สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
เคยมั้ยคะ เวลาเรารักใครสักคน ยอมเสียสละทุกอย่างที่มีอยู่ในชีวิตให้กับเค้า จนวันหนึ่งเรากลายเป็นคนที่เหลือแค่ใจพังๆ ??
..... เราอายุ 28 ปีค่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ถ้าถามเรื่องหน้าทีการงาน ก็คงอยู่ในระดับที่ก้าวหน้าเร็วมากกว่าคนอื่นในอาชีพและอายุเท่าๆกัน เราคบกับแฟนคนหนึ่ง อายุเท่าๆกันค่ะ แต่แฟนเราเพิ่งจะเรียนจบเนื่องจากเค้าเรียนซ้ำชั้นค่ะ เราคบกันมาได้ 2 ปีแล้วค่ะ ดูเหมือนความรักของเราทั้งสองจะดีนะคะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเพราะตัวเค้าเองยังไม่ได้หางานทำ ส่วนเราก็ทำงาน หาเช้ากินค่ำค่ะ ตัวเค้าเองก็จะมีหน้าที่ไปรับไปส่งเรา ทำกับข้าว ดูแลเราต่างๆนานา เวลาเค้าไม่สบาย เราเองก็ลางาน ซื้อยา เช็ดตัว ทำทุกอย่างที่คนรักคนนึงจะทำได้ แต่สิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการก็คือ "การคบกันเปิดเผย" ......
..... ช่วงที่เรากำลังจะคบกัน เราเองก็เคยดู FB ของเค้านะคะ เค้าก็ค่อนข้างจะเปิดเผยกับแฟนเก่า ลงรูปโน่นนี่เวลาไปเที่ยว ตัวเราเองก็ได้แต่แอบหวังว่าจะมีสักวันที่เค้าจะลงรูปคู่กับเราบ้าง ได้แต่รอ รอ และรอค่ะ เคยนั่งถามตัวเองนะคะ ทำไมเค้าไม่ลงรูปเราบ้าง หรือเป็นเพราะเราไม่สวย ไม่ดีพอที่จะเปิดเผย เคยถามเค้าเหมือนกันนะคะ เค้าเองก็บอกว่า บางครั้งคบกันไม่จำเป็นต้องเปิดเผย เรื่องบางเรื่องรู้แค่ 2 คนก็พอแล้ว ตัวเค้าเองก็ไม่ได้คิดที่ปกปิดใคร เราเองก็ได้แต่นั่งปลอบใจตัวเองว่า เอาเหอะ ไม่เป็นไร วันนี้รู้แค่เรารักกันก็พอแล้ว
..... จนวันหนึ่ง ตัวเค้าเองต้องเดินทางไปฝึกงานช่วงก่อนจบปีการศึกษาสุดท้าย ที่บริษัทแห่งหนึ่ง "ความห่างไกล" ก็ได้เข้ามาทำลายความเชื่อใจของผู้หญิงคนหนึ่ง เราติดต่อผ่านทางโทรศัพท์และวิดีโอคอลกันทุกวัน และสถานที่ฝึกงานของเค้านั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ต้องน่าเป็นห่วง กลับกลายเป็นเมื่อเราเห็นความเปลี่ยนแปลงของแฟนที่ผู้หญิงอย่างเราสัมผัสได้ เค้าเริ่มจับโทรศัพท์บ่อยขึ้นทุกครั้งที่อยู่กับเรา เริ่มมีการแซวกันในโพสต์เฟสบุ๊คถึง "ผู้หญิงนามสมมติว่า นก "
*** พี่นก เป็นรุ่นพี่ในบริษัท ที่ใครๆต่างก็นับถือ อายุก็น่าจะสัก 45 ปีแล้วล่ะคะ เค้าเป็นผู้หญิงดูบอบบาง น่าทะนุถนอม ที่สำคัญ โสดค่ะ ใครๆต่างก็แซวเรื่องราวระหว่างพี่นกและแฟนของเราค่ะ แรกๆเราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะคะ อายุเค้าเยอะแล้ว คงไม่คิดอะไรกับเด็กๆอย่างแฟนเราค่ะ
..... แต่ใครจะไปรู้ เรื่องแบบนี้ ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดัง *** เค้าทั้งคู่แอบคุยกันตลอดช่วงเวลาที่แฟนเราไปฝึกงานค่ะ ความลับเปิดเผยเมื่อมีรุ่นพี่ในบริษัทมาแซวว่า "จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ ? " หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเราและแฟนระหองระแหงมาตลอด เพราะเราเองก็หยิบยกเรื่องของผู้หญิงคนนี้มาคุยกันตลอดที่มีบทสนทนากัน จนกลายเป็นการคำบอกเลิก ออกจากปากแฟน ด้วยเหตุผลที่บอกว่า เราเป็นผู้หญิงที่ไม่มีเหตุผล ความรู้สึกตอนนั้นคือ แย่ จนพูดไม่ออก ถามตัวเองว่าเราไม่ดีตรงไหน เรารักเค้าน้อยเกินไป หรือความจริงแล้วเค้าอาจจะไม่เคยรักเราเลยด้วยซ้ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมา 2 ปีอยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอไง เราเองกินไม่ได้ นอนไม่หลับ อารมณ์คนอกหัก ขาดงานเป็นสัปดาห์ จนช่วงหลังไม่สบายป่วยหนัก ถึงขั้นช็อค จ้ำเลือดตามตัว จนต้องเข้าโรงพยาบาล ในช่วงนั้น หลังจากที่แฟนเราทราบข่าว เค้าก็กลับมาดูแลนะคะ แต่เราเองก็รู้ว่าเค้ายังแอบคุยโทรศัพท์หากันตลอด เวลาเรานอนหลับอยู่ที่โรงพยาบาล เค้าจะแอบไปที่ระเบียงห้องเพื่อที่จะคุยโทรศัพท์กับพี่นก ในใจตอนนั้นรู้สึกว่า ทำไมนะ เราแย่ขนาดนี้ เค้ายังทำแบบนี้อีกหรอ แล้วจะกลับมาทำไมอีก แต่สุดท้ายแล้วอาการเจ็บป่วยของเราเรื้อรังยาวนานจนหาสาเหตุพบจากการเจาะไขกระดูก เราป่วยเป็น "มะเร็งเม็ดเลือดขาว" หลังจากที่แพทย์ได้แจ้งอาการเจ็บป่วย ในใจตอนนั้นพังหมดทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนทุกอย่างกำลังจะจบลงแบบทั้งสุขและทุกข์ ในใจตอนนั้นดีใจนะคะที่เราจะไม่เจ็บปวดอีกแล้ว (ลืมบอกไปค่ะ เรากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กๆอยู่กับยาย เพิ่งเสียไปเมื่อ 3 ปีก่อนค่ะ หลังจากนั้นอยู่คนเดียวมาตลอดและมีญาติห่างๆ) อีกใจนึงก็คิดว่า ถ้าเราต้องไปจริงๆ แฟนเรายังหางานทำไม่ได้ ยังไม่เป็นหลักแหล่ง เค้าจะอยู่ได้ไหม เพราะที่ผ่านมา เราคอยช่วยเหลือเค้ามาตลอด แต่คงคิดว่าเค้าอยู่ได้เพราะมีพี่นก ผู้ซึ่งเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์เราห่างเหินออกไป ตอนที่แพทย์แจ้งให้ทราบ เราหันไปมองหน้าแฟน ในใจตอนนั้น เค้าเฉยชามาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราได้เริ่มคุยกับแฟนอย่างจริงจังว่า หลังจากนี้ที่เราเริ่มทำการรักษา ขอให้คุณไปอยู่กับพี่นกได้เลย ไม่ต้องมาหาเรา เราไม่เป็นไร ถ้าเราหาย เราค่อยไปเอาคุณคืน พร้อมทั้งหัวเราะด้วยน้ำตากะจะพูดให้ขำ แฟนมองหน้าเราแล้วน้ำตาเค้าเริ่มไหล ในใจตอนนั้นมีแต่เครื่องหมายสงสัยว่า น้ำตาจะไหลทำไมในเมื่อเราเองที่แย่ ส่วนเค้าเองที่เป็นคนที่ยังคงต้องเดินต่อไป ไม่มีคำพูดใดๆ เราเองก็ได้แต่กอด ปลอบใจเค้าว่า เราคงทำบุญกันมาแค่นี้ อย่ามาจมอยู่กับผู้หญิงแย่ๆแบบเราเลย หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เรากับเค้ากลับไปคอนโดเพื่อเก็บของของเค้า และแยกย้ายไปอยู่กับคนที่เค้ารัก เหมือนดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้งก็ไม่รู้ เค้าเริ่มตัวร้อน ไม่สบาย ไข้ขึ้นสูง ตัวเราเองด้วยความรักและความผูกพันธ์ ก็เฝ้าเช็ดตัว ทำข้าวต้ม ป้อนยาให้เค้า ในใจตอนนั้น ถ้าเราเจ็บป่วยแทนเค้าได้ เราขอเป็นฝ่ายที่เจ็บเอง ไม่อยากให้เค้าอยู่ในสภาพแบบนี้ จนวันที่ 4 ที่เค้ามีไข้ เราอดหลับอดนอนจนร่างกายเริ่มทรุดลง และเค้าค่อยๆดีขึ้น หลังจากลืมตาขึ้นมา ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ของแฟนกับพี่นก ในบทสนทนานั้น แฟนพูดขึ้นมาว่าไม่ได้อยู่กับเรา อยู่คนเดียว ไม่ได้มีใคร รักพี่คนเดียว
..... เราเองได้แต่หลับตากลั้นใจฟัง จนเค้าทั้งคู่คุยโทรศัพท์กันเสร็จ
เรื่องราวต่อจากนี้ ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น เราอยู่ด้วยกัน เราเหมือนเป็นแฟนกัน แต่มันมีแต่ความอึดอัดตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
เรื่องการรักษา คุณหมอจะนัดเราอีกครั้งเพื่อคุยรายละเอียด แต่ดูจากสภาพจิตใจเราตอนนี้คงไม่พร้อมที่จะเผชิญความเจ็บปวดทั้งกายและใจ
ไม่มีคำตอบใดๆ สำหรับคำถามว่า อยู่ได้ไหมถ้าไม่มีเขา ถ้าไม่เป็นเรา ไม่มีวันเข้าใจ
ขอบคุณที่อ่านนะคะ เหมือนนิยาย แต่สุดท้ายนิยายก็เอามาจากชีวิตจริงทั้งนั้น
รักแท้ แพ้มารยาหญิงและความตาย
เคยมั้ยคะ เวลาเรารักใครสักคน ยอมเสียสละทุกอย่างที่มีอยู่ในชีวิตให้กับเค้า จนวันหนึ่งเรากลายเป็นคนที่เหลือแค่ใจพังๆ ??
..... เราอายุ 28 ปีค่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ถ้าถามเรื่องหน้าทีการงาน ก็คงอยู่ในระดับที่ก้าวหน้าเร็วมากกว่าคนอื่นในอาชีพและอายุเท่าๆกัน เราคบกับแฟนคนหนึ่ง อายุเท่าๆกันค่ะ แต่แฟนเราเพิ่งจะเรียนจบเนื่องจากเค้าเรียนซ้ำชั้นค่ะ เราคบกันมาได้ 2 ปีแล้วค่ะ ดูเหมือนความรักของเราทั้งสองจะดีนะคะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเพราะตัวเค้าเองยังไม่ได้หางานทำ ส่วนเราก็ทำงาน หาเช้ากินค่ำค่ะ ตัวเค้าเองก็จะมีหน้าที่ไปรับไปส่งเรา ทำกับข้าว ดูแลเราต่างๆนานา เวลาเค้าไม่สบาย เราเองก็ลางาน ซื้อยา เช็ดตัว ทำทุกอย่างที่คนรักคนนึงจะทำได้ แต่สิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการก็คือ "การคบกันเปิดเผย" ......
..... ช่วงที่เรากำลังจะคบกัน เราเองก็เคยดู FB ของเค้านะคะ เค้าก็ค่อนข้างจะเปิดเผยกับแฟนเก่า ลงรูปโน่นนี่เวลาไปเที่ยว ตัวเราเองก็ได้แต่แอบหวังว่าจะมีสักวันที่เค้าจะลงรูปคู่กับเราบ้าง ได้แต่รอ รอ และรอค่ะ เคยนั่งถามตัวเองนะคะ ทำไมเค้าไม่ลงรูปเราบ้าง หรือเป็นเพราะเราไม่สวย ไม่ดีพอที่จะเปิดเผย เคยถามเค้าเหมือนกันนะคะ เค้าเองก็บอกว่า บางครั้งคบกันไม่จำเป็นต้องเปิดเผย เรื่องบางเรื่องรู้แค่ 2 คนก็พอแล้ว ตัวเค้าเองก็ไม่ได้คิดที่ปกปิดใคร เราเองก็ได้แต่นั่งปลอบใจตัวเองว่า เอาเหอะ ไม่เป็นไร วันนี้รู้แค่เรารักกันก็พอแล้ว
..... จนวันหนึ่ง ตัวเค้าเองต้องเดินทางไปฝึกงานช่วงก่อนจบปีการศึกษาสุดท้าย ที่บริษัทแห่งหนึ่ง "ความห่างไกล" ก็ได้เข้ามาทำลายความเชื่อใจของผู้หญิงคนหนึ่ง เราติดต่อผ่านทางโทรศัพท์และวิดีโอคอลกันทุกวัน และสถานที่ฝึกงานของเค้านั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ต้องน่าเป็นห่วง กลับกลายเป็นเมื่อเราเห็นความเปลี่ยนแปลงของแฟนที่ผู้หญิงอย่างเราสัมผัสได้ เค้าเริ่มจับโทรศัพท์บ่อยขึ้นทุกครั้งที่อยู่กับเรา เริ่มมีการแซวกันในโพสต์เฟสบุ๊คถึง "ผู้หญิงนามสมมติว่า นก "
*** พี่นก เป็นรุ่นพี่ในบริษัท ที่ใครๆต่างก็นับถือ อายุก็น่าจะสัก 45 ปีแล้วล่ะคะ เค้าเป็นผู้หญิงดูบอบบาง น่าทะนุถนอม ที่สำคัญ โสดค่ะ ใครๆต่างก็แซวเรื่องราวระหว่างพี่นกและแฟนของเราค่ะ แรกๆเราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะคะ อายุเค้าเยอะแล้ว คงไม่คิดอะไรกับเด็กๆอย่างแฟนเราค่ะ
..... แต่ใครจะไปรู้ เรื่องแบบนี้ ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดัง *** เค้าทั้งคู่แอบคุยกันตลอดช่วงเวลาที่แฟนเราไปฝึกงานค่ะ ความลับเปิดเผยเมื่อมีรุ่นพี่ในบริษัทมาแซวว่า "จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ ? " หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเราและแฟนระหองระแหงมาตลอด เพราะเราเองก็หยิบยกเรื่องของผู้หญิงคนนี้มาคุยกันตลอดที่มีบทสนทนากัน จนกลายเป็นการคำบอกเลิก ออกจากปากแฟน ด้วยเหตุผลที่บอกว่า เราเป็นผู้หญิงที่ไม่มีเหตุผล ความรู้สึกตอนนั้นคือ แย่ จนพูดไม่ออก ถามตัวเองว่าเราไม่ดีตรงไหน เรารักเค้าน้อยเกินไป หรือความจริงแล้วเค้าอาจจะไม่เคยรักเราเลยด้วยซ้ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมา 2 ปีอยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอไง เราเองกินไม่ได้ นอนไม่หลับ อารมณ์คนอกหัก ขาดงานเป็นสัปดาห์ จนช่วงหลังไม่สบายป่วยหนัก ถึงขั้นช็อค จ้ำเลือดตามตัว จนต้องเข้าโรงพยาบาล ในช่วงนั้น หลังจากที่แฟนเราทราบข่าว เค้าก็กลับมาดูแลนะคะ แต่เราเองก็รู้ว่าเค้ายังแอบคุยโทรศัพท์หากันตลอด เวลาเรานอนหลับอยู่ที่โรงพยาบาล เค้าจะแอบไปที่ระเบียงห้องเพื่อที่จะคุยโทรศัพท์กับพี่นก ในใจตอนนั้นรู้สึกว่า ทำไมนะ เราแย่ขนาดนี้ เค้ายังทำแบบนี้อีกหรอ แล้วจะกลับมาทำไมอีก แต่สุดท้ายแล้วอาการเจ็บป่วยของเราเรื้อรังยาวนานจนหาสาเหตุพบจากการเจาะไขกระดูก เราป่วยเป็น "มะเร็งเม็ดเลือดขาว" หลังจากที่แพทย์ได้แจ้งอาการเจ็บป่วย ในใจตอนนั้นพังหมดทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนทุกอย่างกำลังจะจบลงแบบทั้งสุขและทุกข์ ในใจตอนนั้นดีใจนะคะที่เราจะไม่เจ็บปวดอีกแล้ว (ลืมบอกไปค่ะ เรากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กๆอยู่กับยาย เพิ่งเสียไปเมื่อ 3 ปีก่อนค่ะ หลังจากนั้นอยู่คนเดียวมาตลอดและมีญาติห่างๆ) อีกใจนึงก็คิดว่า ถ้าเราต้องไปจริงๆ แฟนเรายังหางานทำไม่ได้ ยังไม่เป็นหลักแหล่ง เค้าจะอยู่ได้ไหม เพราะที่ผ่านมา เราคอยช่วยเหลือเค้ามาตลอด แต่คงคิดว่าเค้าอยู่ได้เพราะมีพี่นก ผู้ซึ่งเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์เราห่างเหินออกไป ตอนที่แพทย์แจ้งให้ทราบ เราหันไปมองหน้าแฟน ในใจตอนนั้น เค้าเฉยชามาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราได้เริ่มคุยกับแฟนอย่างจริงจังว่า หลังจากนี้ที่เราเริ่มทำการรักษา ขอให้คุณไปอยู่กับพี่นกได้เลย ไม่ต้องมาหาเรา เราไม่เป็นไร ถ้าเราหาย เราค่อยไปเอาคุณคืน พร้อมทั้งหัวเราะด้วยน้ำตากะจะพูดให้ขำ แฟนมองหน้าเราแล้วน้ำตาเค้าเริ่มไหล ในใจตอนนั้นมีแต่เครื่องหมายสงสัยว่า น้ำตาจะไหลทำไมในเมื่อเราเองที่แย่ ส่วนเค้าเองที่เป็นคนที่ยังคงต้องเดินต่อไป ไม่มีคำพูดใดๆ เราเองก็ได้แต่กอด ปลอบใจเค้าว่า เราคงทำบุญกันมาแค่นี้ อย่ามาจมอยู่กับผู้หญิงแย่ๆแบบเราเลย หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เรากับเค้ากลับไปคอนโดเพื่อเก็บของของเค้า และแยกย้ายไปอยู่กับคนที่เค้ารัก เหมือนดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้งก็ไม่รู้ เค้าเริ่มตัวร้อน ไม่สบาย ไข้ขึ้นสูง ตัวเราเองด้วยความรักและความผูกพันธ์ ก็เฝ้าเช็ดตัว ทำข้าวต้ม ป้อนยาให้เค้า ในใจตอนนั้น ถ้าเราเจ็บป่วยแทนเค้าได้ เราขอเป็นฝ่ายที่เจ็บเอง ไม่อยากให้เค้าอยู่ในสภาพแบบนี้ จนวันที่ 4 ที่เค้ามีไข้ เราอดหลับอดนอนจนร่างกายเริ่มทรุดลง และเค้าค่อยๆดีขึ้น หลังจากลืมตาขึ้นมา ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ของแฟนกับพี่นก ในบทสนทนานั้น แฟนพูดขึ้นมาว่าไม่ได้อยู่กับเรา อยู่คนเดียว ไม่ได้มีใคร รักพี่คนเดียว
..... เราเองได้แต่หลับตากลั้นใจฟัง จนเค้าทั้งคู่คุยโทรศัพท์กันเสร็จ
เรื่องราวต่อจากนี้ ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น เราอยู่ด้วยกัน เราเหมือนเป็นแฟนกัน แต่มันมีแต่ความอึดอัดตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
เรื่องการรักษา คุณหมอจะนัดเราอีกครั้งเพื่อคุยรายละเอียด แต่ดูจากสภาพจิตใจเราตอนนี้คงไม่พร้อมที่จะเผชิญความเจ็บปวดทั้งกายและใจ
ไม่มีคำตอบใดๆ สำหรับคำถามว่า อยู่ได้ไหมถ้าไม่มีเขา ถ้าไม่เป็นเรา ไม่มีวันเข้าใจ
ขอบคุณที่อ่านนะคะ เหมือนนิยาย แต่สุดท้ายนิยายก็เอามาจากชีวิตจริงทั้งนั้น