ความจริงแล้ว ดิฉันคิดว่าประชาชนชอบนักการเมืองที่พูดจริงทำจริงและไม่แอบอ้างประชาธิปไตยมาหากิน
ดิฉันมองว่ากลุ่มกปปส.ได้ช่วยตีแผ่ความไม่ถูกต้องของรัฐบาลสุดซอย และตั้งใจปฏิรูปบ้านเมือง สะกิดสังคมให้เห็นความไม่ชอบมาพากลของนักการเมืองด้วยกัน ปฏิบัติครั้งนี้เหมือนแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ ไม่เช่นนั้น พ.ร.บ.นี้คงมีคนกลับมาอย่างเท่ๆ นักการเมืองสุดซอยคงเชิดหน้าทำตามใจชอบไปทั่วบ้านเมือง
ในครั้งนี้คุณเสียสละทุกอย่าง ออกมาขย้ำพ.ร.บ.สุดซอยจนสำเร็จ ก็คืนกลับถ้ำเมื่อใกล้ถึงเวลาเตรียมพร้อมสู่สนามอีกครั้ง จงภูมิใจในตัวเองค่ะ
ดิฉันฝากให้อ่านเรื่องราวของพรรคในบางส่วนค่ะ เราคงต้องศึกษาพรรคการเมืองให้ทั่วทุกพรรคเพื่อพินิจพิจารณาค่ะ





อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แกนนำกปปส.เข้าพรรคเป็นผลดี แต่จะเกิดภาวะ 1 พรรค 2 แนวคิด เชื่อผู้ใหญ่ภายในพรรคจะสมานความคิดได้ ไม่ซ้ำรอยกลุ่ม 10 มกรา
31 พ.ค. 60- นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่หนึ่งในฐานะอดีตส.ส.และรองหัวหน้าพรรคปชป. ให้สัมภาษณ์กรณีแกนนำกปปส.กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าตนมอง2ด้านของเหรียญเสมอ ด้านหนึ่งเห็นว่าเป็นผลดีที่แกนนำกปปส. ซึ่งเป็นอดีตส.ส.กลับพรรคประชาธิปตย์ แทนที่จะตั้งพรรคใหม่หรือแยกย้ายไปพรรคอื่นและแต่ละคนมีศักยภาพสูง มีจุดยืนชัดเจนเน้นการปฏิรูปและไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่ยึดมั่นความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค จึงเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหากมีการปฏิรูปพรรคและจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า แต่อีกด้านหนึ่ง ประชาธิปัตย์จะอยู่ในภาวะ "1พรรค2แนวคิด" ในระยะแรกเพราะมีความต่างระดับของแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะ 4 ประเด็นหลักได้แก่ประเด็นแนวทางการปฏิรูปพรรคประเด็นการปฏิรูปประเทศ ประเด็นผู้นำพรรคและประเด็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญท้าทายอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างมีนัยยะสำคัญและจะมีผลถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคในปลายปีนี้ด้วย
"อย่างไรก็ตามในพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้หลักผู้ใหญ่เช่นท่านชวน หลีกภัยท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านไตรรงค์ สุวรรณคีรี ท่านถาวร เสนเนียม ท่านวิทยา แก้วภราดัยและอีกหลายท่านจะช่วยสมานความคิดของทุกคนให้ลงตัวได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรม ที่แข็งแรงในการจัดการปัญหาภายในของตัวเองเพราะเคยมีประสบการณ์1พรรค2แนวคิดมาแล้ว กรณี10มกราคม คงไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนในอดีต"นายอลงกรณ์ ระบุ
สำหรับ "กลุ่ม 10 มกรา" ก่อตั้งโดยนาย เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ อดีตเลขาธิการพรรคช่วงปี 2522 และนาย วีระ มุสิกพงศ์ เลขาธิการพรรคในขณะนั้นโดยที่มาของชื่อกลุ่มมาจากเหตุการณ์เมื่อ 10 มกราคม 2530 ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคซึ่งนายวีระได้เสนอชื่อนายเฉลิมพันธ์ส่วนกลุ่มของนายชวน หลีกภัย ได้เสนอชื่อนายพิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคในขณะนั้นส่วนนายวีระได้ลงชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคกับพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ ปรากฏว่าทั้งนายเฉลิมพันธ์และนายวีระพ่ายแพ้ต่อนายพิชัยและพลตรีสนั่นทำให้เกิดความไม่พอใจ
ต่อมากลุ่ม 10 มกราได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับ กลุ่มวาดะห์ ภายหลังจากการที่ทั้งสองกลุ่มไม่ยกมือสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรจนทำให้พลเอกเปรมต้องประกาศ ยุบสภา เมื่อปี 2531 ซึ่งกลุ่ม 10 มกราบางส่วนและทางกลุ่มวาดะห์ได้ร่วมมือกันจัดตั้งพรรคการเมืองโดยใช้ชื่อว่า พรรคประชาชน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2531 พรรคประชาชนได้ ส.ส. ในสภาทั้งสิ้น 19 คน ซึ่งในเวลาต่อมาพรรคประชาชนได้ยุบรวมเข้ากับ พรรคเอกภาพ ทำให้นายวีระได้แยกตัวไปสังกัด พรรคความหวังใหม่ พร้อมกับกลุ่มวาดะห์ และภายหลังสมาชิกพรรคเอกภาพบางส่วนซึ่งรวมถึงกลุ่ม 10 มกราได้ย้ายเข้าไปสังกัด พรรคสามัคคีธรรม ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่
ขอบคุณไทยโพสต์ค่ะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A210%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81
((มาลาริน)) ^_^ เสือออกจากถ้ำถึงเวลาก็ต้องกลับถ้ำเสือ เมื่อจัดการเหยื่อสำเร็จ กปปส.คุณคือแจ๊คผู้ล้มยักษ์ จงภูมิใจค่ะ
ดิฉันมองว่ากลุ่มกปปส.ได้ช่วยตีแผ่ความไม่ถูกต้องของรัฐบาลสุดซอย และตั้งใจปฏิรูปบ้านเมือง สะกิดสังคมให้เห็นความไม่ชอบมาพากลของนักการเมืองด้วยกัน ปฏิบัติครั้งนี้เหมือนแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ ไม่เช่นนั้น พ.ร.บ.นี้คงมีคนกลับมาอย่างเท่ๆ นักการเมืองสุดซอยคงเชิดหน้าทำตามใจชอบไปทั่วบ้านเมือง
ในครั้งนี้คุณเสียสละทุกอย่าง ออกมาขย้ำพ.ร.บ.สุดซอยจนสำเร็จ ก็คืนกลับถ้ำเมื่อใกล้ถึงเวลาเตรียมพร้อมสู่สนามอีกครั้ง จงภูมิใจในตัวเองค่ะ
ดิฉันฝากให้อ่านเรื่องราวของพรรคในบางส่วนค่ะ เราคงต้องศึกษาพรรคการเมืองให้ทั่วทุกพรรคเพื่อพินิจพิจารณาค่ะ
อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แกนนำกปปส.เข้าพรรคเป็นผลดี แต่จะเกิดภาวะ 1 พรรค 2 แนวคิด เชื่อผู้ใหญ่ภายในพรรคจะสมานความคิดได้ ไม่ซ้ำรอยกลุ่ม 10 มกรา
31 พ.ค. 60- นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่หนึ่งในฐานะอดีตส.ส.และรองหัวหน้าพรรคปชป. ให้สัมภาษณ์กรณีแกนนำกปปส.กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าตนมอง2ด้านของเหรียญเสมอ ด้านหนึ่งเห็นว่าเป็นผลดีที่แกนนำกปปส. ซึ่งเป็นอดีตส.ส.กลับพรรคประชาธิปตย์ แทนที่จะตั้งพรรคใหม่หรือแยกย้ายไปพรรคอื่นและแต่ละคนมีศักยภาพสูง มีจุดยืนชัดเจนเน้นการปฏิรูปและไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่ยึดมั่นความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค จึงเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหากมีการปฏิรูปพรรคและจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า แต่อีกด้านหนึ่ง ประชาธิปัตย์จะอยู่ในภาวะ "1พรรค2แนวคิด" ในระยะแรกเพราะมีความต่างระดับของแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะ 4 ประเด็นหลักได้แก่ประเด็นแนวทางการปฏิรูปพรรคประเด็นการปฏิรูปประเทศ ประเด็นผู้นำพรรคและประเด็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญท้าทายอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างมีนัยยะสำคัญและจะมีผลถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคในปลายปีนี้ด้วย
"อย่างไรก็ตามในพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้หลักผู้ใหญ่เช่นท่านชวน หลีกภัยท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านไตรรงค์ สุวรรณคีรี ท่านถาวร เสนเนียม ท่านวิทยา แก้วภราดัยและอีกหลายท่านจะช่วยสมานความคิดของทุกคนให้ลงตัวได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรม ที่แข็งแรงในการจัดการปัญหาภายในของตัวเองเพราะเคยมีประสบการณ์1พรรค2แนวคิดมาแล้ว กรณี10มกราคม คงไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนในอดีต"นายอลงกรณ์ ระบุ
สำหรับ "กลุ่ม 10 มกรา" ก่อตั้งโดยนาย เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ อดีตเลขาธิการพรรคช่วงปี 2522 และนาย วีระ มุสิกพงศ์ เลขาธิการพรรคในขณะนั้นโดยที่มาของชื่อกลุ่มมาจากเหตุการณ์เมื่อ 10 มกราคม 2530 ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคซึ่งนายวีระได้เสนอชื่อนายเฉลิมพันธ์ส่วนกลุ่มของนายชวน หลีกภัย ได้เสนอชื่อนายพิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคในขณะนั้นส่วนนายวีระได้ลงชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคกับพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ ปรากฏว่าทั้งนายเฉลิมพันธ์และนายวีระพ่ายแพ้ต่อนายพิชัยและพลตรีสนั่นทำให้เกิดความไม่พอใจ
ต่อมากลุ่ม 10 มกราได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับ กลุ่มวาดะห์ ภายหลังจากการที่ทั้งสองกลุ่มไม่ยกมือสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรจนทำให้พลเอกเปรมต้องประกาศ ยุบสภา เมื่อปี 2531 ซึ่งกลุ่ม 10 มกราบางส่วนและทางกลุ่มวาดะห์ได้ร่วมมือกันจัดตั้งพรรคการเมืองโดยใช้ชื่อว่า พรรคประชาชน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2531 พรรคประชาชนได้ ส.ส. ในสภาทั้งสิ้น 19 คน ซึ่งในเวลาต่อมาพรรคประชาชนได้ยุบรวมเข้ากับ พรรคเอกภาพ ทำให้นายวีระได้แยกตัวไปสังกัด พรรคความหวังใหม่ พร้อมกับกลุ่มวาดะห์ และภายหลังสมาชิกพรรคเอกภาพบางส่วนซึ่งรวมถึงกลุ่ม 10 มกราได้ย้ายเข้าไปสังกัด พรรคสามัคคีธรรม ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่
ขอบคุณไทยโพสต์ค่ะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้