[หนังโรงเรื่องที่ 189] Wonder Woman - วันเดอร์กาด็อท ; (Patty Jenkins, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : ว่าด้วยต้นกำเนิดของ "วันเดอร์ วูแมน" หรือว่า "ไดอาน่า" (Gal Gadot) ธิดาแห่งฮิพโพลีต้าผู้เป็นราชินีแห่งเผ่านักรบหญิงอเมซอนโบราณ บังเอิญได้ไปช่วยเหลือนักบินอังกฤษ "สตีฟ เทรเวอร์" (Chris Pine) ที่กำลังโดนข้าศึกไล่ตามล่าชีวิตจนเครื่องบินตกที่เกาะ และได้บอกเล่าให้ไดอาน่ารับรู้ถึงสถานการณ์กลียุคของโลกภายนอกที่กำลังอยู่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และเธอก็ตัดสินใจที่ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้บริสุทธิ์ที่กำลังตกเป็นเหยื้อของสงครามทมิฬครั้งนี้.
.
.
ตีไข่แตกแล้วจ้าาาาาาา!! ในที่สุดเราก็มีหนัง DC เรื่องแรกที่เนื้อเรื่องไม่แย่แล้วจ้าาาา!!
คือแทบจะจุดพลุปิดซอยฉลองจริงๆ ที่ในที่สุดทางค่ายต้นสังกัดอย่าง WB และ DC ก็ยอมลงจากหลังกระทิงมาทำหนังสูตรฮีโร่ปกติๆซักเรื่องเสียที หลังจากประสบเหตุน้ำท่วมทุ่งจาก BvS ก็ดี, เหตุพล็อตเห่ยอย่าง Suicide Squad ก็ดี ... ซึ่งไอ้ผลงานชิ้นก่อนๆมันก็ยังไม่มีดีซักเรื่องไง พอหนังเรื่องนี้มันโดนเสิร์ฟมาแบบธรรมดาๆปุ้บ มันเลยกลายเป็นหนังเดอะเบสต์ของเดอะเบสต์ไปเลยโดยปริยาย
ไอ้ความหนังสูตรที่ว่าก็คือการที่หนังมันเล่าเรื่องในแพทเทิร์นที่ค่อนข้างตายตัว, เป็นลักษณะเส้นตรง และเข้าใจไม่ยาก ซึ่งเป็นสไตล์ที่ถือว่าลงตัวมากๆกับหนังต้นกำเนิด Wonder Woman ที่แรกเริ่มเดิมทีนางก็มีบุคลิกเป็นคนซื่อๆใสๆอ่อนต่อโลกอยู่แล้ว (เนื่องจากโดนเลี้ยงอยู่บนเกาะปิดตั้งแต่เล็กจนโต) กระทั่งเติบโตขึ้นมาเป็นสาวก็ได้ป๊ะกับไอ้หนุ่มนักบินพอดี เลยพากันเผ่นออกนอกเกาะไปผจญโลกกว้างซึ่งก็มีเรื่องราวให้ไดอาน่าเรียนรู้มากมายเหลือเกินทั้งดีและร้าย ดังนั้นความสนุกอย่างนึงของหนังก็คือการที่เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครนี้จากการปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกนี่แหละ
ซึ่งในเรื่องนี้คำว่าโลกภายนอกที่ว่าก็คือ 'ภาวะสงคราม' ที่แสนจะโหดร้าย และกลายเป็นเบ้าหลอมให้ตัวละครสาวน้อยแตกพานอย่างไดอาน่าได้กลายเป็น 'ยอดหญิง' ได้ในที่สุด ส่วนที่น่าสนใจก็คือรายละเอียดฉากสนามรบนั้นถือว่าถ่ายทอดออกมาได้กำลังดีมากๆ มันเป็นความดิบเดือดของดงกระสุนปืนและสนามเพลาะที่ลงตัวอย่างเป็นที่สุดกับตัวละคร "วันเดอร์วูแมน" จริงๆ
สิ่งที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษก็คือฉากแอคชั่นที่ยังคงรักษาสไตล์แบบ 'พริ้วไหว' อันเป็นเอกลักษณ์และจุดขายของหนังเครือ DC เอาไว้ได้ดี (ให้อ้างอิงถึง MoS กับ Bvs) ไม่ว่าจะเป็นฉากปล่อยของลีลาการต่อสู้ของชาวอเมซอนเนี่ยนก็ดี ฉากนำทัพทหารฉากแรกก็ดี คือมันน่าตื่นตามากจนนั่งแทบไม่ติดเบาะ ถึงแม้ในหลายๆโมเม้นท์อาจจะสโลวโมชั่นเยอะไปจนปุ่มรีโมทจะพังก็เถอะแต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังเวิร์กอยู่ดี ... ซึ่งผู้เขียนคิดว่าจุดขายตรงคิวแอคชั่นที่สวยงามลื่นไหลนี้ล่ะ ที่ DC สามารถก้าวข้าม Marvel ไปได้แบบขาดลอย และก็ภาวนาเป็นอย่างยิ่งว่าท่านๆทั้งหลายจะผดุงความดีงามตรงนี้ไว้ต่อไปได้
แน่นอนว่าในหนังสูตรแบบนี้ สิ่งที่ต้องสอบให้ผ่านก็คือ 'มุกตลก' ซึ่งหนังก็ทำผลงานออกมาได้เวิร์กพอสมควรจนเรียกเสียงหัวเราะคิกคักได้เรื่อยๆตลอดช่วงต้นเรื่อง ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้ตัวเอกฝ่ายชายของเราอย่าง คริส ไพน์ ที่ช่วยทั้งชงทั้งตบมุกรัวๆได้ต่อเนื่องไม่แคร์ใคร (ขำจริงจัง) ซึ่งในภาพรวมแล้วมันก็สนุกพอใช้ได้เลย
ในแง่ของเนื้อเรื่องก็ถือว่ามีทั้งส่วนดีและไม่ดีปะปนกันไปตามประสา แต่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ "ไดอาน่า" นั้นถูกโน้มน้าวโดยพระเอกผู้อยู่ฝ่ายหนึ่งของสงครามจนเธอตัดสินใจแล้วว่าจะไป 'หยุดยั้งอีกฝ่ายผู้ชั่วร้าย' จนนำไปสู่การสู้รบกำราบฝ่ายศัตรูในที่สุด ... ซึ่งในส่วนนี้มันจะ tricky มากๆในแง่ที่ว่าถ้ามองจากมุมนอกแล้วจะกลายเป็นว่าตัวไดอาน่าเองนั้นโดน manipulate จนกลายเป็น 'เครื่องมือ' ของฝ่ายพันธมิตรไปซะงั้น ทั้งๆที่เราก็รู้ดีว่าในสงครามจริงๆมันก็ไม่ได้มีใครผิดใครถูกเป็นขาวดำเสมอไป ดังนั้นแล้วการที่นางเอกของเราไปไล่เข่นฆ่าเหล่าทหารเยอรมันเป็นผักปลานั้น มันจะใช่สิ่งที่ถูกต้องจริงๆรึเปล่า?
ในส่วนที่ไม่ชอบก็อาจจะเป็น 'ความฟุ่มเฟือย' ในการกระจายบทให้กับตัวละครที่ไม่จำเป็นเยอะไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเลขาของพระเอก หรือทีมบุกตัวประกอบทั้ง 3 คนที่ปูทางมาเหมือนว่าจะมีอะไรสำคัญ แต่สุดท้ายก็ว่างเปล่าา (ให้อ่านในเสียงวงฟลัวร์) คือเคว้งมาก เหมือนหนังอยากจะใช้ตัวละครเหล่านี้ในการนำเสนอแง่มุมของ 'เหยื่ออีกกลุ่มหนึ่ง' ของสงครามออกมา แต่มันก็ไม่ได้นำพาซักเท่าไหร่ สู้เอาเวลาไปเทให้เส้นเรื่องหลักจะดีกว่ามั้ย
.
.
กาล กาด็อท โดดเด่นเป็นที่สุดกับบทบาท "สตรีมหัศจรรย์" ด้วยกิริยาหน้าตาท่าทางที่สวยงามทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็ยังคงความเข้มแข็งดุดันในฉากต่อสู้ได้ไม่บกพร่อง คือต้องยอมรับจริงๆว่า ณ นาทีนี้นางทำอะไรก็ดูปังไปหมด จะใส่ชุดนักรบ จะใส่เดรส หรือจะแบกดาบแบกโล่ไปไหนก็ยังสวย พูดง่ายๆก็คือเหมาะสมกับบทนี้กว่าเธอก็คงหายากแล้วล่ะ ... แต่ก็ยังมีจุดติดขัดอย่างหนึ่งของเธอในส่วนของ 'การแสดงออกทางสีหน้า' (facial expression) ที่ยังแข็งๆไปหน่อย หรือเรียกง่ายๆว่า "ไดอา-หน้าเดียว" ทำให้ในหลายๆมันดูไม่ราบรื่นเท่าไหร่
แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นปัญหา! เพราะฟ้าได้ประทานยอดพระเอกอย่าง คริส ไพน์ มากอบกู้สถานการณ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเอาจริงๆส่วนตัวคิดว่าตัวคริสเนี่ยเป็น The unseen hero จริงๆในแง่ที่ว่าเฮียแกสามารถแบกหนังว่า 70% ของเรื่องไว้ได้อย่างสวยงาม แม้ในบางฉากที่นางเอกเราอาจจะสื่อความรู้สึกได้ไม่ดีเท่าไหร่นั้น พ่อคริสของเราก็ช่วยถมช่องโหว่ตรงนั้นได้อย่างหมดจด ไม่ว่าจะเป็นลูกฮาหรือลูกหวาน ทุกโจทย์สอบผ่านฉลุย ... และเขาคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้ฉากความรัก-ซึ้งกินใจทั้งหลายมันดู 'เรียล' ขึ้นมาจนน่าจดจำ
.
.
สรุปแล้ว Wonder Woman ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของค่ายที่สามารถขายเนื้อเรื่องและตัวละครได้อย่างประสบความสำเร็จขนาดนี้ พร้อมทั้งสร้างอัตลักษณ์ที่น่าจดจำของตัวละครให้พร้อมไปถูกสานต่อในหนังรวมทีม Justice League ในภาคหลังได้ดี ในบางส่วนบางตอนของเนื้อเรื่องอาจจะดูเชยและไม่เมคเซนส์ไปบ้าง แต่โดยภาพรวมมันก็เป็นแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดี และดูได้เพลิดเพลินไม่แพ้ผลงานของค่ายอื่นเลยล่ะ
ป.ล.มีเอนด์เครดิทรึเปล่า?
ป.ล.2 บางทีก็แอบคิดว่าราชินีฮิปโปนี่ก็โลเลไปนะ เดี๋ยวก็ให้ทำ เดี๋ยวก็ไม่ให้ทำ เอาไงกันแน่คุ๊ณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากชื่นชอบรีวิวรบกวนช่วยไลค์ช่วยแชร์เพื่อให้กำลังใจหรือติดตามผลงานได้ที่เพจ https://www.facebook.com/expensivemovie/ นะครับ!
[หนังโรงเรื่องที่ 189] Wonder Woman - วันเดอร์กาด็อท by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 189] Wonder Woman - วันเดอร์กาด็อท ; (Patty Jenkins, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : ว่าด้วยต้นกำเนิดของ "วันเดอร์ วูแมน" หรือว่า "ไดอาน่า" (Gal Gadot) ธิดาแห่งฮิพโพลีต้าผู้เป็นราชินีแห่งเผ่านักรบหญิงอเมซอนโบราณ บังเอิญได้ไปช่วยเหลือนักบินอังกฤษ "สตีฟ เทรเวอร์" (Chris Pine) ที่กำลังโดนข้าศึกไล่ตามล่าชีวิตจนเครื่องบินตกที่เกาะ และได้บอกเล่าให้ไดอาน่ารับรู้ถึงสถานการณ์กลียุคของโลกภายนอกที่กำลังอยู่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และเธอก็ตัดสินใจที่ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้บริสุทธิ์ที่กำลังตกเป็นเหยื้อของสงครามทมิฬครั้งนี้.
.
.
ตีไข่แตกแล้วจ้าาาาาาา!! ในที่สุดเราก็มีหนัง DC เรื่องแรกที่เนื้อเรื่องไม่แย่แล้วจ้าาาา!!
คือแทบจะจุดพลุปิดซอยฉลองจริงๆ ที่ในที่สุดทางค่ายต้นสังกัดอย่าง WB และ DC ก็ยอมลงจากหลังกระทิงมาทำหนังสูตรฮีโร่ปกติๆซักเรื่องเสียที หลังจากประสบเหตุน้ำท่วมทุ่งจาก BvS ก็ดี, เหตุพล็อตเห่ยอย่าง Suicide Squad ก็ดี ... ซึ่งไอ้ผลงานชิ้นก่อนๆมันก็ยังไม่มีดีซักเรื่องไง พอหนังเรื่องนี้มันโดนเสิร์ฟมาแบบธรรมดาๆปุ้บ มันเลยกลายเป็นหนังเดอะเบสต์ของเดอะเบสต์ไปเลยโดยปริยาย
ไอ้ความหนังสูตรที่ว่าก็คือการที่หนังมันเล่าเรื่องในแพทเทิร์นที่ค่อนข้างตายตัว, เป็นลักษณะเส้นตรง และเข้าใจไม่ยาก ซึ่งเป็นสไตล์ที่ถือว่าลงตัวมากๆกับหนังต้นกำเนิด Wonder Woman ที่แรกเริ่มเดิมทีนางก็มีบุคลิกเป็นคนซื่อๆใสๆอ่อนต่อโลกอยู่แล้ว (เนื่องจากโดนเลี้ยงอยู่บนเกาะปิดตั้งแต่เล็กจนโต) กระทั่งเติบโตขึ้นมาเป็นสาวก็ได้ป๊ะกับไอ้หนุ่มนักบินพอดี เลยพากันเผ่นออกนอกเกาะไปผจญโลกกว้างซึ่งก็มีเรื่องราวให้ไดอาน่าเรียนรู้มากมายเหลือเกินทั้งดีและร้าย ดังนั้นความสนุกอย่างนึงของหนังก็คือการที่เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครนี้จากการปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกนี่แหละ
ซึ่งในเรื่องนี้คำว่าโลกภายนอกที่ว่าก็คือ 'ภาวะสงคราม' ที่แสนจะโหดร้าย และกลายเป็นเบ้าหลอมให้ตัวละครสาวน้อยแตกพานอย่างไดอาน่าได้กลายเป็น 'ยอดหญิง' ได้ในที่สุด ส่วนที่น่าสนใจก็คือรายละเอียดฉากสนามรบนั้นถือว่าถ่ายทอดออกมาได้กำลังดีมากๆ มันเป็นความดิบเดือดของดงกระสุนปืนและสนามเพลาะที่ลงตัวอย่างเป็นที่สุดกับตัวละคร "วันเดอร์วูแมน" จริงๆ
สิ่งที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษก็คือฉากแอคชั่นที่ยังคงรักษาสไตล์แบบ 'พริ้วไหว' อันเป็นเอกลักษณ์และจุดขายของหนังเครือ DC เอาไว้ได้ดี (ให้อ้างอิงถึง MoS กับ Bvs) ไม่ว่าจะเป็นฉากปล่อยของลีลาการต่อสู้ของชาวอเมซอนเนี่ยนก็ดี ฉากนำทัพทหารฉากแรกก็ดี คือมันน่าตื่นตามากจนนั่งแทบไม่ติดเบาะ ถึงแม้ในหลายๆโมเม้นท์อาจจะสโลวโมชั่นเยอะไปจนปุ่มรีโมทจะพังก็เถอะแต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังเวิร์กอยู่ดี ... ซึ่งผู้เขียนคิดว่าจุดขายตรงคิวแอคชั่นที่สวยงามลื่นไหลนี้ล่ะ ที่ DC สามารถก้าวข้าม Marvel ไปได้แบบขาดลอย และก็ภาวนาเป็นอย่างยิ่งว่าท่านๆทั้งหลายจะผดุงความดีงามตรงนี้ไว้ต่อไปได้
แน่นอนว่าในหนังสูตรแบบนี้ สิ่งที่ต้องสอบให้ผ่านก็คือ 'มุกตลก' ซึ่งหนังก็ทำผลงานออกมาได้เวิร์กพอสมควรจนเรียกเสียงหัวเราะคิกคักได้เรื่อยๆตลอดช่วงต้นเรื่อง ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้ตัวเอกฝ่ายชายของเราอย่าง คริส ไพน์ ที่ช่วยทั้งชงทั้งตบมุกรัวๆได้ต่อเนื่องไม่แคร์ใคร (ขำจริงจัง) ซึ่งในภาพรวมแล้วมันก็สนุกพอใช้ได้เลย
ในแง่ของเนื้อเรื่องก็ถือว่ามีทั้งส่วนดีและไม่ดีปะปนกันไปตามประสา แต่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ "ไดอาน่า" นั้นถูกโน้มน้าวโดยพระเอกผู้อยู่ฝ่ายหนึ่งของสงครามจนเธอตัดสินใจแล้วว่าจะไป 'หยุดยั้งอีกฝ่ายผู้ชั่วร้าย' จนนำไปสู่การสู้รบกำราบฝ่ายศัตรูในที่สุด ... ซึ่งในส่วนนี้มันจะ tricky มากๆในแง่ที่ว่าถ้ามองจากมุมนอกแล้วจะกลายเป็นว่าตัวไดอาน่าเองนั้นโดน manipulate จนกลายเป็น 'เครื่องมือ' ของฝ่ายพันธมิตรไปซะงั้น ทั้งๆที่เราก็รู้ดีว่าในสงครามจริงๆมันก็ไม่ได้มีใครผิดใครถูกเป็นขาวดำเสมอไป ดังนั้นแล้วการที่นางเอกของเราไปไล่เข่นฆ่าเหล่าทหารเยอรมันเป็นผักปลานั้น มันจะใช่สิ่งที่ถูกต้องจริงๆรึเปล่า?
ในส่วนที่ไม่ชอบก็อาจจะเป็น 'ความฟุ่มเฟือย' ในการกระจายบทให้กับตัวละครที่ไม่จำเป็นเยอะไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเลขาของพระเอก หรือทีมบุกตัวประกอบทั้ง 3 คนที่ปูทางมาเหมือนว่าจะมีอะไรสำคัญ แต่สุดท้ายก็ว่างเปล่าา (ให้อ่านในเสียงวงฟลัวร์) คือเคว้งมาก เหมือนหนังอยากจะใช้ตัวละครเหล่านี้ในการนำเสนอแง่มุมของ 'เหยื่ออีกกลุ่มหนึ่ง' ของสงครามออกมา แต่มันก็ไม่ได้นำพาซักเท่าไหร่ สู้เอาเวลาไปเทให้เส้นเรื่องหลักจะดีกว่ามั้ย
.
.
กาล กาด็อท โดดเด่นเป็นที่สุดกับบทบาท "สตรีมหัศจรรย์" ด้วยกิริยาหน้าตาท่าทางที่สวยงามทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็ยังคงความเข้มแข็งดุดันในฉากต่อสู้ได้ไม่บกพร่อง คือต้องยอมรับจริงๆว่า ณ นาทีนี้นางทำอะไรก็ดูปังไปหมด จะใส่ชุดนักรบ จะใส่เดรส หรือจะแบกดาบแบกโล่ไปไหนก็ยังสวย พูดง่ายๆก็คือเหมาะสมกับบทนี้กว่าเธอก็คงหายากแล้วล่ะ ... แต่ก็ยังมีจุดติดขัดอย่างหนึ่งของเธอในส่วนของ 'การแสดงออกทางสีหน้า' (facial expression) ที่ยังแข็งๆไปหน่อย หรือเรียกง่ายๆว่า "ไดอา-หน้าเดียว" ทำให้ในหลายๆมันดูไม่ราบรื่นเท่าไหร่
แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นปัญหา! เพราะฟ้าได้ประทานยอดพระเอกอย่าง คริส ไพน์ มากอบกู้สถานการณ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเอาจริงๆส่วนตัวคิดว่าตัวคริสเนี่ยเป็น The unseen hero จริงๆในแง่ที่ว่าเฮียแกสามารถแบกหนังว่า 70% ของเรื่องไว้ได้อย่างสวยงาม แม้ในบางฉากที่นางเอกเราอาจจะสื่อความรู้สึกได้ไม่ดีเท่าไหร่นั้น พ่อคริสของเราก็ช่วยถมช่องโหว่ตรงนั้นได้อย่างหมดจด ไม่ว่าจะเป็นลูกฮาหรือลูกหวาน ทุกโจทย์สอบผ่านฉลุย ... และเขาคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้ฉากความรัก-ซึ้งกินใจทั้งหลายมันดู 'เรียล' ขึ้นมาจนน่าจดจำ
.
.
สรุปแล้ว Wonder Woman ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของค่ายที่สามารถขายเนื้อเรื่องและตัวละครได้อย่างประสบความสำเร็จขนาดนี้ พร้อมทั้งสร้างอัตลักษณ์ที่น่าจดจำของตัวละครให้พร้อมไปถูกสานต่อในหนังรวมทีม Justice League ในภาคหลังได้ดี ในบางส่วนบางตอนของเนื้อเรื่องอาจจะดูเชยและไม่เมคเซนส์ไปบ้าง แต่โดยภาพรวมมันก็เป็นแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดี และดูได้เพลิดเพลินไม่แพ้ผลงานของค่ายอื่นเลยล่ะ
ป.ล.มีเอนด์เครดิทรึเปล่า?
ป.ล.2 บางทีก็แอบคิดว่าราชินีฮิปโปนี่ก็โลเลไปนะ เดี๋ยวก็ให้ทำ เดี๋ยวก็ไม่ให้ทำ เอาไงกันแน่คุ๊ณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้