ตามชื่อกระทู้เลยครับ ไม่อยากพูดอะไรมากมาย
เพราะต่อให้พูดมากแค่ไหนมันก็ไม่ได้เศษเสี้ยวของความเจ็บปวดที่มี
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ ตั้งแต่จำความได้ก็ถูกล่วงละเมิดมาตั้งแต่เด็ก 5-6 ขวบได้ จากคนในครอบครัวเอง(ซึ่งเป็นผู้ชาย) โดนแบบนี้จน 8 ขวบที่ถูกข่มขืน เพราะพ่อแม่แยกทางกันต้องไปนอนกับญาติคนนั้นคนนี้ที่แม่เอาไปฝากใว้
ความรู้สึกตอนนั้นเกลียคำว่าครอบครัวมากๆครับ เพราะไม่มีความสุขเลย อยู่บ้านแฟนใหม่ของแม่เหมือนอยู่คนเดียวบนโลกเลยครับ แม่กับแฟนใหม่นั่งกินข้าวบนโต๊ะ ผมนั่งกินที่พื้น ทีวีไม่เคยได้ดู แต่แอดเปิดแง้มประตูมาดูเอา
แต่ชีวิตที่บ้านกับที่โรงเรียนแตกต่างกันมากครับ ที่โรงเรียนผมเรียนดี เป็นตัวแทนโรงเรียนในการสอบแข่งขันวิชาการ รวมไปถึงเป็นนักกีฬาของโรงเรียนตั้งแต่ประฐม ทำทุกอย่างครับ ที่สามารถอยู่โรงเรียนให้นานที่สุดเพื่อให้ได้อยู่บ้านน้อยที่สุด
พอมันหนักขึ้นตอนนั้นมองชีวิตตัวเองเป็นผักปลาอยากตายทุกๆวัน ทุกๆคืน (นี่คือตอน 7-10 ขวบ) ร้องไห้ ชอบร้องไห้มากๆครับ555555 จริงๆนะครับ ชอบร้องไห้มากๆ รู้สึกปลดปล่อยตัวเอง ก็จะพยายามหาเรื่องร้องไห้ทุกๆคืน ชีวิตก็ยังโดนกระทำช้ำๆจากคนในครอบตรัวเอง จนเริ่มจากการพยายามกำจัดชีวิตตัวเองออกจากโลกที่ไม่น่าอยู่นี้ซะด้วยการแขวนคือ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ผมใช้ชีวิตเหมือนเป็นโรคจิตเด็ก ในห้องนอนจะชอบเอาขวดแก้วมาวางเรียงๆ ใส่น้ำสีๆ มีช่วงนึงเอาน้ำสีๆออก แล้วเอาขวดมาทุบๆ ให้แตกบนที่นอน แล้วก็นอนทับอยู่นิ่งๆ4-5 ชั่วโมง ตอนนั้นอาการเริ่มหนักแล้วครับ 555555 กลัวตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ทำไปทำใม
เขียนจดหมายหาพ่อที่อยู่กรุงเทพมาอยู่กับพ่อที่กรุงเทพ เพราะพร่ำเพ้อถึงความตายจนคืดว่าเราต้องหาอะไรใหม่ๆทำ สุดท้ายเหมือนหนีเสือมาปะจรเข้ 55555 พ่อทำงานต้องเปลี่ยนสถานที่ ผมเลยต้องมาอยู่กับญาติของแฟนพ่อที่ติดยา ก็นั่นแหละ 10 ขวบเองมั้ง เหมือนอยู่ตัวคนเดียวทำทุกอย่างเองหมด รีดผ้า ซักผ้า ทำงานบ้าน หาข้าวกิน โดนตบ โดนแกล้งแรงๆ แรงแบบว่าอย่าว่าแต่เด็กที่ไม่ควรเจอผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเจอแบบนี้ ป่วยดูแลตัวเอง ซื้อพารากินจบ แม้กระทั้งเข้าเรียน ม.1 ต้องหาโรงเรียนเอง ไม่มีผู้ปกครองไปมอบตัว ตลกดี แต่ครูใจดีให้เข้าเรียนและม.2 มั้งค่อยเอาใบมอบตัวไปให้ผู้ปกครองขี้ยาเซ็นและครูเป็นคนออกค่าใช้จ่าย(ค่าเทอมให้)
ต้องบอกว่าผมเนี่ยเป็นคนที่การเรียนไม่ได้ดีอะไรมาก แต่เรื่องกิจกรรมนี่ผมโดดเด่นมากๆ ได้รางวัลนักเรียนดีเด่น 4 ปี และปีที่ดีที่สุดคือ นักเรียนทรงคุณค่าในปีที่จบ ม.3 จากการโหวดของครูและเพื่อนนักเรียน สวนทางกับชีวิตอีกด้านมากๆ
ได้อารี่จะเป็นเพื่อนใว้ระบายความรู้สึกทุกๆอย่างลงไป สุดท้ายมีคนหนึ่งมาพบไดอารี่ของผมและเอาไปบอกพ่อผม พ่อและญาติก็เดินทางมาหาผม นั่งเต็มห้องเช่าเลยเกือบ 10 คน แต่ไม่มีใครถามอะไรผมสักคำ ผมเข้านอนแล้วได้ยินเขาคุยกันว่า ผมติดเพื่อน มีปัญหาเพราะเพื่อน สังคมหรือเปล่า ทำใมบ่นอยากตายเพราะเลียนแบบใครหรือเปล่า คิดในใจตอนนั้น "มารวมกันที่นี่ทำใมไม่ถามผมสักคำ เดากันทำใม ถ้าจะเดากันคุยที่อื่นก็ได้มั้ง" นั่นเป็นจุดที่เริ่มรู้สึกว่าครอบครัวไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับเรา
ก็ทุกข์ทรมานแบบนี้มาเรื่อยๆครับ จนจบมอหกก็ตัดสินใจมาอยู่คนเดียว หาเงินกินเอง เรียนเอง ตอนนั้นไม่มีเงินเลยไปอาศัยนอนวัดแถวพระราม 1 อยู่อย่างนั้น เก็บทำงานทุกอย่าง เด็กล้างรถ ขายซีดี เด็กเสิร์ฟ สต๊าฟอีเว้น จนไปถึงรับจ้างทำความสะอาด ช่วงชีวิตจอนนั้นลำบากมากๆครับ มีเงินบ้างไม่มีบ้าง ได้กินข้าวบ้างไม่ได้กินบ้าง เก็บเงินมาเรื่อยๆ จนออกมาอยู่ห้องเช่าได้ ก็เริ่มขายของ ทำนั่นนี่ ชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ผมเป็นคนมีเพื่อนเยอะมากๆ แต่ไม่มีคนสนิทครับ ทุกวันนี้ชีวิตไร้จุดหมายมากๆ หาเงินช่วยที่บ้านที่กำลังมีปัญหาก็ไม่เคยพอ มีปัญหาทุกๆอย่างเต็มไปหมด
เหนื่อยมากครับต้องมาสู้กับโรคซึมเศร้าที่เจอ
สังคมของผมมีเพื่อนทุกรูปแบบ เพราะผมเข้ากับคนง่าย เป็นตัวฮาของเพื่อน เป็นที่ปรึกษาเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีสังคมกว้าง ตั้งแต่เพื่อนที่เป็นลูกทายาทนักธุระกิจ จนไปถึงพวกเพื่อนที่เราเรียกกันว่าเด็กแว๊น ผมเข้ากับคนง่าย สนิทกับคนง่าย
แต่ตอนนี้...
มีความรู้สึกไม่อยากอยู่เลยครับ เดินเข้าหาสังคมแล้วมันต้องฝืนยิ้ม ทำตลก ซึ่งภายนอกผมดูเป็นคนแบบนั้น สุดท้ายแล้วก็อยากอยู่ตัวคนเดียว ตายไปเงียบๆคนเดียวเฟี้ยวดี คงจะมีความสุขกว่าตอนนี้(มาก)
อาจจะเป็นกระทู้ระบายก็ได้นะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับผมคงไม่ตายใวๆนี้ ยังไม่กล้าทำอะไร ป๊อดครับ แค่อยากมาระบาย555555555
ใครมีอะไรอยากบอก คอมเม้นได้เลยครับ ถ้ายังไม่ตายจะมาอ่าน55555555555
เมื่อผมเคยถูกข่มขืน และอยากตายมาทั้งชีวิต
เพราะต่อให้พูดมากแค่ไหนมันก็ไม่ได้เศษเสี้ยวของความเจ็บปวดที่มี
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ ตั้งแต่จำความได้ก็ถูกล่วงละเมิดมาตั้งแต่เด็ก 5-6 ขวบได้ จากคนในครอบครัวเอง(ซึ่งเป็นผู้ชาย) โดนแบบนี้จน 8 ขวบที่ถูกข่มขืน เพราะพ่อแม่แยกทางกันต้องไปนอนกับญาติคนนั้นคนนี้ที่แม่เอาไปฝากใว้
ความรู้สึกตอนนั้นเกลียคำว่าครอบครัวมากๆครับ เพราะไม่มีความสุขเลย อยู่บ้านแฟนใหม่ของแม่เหมือนอยู่คนเดียวบนโลกเลยครับ แม่กับแฟนใหม่นั่งกินข้าวบนโต๊ะ ผมนั่งกินที่พื้น ทีวีไม่เคยได้ดู แต่แอดเปิดแง้มประตูมาดูเอา
แต่ชีวิตที่บ้านกับที่โรงเรียนแตกต่างกันมากครับ ที่โรงเรียนผมเรียนดี เป็นตัวแทนโรงเรียนในการสอบแข่งขันวิชาการ รวมไปถึงเป็นนักกีฬาของโรงเรียนตั้งแต่ประฐม ทำทุกอย่างครับ ที่สามารถอยู่โรงเรียนให้นานที่สุดเพื่อให้ได้อยู่บ้านน้อยที่สุด
พอมันหนักขึ้นตอนนั้นมองชีวิตตัวเองเป็นผักปลาอยากตายทุกๆวัน ทุกๆคืน (นี่คือตอน 7-10 ขวบ) ร้องไห้ ชอบร้องไห้มากๆครับ555555 จริงๆนะครับ ชอบร้องไห้มากๆ รู้สึกปลดปล่อยตัวเอง ก็จะพยายามหาเรื่องร้องไห้ทุกๆคืน ชีวิตก็ยังโดนกระทำช้ำๆจากคนในครอบตรัวเอง จนเริ่มจากการพยายามกำจัดชีวิตตัวเองออกจากโลกที่ไม่น่าอยู่นี้ซะด้วยการแขวนคือ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ผมใช้ชีวิตเหมือนเป็นโรคจิตเด็ก ในห้องนอนจะชอบเอาขวดแก้วมาวางเรียงๆ ใส่น้ำสีๆ มีช่วงนึงเอาน้ำสีๆออก แล้วเอาขวดมาทุบๆ ให้แตกบนที่นอน แล้วก็นอนทับอยู่นิ่งๆ4-5 ชั่วโมง ตอนนั้นอาการเริ่มหนักแล้วครับ 555555 กลัวตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ทำไปทำใม
เขียนจดหมายหาพ่อที่อยู่กรุงเทพมาอยู่กับพ่อที่กรุงเทพ เพราะพร่ำเพ้อถึงความตายจนคืดว่าเราต้องหาอะไรใหม่ๆทำ สุดท้ายเหมือนหนีเสือมาปะจรเข้ 55555 พ่อทำงานต้องเปลี่ยนสถานที่ ผมเลยต้องมาอยู่กับญาติของแฟนพ่อที่ติดยา ก็นั่นแหละ 10 ขวบเองมั้ง เหมือนอยู่ตัวคนเดียวทำทุกอย่างเองหมด รีดผ้า ซักผ้า ทำงานบ้าน หาข้าวกิน โดนตบ โดนแกล้งแรงๆ แรงแบบว่าอย่าว่าแต่เด็กที่ไม่ควรเจอผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเจอแบบนี้ ป่วยดูแลตัวเอง ซื้อพารากินจบ แม้กระทั้งเข้าเรียน ม.1 ต้องหาโรงเรียนเอง ไม่มีผู้ปกครองไปมอบตัว ตลกดี แต่ครูใจดีให้เข้าเรียนและม.2 มั้งค่อยเอาใบมอบตัวไปให้ผู้ปกครองขี้ยาเซ็นและครูเป็นคนออกค่าใช้จ่าย(ค่าเทอมให้)
ต้องบอกว่าผมเนี่ยเป็นคนที่การเรียนไม่ได้ดีอะไรมาก แต่เรื่องกิจกรรมนี่ผมโดดเด่นมากๆ ได้รางวัลนักเรียนดีเด่น 4 ปี และปีที่ดีที่สุดคือ นักเรียนทรงคุณค่าในปีที่จบ ม.3 จากการโหวดของครูและเพื่อนนักเรียน สวนทางกับชีวิตอีกด้านมากๆ
ได้อารี่จะเป็นเพื่อนใว้ระบายความรู้สึกทุกๆอย่างลงไป สุดท้ายมีคนหนึ่งมาพบไดอารี่ของผมและเอาไปบอกพ่อผม พ่อและญาติก็เดินทางมาหาผม นั่งเต็มห้องเช่าเลยเกือบ 10 คน แต่ไม่มีใครถามอะไรผมสักคำ ผมเข้านอนแล้วได้ยินเขาคุยกันว่า ผมติดเพื่อน มีปัญหาเพราะเพื่อน สังคมหรือเปล่า ทำใมบ่นอยากตายเพราะเลียนแบบใครหรือเปล่า คิดในใจตอนนั้น "มารวมกันที่นี่ทำใมไม่ถามผมสักคำ เดากันทำใม ถ้าจะเดากันคุยที่อื่นก็ได้มั้ง" นั่นเป็นจุดที่เริ่มรู้สึกว่าครอบครัวไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับเรา
ก็ทุกข์ทรมานแบบนี้มาเรื่อยๆครับ จนจบมอหกก็ตัดสินใจมาอยู่คนเดียว หาเงินกินเอง เรียนเอง ตอนนั้นไม่มีเงินเลยไปอาศัยนอนวัดแถวพระราม 1 อยู่อย่างนั้น เก็บทำงานทุกอย่าง เด็กล้างรถ ขายซีดี เด็กเสิร์ฟ สต๊าฟอีเว้น จนไปถึงรับจ้างทำความสะอาด ช่วงชีวิตจอนนั้นลำบากมากๆครับ มีเงินบ้างไม่มีบ้าง ได้กินข้าวบ้างไม่ได้กินบ้าง เก็บเงินมาเรื่อยๆ จนออกมาอยู่ห้องเช่าได้ ก็เริ่มขายของ ทำนั่นนี่ ชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ผมเป็นคนมีเพื่อนเยอะมากๆ แต่ไม่มีคนสนิทครับ ทุกวันนี้ชีวิตไร้จุดหมายมากๆ หาเงินช่วยที่บ้านที่กำลังมีปัญหาก็ไม่เคยพอ มีปัญหาทุกๆอย่างเต็มไปหมด
เหนื่อยมากครับต้องมาสู้กับโรคซึมเศร้าที่เจอ
สังคมของผมมีเพื่อนทุกรูปแบบ เพราะผมเข้ากับคนง่าย เป็นตัวฮาของเพื่อน เป็นที่ปรึกษาเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีสังคมกว้าง ตั้งแต่เพื่อนที่เป็นลูกทายาทนักธุระกิจ จนไปถึงพวกเพื่อนที่เราเรียกกันว่าเด็กแว๊น ผมเข้ากับคนง่าย สนิทกับคนง่าย
แต่ตอนนี้...
มีความรู้สึกไม่อยากอยู่เลยครับ เดินเข้าหาสังคมแล้วมันต้องฝืนยิ้ม ทำตลก ซึ่งภายนอกผมดูเป็นคนแบบนั้น สุดท้ายแล้วก็อยากอยู่ตัวคนเดียว ตายไปเงียบๆคนเดียวเฟี้ยวดี คงจะมีความสุขกว่าตอนนี้(มาก)
อาจจะเป็นกระทู้ระบายก็ได้นะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับผมคงไม่ตายใวๆนี้ ยังไม่กล้าทำอะไร ป๊อดครับ แค่อยากมาระบาย555555555
ใครมีอะไรอยากบอก คอมเม้นได้เลยครับ ถ้ายังไม่ตายจะมาอ่าน55555555555