[CR] 3 DAY 2 NIGHT...เดินไปกินไปในสิงคโปร์ (05-07 พ.ค. 2560)

บอกก่อนเลยว่าถ้าใครคิดจะไปเดินเที่ยว, ถ่ายรูปสวยๆ, กินอาหารอร่อยในสิงคโปร์ เวลาแค่ 3 วัน 2 คืน ไม่พอ!!! เพราะสิงคโปร์ไม่ได้มีแค่สิงโตพ่นน้ำ
เราเลือกช่วงเวลาที่มีวันหยุดต่อเนื่อง คือ 5-7 พ.ค. (แต่ปรากฎว่าเค้าประกาศให้วันที่ 5 พ.ค. เป็นวันทำงานปกติ เสียวันลาไปอีก ร้องไห้
แต่ก็ลานะ อย่าได้แคร์ 5555+) วันลาพร้อม... ร่างกายพร้อม... เงินพร้อม เราไปได้ LET'S GO!!!
(ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้รวมประมาณ 17,000 บาท/คน จะสรุปรายละเอียดให้ตอนท้ายนะคะ)

DAY 1 : CHINA TOWN > MARINA BARRAGE > SKY PARK > HELIX BRIDGE > MARINA BAY > LAU PA SAT MARKET > MERLION


ครั้งนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน LION AIR เที่ยวบิน 07.40 น. (เป็นการเดินทางกับ LION AIR ครั้งแรก... สายการบินนี้ให้ทำเว็บ check in ล่วงหน้าได้ 24 ชม. ก่อนออกเดินทาง และเลือกที่นั่งเองได้ ฟรี นน. กระเป๋า carry on 7KG + นน. โหลดกระเป๋าใต้เครื่องอีก 15KG ดี๊ดีย์ แต่คือไม่ได้โหลดกระเป๋า 5555+) เผลอแป๊บเดียวก็ถึง CHANGI AIRPORT (แนะนำให้เขียนใบ ตม. ขาเข้าให้ครบถ้วน ไม่งั้นต้องไปต่อแถวใหม่ เหมือนเรา เสียเวลาไปไม่น้อย ไปถึงสนามบินประมาณ 11 โมง กว่าจะผ่าน ตม. ออกจากสนามบินได้เกือบบ่ายโมง ร้องไห้ )
ทริปนี้เดินทางด้วย MRT ล้วนๆ ต้องขอบคุณ คุณ sommyjung ที่ให้ยืมบัตร EZ link นะคะ ประหยัดเงินไปได้อีกหน่อย อิอิ หลังจากเติมเงินในบัตรเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงดิ่งเข้าที่พักเอากระเป๋าไปเก็บก่อนเลย
เราพักที่ 5footway inn project boat quay แถว Clarke Quay (คล๊ากคีย์) เดินทางสะดวกไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วก็บริเวณเทอเรสที่พักสามารถมองเห็นวิว MARINA BAY ได้ด้วย (แต่จะบอกว่าไม่ได้ใช้บริการอาหารเช้าของที่พักเลย ทำไมน่ะเหรอ... เวลาไม่พอ!!!)

DAY 1 - TARGET 1 : เป้าหมายแรกของการเดินทางครั้งนี้คือ เราจะไปกินค่ะ 555+ จากที่หาอ่านรีวิว เค้าว่าร้าน Liao Fan Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice & Noodle @Chinatown มีจานเด็ดที่ชื่อว่า Soy Sauce Chicken Noodle หรือก็คือบะหมี่ไก่อบซอส จากการศึกษาเส้นทางเป็นอย่างดี และพึ่งพา google map ปรากฎว่าเดินวนผ่านวัดแขกอยู่สองรอบหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ น้องที่ไปด้วยกันเริ่มหูอื้อตาลาย สุดท้ายไปกิน Tian Tian ข้าวมันไก่ชื่อดังแทน (ชีวิตก็เป็นแบบนี้... เป้าหมายอาจไม่ใช่ปลายทางเสมอไป แต่ถ้าใครหาร้าน Liao Fan Hong Kong มารีวิวให้หน่อยนะคะ อยากรู้ว่าอร่อยสมกับที่เดินวน China town ไปสองรอบมั๊ย) และเพราะเราไปช่วงบ่ายแล้ว เลยรอไม่นาน จากที่อ่านรีวิวก่อนไป เค้าว่าข้าวมันไก่ร้านนี้มีดีที่เนื้อไก่นุ่มชุ่มลิ้น แต่น้ำจิ้มไม่เท่าไหร่ เราบอกเคล็ดลับให้ ลองไม่ได้กินข้าวเช้า และเดินวนรอบ chinatown ซักสองรอบ รับรองว่าโคตรอร่อยอ่ะ
ได้มารูปเดียว หิวมาก มือสั่น ยามนั้นกินแหลก... ใครไปสิงคโปร์แนะนำเลยว่าให้สั่งผัดผักน้ำมันหอยด้วยนะ มันเข้ากันจริงๆ

เติมพลังแล้วก็ไปต่อได้... ระยะเวลาหลังจากนี้ไปคือเดินล้วนๆ ถ้าอยากรู้ว่าจะเดินไปได้ไกลขนาดไหนก็ตามมา...
เดินออกจาก Maxwell มา ก็จะเจอกับ Buddha Tooth Relic Temple หรือวัดพระเขี้ยวแก้ว

ถัดไปเป็นถนนย่าน ChinaTown ถนนที่มีร้านขายของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงสมุนไพร ยาบำรุงกำลังต่างๆ ตุ๊กแกอบแห้งยังมี อมยิ้ม20
เดินเลาะไปจะเจอกับวัดศรีมาริอัมมัน (Sri Mariamman Temple) หรือวัดแขก เราไม่ได้เข้าไปด้านใน ได้แต่เก็บรูปด้านนอก

DAY 1 - TARGET 2 :บริเวณ China Town มีร้านขนมที่เป็น Traditional Desserts ด้วย ชื่อร้าน Mei Heong Yuen Dessert เมนูขึ้นชื่อคือน้ำแข็งใส อารมณ์บิงซู ร้านนี้หาง่ายมากถ้าเดินเล่นถ่ายรูปอยู่บริเวณ China Town หาเจอแน่นอน (ุถ้ามาจาก MRT ให้ออก Exit A เดินออกมาเลี้ยวขวา ไปถนน Temple Steet มองไปทางซ้ายเห็นร้านเลย ร้านเปิดบริการ จ.-ศ. 10.30 น. - 20.00 น. , ส.-อา. 10.30 น. - 22.00 น.)
สำหรับเราเดินร้อนๆ มากินอะไรเย็นๆ รสชาตินุ่มๆ แก้เหนื่อยได้เป็นอย่างดี
(รสชาติบางเบามาก ไม่หวานเหมือนน้ำแข็งใสบ้านเรา แต่กินแล้วชื่นใจ ร้านนี้ไม่มีเครื่องดื่มบริการฟรี แต่มีจำหน่ายนะคะ)

DAY 1 - TARGET 3 : SEA WHEEL TRAVEL เราจะไปซื้อตั๋ว USS และ Sky Park กันที่นี่ เพราะว่าราคาถูกที่สุดแล้วในสิงคโปร์
การเดินทางให้มองหาตึก People’s Park Centre เป็นตึกสีครีม แดง ขึ้นบันไดเลื่อน หรือ ลิฟท์มาที่ชั้น 3 มองหาร้านที่มีไฟเขียวๆ แล้วมีตัวอักษรว่า “SEA WHEEL TRAVEL PTE LTD” เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 20.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.
เหมือนจะหาง่าย แต่ก็ไม่ง่ายนะ เราเข้าไปแล้วหาไม่เจอ ถามลุงที่ขายของอยู่ในห้าง ลุงยิ้มอ่อน แล้วชี้มือขึ้นไปข้างบน พอมองขึ้นไปเจอเลย รู้สึกว่าตัวเองโง่เบาๆ THANK YOU SO MUCH นะคะคุณลุง แล้วก็ว๊าบขึ้นลิฟท์ไปเลย 555+
ตอนที่ไปราคาบัตร USS อยู่ที่ SGD62.00 (ประมาณ 1,600 บาท) แล้วก็บัตร Sky Park ราคา SGD21.00 (ประมาณ 500 นิดๆ)

DAY 1 - TARGET 4 : MARINA BARRAGE ออกจาก China Town ก็บ่ายแก่แล้ว ตอนแรกก็สองจิตสองใจว่าจะไปดีมั๊ย ถามน้องผู้ร่วมเดินทาง น้องถามกลับมาว่า "พี่ว่ามันสวยมั๊ย???" คำตอบคือ ไม่ไปก็ไม่รู้ งั้นก็ไปเถอะ 555+
การเดินทาง : MRT Bayfront Station Exit B จากนั้นก็เดินทะลุผ่าน Garden by the Bay แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ ชมวิวถ่ายรูปข้างทางกันไป เดี๋ยวก็ถึงค่ะ แต่กว่าจะถึงเราต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ค่ะ
(ตอนไปเค้าจัดงานคล้ายๆ กับวิ่งมาราธอนรอบ Garden by the bay คิดในใจว่าถ้าลงแข่งก็อาจจะได้เหรียญติดมือกลับบ้านมากับเค้าบ้าง 5555+)

แต่พอไปถึงแล้วบอกว่าเลยว่า MARINA BARRAGE เป็นสถานที่ที่สมควรมีในแผนการเดินทาง เมื่อมาเยือนสิงคโปร์เลยค่ะ วิวสวย ลมเย็น อากาศดีงามมาก คุ้มค่ากับหยาดเหงื่อ

อยู่กันจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็ถึงเวลาเดินกลับไป MARINA BAY SANDS เพื่อไปชมวิวบน Sky Park แล้ว ระหว่างเดินกลับ ก็ถ่ายรูปเล่นมาเรื่อยๆ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึงค่ะ ถ้าใครชอบถ่ายรูปรับรองว่าเดินเพลิน

DAY 1 - TARGET 5 : SKY PARK @MARINA BAY SANDS
การเดินทาง: เราว่าทางเข้าแอบหายาก เพราะเราหาไม่เจอ (อีกแล้วววว) ก็ถามเอาค่ะ ว่าทางขึ้น Sky Park ไปทางไหน เดี๋ยวก็เจอ 555+
มองลงมาจากด้านบนแล้ว สำหรับเรา สิงคโปร์คือเมืองแห่งแสงสี มองไปทางไหนก็มีแต่สีสวยๆ เต็มไปหมด ถ้าใครมาแล้วแนะนำว่าให้ขึ้นมาชมวิวด้านบนนี้ซักครั้งนะคะ เพราะบางครั้งรูปถ่ายที่สวยที่สุดต้องถ่ายด้วยตาแล้วเก็บไว้ในใจ
ความตั้งใจของเราคือจะมาดูสระว่ายน้ำลอยฟ้า แต่ไปรอบนี้ไม่เจอ ไม่แน่ใจว่าเค้ากั้นปิดไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ที่มาใช้บริการหรือเปล่า


DAY 1 - TARGET 6 : HELIX BRIDGE, LAU PA SAT MARKET, MERLION เป้าหมายสุดท้ายนี่แหล่ะ ฮาขั้นสุด ตอนแรกเรากะว่าจะนั่ง MRT ไป Merlion แต่ๆๆๆ ปรากฎว่าจาก Helix bridge เดินกลับไป MRT ค่อนข้างไกลพอสมควร เราเลยคุยกันกับน้องที่ร่วมเดินทางว่า เราจะเดินไป ถูกแล้วค่ะ เดิน!!! โดยเส้นทางการเดินของเราในครั้งนี้คือ พอกลับลงมาจาก Sky park ตอนแรกคือแค่ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอ Helix Bridge แล้ว แต่ความมึนของเราเอง ดันเดินมาหน้า Marina Bay Sands ไปถามประชาสัมพันธ์ พี่แกบอกว่าต้องเดินกลับไปด้านหลังสุดของตึก เพื่อไป Helix bridge (พี่แกเอาแผนที่ห้างออกมาขีดเส้นให้ดู แล้วบอกประโยคเด็ดว่า you need to walked the end to the end จร้าาาาา พีคมากกกก) หลังจากเดินถ่ายรูปจนสุด Helix bridge จะกลับไป MRT ก็ไกล ตัดสินใจเดินกันต่อไป Merlion แล้วก็กะว่าจะแวะหาอะไรกินที่ Lau Pa Sat Market แต่ๆๆๆ คือเดินดูๆ ดมๆ ผ่าน Lau Pa Sat Market ไป Merlion เฉ๊ยยยย โดยที่ไม่รู้เลยว่านี่แหล่ะคือ Market ที่จะแวะหาอะไรกิน Facepalm
จากการที่อ่านรีวิวเราเข้าใจว่า Lau Pa Sat Market จะคล้ายๆ กับฮอว์กเกอร์หรือศูนย์อาหาร แต่ความจริงแล้วคือเป็น Market กลางแจ้ง มีดนตรีเล่นสด ร้านที่ขายตั้งแนวๆ street food แต่ราคาไม่ street เลยนะจ๊ะ เลยปล่อยผ่านไป
  

ถ้าวันนี้เดินไปถึงแล้วสิงโตไม่พ่นน้ำ พี่นี่แหล่ะจะนั่งร้องไห้อยู่ริมแม่น้ำแทน!!!
หลายคนที่เคยไปมาแล้วคงสงสัยว่าแล้วทำไมไม่ดูโชว์แสงสีเสียง ไม่ต้องสงสัยค่ะ เป็นความโชคดีของเราเอง ที่เค้าประกาศงดการแสดง
เพื่อปิดปรับปรุงก่อนวันเดินทางแค่คืนเดียว!!! ไม่มีใครโชคดีกว่านี้อีกแล้ว 5555+

หลังจากนั่งชม Merlion พ่นน้ำจนสาแก่ใจ ถามกูเกิลผู้รอบรู้แล้วว่าระยะทางจากตรงนี้ไป MRT กับระยะทางจากตรงนี้ไปที่พัก เฮ้ยยยยย
มันพอๆ กันเลย เราหันไปมองหน้าน้อง (ผู้ถูกลากมา) ร่วมชะตากรรม...
เรา : ระยะทางมันพอๆ กัน เราเดินกันมะ คิดซะว่าเดินชมเมือง
น้อง : แล้วแต่พี่เลย
งั้นก็ออกเดินกันเลยคร่าาาาา ริมทางสวยนะ แต่ได้แค่มอง มือไม่มีแรงยกกล้องแล้ว 5555+
(นาทีนั้นบอกเลยคิดถึงมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่เมืองไทยมากจริงๆ ถ้าเป็นเมืองไทยคงโบกให้ไปส่งที่พักไปแล้ว)


หลังจากที่เดินมาถึงหน้าที่พักแล้ว น้องบอกว่า "พี่... หนูหิว" เอื๊อกกกก ทำไงล่ะ กัดฟันเดินผ่านที่พักไปร้านค้าที่อยู่ตรง MRT นั่นแหล่ะจ้าาาาา
คิดในใจว่า "ไม่ได้กลับ MRT แต่สุดท้ายก็ต้องเดินจาก MRT ไปที่พักจนด๊ายยยย"
จบวันแรกเดินกันขนาดไหน ดูกันเอาเอง ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

วันที่ 2-3 ต่อในความคิดเห็นนะคะ
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่