คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 86
อันนี้เห็นใจ ผู้หญิงนะครับ เพราะสถานะการณ์ผมเป็นแบบเดียวกับคุณเลยคือ แฟนต้องแต่งเข้าแน่นอนและต้องลาออกจากงานมาช่วยงานที่บ้าน 100% และบ้านเค้าไกลมากๆครับ เพราะที่บ้านผมเหลือแม่แค่คนเดียว พ่อเสียตั้งแต่ยังเล็กส่วนพี่สาวแต่งออกไปละ และผมก็คิดเหมือนคุณแหละครับว่าถ้ามาได้ก็อยู่กันได้ ถ้ามาไม่ได้ก็คิดซะว่าเดินคนละเส้นทาง เลิกกันไม่มีอะไรน่าเสียใจ แต่สรุปแฟนยอมออกจากงานมาแต่งงานครับ
บ้านแฟนอยู่ไกลมาก อยู่ไกลจากบ้านผมเป็นพันโลเลย ผมบอกได้เลยนะครับว่า มีปัญหาแน่ๆครับ เพราะผมก็เป็น สิ่งที่คุณจะเจอในครอบครัวคือ บรรยากาศที่จะรู้สึกเหมือนทำอะไรผิดอยู่ตลอดเวลา มีเรื่องให้ตำหนิได้ตลอด ยิ่งถ้าพ่อแม่คุณเป็นคนทำงานเก่งด้วยนะ คูณไปหลายๆเท่าเลยครับ เพราะแม่ผมเป็นคนเก่งมากกกกกกกกกก พ่อเสียติดหนี้เยอะแยะ ไม่แต่งงานใหม่ ส่งลูกเรียนสองคน สร้างฐานะจากติดลบจนตอนนี้พอมีบ้าง แฟนผมต้องเจอกับแรงกดดันมาก เพราะว่าไม่มีพื้นฐานด้านค้าขายมาเลย ทั้งตระกูลเป็นสายข้าราชการหมด แต่เค้าขยันมากๆ พยายามเรียนรู้ตลอด ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะเพราะว่าแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่ละ ปล่อยมือ เที่ยวอย่างเดียว ปีก่อนไปอยู่เมกากะญาติ 6 เดือน
ส่วนตัวคือผมไม่คิดว่าคุณจะเปลี่ยนได้นะ เพราะว่าผมเองก็เปลี่ยนไม่ได้ มันไม่สามารถทำได้ทุกคนหรอกแยกบ้านน่ะ อย่างผมก็ไม่สามารถให้แม่แยกออกไปอยู่คนเดียวได้ และก็ไม่ใช่ประเด็นมาดราม่าด้วยเรื่องที่พ่อ-แม่เลี้ยงมา แฟนเลี้ยงมาหรอ ผมว่าโคตรไร้สาระเลยจุดนี้ คุณต้องคุยกับแฟนดีๆอย่าไปกดดันหรือไซโคอะไร ว่าถ้าแต่งจะต้องเป็นยังไงบ้าง ถ้ารับได้ก็แต่ง ถ้าคิดว่ารับไม่ได้ก็ทำใจแยกย้ายกันดีกว่าครับ เอาเวลาไปศึกษาดูใจคนที่เค้าอาจจะพร้อมเดินไปกับเราได้ดีกว่าครับ ให้โอกาสแฟนคุณด้วย เดี๋ยวเกิดเค้าคบกับคุณไปอีก 3-4 ปีเพื่อคิดว่าคุณอาจจะแยกบ้านหรือแก้ปัญหาได้ เดี๋ยวคุณไปเจอคนใกล้ๆที่เค้าอยู่กับคุณได้คุณก็เลิกกับแฟนคุณอยู่ดีแหละ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ค้างคาครับ เคลียร์เลย
บ้านแฟนอยู่ไกลมาก อยู่ไกลจากบ้านผมเป็นพันโลเลย ผมบอกได้เลยนะครับว่า มีปัญหาแน่ๆครับ เพราะผมก็เป็น สิ่งที่คุณจะเจอในครอบครัวคือ บรรยากาศที่จะรู้สึกเหมือนทำอะไรผิดอยู่ตลอดเวลา มีเรื่องให้ตำหนิได้ตลอด ยิ่งถ้าพ่อแม่คุณเป็นคนทำงานเก่งด้วยนะ คูณไปหลายๆเท่าเลยครับ เพราะแม่ผมเป็นคนเก่งมากกกกกกกกกก พ่อเสียติดหนี้เยอะแยะ ไม่แต่งงานใหม่ ส่งลูกเรียนสองคน สร้างฐานะจากติดลบจนตอนนี้พอมีบ้าง แฟนผมต้องเจอกับแรงกดดันมาก เพราะว่าไม่มีพื้นฐานด้านค้าขายมาเลย ทั้งตระกูลเป็นสายข้าราชการหมด แต่เค้าขยันมากๆ พยายามเรียนรู้ตลอด ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะเพราะว่าแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่ละ ปล่อยมือ เที่ยวอย่างเดียว ปีก่อนไปอยู่เมกากะญาติ 6 เดือน
ส่วนตัวคือผมไม่คิดว่าคุณจะเปลี่ยนได้นะ เพราะว่าผมเองก็เปลี่ยนไม่ได้ มันไม่สามารถทำได้ทุกคนหรอกแยกบ้านน่ะ อย่างผมก็ไม่สามารถให้แม่แยกออกไปอยู่คนเดียวได้ และก็ไม่ใช่ประเด็นมาดราม่าด้วยเรื่องที่พ่อ-แม่เลี้ยงมา แฟนเลี้ยงมาหรอ ผมว่าโคตรไร้สาระเลยจุดนี้ คุณต้องคุยกับแฟนดีๆอย่าไปกดดันหรือไซโคอะไร ว่าถ้าแต่งจะต้องเป็นยังไงบ้าง ถ้ารับได้ก็แต่ง ถ้าคิดว่ารับไม่ได้ก็ทำใจแยกย้ายกันดีกว่าครับ เอาเวลาไปศึกษาดูใจคนที่เค้าอาจจะพร้อมเดินไปกับเราได้ดีกว่าครับ ให้โอกาสแฟนคุณด้วย เดี๋ยวเกิดเค้าคบกับคุณไปอีก 3-4 ปีเพื่อคิดว่าคุณอาจจะแยกบ้านหรือแก้ปัญหาได้ เดี๋ยวคุณไปเจอคนใกล้ๆที่เค้าอยู่กับคุณได้คุณก็เลิกกับแฟนคุณอยู่ดีแหละ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ค้างคาครับ เคลียร์เลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
อย่าคิดว่าพ่อแม่ตัวเองดีแน่นอน เข้าได้กับทุกคน
ต่อให้ดีจริง ... ก็มีปัญหาครับ
...
วันหนึ่งถ้าเค้าต้องเถียงกับคุณ เพราะความเห็นไม่ตรงกัน ... เค้าจะกล้าเถียงกับคุณต่อหน้าพ่อแม่คุณไหม?
ถ้าเค้าอยากเลี้ยงลูกแบบหนึ่ง แต่พ่อแม่คุณอยากเลี้ยงหลานแบบหนึ่ง ... เค้าจะทำยังไงครับ?
วันหนึ่งถ้าภรรยาคุณอยากเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องดูหนังฟังเพลง ... แต่พ่อแม่คุณอยากเอาเป็นห้องเก็บของ ... เค้าจะทำยังไงครับ?
คือบ้านน่ะ ทุกคนก็อยากให้มันเป็น "ของตัวเอง" ถ้าจะถามความเห็นกัน ก็กับคนรัก หรือลูก
ถ้าต้องรวมพ่อแม่สามีหรือพ่อแม่ภรรยาด้วย ... ส่วนตัวมองว่ามันเหมือนไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่ครอบครัวครับ
(บ้านใกล้ๆกัน ปากซอยกับท้ายซอยยังพอโอเคครับ หลังเดียวกันหรือคนละหลังในรั้วเดียวกันนี่ไม่ไหวครับ)
ต่อให้ดีจริง ... ก็มีปัญหาครับ
...
วันหนึ่งถ้าเค้าต้องเถียงกับคุณ เพราะความเห็นไม่ตรงกัน ... เค้าจะกล้าเถียงกับคุณต่อหน้าพ่อแม่คุณไหม?
ถ้าเค้าอยากเลี้ยงลูกแบบหนึ่ง แต่พ่อแม่คุณอยากเลี้ยงหลานแบบหนึ่ง ... เค้าจะทำยังไงครับ?
วันหนึ่งถ้าภรรยาคุณอยากเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องดูหนังฟังเพลง ... แต่พ่อแม่คุณอยากเอาเป็นห้องเก็บของ ... เค้าจะทำยังไงครับ?
คือบ้านน่ะ ทุกคนก็อยากให้มันเป็น "ของตัวเอง" ถ้าจะถามความเห็นกัน ก็กับคนรัก หรือลูก
ถ้าต้องรวมพ่อแม่สามีหรือพ่อแม่ภรรยาด้วย ... ส่วนตัวมองว่ามันเหมือนไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่ครอบครัวครับ
(บ้านใกล้ๆกัน ปากซอยกับท้ายซอยยังพอโอเคครับ หลังเดียวกันหรือคนละหลังในรั้วเดียวกันนี่ไม่ไหวครับ)
ความคิดเห็นที่ 37
ขอเล่าเรื่องพ่อแม่ เพื่อเป็นตัวอย่างนะคะ
บ้านเราคนจีนค่ะ แม่แต่งเข้าบ้านพ่อ
พ่อรู้อยู่แล้วว่าอาม่าหวงมาก และไม่ชอบใจที่ลูกชายแต่งงาน แต่พ่อเรารับปากว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
ตอนนี้แต่งกันมา 30 ปีแล้ว ยังไม่เคยแก้ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ได้เลย ทะเลาะกัน จะเข้าข้างอาม่า และบอกให้แม่เรายอมตลอด
อาม่าไม่เอ็นดูแม่เราเท่าไหร่ ตอนท้องแก่ประมาณ 7 เดือน ก็ให้แม่เราทำงานบ้านทั้งวัน ปัดกวาดถูบ้าน 4 ชั้น เดินขึ้นๆลงๆ (ไม่ใช้ม็อบถูพื้นนะคะ ใช้ผ้าขี้ริ้วเลย ก้มๆเงยๆจนเกือบหน้ามืดตกบันได) หยุดพักเมื่อไหร่ ด่าเมื่อนั้น
ชอบพูดจาเสียดสี ทำร้ายจิตใจ เช่น แม่เราทำงานได้เงินเดือนค่อนข้างดี (เป็นผู้จัดการในบริษัทเกี่ยวกับการเงิน) อาม่าจะคอยเหน็บแนมว่า แม่เราอวดรวย ซื้อของกินมาฝากก้หาว่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย พอไม่ซื้อก้หาว่าไม่ใส่ใจ
ผลคือ พ่อกับแม่เราเกิดรอยร้าวขึ้น นับวันรอยร้าวมันแย่ลงเรื่อยๆ
ปัจจุบัน พ่อแม่เราไม่คุยกันแล้ว แม่บอกว่ารักพ่อนะ แต่ตัวแม่เราไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก้สู้อาม่าไม่ได้อยู่ดี คงต้องรอให้อาม่าตายก่อนถึงจะได้รับความเห็นใจจากพ่อ
จะว่าเราเลวก้ได้นะคะ เอาผู้ใหญ่ในบ้านมาว่าร้าย แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ เรารับรู้และสัมผัสความร้ายกาจของอาม่าได้ตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เราอายุเกือบ 30แล้ว เราก้ยังรักเค้าไม่ลงจริงๆ
**แม่คุณไม้ได้น่ารักสำหรับทุกคนค่ะ ถ้าเมียกับแม่คุณมีปัญหากัน คุณจะทำยังไงคะ เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาไปตลอดชีวิตรึเปล่า?
*** คุณบอกว่าแม่คุณจะไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด
พ่อเราซื้อบ้านใหม่ให้อาม่าเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว พ่อบอกว่าอาม่าจะนานๆกลับมาที ถ้ากลับมาก้ค้างแค่ 1-2 อาทิตย์เท่านั้น
แต่ความจริง อาม่ากลับมาทุกเดือน เดือนละ 2-3 อาทิตย์ (ซื้อบ้านใหม่เพื่อ)
เหตุผลที่กลับมาบ่อยๆคือ กลัวสะใภ้ดูแลบ้านไม่ดี พอกลับมาก้จะหาเรื่องตำหนิ ว่าบ้านรกแบบนั้น สกปรกแบบนี้ ใช้ไม่ได้
(จริงๆคือเรากับแม่ทำความสะอาดดีกว่าเวลาอาม่าอยู่อีก)
ฝากไว้เป็นตัวอย่างค่ะ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร
บ้านเราคนจีนค่ะ แม่แต่งเข้าบ้านพ่อ
พ่อรู้อยู่แล้วว่าอาม่าหวงมาก และไม่ชอบใจที่ลูกชายแต่งงาน แต่พ่อเรารับปากว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
ตอนนี้แต่งกันมา 30 ปีแล้ว ยังไม่เคยแก้ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ได้เลย ทะเลาะกัน จะเข้าข้างอาม่า และบอกให้แม่เรายอมตลอด
อาม่าไม่เอ็นดูแม่เราเท่าไหร่ ตอนท้องแก่ประมาณ 7 เดือน ก็ให้แม่เราทำงานบ้านทั้งวัน ปัดกวาดถูบ้าน 4 ชั้น เดินขึ้นๆลงๆ (ไม่ใช้ม็อบถูพื้นนะคะ ใช้ผ้าขี้ริ้วเลย ก้มๆเงยๆจนเกือบหน้ามืดตกบันได) หยุดพักเมื่อไหร่ ด่าเมื่อนั้น
ชอบพูดจาเสียดสี ทำร้ายจิตใจ เช่น แม่เราทำงานได้เงินเดือนค่อนข้างดี (เป็นผู้จัดการในบริษัทเกี่ยวกับการเงิน) อาม่าจะคอยเหน็บแนมว่า แม่เราอวดรวย ซื้อของกินมาฝากก้หาว่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย พอไม่ซื้อก้หาว่าไม่ใส่ใจ
ผลคือ พ่อกับแม่เราเกิดรอยร้าวขึ้น นับวันรอยร้าวมันแย่ลงเรื่อยๆ
ปัจจุบัน พ่อแม่เราไม่คุยกันแล้ว แม่บอกว่ารักพ่อนะ แต่ตัวแม่เราไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก้สู้อาม่าไม่ได้อยู่ดี คงต้องรอให้อาม่าตายก่อนถึงจะได้รับความเห็นใจจากพ่อ
จะว่าเราเลวก้ได้นะคะ เอาผู้ใหญ่ในบ้านมาว่าร้าย แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ เรารับรู้และสัมผัสความร้ายกาจของอาม่าได้ตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เราอายุเกือบ 30แล้ว เราก้ยังรักเค้าไม่ลงจริงๆ
**แม่คุณไม้ได้น่ารักสำหรับทุกคนค่ะ ถ้าเมียกับแม่คุณมีปัญหากัน คุณจะทำยังไงคะ เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาไปตลอดชีวิตรึเปล่า?
*** คุณบอกว่าแม่คุณจะไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด
พ่อเราซื้อบ้านใหม่ให้อาม่าเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว พ่อบอกว่าอาม่าจะนานๆกลับมาที ถ้ากลับมาก้ค้างแค่ 1-2 อาทิตย์เท่านั้น
แต่ความจริง อาม่ากลับมาทุกเดือน เดือนละ 2-3 อาทิตย์ (ซื้อบ้านใหม่เพื่อ)
เหตุผลที่กลับมาบ่อยๆคือ กลัวสะใภ้ดูแลบ้านไม่ดี พอกลับมาก้จะหาเรื่องตำหนิ ว่าบ้านรกแบบนั้น สกปรกแบบนี้ ใช้ไม่ได้
(จริงๆคือเรากับแม่ทำความสะอาดดีกว่าเวลาอาม่าอยู่อีก)
ฝากไว้เป็นตัวอย่างค่ะ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร
ความคิดเห็นที่ 46
หลายคนบอกว่า ถ้าจะมีแฟน ให้ดูคนที่เค้ารักพ่อรักแม่ แล้วเค้าจะรักเรา
จากประสบการณ์ ขอบอกเลยเข็ดกะพวกลูกกตัญญู
กตัญญู รักแม่ เป็นลูกที่ดีก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นแฟนที่ดี
มันอยู่ที่การจัดสรร Priority ต่างหาก
บางทีวัฒนธรรมฝรั่งก็ดีนะ สำหรับเราในเรื่องนี้
ถ้าลูกโตแล้วเค้าจะไม่มายุ่งเลย
คนที่เรารู้จักแต่งกับฝรั่ง พ่อแม่แฟนไม่เคยมาวุ่นวาย
แต่ของเรานี่ ติดแม่ แม่เรียกร้องทุกอย่าง
แม้แต่วันปีใหม่ เราอยากไปเที่ยวกับแฟน ก็ยังต้องไปกะแม่
ดูแลตัวเองไม่ได้
และอีกสารพัดปัญหา
เวลาทะเลาะกัน แม่ถามเป็นอะไร ก็เอาสิ่งที่เราพูดไปเล่าให้แม่ฟังหมด
บางทีคนกลางก็ไม่ต้องพูดทุกอย่างให้ปัญหามันบานปลายก็ได้มั้ง
แล้วแถมหัวอ่อน พ่อแม่พูดไรทีก็เชื่อหมด
มีครั้งนึงทะเลาะกัน
เราก็ทะเลาะ ไปหาเค้า เพราะเสียใจจริงๆ
แม่เค้าดันบอกว่า เราอ่ะ มาให้เห็นว่าร้องไห้
คือ แบบโมโหมาก พูดเหมือนเรามีจริตมารยา ทั้งที่ตอนนั้นมันเสียใจจริงๆนิ
แถมเรานี่ต้องห่างพ่อ ห่างแม่ พ่อแม่ทำงานกันคนละจังหวัด
ดังนั้นแม่เราอยู่บ้านคนเดียว แต่แม่เราดูแลตัวเองเก่งมาก ไม่เคยเรียกร้องลูก
ในขณะที่เค้าอยู่บ้านกะแม่ทุกวัน ยังจะเรียกร้องเอาเวลาจากลูก
ตัวลูกก็ไม่เคยให้เวลาเราเพียงพอ ทั้งที่เราแทบจะให้เค้า 100%
ทำงานก็ต้องหางานใกล้ๆบ้านเค้า
เค้าหรอ ไม่เคยพยายามทำไรเพื่อเรา
เห็นแก่ตัว
การที่จะหาบ้าน หาที่อยู่เป็นส่วนตัว
มันทำได้นะ ไม่ได้แปลว่าต้องทิ้งพ่อแม่
คนเราสามารถขับรถไปมาหาสู่กันได้อยุ่แล้ว
ในขณะที่เรานี่ อยู่กันคนละจังหวัดกะพ่อแม่เลย
สรุปเรารู้สึกโกรธตัวเองมาก การคบกะเค้าทำให้เราเสียอะไรไปมากในชีวิต
คิดย้อนแล้วสงสารแม่เรา ที่ไม่มีคนดูแล ในขณะที่แม่เค้าได้ทุกอย่าง จะเอาทุกอย่าง
สรุปเลิกกันไป ไม่เสียใจเลยที่ต้องเลิกกันไป
เสียใจมากกว่า ไม่น่าต้องเจอและคบกันแต่แรก
คราวหน้าขอเอาคนที่พ่อแม่น่ารัก ไม่แทรกแซงชีวิตคู่
ดูแลตัวเองได้ ไม่เรียกร้องเอาไรจากลูก ไม่ติดลูก ให้อิสระลูกในการใช้ชีวิต
ไม่ก็พ่อแม่ตายห่าไปหมดแล้ว
ไม่ก็คงหาฝรั่ง ต่างชาติไปเลย จบ
จากคนที่โดน effect ของการคบกับลูกกตัญญู กูไม่เอาอีกแล้ว...
จากประสบการณ์ ขอบอกเลยเข็ดกะพวกลูกกตัญญู
กตัญญู รักแม่ เป็นลูกที่ดีก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นแฟนที่ดี
มันอยู่ที่การจัดสรร Priority ต่างหาก
บางทีวัฒนธรรมฝรั่งก็ดีนะ สำหรับเราในเรื่องนี้
ถ้าลูกโตแล้วเค้าจะไม่มายุ่งเลย
คนที่เรารู้จักแต่งกับฝรั่ง พ่อแม่แฟนไม่เคยมาวุ่นวาย
แต่ของเรานี่ ติดแม่ แม่เรียกร้องทุกอย่าง
แม้แต่วันปีใหม่ เราอยากไปเที่ยวกับแฟน ก็ยังต้องไปกะแม่
ดูแลตัวเองไม่ได้
และอีกสารพัดปัญหา
เวลาทะเลาะกัน แม่ถามเป็นอะไร ก็เอาสิ่งที่เราพูดไปเล่าให้แม่ฟังหมด
บางทีคนกลางก็ไม่ต้องพูดทุกอย่างให้ปัญหามันบานปลายก็ได้มั้ง
แล้วแถมหัวอ่อน พ่อแม่พูดไรทีก็เชื่อหมด
มีครั้งนึงทะเลาะกัน
เราก็ทะเลาะ ไปหาเค้า เพราะเสียใจจริงๆ
แม่เค้าดันบอกว่า เราอ่ะ มาให้เห็นว่าร้องไห้
คือ แบบโมโหมาก พูดเหมือนเรามีจริตมารยา ทั้งที่ตอนนั้นมันเสียใจจริงๆนิ
แถมเรานี่ต้องห่างพ่อ ห่างแม่ พ่อแม่ทำงานกันคนละจังหวัด
ดังนั้นแม่เราอยู่บ้านคนเดียว แต่แม่เราดูแลตัวเองเก่งมาก ไม่เคยเรียกร้องลูก
ในขณะที่เค้าอยู่บ้านกะแม่ทุกวัน ยังจะเรียกร้องเอาเวลาจากลูก
ตัวลูกก็ไม่เคยให้เวลาเราเพียงพอ ทั้งที่เราแทบจะให้เค้า 100%
ทำงานก็ต้องหางานใกล้ๆบ้านเค้า
เค้าหรอ ไม่เคยพยายามทำไรเพื่อเรา
เห็นแก่ตัว
การที่จะหาบ้าน หาที่อยู่เป็นส่วนตัว
มันทำได้นะ ไม่ได้แปลว่าต้องทิ้งพ่อแม่
คนเราสามารถขับรถไปมาหาสู่กันได้อยุ่แล้ว
ในขณะที่เรานี่ อยู่กันคนละจังหวัดกะพ่อแม่เลย
สรุปเรารู้สึกโกรธตัวเองมาก การคบกะเค้าทำให้เราเสียอะไรไปมากในชีวิต
คิดย้อนแล้วสงสารแม่เรา ที่ไม่มีคนดูแล ในขณะที่แม่เค้าได้ทุกอย่าง จะเอาทุกอย่าง
สรุปเลิกกันไป ไม่เสียใจเลยที่ต้องเลิกกันไป
เสียใจมากกว่า ไม่น่าต้องเจอและคบกันแต่แรก
คราวหน้าขอเอาคนที่พ่อแม่น่ารัก ไม่แทรกแซงชีวิตคู่
ดูแลตัวเองได้ ไม่เรียกร้องเอาไรจากลูก ไม่ติดลูก ให้อิสระลูกในการใช้ชีวิต
ไม่ก็พ่อแม่ตายห่าไปหมดแล้ว
ไม่ก็คงหาฝรั่ง ต่างชาติไปเลย จบ
จากคนที่โดน effect ของการคบกับลูกกตัญญู กูไม่เอาอีกแล้ว...
ความคิดเห็นที่ 17
ตอนที่ผมตอบคุณนี่ ผมเอาขาดพาดโต๊ะ สูงประมาณหัว นั่งพิงเก้าอี้สบาย ๆ
ผมถามว่า ถ้าคุณทำตัวแบบผม แต่ที่บ้านมีผู้ใหญ่อย่างพ่อแม่แฟนคุณร่วมด้วยคุณจะทำแบบนี้ได้มั้ย
เรื่องมันดูเล็ก ๆ ก็แค่ทำตัวเรียบร้อยขึ้น แต่มันเป็นตัวตนอ่ะครับ คุณเข้าใจมะ
ไม่ใช่ว่าพ่อแม่คุณใจดี หรือ ไม่ใจดีกับแฟนคุณ มันแค่เค้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว อยากอยู่แบบสบาย ๆ ไม่ต้องอึดอัดใจกับการกระทำต่าง ๆ
ผมถามว่า ถ้าคุณทำตัวแบบผม แต่ที่บ้านมีผู้ใหญ่อย่างพ่อแม่แฟนคุณร่วมด้วยคุณจะทำแบบนี้ได้มั้ย
เรื่องมันดูเล็ก ๆ ก็แค่ทำตัวเรียบร้อยขึ้น แต่มันเป็นตัวตนอ่ะครับ คุณเข้าใจมะ
ไม่ใช่ว่าพ่อแม่คุณใจดี หรือ ไม่ใจดีกับแฟนคุณ มันแค่เค้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว อยากอยู่แบบสบาย ๆ ไม่ต้องอึดอัดใจกับการกระทำต่าง ๆ
แสดงความคิดเห็น
เมื่อแฟนบอกว่าถ้าแต่งงานกันจะไม่อยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ของเรา