เดี๋ยวนี้การรักษาพรหมจรรย์ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงที่ดีควรทำหรอครับ

ในตอนนี้ผมรู้สึกว่าผู้หญิงหลายๆคน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว เด๋วก็มีอะไรกับคนโน้นคนนี้ แบบเป็นเรื่องปกติของสังคมสมัยนี้ ได้ยินบางคนพูดว่าชายหญิงสมัยนี้เท่าเทียมกันแล้ว แต่อยากรู้จริงๆครับว่าคุณคิดว่ามันเท่าเทียมกันจริงๆหรอ ภาพสังคมที่มองมันเหมือนกันหรอ ผมอาจจะเป็นคนโลกสวยก็ได้นะครับ 555 แต่คุณลองคิดดูนะครับ ถ้าคนที่จะมาเป็นภรรยาคุณผ่านผู้ชายมามากมาย คุณจะไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆหรอ ความรักนวลสงวนตัวในสมัยนี้ยังเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่รึเปล่าครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 139
เห็นด้วยกับจขกท. เราอาจจะหัวโบราณเหมือนกัน
เราว่าเนื้อหาที่จขกท.พูดโอเคเลย แต่หัวข้ออาจจะเรียกคนมาวิจารณ์ได้ เรื่องการรักษาพรหมจรรย์
คนสมัยนี้อาจไม่จำเป็นต้องซิง แต่ไม่ควรผ่านผู้ชาย/ผู้หญิงมาเยอะเกินก่อนแต่งงาน
แต่ว่าสื่อนี่แหละทำให้ความคิดคนเปลี่ยน วันนี้เพิ่งเห็นโฆษณาเดนทิสเต้ พูดถึงประโยชน์ของการจูบ โดยpresenters ยังดูอายุไม่ม.ปลายก็ freshy ดูแล้วรู้สึกไม่เหมาะสมเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
ผมมองว่าการรักนวลสงวนตัวเป็นเรื่องดีสำหรับผู้หญิง
แต่พรหมจรรย์ เกี่ยวอะไรกับความดีครับ?
ผู้หญิงที่ไม่ซิง ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหมดศักดิ์ศรี หมดความดีในตัว หมดคุณค่า ไร้สาระครับ ผมมองว่าผู้ชายคนไหนที่มองผู้หญิงแบบนี้(ย้ำว่ามองแบบนี้) เป็นคนเหยียดเพศครับ

ไม่ได้บอกว่าต้องปล่อยตัว แต่ทุกอย่างควรเดินทางสายกลาง ไม่สุดโต่งจนเกินไป
"คนไม่ซิง ไม่จำเป็นต้องผ่านผู้ชายมาเยอะ และคนซิง ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนรักนวลสงวนตัว"
พรหมจรรย์กับการรักนวลสงวนตัว มันโคตรจะคนละเรื่อง

ผมจะเล่าเรื่องของเพื่อนผมคนนึงให้ฟังนะ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก พิมพ์นิยม ยังไม่เคยมีอะไรกับใคร หลังจากกินเหล้าไม่เคยนอนค้างคืนที่อื่นนอกจากบ้าน แต่ปล่อยตัวมาก แต่งตัวโป๊ๆ โดนมาทั้งหมด ล้วง ลูบ คลำ จูบ ผมเห็นกับตาครับ มันชอบด้วย และไม่ใช่ครั้งเดียว แบบนี้ถือว่ารักนวลสงวนตัวรึเปล่าครับ? เพราะมันยังไม่เสียพรหมจรรย์นิ
ที่ผมจะสื่อคือ มันวัดอะไรไม่ได้เลย พรหมจรรย์ก็เรื่องนึง นิสัยส่วนตัวก็เรื่องนึง มันคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง และไม่ได้วัดอะไรสักนิด

คนทุกคนมีสิทธิ์เลือกคู่ครอง ทุกอย่างในตัวของคนๆนึงมันคือตัวเลือกให้เราตัดสินใจว่าจะไปต่อกับคนนั้นหรือไม่
ซึ่งไม่ได้วัดความดีความเลว หรือคุณค่าในตัวใครทั้งสิ้น มันเป็นแค่ความคิดเห็นของแต่ละคน

ผมแปลกนะ ในปัจจุบันยังมีผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงเสียซิงคือไม่มีค่า
ผมสงสารแทนผู้หญิงครับ สงสารจริงๆ ต้องมาแบกรับอะไรแบบนี้ไว้

เรื่องแบบนี้มันแล้วแต่คนจะมอง เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้อยู่แล้ว
เอาเป็นว่าพอใจจะอยู่กับใครก็อยู่ไปครับ ผมไม่เคยมองเลยว่าพรหมจรรย์สำคัญขนาดต้องถวายชีวิต
และไม่เคยมองด้วยว่าคนที่รักษาพรหมจรรย์เป็นคนไม่ดี หรือคนโลกสวย เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขา

**แก้ไขคำผิด
ความคิดเห็นที่ 8
เป็นคนหัวโบราณค่ะ ไม่ต้องอธิบายนะว่าหัวโบราณยังไง

แต่จะไม่เลือกสามีที่มีทัศนคติแบบนี้แน่นอน
ไม่ใช่ว่าไม่ดี เพียงแต่มองว่ามันเป็นค่านิยม รสนิยม
ความเชื่อถือปฏิบัติของแต่ละคนมากกว่า
คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่พรหมจรรย์

การที่คุณยึดความคิดของตนเป็นใหญ่ แล้วมองคนที่เห็นแตกต่างว่าไม่ดี มันดูไม่ดียิ่งกว่าเสียอีก
ความคิดเห็นที่ 20
คิดแบบจขกท.นะคะ แต่ ผช.ที่คิดแบบนี้ไม่น่าจะเหลือเยอะแหละ

อาจมีเยอะผช.ที่คิดว่าอยากได้ผญ.ซิงเป็นแม่ของลูก

แต่จะมีมั้ย ผช.ที่คิดว่าจะช่วยแฟนรักษาพรมจรรย์ของนางไปจนกว่าจะแต่งงานกัน แบบที่คิดว่า
"ถ้ายังไม่แต่งงานผมจะไม่มีอะไรกับแฟน"

คอยรักคอยหวงแฟนแต่ไม่มีอะไรกันไปจนแต่งงานอ่ะค่ะ มีมั้ย

เพราะเท่าที่เห็นมีแต่และพบเจอก็มีแต่คนที่อยากได้ก่อน แม้จะเพิ่งคบกัน คบไปนานๆสักพัก หรือคบจนเกือบจะแต่งงาน (เว้นคบจนแต่งงานไว้ละกัน)แล้วก็อดใจไม่ได้ ไปมีอะไรกันซะก่อน  ผญ.เค้าก็ห้ามนะแต่ผช.ไม่ยอม สุดท้ายก็เรียบร้อยกันไป

พอเรียบร้อยแล้ว ผช.บางคนก็มองว่า ผญ.ทำตัวไม่มีค่า แล้วก็หาเรื่องเลิก ทั้งที่เป็นคนพรากคุณค่านั้นไปเอง

คุณคิดว่า ผญ.ที่เจอเรื่องแบบนี้จะเป็นยังไงคะ ดีใจ สะใจ ชอบที่ได้ประสบการณ์เหรอคะ?

เป็นแบบนี้แล้ว ผญ.ซิงจะเหลือเท่าไหร่คะ บางคนโดนจีบมาตั้งแต่14 15 ปี มีคนอยากเป็นแฟนด้วยมาตั้งแต่อายุเท่านี้  พอเป็นแฟนแล้วก็อยากได้ไง ถ้าบอกขอเป็นเพื่อน ผช.ก็บอกเป็นเพื่อนไม่ได้ อันนี้ไม่นับเด็กอย่างเดียวนะคะ โตแล้ว มหาลัย หรือทำงานก็เหมือนกัน ไม่ค่อยจะมีใครอยากเป็นเพื่อนกันไปก่อนเลยค่ะ มีแต่จะเป็นแฟนให้ได้

พอเป็นแฟนแล้วก็จะเอาให้ได้ พอผญ.รักไป ผช.ก็ขอ....แล้วตามด้วยถ้าไม่ให้ก็เลิก
หญิงหรือชายที่ไหนถ้ารักแล้วก็ไม่อยากเลิกทั้งนั้นล่ะค่ะ ก็เลยยอมไป หมดคุณค่าแล้วพอเลิก ก็เลยกลายเป็น คนไม่ซิงไปอีกคน

สุดท้ายแล้ว จบตรงคำถามที่ว่า

มีความคิดที่จะช่วยแฟนรักษาพรหมจรรย์กันบ้างมั้ยล่ะคะคุณผู้ชาย?
ความคิดเห็นที่ 23
เราเห็นด้วยกับการรักนวลสงวนตัว แต่ไม่เห็นด้วยกับการรักษาเวอร์จิ้นไว้จนแต่งงานค่ะ

เราเกิดในยุคเก่านะและเคยมีความเชื่อเรื่องเก็บเวอร์จิ้นไว้จนแต่งงานแหละ ตอนอายุ 25  เคยโดนอย่างมากสุดก็คือจับมือ และตอนนั้นตั้งใจว่าจะมี sex หลังแต่งงานเท่านั้น

แต่พอเราอายุ 30 กว่า ความคิดมันก็เปลี่ยนเอง  เรามาคิดได้ว่า จะทำเพื่ออะไร มันไม่ได้มีคุณค่าอะไรเลย  
ถ้าเรามัวแต่หวงเวอร์จิ้น เราว่ามันเสียโอกาสในการเรียนรู้น่ะ   พอดีตอนนั้นก็อายุ 30 กว่าแล้ว  โชคดีที่กลับตัวทัน
เรามีความรักจริงจังตอนอายุ 30 กว่า ๆ เป็นวัยที่รับผิดชอบตัวเองได้ และมีสติ มีความคิดทุกอย่าง
แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้ลงเอยกับคนๆ  นั้น เราก็ไม่เคยเสียใจเลย

ดังนั้นเราคิดว่า ผญ ไม่จำเป็นต้องเก็บเวอร์จิ้นไว้หลังแต่งงาน  แค่ขอให้คุณอยู่ในวัยที่ดูแลรับผิดชอบตัวเองได้
รับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาได้ (เช่น ตั้งครรภ์) และมีสติ แน่ใจแล้วว่าจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
คุณก็มี sex ได้ โดยที่ไม่เสียคุณค่าอะไรเลยด้วย

การรักนวลสงวนตัวในสมัยนี้ไม่ใช่ไม่ยอมมี sex  
แต่มันคือรู้ว่ากับใคร เมื่อไหร่ ถ้าคุณมีแฟนแล้วรักเค้า  และรู้จักป้องกัน ก็มีไปเถอะ มันไม่มีอะไรผิดหรือไม่ถูกต้องเลย  
ถ้าเรามีลูก  เราก็จะสอนลูกในแบบที่เราเชื่อตอนนี้แหละ  ถ้าลูกอยากมี ก็มี ขอให้มั่นใจว่าดุแลรับผิดชอบตัวเองได้ และคน ๆ นั้นคู่ควรก็พอแล้ว

ปล. เราคิดว่าต่อ ๆไป ค่านิยมเรื่องเวอร์จิ้นมันจะค่อย ๆ ลดลงจนเกือบจะหมดไปเอง หวังว่าเวลานั้นจะมาถึงในยุคต่อไป
เพราะเราไม่อยากให้รุ่นลูกเราต้องมาเจอค่านิยมอะไรแบบนี้ค่ะ จริง ๆ เรื่อง sex มันเป็นอะไรที่ดีนะ
เราอยากให้คนที่มีความสัมพันธ์สามารถเอ็นจอยกับการมี sex ได้โดยที่ไม่คิดว่ามันผิดแต่อย่างใด  ในฐานะมนุษย์เราคิดแบบนั้น
ในเรื่องการมี sex เราคิดว่า หญิงและชายสมควรได้รู้จักมันเท่าเทียมกัน ในฐานะมนุษย์ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
พรหมจรรย์ยังเป็นสิ่งที่ควรรักษาไว้ค่ะ
จากที่ได้อ่านความคิดเห็นก่อนหน้า เราเลยอยากแสดงความคิดเห็นของเรา คือ อย่างน้อยพรหมจรรย์ก็วัดคุณค่าของผู้หญิงได้ระดับหนึ่ง และมีแนวโน้มจะมั่นใจได้ว่าผู้หญิงที่รักษาตัวดีมาตลอด เมื่อเธอแต่งงานกับผู้ชายคนใด เธอจะเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์กับสามีค่ะ

จากที่ได้พบเห็นคนใกล้ตัว
ทางฝั่งพ่อเรา ปู่กับย่าของเรา ลุงคนโตกับป้าสะใภ้ ลุงคนรองกับป้าสะใภ้ (ลุงคนรองมีภรรยาหลายคนแต่ป้าสะใภ้มีลุงเราแค่คนเดียว ป้ากับลุงเขย พ่อกับแม่ของเรา อากับอาสะใภ้ อาคนเล็กกับอาสะใภ้
ทางฝั่งแม่เรา มีตากับยาย แม่กับพ่อเรา (แม่เราเป็นลูกคนโต) น้าผู้หญิงกับน้าเขย น้าชายกับน้าสะใภ้
เราไม่เคยได้ยินเรื่องเสียหายเกี่ยวกับผู้ชาย ของผู้หญิงที่เรายกตัวอย่างมาเลยสักคน เรารู้จักและเห็นพวกเขามาตั้งแต่จำความได้ ส่วนผู้หญิงที่มีสามีมากกว่า 1 คน ย่อมเป็นที่พูดถึงของคนทั่วไป ซึ่งเราแค่ได้รับฟังมาเท่านั้นแต่ไม่เคยเอามาพูดเสีย ๆ หาย ๆ ค่ะ)

ที่เรายกตัวอย่างมา เพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของเราในสิ่งที่ได้พิมพ์ไปตอนต้นเท่านั้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่