ไปเที่ยว Beijing ครั้งที่ 2 แต่จองตั๋วเครื่องบินผ่าน Expedia เดินทางด้วยแอร์มาเก๊าเป็นครั้งแรก ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กลัวเปลี่ยนเครื่องที่มาเก๊า 40 นาที ไม่ทัน เลยขอมารีวิวให้เพื่อนๆ ที่สนใจจอง Air Macau ไปปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อช่วยในการตัดสินใจค่ะ ใช้เวลาเดินทางขาไปรวม 6 ชม. 15 นาที ราคาดี และเวลาออกและถึงปลายทางดี โดนใจใช่เลย สำหรับเราชาวแบ็คแพคค่ะ
เราไปกับเพื่อน โดยเราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 4 เดือน ได้เดินทางวันที่ 8 เม.ย. Economy Class เที่ยวบินที่ 879 ราคา 11,330 บาท รวมทุกอย่างแล้ว
02:55 BKK - 06:30 MFM / แวะพักเปลี่ยนเครื่อง 40 นาที / 07:10 MFM - 10:15 PEK

เพื่อนจองล่วงหน้า 20 วัน ได้เดินทางวันที่ 7 เม.ย. Economy Class เที่ยวบินที่ 881 ราคา 12,500 บาท รวมทุกอย่างแล้ว
22:00 BKK - 01:45 MFM / แวะพักเปลี่ยนเครื่อง 5 ชม. 25 นาที / 07:10 MFM - 10:15 PEK
สายการบิน Air Macau (รหัส NX เป็น Full Service Airlines) เป็นสายการบินประจำเขตปกครองพิเศษมาเก๊า มีสำนักงานสาขาย่อยอยู่หลายที่รวมถึงที่กรุงเทพฯ ด้วย

มีเฟสบุคด้วย
https://www.facebook.com/AirMacauThailand/
เที่ยวบินที่ 879 และ 881 ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 มีผ้าห่ม เครื่องไม่เก่า ไม่มีเหล้า ไม่มีไวน์ ห้องน้ำเล็ก
เครื่องดื่ม : มีน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำอัดลม

ไม่มี PTV แต่มี TV ฉายโฆษณาหรืออะไรไม่รู้อยู่บนหัว ดูเรื่องเดียวกันทั้งลำ และมีหูฟังให้ฟัง น่าจะเป็นภาษาจีน (ไม่ได้ลองฟังน่ะค่ะ)
ขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ L ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 35 นาที ถึงท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า Macau International Airport (IATA: MFM, ICAO: VMMC) (มาเก๊าเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)

กรณีซื้อสินค้าจาก King Power สาขารางน้ำ สามารถรับสินค้าของ คิง เพาเวอร์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้องพักผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
- แสดงใบเสร็จรับเงิน (Claim Check Receipt) พร้อมหนังสือเดินทาง (Passport) และตั๋วเดินทาง (Boarding Pass)
จุดให้บริการไว้ใกล้บริเวณทางออกขึ้นเครื่อง ภายในห้องพักผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ 2 จุด คือ
- เคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า 1 (ฝั่งตะวันออก) ตั้งอยู่ถัดจากเคาน์เตอร์คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ใกล้ประตูทางออกขึ้นเครื่อง D1 - D4
- เคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า 2 (ฝั่งตะวันตก) ตั้งอยู่ถัดจากเคาน์เตอร์คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ใกล้ประตูทางออกขึ้นเครื่อง D5 - D8
Online Check in Support เฉพาะมาเก๊า ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ และเฉิงตู และไม่มีระบบจัดการ booking ต้องระบุที่นั่งที่เคาน์เตอร์เช็คอินด้วยตัวเองเท่านั้น ดังนั้นต้องไปเข้าแถวรอแต่เนิ่นๆ จะได้ขอที่นั่งดีๆ ควรขอที่นั่งให้อยู่แถวแรกๆ ใกล้กับประตูทางออกของเครื่องบินที่สุด เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดให้บริการล่วงหน้า 3 ชม.

กระเป๋าโหลด 1 ใบ (ไม่เกิน 20 Kg.) จากสุวรรณภูมิ แบบ Check Through รับที่ปลายทาง PEK ปักกิ่ง

กระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ (ไม่เกิน 7 kg.) สำหรับ economy และ 2 ใบ สำหรับ Business Class (ขนาด 22" x 14" x 9" or 56cm x 36cm x 23 cm)

ขอยืมรูปมาจาก ArPaeDotCom นะคะ
โน็ตบุคที่มีแบตเตอรรี่และ Power Bank ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องเด็ดขาด
สิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.airportthai.co.th/main/th/684-security-information
จุดที่ไม่โอเคคือเพื่อนจองตั๋วไปเที่ยวบินก่อนเรา รอบ 22.00 น. ของคืนวันที่ 7เม.ย. เห็นว่ามีคนโดน over booking ให้เดินทางเที่ยวบิน รอบ 02.50 น. ของเช้าวันที่ 8 เม.ย.ซึ่งคือรอบเวลาของเรา และเราก็เห็นว่ามีคนโดน over booking รอบของเรา เช่นกัน นั่นแปลว่า ใครจะจองสายการบินนี้ต้องระวัง โดน over booking ค่ะ
ส่วนเราโชคดี แอร์กราวน่าจะออกตั๋วที่นั่งซ้ำกับคนมาเก๊า แอร์บนเครื่องแก้ปัญหาโดยเชิญเรา ย้ายที่นั่งจาก Economy Class ไป Business Class แบบงงๆ นั่งติดประตูทางออกเลย ^^ (แอบกรี๊ดในใจ)

รูปนี้ตอนได้ที่นั่ง Business Class ขาไปมาเก๊า เพราะโดนแอร์ออกตั๋วซ้ำ ^^

รูปอาหารของ First Class ขาไปมาเก๊า ^^

พอเครื่องลงจอด ต้องรอ Bus gate มารับเป็นรอบๆ รถวิ่งแป๊ปๆ ก็ถึงอาคารผู้โดยสาร ซึ่งสนามบินเค้าเล็ก แต่ถ้าได้ที่นั่ง Business Class แบบเราก็จะได้นั่ง Bus gate รอบแรก เลยไม่เสียเวลา เราลงเครื่องเป็นคนแรกเลย (ครั้งแรกในชีวิต)

ส่วนใครนั่งแบบ Economy class ต้องรอ Bus gate มารับเป็นรอบๆ เบียดกันนิดนึงค่ะ

รูปนี้เพื่อนเราถ่ายมาให้ดู เพราะเพื่อนเราไปถึงสนามบินมาเก๊า 01:45 MFM (ก่อนเพื่อนไป เรานัดแนะให้เพื่อนถ่ายรูป ป้าย และจุดสำคัญต่างๆ วิธีการเดิน จับเวลา ส่งมาให้ก่อนเราขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ 02:55 BKK ) ฉลาดไม๊ล่า อิอิ
เนื่องจากเพื่อนมีเวลามากกว่า เลยถ่ายรูปได้ เมื่อต่อไวไฟสนามบินมาเก๊าได้เมื่อไร ก็รีบส่งให้เราทางไลน์ เพื่อวางแผนวิ่งไปถึง ตม.ให้ทันภายใน 40 นาที สรุปคือเพื่อนบอกว่า 20 นาที ก็ถึง Gate แล้วค่ะ

ก่อนถึงจุด Transfer และ ตม. จะเจอเครื่องสแกนตรวจกระเป๋า ใครที่เอาน้ำดื่มลงมาจากเครื่องต้องทิ้งนะคะ จุดนี้ควรรีบหน่อยนะคะเพราะทุกคนทั้งหมดบนเครื่อง ต้องมาสแกนกระเป๋าจุดเดียวกัน เครื่องสแกนกระเป๋าเห็นมีเครื่องเดียว คนจะเยอะ เสียเวลาตรงนี้ เดี๋ยวตกเครื่องจะแย่เลย ><
ถ้าใครที่ต้องเปลี่ยนเครื่องไปที่อื่นเหมือนเรา วิธีง่ายๆ คือ จะมีป้ายสีแดงเขียนว่า Transfer Passenger เดินตามๆ เขาไปจนถึงจุดตรวจ ตม.มาเก๊า ไม่ต้องใช้ใบผ่าน ตม.มาเก๊า ซึ่งคนที่เปลี่ยนเครื่องไปปักกิ่งค่อนข้างน้อย แต่ก็ควรรีบหน่อยนะคะ

สำหรับใครที่จะเข้าห้องน้ำก็รอเข้าหลัง Transfer เสร็จ ส่วนใครที่ซื้อน้ำหอม ครีม หรืออะไรที่เป็นของเหลวจาก Duty Free King Power มา ตม.เขาไม่อนุญาตให้ผ่านนะคะ ต้องทิ้ง ทางที่ดีอย่าเพิ่งซื้อค่ะ ไว้ซื้อขากลับนะคะ

ซึ่งพอออกจาก ตม. Transfer จะเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปเจอร้านค้าแบบห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมๆ อย่าลืมดู Gate ที่เราจะไปก่อนเดินซื้อของนะคะ

ที่สนามบินมาเก๊า ห้องน้ำสะอาดดี มีจุดสำหรับเติมน้ำร้อนได้ ฟรี Wifi แต่เราแค่ได้เข้าห้องน้ำเสร็จเดินออกมาก็ต้องเดินเข้าเครื่องเลย ไม่ได้ทดลองใช้ Wifi

เพื่อนเล่าว่าตอนไปรอที่ Gate มีจุดต่อ USB ให้สำหรับชาร์ตมือถือ และโซนเด็กเล่นด้วยนะ แต่นอนพักในสนามบินไม่โอเค เพราะสนามบินเล็กเลยหาที่เงียบๆ ไม่ได้เลย

เวลาเสิร์ฟอาหาร (Economy เลือก Special meal ไม่ได้) จะมีให้เลือก 2 แบบ เรากับเพื่อนเลือกไม่เหมือนกัน รสชาติอาหารพอใช้ได้ รูปข้างบนนี้คืออาหารตอนขึ้นเครื่องมาเก๊าไปปักกิ่งค่ะ
กรณีเราเป็นการต่อเครื่องจากมาเก๊าไปปักกิ่ง จะได้ตั๋วคนละ 2 ใบเลย (ตั๋วจากกรุงเทพไปมาเก๊า และตั๋วตอนเปลี่ยนเครื่องมาเก๊าไปปักกิ่ง)

เจ้าหน้าที่เคาท์เตอร์ Air Macau ขาออกจากสุวรรณภูมิ เป็นเจ้าหน้าที่ของการบินไทย และพูดไทยค่ะ
จุดที่โอเค คือแอร์จะเดินแจกใบกรอก ตม.ตอนใกล้จะถึงปลายทาง พูดเป็นประโยคสอบถามว่าใครจะเอาใบกรอกตม.บ้าง เป็นภาษาจีนสลับกับภาษาอังกฤษ

แอร์สวยหล่อ ดูสุภาพ ภาษาอังกฤษสำเนียงฟังง่าย และไม่ดุเหมือนสายการบินจีนทั่วไป
ใกล้ถึง Beijing Capital International Airport อย่าลืมขอใบกรอก ตม.สีเหลืองจากแอร์ กรอกข้อมูลให้เรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่องก็ดี
Air Macau จอดที่ Beijing Capital International Airport (PEK) Terminal 3 (สายการบินอื่นๆ จอด Terminal ไหนบ้าง เข้าไปดูที่
http://www.flightstats.com/go/FlightStatus/flightStatusByAirport.xml?airportCode=PEK)
ตม.ที่ Terminal 3 กว้างใหญ่ดี มีปากกาให้ (ถ่ายรูปตรง ตม.ไม่ได้นะคะ)
ไปถึงสนามบินปักกิ่งแล้วอย่าลืมถ่ายภาพวาดกำแพงเมืองจีนขนาดยักษ์และยาวมาก ส่วนนี้อยู่ในส่วนที่ผู้โดยสารขาเข้า หลังจากเราผ่าน ตม.ที่ Terminal 3 มาแล้วนะคะ

ส่วนตัวเราชอบสายการบินนี้นะ ให้คะแนน 3 ดาว และคิดว่าจะใช้บริการอีกค่ะ
[CR] รีวิว Air Macau Bangkok-Macau-Beijing
เราไปกับเพื่อน โดยเราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 4 เดือน ได้เดินทางวันที่ 8 เม.ย. Economy Class เที่ยวบินที่ 879 ราคา 11,330 บาท รวมทุกอย่างแล้ว
02:55 BKK - 06:30 MFM / แวะพักเปลี่ยนเครื่อง 40 นาที / 07:10 MFM - 10:15 PEK
เพื่อนจองล่วงหน้า 20 วัน ได้เดินทางวันที่ 7 เม.ย. Economy Class เที่ยวบินที่ 881 ราคา 12,500 บาท รวมทุกอย่างแล้ว
22:00 BKK - 01:45 MFM / แวะพักเปลี่ยนเครื่อง 5 ชม. 25 นาที / 07:10 MFM - 10:15 PEK
สายการบิน Air Macau (รหัส NX เป็น Full Service Airlines) เป็นสายการบินประจำเขตปกครองพิเศษมาเก๊า มีสำนักงานสาขาย่อยอยู่หลายที่รวมถึงที่กรุงเทพฯ ด้วย
มีเฟสบุคด้วย
https://www.facebook.com/AirMacauThailand/
เที่ยวบินที่ 879 และ 881 ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 มีผ้าห่ม เครื่องไม่เก่า ไม่มีเหล้า ไม่มีไวน์ ห้องน้ำเล็ก
เครื่องดื่ม : มีน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำอัดลม
ไม่มี PTV แต่มี TV ฉายโฆษณาหรืออะไรไม่รู้อยู่บนหัว ดูเรื่องเดียวกันทั้งลำ และมีหูฟังให้ฟัง น่าจะเป็นภาษาจีน (ไม่ได้ลองฟังน่ะค่ะ)
ขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ L ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 35 นาที ถึงท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า Macau International Airport (IATA: MFM, ICAO: VMMC) (มาเก๊าเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)
กรณีซื้อสินค้าจาก King Power สาขารางน้ำ สามารถรับสินค้าของ คิง เพาเวอร์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้องพักผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
- แสดงใบเสร็จรับเงิน (Claim Check Receipt) พร้อมหนังสือเดินทาง (Passport) และตั๋วเดินทาง (Boarding Pass)
จุดให้บริการไว้ใกล้บริเวณทางออกขึ้นเครื่อง ภายในห้องพักผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ 2 จุด คือ
- เคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า 1 (ฝั่งตะวันออก) ตั้งอยู่ถัดจากเคาน์เตอร์คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ใกล้ประตูทางออกขึ้นเครื่อง D1 - D4
- เคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า 2 (ฝั่งตะวันตก) ตั้งอยู่ถัดจากเคาน์เตอร์คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ใกล้ประตูทางออกขึ้นเครื่อง D5 - D8
Online Check in Support เฉพาะมาเก๊า ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ และเฉิงตู และไม่มีระบบจัดการ booking ต้องระบุที่นั่งที่เคาน์เตอร์เช็คอินด้วยตัวเองเท่านั้น ดังนั้นต้องไปเข้าแถวรอแต่เนิ่นๆ จะได้ขอที่นั่งดีๆ ควรขอที่นั่งให้อยู่แถวแรกๆ ใกล้กับประตูทางออกของเครื่องบินที่สุด เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดให้บริการล่วงหน้า 3 ชม.
กระเป๋าโหลด 1 ใบ (ไม่เกิน 20 Kg.) จากสุวรรณภูมิ แบบ Check Through รับที่ปลายทาง PEK ปักกิ่ง
กระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ (ไม่เกิน 7 kg.) สำหรับ economy และ 2 ใบ สำหรับ Business Class (ขนาด 22" x 14" x 9" or 56cm x 36cm x 23 cm)
ขอยืมรูปมาจาก ArPaeDotCom นะคะ
โน็ตบุคที่มีแบตเตอรรี่และ Power Bank ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องเด็ดขาด
สิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.airportthai.co.th/main/th/684-security-information
จุดที่ไม่โอเคคือเพื่อนจองตั๋วไปเที่ยวบินก่อนเรา รอบ 22.00 น. ของคืนวันที่ 7เม.ย. เห็นว่ามีคนโดน over booking ให้เดินทางเที่ยวบิน รอบ 02.50 น. ของเช้าวันที่ 8 เม.ย.ซึ่งคือรอบเวลาของเรา และเราก็เห็นว่ามีคนโดน over booking รอบของเรา เช่นกัน นั่นแปลว่า ใครจะจองสายการบินนี้ต้องระวัง โดน over booking ค่ะ
ส่วนเราโชคดี แอร์กราวน่าจะออกตั๋วที่นั่งซ้ำกับคนมาเก๊า แอร์บนเครื่องแก้ปัญหาโดยเชิญเรา ย้ายที่นั่งจาก Economy Class ไป Business Class แบบงงๆ นั่งติดประตูทางออกเลย ^^ (แอบกรี๊ดในใจ)
รูปนี้ตอนได้ที่นั่ง Business Class ขาไปมาเก๊า เพราะโดนแอร์ออกตั๋วซ้ำ ^^
รูปอาหารของ First Class ขาไปมาเก๊า ^^
พอเครื่องลงจอด ต้องรอ Bus gate มารับเป็นรอบๆ รถวิ่งแป๊ปๆ ก็ถึงอาคารผู้โดยสาร ซึ่งสนามบินเค้าเล็ก แต่ถ้าได้ที่นั่ง Business Class แบบเราก็จะได้นั่ง Bus gate รอบแรก เลยไม่เสียเวลา เราลงเครื่องเป็นคนแรกเลย (ครั้งแรกในชีวิต)
ส่วนใครนั่งแบบ Economy class ต้องรอ Bus gate มารับเป็นรอบๆ เบียดกันนิดนึงค่ะ
รูปนี้เพื่อนเราถ่ายมาให้ดู เพราะเพื่อนเราไปถึงสนามบินมาเก๊า 01:45 MFM (ก่อนเพื่อนไป เรานัดแนะให้เพื่อนถ่ายรูป ป้าย และจุดสำคัญต่างๆ วิธีการเดิน จับเวลา ส่งมาให้ก่อนเราขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ 02:55 BKK ) ฉลาดไม๊ล่า อิอิ
เนื่องจากเพื่อนมีเวลามากกว่า เลยถ่ายรูปได้ เมื่อต่อไวไฟสนามบินมาเก๊าได้เมื่อไร ก็รีบส่งให้เราทางไลน์ เพื่อวางแผนวิ่งไปถึง ตม.ให้ทันภายใน 40 นาที สรุปคือเพื่อนบอกว่า 20 นาที ก็ถึง Gate แล้วค่ะ
ก่อนถึงจุด Transfer และ ตม. จะเจอเครื่องสแกนตรวจกระเป๋า ใครที่เอาน้ำดื่มลงมาจากเครื่องต้องทิ้งนะคะ จุดนี้ควรรีบหน่อยนะคะเพราะทุกคนทั้งหมดบนเครื่อง ต้องมาสแกนกระเป๋าจุดเดียวกัน เครื่องสแกนกระเป๋าเห็นมีเครื่องเดียว คนจะเยอะ เสียเวลาตรงนี้ เดี๋ยวตกเครื่องจะแย่เลย ><
ถ้าใครที่ต้องเปลี่ยนเครื่องไปที่อื่นเหมือนเรา วิธีง่ายๆ คือ จะมีป้ายสีแดงเขียนว่า Transfer Passenger เดินตามๆ เขาไปจนถึงจุดตรวจ ตม.มาเก๊า ไม่ต้องใช้ใบผ่าน ตม.มาเก๊า ซึ่งคนที่เปลี่ยนเครื่องไปปักกิ่งค่อนข้างน้อย แต่ก็ควรรีบหน่อยนะคะ
สำหรับใครที่จะเข้าห้องน้ำก็รอเข้าหลัง Transfer เสร็จ ส่วนใครที่ซื้อน้ำหอม ครีม หรืออะไรที่เป็นของเหลวจาก Duty Free King Power มา ตม.เขาไม่อนุญาตให้ผ่านนะคะ ต้องทิ้ง ทางที่ดีอย่าเพิ่งซื้อค่ะ ไว้ซื้อขากลับนะคะ
ซึ่งพอออกจาก ตม. Transfer จะเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปเจอร้านค้าแบบห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมๆ อย่าลืมดู Gate ที่เราจะไปก่อนเดินซื้อของนะคะ
ที่สนามบินมาเก๊า ห้องน้ำสะอาดดี มีจุดสำหรับเติมน้ำร้อนได้ ฟรี Wifi แต่เราแค่ได้เข้าห้องน้ำเสร็จเดินออกมาก็ต้องเดินเข้าเครื่องเลย ไม่ได้ทดลองใช้ Wifi
เพื่อนเล่าว่าตอนไปรอที่ Gate มีจุดต่อ USB ให้สำหรับชาร์ตมือถือ และโซนเด็กเล่นด้วยนะ แต่นอนพักในสนามบินไม่โอเค เพราะสนามบินเล็กเลยหาที่เงียบๆ ไม่ได้เลย
เวลาเสิร์ฟอาหาร (Economy เลือก Special meal ไม่ได้) จะมีให้เลือก 2 แบบ เรากับเพื่อนเลือกไม่เหมือนกัน รสชาติอาหารพอใช้ได้ รูปข้างบนนี้คืออาหารตอนขึ้นเครื่องมาเก๊าไปปักกิ่งค่ะ
กรณีเราเป็นการต่อเครื่องจากมาเก๊าไปปักกิ่ง จะได้ตั๋วคนละ 2 ใบเลย (ตั๋วจากกรุงเทพไปมาเก๊า และตั๋วตอนเปลี่ยนเครื่องมาเก๊าไปปักกิ่ง)
เจ้าหน้าที่เคาท์เตอร์ Air Macau ขาออกจากสุวรรณภูมิ เป็นเจ้าหน้าที่ของการบินไทย และพูดไทยค่ะ
จุดที่โอเค คือแอร์จะเดินแจกใบกรอก ตม.ตอนใกล้จะถึงปลายทาง พูดเป็นประโยคสอบถามว่าใครจะเอาใบกรอกตม.บ้าง เป็นภาษาจีนสลับกับภาษาอังกฤษ
แอร์สวยหล่อ ดูสุภาพ ภาษาอังกฤษสำเนียงฟังง่าย และไม่ดุเหมือนสายการบินจีนทั่วไป
ใกล้ถึง Beijing Capital International Airport อย่าลืมขอใบกรอก ตม.สีเหลืองจากแอร์ กรอกข้อมูลให้เรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่องก็ดี
Air Macau จอดที่ Beijing Capital International Airport (PEK) Terminal 3 (สายการบินอื่นๆ จอด Terminal ไหนบ้าง เข้าไปดูที่ http://www.flightstats.com/go/FlightStatus/flightStatusByAirport.xml?airportCode=PEK)
ตม.ที่ Terminal 3 กว้างใหญ่ดี มีปากกาให้ (ถ่ายรูปตรง ตม.ไม่ได้นะคะ)
ไปถึงสนามบินปักกิ่งแล้วอย่าลืมถ่ายภาพวาดกำแพงเมืองจีนขนาดยักษ์และยาวมาก ส่วนนี้อยู่ในส่วนที่ผู้โดยสารขาเข้า หลังจากเราผ่าน ตม.ที่ Terminal 3 มาแล้วนะคะ
ส่วนตัวเราชอบสายการบินนี้นะ ให้คะแนน 3 ดาว และคิดว่าจะใช้บริการอีกค่ะ