ปมที่ฝั่งใจและอดีตที่อยากกลับไปแก้ไข

ก่อนอื่นเราเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จริงๆแล้วเราเป็นคนกรุงเทพ แต่มาเรียนที่นี่ตั้งแต่ม.ปลาย ซึ่งมาอาศัยอยู่กับญาติที่นี่ พ่อแม่เราก็ทำงานอยู่กรุงเทพ ซึ่งเวลาที่อยู่ที่เชียงใหม่ แทบไม่ได้คุยกับคนในบ้าน เนื่องจากเราไม่ค่อยสนิทกับคนที่นี่ เวลาว่างๆก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน จะออกไปอยู่กับเพื่อนบ้าง ถ้ามีแฟนก็อยู่กับแฟน ซึ่งเราเลิกกันมาได้เกือบๆ3ปีแล้ว ช่วงแรกๆที่เลิกกันเราก็ตามไปง้อเขา แต่เหมือนกับว่า เขาทำใจที่จะอยู่คนเดียวโดยไม่มีเราได้แล้ว เราจึงไม่ตามง้อต่อไป แต่มาวันนึงเราเจอเขาที่ร้านเหล้าเขามากับเพื่อนเขา เราก็มากับเพื่อนเรา ซึ่งก็เจอหน้ากันทักกันปกติ ในวันนั้นเขาเมามาก เราจึงต้องไปส่งเขาที่หอ ก่อนกลับ เขาร้องไห้กับเรา จับมือเราไว้แน่น พูดกับเราว่า อย่าไปได้ไหม ซึ่งวันนั้นเราเป็นอะไรไม่รู้อยากกลับบ้าน เราเลยบอกเช้ามาค่อยคุยกันนะ ซึ่งตอนเช้าเขาก็ทักมาว่าเราไปส่งเขาหรอ เขาจำอะไรไม่ได้ เราก็บอกว่าเราไปส่งเอง อยู่ๆเขาก็ถามมาว่า ถ้ายังไม่มีใครเรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม ตอนนั้นเรากลัวมากที่มันจะวนลูบแล้วมาจบแบบเดิม เราจึงปฏิเสธเขาไป  ตอนที่เลิกกันเราเองก็เป็นคนผิด พอมาคิดได้ก็สายไปแล้ว ช่วงที่เราตามตื้อเขา เราเกลียดตัวเองมากที่อ่อนแอ โทรไปหาเขาแล้วร้องไห้ บางทีก็ไปหาใต้หอแล้วก็ร้องไห้กับเขา จนเขาอาจจะทนไม่ไหว จึงพูดกับเรามาว่า แฟนใหม่เขาดีกว่าเรามาก เราจึงออกห่างออกมา อย่างน้อยเราก็สบายใจที่เขาไปเจอคนที่ดีๆ อยู่มาวันนึงเขาทักมาหาเราว่า เป็นไงบ้างสบายดีไหม ปกติเขาไม่เคยทักมาหาเราเลย ซึ่งเราติดตามความเป็นอยู่ของเขาผ่านทวิตอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่มีอะไรชอบโพสลงทวิต ทำให้เรารู้ว่าเขาทะเลาะกับแฟน เราเลยถามไปว่า มีอะไรหรือเปล่าทำไมถึงทักมา ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นห่วงเฉยๆ เรารู้นิสัยเขาดีว่าเขาชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวและปากแข็ง เราเลยถามย้ำอีกรอบ เขาก็บอกว่าทะเลาะกับแฟนมา แฟนเขาเป็นหมอไม่ค่อยมีเวลาให้ โลกส่วนตัวสูง เขาก็พูดกับเราว่าเขาอาจติดเราไปแล้วเพราะตอนคบกับเรา เราอยู่กับเขาเกือบจะตลอดเวลา เราก็บอกเขาให้เขาไปคุยกับแฟนเขา เรื่องของคนสองคน ตอนนั้นเราก็แอบหวังให้เขากลับมาหาเรานะ แต่ก็ไม่ได้ยุให้เลิก เลยบอกเขาไปแค่ ถ้ามันไม่ไหว ก็กลับมาในที่ของเรา หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย  มีช่วงนึงที่เราไปเจอเขาที่ร้านเหล้า เขาเป็นคนคออ่อนมากวันนั้นเขาก็เริ่มเมาๆ เราก็ไปชนแก้วเขาที่โต้ะเขาหงายหลังเราดึงไว้ทัน เลยให้เขานั่งพิงขาเราแล้วเรายืน เขาเมามากเราเลยบอกเขาว่าเรากลับไปที่โต้ะเราแล้วนะ พอเราเดินออกมาเขาจับมือเราแน่นมาก ทำให้ภาพก่อนหน้านั้นย้อนกลับมา  พอมาถึงวันนี้ มันกลับกลายเป็นว่าเราทิ้งโอกาสของเราไป และมันคงเป็นโอกาสสุดท้าย มันจึงทำให้เป็นปมติดตัวเรามาถึงทุกวันนี้  วันนี้เราก็ยังไม่มีใคร แม้แต่คนคุยเลย มันเลยกลับทำให้เราคิดถึงช่วงเวลาที่เรามีเขาอยู่ ถ้าเรายังคบกันอยู่ถึงตอนนี้ อะไรๆมันคงดีกว่าที่เป็นอยู่ เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา เราประสบอุบัติเหตุ ทำให้ข้อเท้าเราหักและต้องผ่าตัด ช่วงเวลาตอนนั้นเหมือนไม่เหลือใครที่จะมาดูแลเราได้เลยนอกจากแม่ของเรา แม่ของเราขึ้นมาหาก่อนผ่าตัด ซึ่งเราคิดว่าถ้าตอนนั้นยังมีเขาอยู่ ก็คงเป็นเขาที่คอยให้กำลังใจเรา อยู่ข้างๆเรา ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว เราก็ยังเดินไม่ได้ บางครั้งก็มีเพื่อนพาไปเที่ยว บางครั้งก็ต้องนั่งรถไปเอง ถ้ามีเขาอยู่ก็คงเป็นเขาที่คงเป็นคนพาเราไปไหนมาไหน ชีวิตมันดูเหงาๆไปหมดเลย ทั้งๆที่ผ่านมานานแล้ว แต่เราก็ยังลืมเขาไม่ได้ ไม่เคยมีใครพอดีกับเราเท่าเขามาก่อน
ทุกวันนี้เราก็ยังมองดูเขาผ่านทวิตเตอร์ เพราะเขาเราถึงเริ่มเล่นทวิต ตอนนั้นก็ฟอลแค่เขาคนเดียว ซึ่งมันเป็นทางเดียวที่ทำให้เรารู้ว่าเขาเป็นอยู่ยังไงบ้าง มีความสุขดีไหม บางครั้งก็ทักไปหา แต่ก็ไม่อยากคุยอะไรเยอะ เพราะเขาก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว ทำได้เพียงแค่ห่วงเขาอยู่ห่างๆ  ทุกวันนี้เราเองก็เจอเรื่องร้ายๆตั้งแต่ไม่มีเขาอยู่ในชีวิตเยอะมาก บางครั้งก็เหนื่อย บางครั้งก็ท้อ บางครั้งก็อยากมีคนคอยให้กำลังใจ คอยอยู่ข้างๆตอนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ถ้าเขาจะกลับมา เราบอกเลยว่าเราพร้อมที่จะมีเขาเข้ามาในชีวิตของเราอีกรอบ และครั้งนี้เราจะไม่ปล่อยมือเขาไปเหมือนครั้งที่แล้ว มันเป็นเรื่องๆเดียวที่เราอยากย้อนกลับไปแก้ไขช่วงเวลานั้นมาก ฝากถึงคนอื่นๆนะครับจะตัดสินใจทำอะไรคิดให้ดีๆก่อน อย่าพลาดเหมือนเรา เพราะในชีวิตจริง ไม่มีไทม์แมชชีน หรือ พลังวิเศษที่ย้อนเวลากลับไปได้ มันอาจจะกลายเป็นปมติดตัวเหมือนกับเราทุกวันนี้ก็ได้ ถ้าเจอคนที่พอดีกับเราแล้ว ก็รักษาเขาไว้ให้ดีๆครับ มีอะไรค่อยๆคุยกัน เพราะทุกวันนี้ คนรักเกิดขึ้นได้ง่าย แต่คนที่ใช่เกิดได้ยากนะครับ .
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่