[CR] เที่ยวน้ำตก ทีลอซู ก่อนหน้าฝน ใครว่าไม่สวย สวรรค์ชัดๆ นะเธอ

สวัสดีสมาชิกทุกท่าน ก่อนที่เราจะออกเดินทางกันนั้น เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า น้ำตกทีลอซู หรือตามความจริงต้องออกเสียงว่า "ทีลอชู" และเป็นคำนามในภาษากะเหรี่ยงแปลว่า "น้ำตก" ชื่อ "ทีลอซู" เป็นความพยายามแปลความหมายทีละคำ โดย "ที" หรือ "ทิ" แปลว่า "น้ำ" "ลอ" หรือ "ล่อ" แปลว่า "ตก" แต่ "ชู" ไม่มีความหมายใกล้เคียง ดังนั้น จึงมีความพยายามทำให้เป็นคำที่มีความหมาย เนื่องจาก "ซู" แปลว่า "ดำ" จึงนำไปสู่การเรียกว่า "ทีลอซู" และแปลว่า "น้ำตกดำ" น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจาก ลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้น้ำตกทีลอซู เป็นหนึ่งในเก้าตะวัน ตามโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โดยมีจุดเด่นคือ "มหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู"

เรามาเริ่มต้นก่อนออกเดินทางกันเลย พวกเราทั้ง 5 คน ออกเดินทางกันตอนกลางคืนของวันศุกร์ ที่ 19 พฤษภาคม 2560 แต่เชื่อไหมก่อนที่พวกเราจะตกลงกันได้ว่าพวกเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี คิดๆกันบ้างเถียงๆกันบ้าง ก็มีเสียงแหบๆ สากๆ พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "น้ำตกทีลอซู" ทำเอาทุกคนที่นั่งฟังกันอยู่หันกลับไปแล้วบอกว่า ไม่เอาอ่ะ มันลำบาก ไม่โอเคหลอก ช่วงนี้ฝนตกเยอะ เนี่ยในข่าวก็เพิ่งเตือนว่ามีปริมาณฝนตกชุกมาก เปลี่ยนๆ ไม่ไปได้ไหม เปลี่ยนที่อื่นเถอะ แต่ในสุดสุดด้วยความที่ถามสมาชิกแล้วว่า มีใครเคยไปไหม ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยไป เอาหล่ะสิ ทีนี้งานเข้าแล้วสิ เพราะบอกตรงๆว่า ได้ยินเสียงเล่าเรื่องน้ำตก ทีลอซู ว่าเป็นน้ำตกที่เดินทางยากลำบากมาก จะไปแต่ละครั้งจะต้องนั้งรถแบบยาวนานมาก แถมเส้นทางการเดินทางนั้นยากลำบากแบบสุดๆ เอาหล่ะ งานเข้าตุ๊ดและ เฮ้!!ยู ดูด้วยนี่ตุ๊ดนะ จะให้ไปเดินป่าเหรอ ไม่ไหวมั้ง แต่ด้วยความที่ว่าทุกคนลงความเห็นว่าอยากไป ทำไงได้ ตุ๊ดตัวเล็กๆอย่างดิฉัน ก็ต้องคล้อยตาม งานนี้หน้าทีและภาระอันหนักอึ้ง จะพ้นใครไปได้ถ้า ไม่ใช่หน้าที่ของผู้หญิงที่มีความสวยใสหน้ารักอย่าง ตุ๊ดตัวเล็กๆอย่างดิฉัน 555 เริ่มแรกก็ต้องรีบหาข้อมูลการเดินทาง ติดต่อเรื่องที่พัก ทำทุ๊กอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวเรื่อง..... มาเรามาเริ่มเดินทางกันดีกว่าก่อนที่จะออกไปไกล เรานัดกัน ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตรงบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ตอนเวลา 21.00 น. ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาเตรียมออกเดินทาง ตอน 23.30 น. ค่ะขอบคุณค่ะ ไม่ผิดค่ะพวกคุณอ่านไม่ผิดค่ะ ตุ๊ดเข้าใจค่ะ ว่าวันนั้นเป็นวันศุกร์ ฝนก็ตก รถก็ติดค่ะ ตุ๊ดเข้าใจ แต่คราวหน้าไม่ต้องให้มารอนานขนาดนี้ก็ได้นะ ได้แต่ด่าในใจ &*#%@!^%(*&^ เมื่อทุกคนพร้อมเพียงแล้วจะรออะไรหล่ะ ถ้าไม่ใช่ถ่ายรูป 555
เอาหล่ะเมื่อทุกคนพร้อมออกเดินทางจะช้าอยู่ทำไม ออกเดินทางสิค่ะ เราใช้เส้นทางออก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อวิ่งยาวไปจนถึง ทางหลวงสายเอเชียหมายเลข 1 จากนั้นวิ่งยาวไปจนเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนนหมายเลข 12 (ถนน แม่สอด - ตาก) เมื่อถึง อ.แม่สอด ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนน หมายเลข 1090 ขับไปได้อีกสักพัก เตรียมเข้าสู่ถนนลอยฟ้า เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทาง ที่ต้องบอกเลยว่า ขับข้อนข้างลำบากเพราะเป็นถนน 2 ช่องทางสวนกัน แถมด้วยเป็นถนนที่วิ่งตามบนไหล่เขา มีทั้งขึ้นเขาลงเขาสลับๆกันไป ต้องอาศัยความชำนานด้านการขับขึ้นเขาลงเขา และอย่าลืมตรวจเช็คสภาพของรถยนต์ของท่านก่อนออกเดินทาง  ระหว่างทางไม่พลาดกับการเก็บรูปสวยๆมาฝากทุกๆท่านด้วยนะ
เอาหล่ะหลังจากที่พวกเราใช้เวลาในการเดินทางอันแสนยาวนานนับ10ชั่วโมงกว่า ค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะ ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมงกว่าๆจริงๆ เพราะว่าตลอดทางอย่างที่บอก มีทั้งขึ้นเขาลงเขา เลยทำให้การเดินทางของพวกเราข้อนข้างลำบาก แต่ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงที่ อำเภออุ้มผางได้อย่างปลอดภัยโชคดีมาก วันที่เราเดินทางไม่เจอฝนเลยแม้แต่นิดนึง ทั้งๆที่ก่อนออกเดินทางที่ กรุงเทพฝนตกหนักมากคิดในใจแล้วเจอฝนแน่ๆ ไปเที่ยวไม่น่าจะสนุกแน่เลย ต้องเข้าใจนะค่ะว่า ตุ๊ดเป้นสิ่งมีชีวิตที่คิดไปเอง 5555 มาๆเรามาต่อกันดีกว่า หลังจากที่พวกเราเดินทางมาถึงที่อำเภออุ้มผางเรียบร้อยสิ่งแรกที่ ทำเลยคือ กินสิค่ะ ข้าวเช้าสำคัญเสมอ มื้อแรกของพวกเราในอำเภอเล็กๆที่เงียบสงบแห่งนี้ บอกได้เลยว่าผู้คนที่นี่ อยู่อย่างเงียบมากๆ อาหารเช้าพวกเราก็เลยต้องพึ่งร้านข้าวแกง ที่ดูแล้วน่าทานมากๆ บอกเลยว่าอร่อยสุดยอดอ่ะ
เป็นร้านข้าวแกงที่พวกเราหาได้ในขณะนั้น หลังจากที่พวกเราทานข้าวเช้าเสร็จเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ แย่แล้วจะสิบโมงแล้ว พวกเราเร็วรีบไปกันดีกว่าเดี๋ยวไปถึงน้ำตกจะเย็น หลังจากนั้นพวกเราก็รีบเตรียมข้าวของเพื่อที่จะไปลง เรือยางเพื่อจะล่องเรือเดินทางต่ออีก
ระหว่างที่เราจะล่องเรือนั้น ทางเจ้าหน้าที่เรือก็นำเสื้อชูชีพมาให้พวกเราใส่คนล่ะตัว เพื่อความปลอดภัย ของข้างทางระหว่างทางที่เราล่องเรือไปนั้น เราได้สัมผัสกับธรรมชาติ ที่ต้องบอกเลยว่าสวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกสายรุ้ง หน้าผาเยอะแยะมากมาก จำได้ไม่หมดนะค่ะแต่ขอบอกเลยว่าสวยจริงๆ
จริงๆยังมีรูปสวยๆอีกมากมาย เอาไว้ไปชมกันได้ที่เพจ #เที่ยวเหลียวหลังนะค่ะ ระหว่างทางที่เราล่องเรือไปนั้นจะได้มีจุดแวะพัก ซึ่งเหล่านักท่องเที่ยวจะขนานนาม ว่า 7-11 ป่า 555 มีทุกสิ่งให้เลือกสรรยกเว้นทุกสิ่งที่คุณต้องการ แต่บอกเลยว่าจุดนี้ถือว่า ใครที่มาล่องเรอแล้วไม่ได้มีโอกาสมาแวะพักตรงนี้ถือว่าพลาดมากๆ เพราะตรงบริเวณจุดนี้ถือได้ว่ามีจุดที่น่าสนใจมาก ตรงที่ มีธารน้ำร้อนให้ไว้สำหรับนักเดินทางไว้แช่เท้าผ่อนคลายกันรอไรหล่ะไปจุ่มสิค่ะ
บอกเลยมาที่นี่ต้องดื่มน้ำผึ้งมะนาว ที่รสชาติ บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมากๆ ลองดูกันนะค่ะ สุดจริงอร่อยมาก
มีทั้งกล้วยปิ้ง ไข่ปิ้ง น้ำผึ้งมะนาว หรือท่านไหนสนใจน้ำขิงร้อนที่นี่เขาก็มี แต่ถ้าใครถามหาน้ำแข็งที่นี่ไม่มีนะค่ะ น้ำอัดลมไม่ต้องพูดถึง ไม่มีค่ะ มีแต่ของป่าค่ะ หลังจากที่พวกเราสนุกสนานกับการเป็นแม่ค้าในป่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็รีบเดินทางไปต่อแต่การเดินทางนั้นเรายังคงต้องล่องเรือต่อไปอีกประมาณเกืแบๆสองชั่วโมงเอาหล่ะหลังจากที่พวกเราเดินทาง ทางน้ำแวะพัก แวะถ่ายรูปไปตลอดทางพวกเราก็เดินทางมาถึง จุดเปลี่ยนเป็นเดินทางโดยทางรถยนต์ สิริรวมเราใช้เวลาในการล่อเรือประมาณ 3 กว่าๆ หลังจากนั้นเราก็เดินทางทางรถยนต์กันต่ออีกราวๆประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ตอนแรกคิดในใจ ทางที่เราจะไปนั้น เริ่มเป้นถนนคอนกรีต อย่างนี้แสดงว่าเริ่มสบายแล้ว แต่แล้วทำไมนั่งไปสักพักทางเริ่มเป็นหลุมเป็นบ่อ สลับกับทางที่เป็นโคลน อ่อ ทางกำลังพัฒนา แต่การเดินทางของพวกเรานั้นยังคงเดินทางไปต่อเหลือบดูเวลาก็เกือบๆจะสามโมงกว่าๆ ระหว่างทางนั้นฝนก็ตก แถมหนักด้วยสิ คิดในใจ เสียดายแย่เลยถ้าหากไปถึงที่น้ำตกทีลอซูแล้วฝนตกหนัก อดเห็นความยิ่งใหญ่และความอลังการแน่ๆเลย ระหว่างทางนั่งคิดไปหัวก็สั่นคอนไป หลับดีกว่า 555 เมื่อคืนขับรถมายังไม่ได้นอนพักเลยนี่หน่า เริ่มนอนได้ สรุปหลับทั้งคันยกเว้นคนขับ สักพักพวกเราก็เดินทางมาถึงทางเข้าอุทยานน้ำตกทีลอซู แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ฝนยังคงตกอยู่ ทำไงดี เสียดายจัง พอพวกเราก้าวลงจากรถนั้นเหมือนสิ่งเหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น ฝนเริ่มหยุดแถมแดดเริ่มออก อ้าวพวกเรารีบจ้ำสิค่ะรออะไร แต่ก่อนเข้าอย่าลืม ซื้อตั๋วก่อนเข้าไปในอุทยานกันด้วยนะค่ะ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท เราใช้เส้นทางที่ทางอุทยานทำทางเดินเข้าไป เขาเขียนว่า 1,500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมง ไปๆ รีบๆเดิน ระหว่างทางที่เราเดินไปนั้น ทำไมรู้สึกแอบตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูก ในใจก็เริ่มรู้สึกเมื่อไหร่จะถึงสักที ในตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่ก็บอกกับตัวเองว่าอีกนิดเดียวทนไว้ตุ๊ด ตุ๊ดทำได้ ในที่สุดสิ่งที่ทุกคนรอคอยน้ำได้ตั้งตระหง่าอยู่ตรงหน้า บอกเลยว่าที่รอคอยมาตลอดทั้งทริปนี้ ความเหนื่อย ความเมื่อยล้า และความง่วง หายไปเลยจริงๆ

ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงน้ำตก อย่างที่บอก ทุกอย่างมันหายหมดจริงๆ เหลือแต่เพีงแค่ความสุข ความสนุก และความประทับใจ และมิตรภาพ ดีๆ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ บอกเลยรูปภาพมีอีกเยอะ มาก สามารถเข้าไปดูในเฟสบุ๊ค ได้นะค่ะ กับเพจ เที่ยวเหลียวหลัง ที่สำคัญเดี๋ยวมีภาพเคลื่อนไหวมาให้รับชมกันด้วยบอกเลยว่า มัน แน่นอน อย่าลืมติดตามพวกเราได้นะค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยทุกๆท่านด้วยนะคะ ขอตัวไปเล่นน้ำก่อนนะค่ะ สำหรับท่านที่อยากเดินทาง ไปน้ำตกทีลอซู ตอนนี้ทางอุทยานประกาสแล้วนะค่ะว่า ปิดการท่องเที่ยวน้ำตก ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป เปิดให้ชมความงามได้อีกที หลังวันที่ 1 ตุลาคม นี้นะค่ะ อยากให้ไปกันเยอะๆนะค่ะ เพราะถ้าคนไทยไม่เที่ยวเมืองไทยแล้วจะรอให้ใครมาเที่ยวหล่ะค่ะ อิอิ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ อย่าลืมติดตามด้วยนะค่ะ กับเพจ #เที่ยวเหลียวหลัง ขอบคุณค่ะ