,xxx บาท จากราคาตั้งต้น 2,xxx บาท (ซื้อในเว็บถูกกว่านี้แน่นอน แต่ผมเลือกซื้อกับหน้าร้านเพราะได้เห็นได้ลองและเป็นร้านที่ซื้อของอย่างอื่นประจำจึงไว้ใจได้) ผมเลือกสีดำจากที่มีให้เลือก 3 สีในร้าน (อาจมีสีมากกว่านี้ถ้าซื้อจากร้านอื่นหรือในเน็ต) กล่องที่ใส่บรรจุสินค้ามาเป็นกล่องกระดาษแข็งแบบเรียบๆ มีฝาพลาสติกใสเพื่อให้เห็นผลิตภัณฑ์ข้างในชัดเจน ดูแล้วค่อนข้าง “cheap” ไปหน่อยเมื่อเทียบสินค้ากับราคาขนาดนี้
แต่เมื่อแกะกล่องออกมาและได้สัมผัสกับตัวผลิตภัณฑ์ก็รู้สึกได้ถึงความ “luxury” ของมันตั้งแต่การออกแบบและวัสดุที่ใช้ซึ่งถือว่าทำได้ดีทีเดียว อุปกรณ์ภายในประกอบด้วย 1.หูฟัง 2.เคสสำหรับเสียบเก็บหูฟัง 3.ซองผ้ากำมะหยี่สำหรับใส่เคสและอุปกรณ์ 4.จุกยางเล็กใหญ่สามคู่สามขนาด 5.สายชาร์จ 6.คู่มือการใช้งาน
ทีนี้เรามาดูจุดเด่นจากการใช้งานของเจ้า X2T นี่กันครับ
1. อันดับแรกเลยต้องบอกว่าประทับใจกับรูปทรงและวัสดุของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นหูฟังทรงกลมที่ผลิตจากพลาสติกมันวาวเกรดดีดูแข็งแรงไม่ก๊อกแก๊กเหมือนของคู่แข่งที่วางอยู่ข้างๆ แถมยังขนาดกำลังดีน้ำหนักเบาให้ความรู้สึกมั่นใจว่าใส่แล้วกระชับไม่หลุดหรือทำให้หนักหูแน่นอน ตัวหูฟังฝังชิพที่มีสัญญาณบลูธูท 2 พอร์ท คือพอร์ทที่ใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์และพอร์ทที่ใช้เชื่อมต่อกันเองระหว่างหูทั้ง 2 ข้าง ขนาดของหูฟังแม้จะไม่จิ๋วสมชื่อแต่ถ้าเทียบว่ามันต้องจุทั้งชิพต่างๆพร้อมแบตเตอรี่และลำโพงอยู่ภายในด้วยแล้วก็ต้องถือว่าออกแบบมาได้กะทัดรัดทีเดียว
หรือจะเป็นเคสสำหรับเสียบเก็บหูฟังรูปทรง power bank ขนาดสี่เหลี่ยมที่มีโค้งด้านข้างผลิตจากพลาสติกดำด้านเกรดดี แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอลูมีเนียมราคาสูง ขนาดกระทัดรัดน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
หรือแม้แต่ซองผ้ากำมะหยี่สำหรับใส่เคสและอุปกรณ์ต่างๆ ให้สัมผัสหรูและยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนในยามพกพาติดตัวไปในทุกๆ ที่อีกด้วย ซึ่งทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่านี่คือที่มาว่าทำไมกล่องใส่ผลิตภัณฑ์ถึงดูราคาถูกเพราะเมื่อเราแกะของทั้งหมดออกใส่ในซองผ้าแล้วกล่องมันก็จะถูกทิ้งทันที
โดยรวมจากความรู้สึกส่วนตัวผมแล้วพอใจกับ “look and feel” ที่ได้จากผลิตภัณฑ์เลยทีเดียว ให้ 4 เต็ม 5 ครับ
2. เคสสำหรับเสียบเก็บหูฟังรูปทรง power bank นั้นนอกจากจะดูหรูหราแล้วยังเป็นที่ชาร์จไฟและสำรองไฟในตัวอีกด้วย ที่ตัวเคสจะมีช่องเสียบ micro usb สำหรับชาร์จไฟเข้าสำรองในตัวเคส ส่วนที่ตัวหูฟังและภายในช่องเสียบหูฟังที่ตัวเคสจะมีขั้วเล็กๆ ฝั่งละ 2 ขั้วเป็นฉนวนชาร์จไฟ เวลาที่เราเสียบหูฟังเก็บเข้าไปในตัวเคสมันก็จะทำการชาร์จไฟอัตโนมัติ ซึ่งในการสำรองไฟในเคสให้เต็ม100% นั้นสามารถชาร์จหูฟังได้ 5-6 ครั้งเลยทีเดียว (ตามที่อ่านเจอในรีวิวของคนอื่นอีกทีนะครับ ส่วนของจริงยังใช้งานไปไม่ถึงขนาดนั้นเลยไม่รู้ว่าได้เท่านั้นจริงหรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวแล้วได้สัก 3-4 ครั้งผมก็แฮปปี้แล้วครับ 555) ข้อดีอีกอย่างนึงของการชาร์จไฟในเคสคือที่หูฟังไม่ต้องมีช่องเสียบชาร์จไฟเพื่อความสวยงาม (บางยี่ห้อต้องชาร์จไฟที่ตัวหูฟังจึงมีช่องเสียบสายชาร์จที่หูฟังดูไม่สวยงาม)
3. เสียงคุณภาพคับหูจริงๆ ต้องบอกว่าสำหรับหูฟังขนาดเล็กที่ต้องรวมทั้งชิพและแบตเตอรี่ไว้ข้างในด้วยกันขนาดนี้แล้วยังสามารถจุลำโพงที่ให้เสียงครบทั้ง bass และ treble จนคุณสามารถแยกเสียงจากต้นกำเนิดเสียงต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในการฟังเพลง หรือเสียงจากปืนกลรถถังเครื่องบินในการดูหนังสงคราม เป็นอะไรที่ทำให้ผมอึ้งไปเลยทีเดียว ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมได้ทดลองฟังเสียงของเจ้า X2T นี้ผมถึงกับต้องแอบยิ้มมุมปากเลยทีเดียว (ต้องแอบยิ้มเก็บอาการไม่ให้คนขายเห็นจะได้ต่อรองราคาง่ายหน่อย อิอิ) เพราะวันนั้นที่ตั้งใจไปเดินหาซื้อหูฟังใหม่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจจะเลือกเจ้าตัวนี้ แต่ใช้เวลา3ชั่วโมงเดินเลือกและทดลองหลายๆ ยี่ห้อที่เป็นประเภทเดียวกันก็รู้สึกผิดหวังกับทุกยี่ห้อที่ได้ลองยกเว้นเจ้าตัวนี้ล่ะ
4. ชาร์จเต็มภายใน 1-2 ชั่วโมง แสตนด์บายนาน 60-120 ชั่วโมง ใช้งานนาน 3-6 ชั่วโมง ข้อนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ที่ชัดเจนเพราะพึ่งเริ่มใช้งานได้ไม่กี่วัน และแต่ละเว็บที่เข้าไปหาข้อมูลก็ได้มาไม่เหมือนกัน แต่เท่าที่ใช้ดูก็ไม่ต่ำกว่านี้แน่นอนครับ ซึ่งสำหรับผมแค่นี้เหลือเฟือจนเกินความจำเป็นครับ เพราะผมใช้งานต่อเนื่องนานสุดก็ 1.5-2 ชั่วโมงต่อครั้ง (เวลาเดินทางจากบ้านมาออฟฟิศด้วยรถไฟฟ้า) ใช้เสร็จก็เสียบกลับเข้าเคสแป็บเดียวก็เต็มอีก เอาออกมาใช้อีกแล้วก็เสียบกลับเข้าไป วนไปวนมาอยู่อย่างนี้แบตไม่มีวันหมดแน่นอน
โดยรวมแล้วข้อนี้ผมให้ 5 เต็ม 5 ไปเลยครับ
คราวนี้เรามาดูจุดด้อยของเจ้า X2T กันบ้าง
1.สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ IOS เท่านั้นจึงจะเสถียรที่สุด การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรืออื่นๆ ยังต้องมีการพัฒนาอีกมากเพราะไม่เสถียรเอาเสียเลย คือ สัญญาณติดๆดับๆ เสียงขาดๆหายๆ ตลอดการใช้งานไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนก็แล้วแต่ ส่วนกับ IOS นั้นก็ใช่ว่าจะ 100% ตลอดเวลา ยังมีบาง moment ที่เสียงขาดหายไปเช่น อยู่ในพื่นที่ที่มีคลื่นประเภทอื่นรบกวนเยอะๆ ขยับศรีษะไปมาแบบกระทันหันแบบเวลาที่หันขวับไปมองด้านข้างหรือด้านหลัง หูฟังกับอุปกรณ์อยู่ห่างกันแบบมีสิ่งกีดขวางเยอะๆหรือกำแพงหนาๆ
2.ห้ามหลุดจากหูหรือหล่นลงพื้นเด็ดขาด หูฟังบลูธูทแบบสองหูรุ่นอื่นๆ เวลาหลุดจากหูก็ไม่ร่วงลงพื้นแน่นอนเพราะมีก้านหรือมีสายรั้งไว้ แต่ถ้าเป็นรุ่นนี้หลุดก็ร่วงถึงพื้นคว้าไม่ทันแน่นอน และถ้าหล่นถึงพื้นเมื่อไหร่ก็ทำใจได้เลยว่าพังแน่ เพราะฉนั้นเวลาใช้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องเลือกขนาดของจุกยางให้พอดีกับรูหูเพื่อความกระชับไม่ให้หลุดร่วงลงมาได้ ขณะสวมใส่ก็ให้ตรวจเช็คอยู่ตลอดเวลาว่ามันเข้าที่ดี หากต้องการใช้งานขณะออกกำลังกายควรเป็นการออกกำลังกายอยู่กับที่ ไม่ควรใส่ทำกิจกรรมที่ต้องออกท่าออกทางขยับศรีษะหมุนตัวไปมาอยู่ตลอดเวลาเพราะจะหลุดได้ง่าย
3.เรื่องอะไหล่ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเปลี่ยนแน่นอน ถ้าพังก็เคลมอันใหม่อย่างเดียว แต่ถ้าพังตอนหมดประกันก็เตรียมซื้อใหม่ได้เลย เพราะฉนั้นเลือกร้านที่รับประกันนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ (แต่ละร้านรับประกันไม่เท่ากัน) และเป็นร้านที่เชื่อถือได้ (บางร้านเล่นแง่อ้างนู่นนี่นั่นไม่ยอมให้เคลม)
ภาพรวมจากที่รีวิวมาทั้งหมด ผมมีความสุขกับเจ้า X2T มากครับ เรื่องราคากับความคุ้มค่านี่ต้องพูดถึงบ่อยๆ เพราะได้ของคุณภาพสูงในราคาที่ถูกมาก เรื่องการใช้งานนี่ก็ต้องเม้าท์มอยให้เพื่อนได้อิจฉากันเพราะมันตอบโจทย์คนฟังดนตรีอย่างผมที่ได้ฟังเสียง treble ใสๆ bass หนักๆ ทุกวัน วันละ 3-4 ชั่วโมงแบบไม่มีติดขัด เรื่องความสะดวกสบายนี่ก็ต้องประทับใจกันไปอีกนานเพราะอยู่กับมันทุกวันถ้าไม่สะดวกสบายก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันรุ่นไกล้เคียงกันในระดับราคาที่เท่าๆกันผมบอกได้เลยว่า X2T ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ อย่าไปเทียบกับของแบรนด์เนมราคาเหยียบหมื่นนะ ผมไม่อยากเทียบจริงๆ เพราะถือเป็นการชกข้ามรุ่น แล้วผมเองก็ไม่คิดจะไปไกลขนาดนั้น (แต่ถ้าให้ชกข้ามรุ่นกันจริงๆ เจ้า X2T ก็ไม่ยอมแพ้แบบโยนผ้าแน่ๆ คู่ต่อสู้ก็ต้องมีหอบแฮ่กๆล่ะ ครับ)
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ที่กำลังหาซื้อหูฟังอันใหม่อยู่นะครับ และหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็เข้ามาช่วยกันเม้นต์กันแชร์ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ