เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ทุกวันหยุดผมมักชอบไปปฏิบัติธรรมที่วัด โดยละเเวกที่พักของผมมีวัดป่าอยู่เเห่งหนึ่ง บรรยากาศสงบมาก เเม้จะอยู่ไม่ห่างจากตัวเมือองนัก
ที่พักของผู้ชายจะเป็นศาลาหลังใหญ่ รับรองผู้มาปฏิบัติธรรมได้ไม่ต่ำกว่า 30 คน เเต่ไม่ค่อยมีใครมาพักหรอกครับ ทำให้ผมมักต้องนอนคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง เเรกๆ ก็รู้สึกหลอนๆ ครับ เเต่นานไปก็เริ่มชิน
โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปพัก ได้มีผู้ชายคน 2 พักอยู่ก่อนหน้านั้นเล้ว เท่ากับคืนนั้นศาลาทั้งหลังมีผู้พักอยู่ 3 คน หลังจากทำวัตรเสร็จ ระหว่างที่ผมกำลังจัดที่นอน น้องผู้ชายคนหนึ่งก็หอบที่นอนมาขอนอนใกล้ๆ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ได้เเต่ยิ้มให้ไป เเล้วต่างคนก็ต่างนอน
เเต่หลับไปได้สักพัก ผมก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เมื่อได้ยินเสียงคนร้องขึ้นอย่างโหยหวน พอขยี้ตาเห็นภาพรางๆ ในความมืด เป็นภาพผู้ชายคนที่เเยกไปนอนกลางศาลาคนเดียว กำลังดิ้นเกร็งอย่างทุรนทุราย ก่อนชันตัวขึ้นนั่ง เเล้วก็ส่งเสียงร้อง "ฮี่ๆๆๆๆ ฮี่ๆๆๆๆ" ก่อนล้มตัวลงนอน
ตอนนั้นผมรู้สึกช็อกมาก เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ชัก หรือว่าผีเข้า (ในวัดนี่นะ) หรือว่า ฯลฯ โดยน้องคนที่นอนข้างๆ บอกว่า ตนเองพักอยู่ร่วมกับผู้ชายคนนี้มาเกือบสัปดาห์เเล้ว พักอยู่กัน 2 คน ตอนเเรกเขาก็ตกใจมาก เเต่ตอนนี้ชินเเล้ว เเละดีใจมากที่มีคนมาพักเพิ่ม เพราะลึกๆ ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่
เเละคืนนั้นผมก็ต้องรู้สึกหลอนเป็นระยะ เมื่อหลังจากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวก็ชักเกร็ง ก่อนชันตัวลุกขึ้น ร้องเสียงเหมือนม้าอีก ซึ่งทุกๆ 20-30 นาที เขาจะมีอาการอย่างนี้ เเละร้องลั่นศาลา ทำให้คืนนั้นผมไม่ได้นอนเลย ลุกไปทำวัตรตอนตี 5 อย่างหมดสภาพมาก
หลังจากทำวัตรเสร็จ ผมก็ถามเขาตรงๆ ว่า ทำไมเขาถึงมีอาการอย่างนั้น เขาก็เล่าให้ฟังว่า มันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขา เขาพูดอย่างปลงๆ เหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เเละต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้
วันต่อๆ มา ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกกลัวเท่าไหร่ เเต่จะสงสารเขามากกว่า เเละสงสารตัวเองด้วย เพราะถ้าไปวัดวันไหน เเล้วต้องเจอเขา ผมก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยว่า "คืนนี้กูไม่ได้นอนอีกเเระ"
ประสบการณ์หลอนๆ ขณะที่ผมไปปฏิบัติธรรม
ที่พักของผู้ชายจะเป็นศาลาหลังใหญ่ รับรองผู้มาปฏิบัติธรรมได้ไม่ต่ำกว่า 30 คน เเต่ไม่ค่อยมีใครมาพักหรอกครับ ทำให้ผมมักต้องนอนคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง เเรกๆ ก็รู้สึกหลอนๆ ครับ เเต่นานไปก็เริ่มชิน
โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปพัก ได้มีผู้ชายคน 2 พักอยู่ก่อนหน้านั้นเล้ว เท่ากับคืนนั้นศาลาทั้งหลังมีผู้พักอยู่ 3 คน หลังจากทำวัตรเสร็จ ระหว่างที่ผมกำลังจัดที่นอน น้องผู้ชายคนหนึ่งก็หอบที่นอนมาขอนอนใกล้ๆ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ได้เเต่ยิ้มให้ไป เเล้วต่างคนก็ต่างนอน
เเต่หลับไปได้สักพัก ผมก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เมื่อได้ยินเสียงคนร้องขึ้นอย่างโหยหวน พอขยี้ตาเห็นภาพรางๆ ในความมืด เป็นภาพผู้ชายคนที่เเยกไปนอนกลางศาลาคนเดียว กำลังดิ้นเกร็งอย่างทุรนทุราย ก่อนชันตัวขึ้นนั่ง เเล้วก็ส่งเสียงร้อง "ฮี่ๆๆๆๆ ฮี่ๆๆๆๆ" ก่อนล้มตัวลงนอน
ตอนนั้นผมรู้สึกช็อกมาก เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ชัก หรือว่าผีเข้า (ในวัดนี่นะ) หรือว่า ฯลฯ โดยน้องคนที่นอนข้างๆ บอกว่า ตนเองพักอยู่ร่วมกับผู้ชายคนนี้มาเกือบสัปดาห์เเล้ว พักอยู่กัน 2 คน ตอนเเรกเขาก็ตกใจมาก เเต่ตอนนี้ชินเเล้ว เเละดีใจมากที่มีคนมาพักเพิ่ม เพราะลึกๆ ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่
เเละคืนนั้นผมก็ต้องรู้สึกหลอนเป็นระยะ เมื่อหลังจากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวก็ชักเกร็ง ก่อนชันตัวลุกขึ้น ร้องเสียงเหมือนม้าอีก ซึ่งทุกๆ 20-30 นาที เขาจะมีอาการอย่างนี้ เเละร้องลั่นศาลา ทำให้คืนนั้นผมไม่ได้นอนเลย ลุกไปทำวัตรตอนตี 5 อย่างหมดสภาพมาก
หลังจากทำวัตรเสร็จ ผมก็ถามเขาตรงๆ ว่า ทำไมเขาถึงมีอาการอย่างนั้น เขาก็เล่าให้ฟังว่า มันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขา เขาพูดอย่างปลงๆ เหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เเละต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้
วันต่อๆ มา ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกกลัวเท่าไหร่ เเต่จะสงสารเขามากกว่า เเละสงสารตัวเองด้วย เพราะถ้าไปวัดวันไหน เเล้วต้องเจอเขา ผมก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยว่า "คืนนี้กูไม่ได้นอนอีกเเระ"