**ชี้แจง ต้องขอนำกระทู้เก่ามาตั้งใหม่ครับ ต้องขอโทษคนที่รออ่านด้วย เพราะบอกไว้ว่าจะมาเล่าต่อในวันจันทร์ แต่มันบังเอิญมากที่ผมบอกว่าจะเล่าเรื่องที่10ที่ค้างไว้จากกระทู้ที่แล้ว เมื่อวันเสาร์ผมกลับไปแล้วก็ฝันว่าตัวละครในเรื่องที่10ที่จะเล่า
เขามาบอกผมว่าถ้ายังอยากจะเล่าต่อ เมิงอยู่ไม่สบายแน่ พอผมตื่นมาก็รู้สึกไม่สบายเลยครับ ลากยาวมาเพิ่งจะหายดีเมื่อวาน แต่ผมคิดว่ามันคงไม่เกี่ยวกับความฝันหรอก เพราะก่อนหน้านั้นตากฝนไปบ้างคงไม่สบายเพราะตากฝนนั่นแหล่ะครับ ส่วนที่ฝันผมคงคิดมากไปเอง เอาหล่ะเรามาต่อกันดีกว่าครับ
**********************************
....อันเนื่องมาจากกระทู้นี้ที่เคยตั้งไว้ครับ
10 เรื่องผีๆ ที่เราเคยเจอ
https://pantip.com/topic/33716461
แล้ว..ผมก็ลงให้อ่านได้แค่ 9 เรื่อง ก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้ลงเรื่องที่10 เพราะตัวละครในเรื่องที่10 มาเข้าฝันผม นางขู่ว่าถ้าเล่าเรื่องนี้
ผมตาย
ผมเชื่อความฝันตัวเอง ก็เลยไม่ลงเรื่องนี้ครับ ผมตั้งกระทู้นั้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2558 วันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็จะครบ2ปีแล้วที่ตั้งกระทู้นั้น เรื่องที่10ที่ผมจะเล่ายังคงติดค้างกันอยู่ ก็ขอเอามารวมไว้ในกระทู้นี้เลยแล้วกันนะครับ ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ผมก็จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่11 แต่ถ้ายังมีอะไรบางอย่างมาห้ามไม่ให้เล่าอีก ผมก็คงต้องหยุดไว้แค่เรื่องที่10ครับ และเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเองตลอดไป
ข้อตกลง : แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนเนอะครับ บางคนอาจเชื่อว่าเรื่องจริง บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องแต่ง สรุปว่าอ่านฆ่าเวลาก็แล้วกันเนอะครับ อ่านสบายๆ ไม่คิดมาก ไม่เครียด จับผิดก็ได้ สนุกดีครับ อ่านแล้วก็ปล่อยความรู้สึกที่มีไว้ในกระทู้นี้ อย่าเอากลับไปคิดต่อเดี๋ยวจิตจะตก นอนไม่หลับ ไม่สบายตัวนะครับ ^^
อ๋อ อีกเรื่อง ใครที่คาดหวังว่าจะได้อ่านเรื่องผีสยองๆ แหกตา หัวขาด ไส้ปลิ้น เรื่องของผมไม่มีหรอกครับ เจอมาแค่ซอฟๆ ถ้าฮาร์ดคอขนาดนั้นผมคงออกบวชไปละครับ แหะ แหะ
****************************************
เริ่มเรื่องแรกกันเลยดีกว่าครับ
เรื่องที่.1 : ก้อนหินของยายจัน
...ย้อนกลับไปตอนที่ผมอยู่ม.3 ผมต้องไปเข้าค่ายลูกเสือครับ ครูนัดเจอกันที่สถานีรถไฟแต่เช้า เพราะจะต้องนั่งรถไฟไปลงที่พิษณุโลกไปค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ
ผมก็ต้องออกจากบ้านแต่เช้ามืด มารอรถเมล์ที่จะผ่านหน้าบ้าน ตรงศาลาท่ารถแถวๆบ้านก็จะมีเพิงขายกล้วยปิ้ง เผือกปิ้ง มันปิ้งที่เป็นก้อนกลมๆอ่ะครับ คนขายก็เป็นยายจันยายของไอ้โจ้เพื่อนผมเอง สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือครับ จะนัดอะไรกันก็ลำบาก ถ้าใครมาช้าก็ต้องรอกันไปจะตามกันก็ไม่ได้ ตอนตี5กว่าๆผมเดินออกมาจากบ้านมารอรถเมล์เที่ยวแรกที่จะมาตอนตีห้าครึ่ง บรรยากาศตอนเช้ามืดมันก็วังเวงอ่ะครับ อากาศเย็นๆ ผมเห็นแสงไฟจากเพิงขายของของยายจันก็ใจชื้น อย่างน้อยก็มียายจันเป็นเพื่อนหล่ะว๊ะ ไอ้โจ้ก็คงมารออยู่แล้วมันคงออกมาช่วยยายเตรียมของ ผมเดินไปจนถึงศาลาก็เข้าไปที่เพิงขายของของยายจัน เห็นเพียงเงาตะคุ่มๆ เพราะมีแสงไฟแค่ตะเกียงริบหรี่ๆกับไฟจากเตาถ่าน
"ยายจัน ไอ้โจ้ยังไม่ออกมาหรอครับ"
"อือ" เสียงยายจันตอบผม ผมก็คิดว่าเดี๋ยวอีกซักพักไอ้โจ้คงจะตามออกมา ก็เลยยืนรออยู่ตรงข้างๆเพิงยายจัน
จนผมได้ยินเสียงรถเมล์จอดรับคนก่อนที่จะมาถึงผม ไอ้โจ้ก็ยังไม่ออกมา ผมก็เริ่มกังวลกลัวมันจะไม่ทัน
"ยายไอ้โจ้ยังไม่ออกมาอีก รถเมล์มาแล้วเนี่ย" ผมหันไปบอกยายจัน
"อือ" ยายจันตอบผม แล้วก็กวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา
ผมเดินเข้าไปหายายจัน ยายจันยื่นถุงกระดาษใส่ขนมมันปิ้งมาให้ (ไอ้ที่เป็นก้อนกลมๆอ่ะครับ) ผมก็รีบรับมายัดใส่กระเป๋าแล้วก็ไหว้ขอบคุณยายจัน ยังรู้สึกถึงความอุ่นๆของขนม แล้วก็รีบไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดรับพอดี ใจก็กังวลที่ไอ้โจ้ไม่ได้มาด้วยกัน
จนไปถึงสถานีรถไฟ ก็เข้าแถวนั่งรอรถไฟกันครับ ผมพยายามมองหาไอ้โจ้เผื่อว่ามันจะมา แต่มันก็ไม่มากระทั่ง พวกผมนั่งรถไฟออกเดินทางไปเข้าค่ายครับ บนรถไฟผมก็ถามไอ้โอมเพื่อนที่อยู่ใกล้บ้านไอ้โจ้มากที่สุด ไอ้โอมบอกผมว่าที่ไอ้โจ้ไม่ได้มาเข้าค่ายเพราะว่า ยายจัน ตายตั้งแต่ตอนตีสี่
ผมได้ยินก็ถึงกับจุก พูดอะไรไม่ออก แล้วยายจันที่ผมเจอเมื่อเช้าหล่ะ แล้วขนมมันปิ้งที่ยายจันให้ผมมาหล่ะ ผมค่อยๆเปิดซิบกระเป๋าสะพาย ด้วยอาการสั่นๆ หัวใจเต้นแรง ค่อยๆ แง้มดูถุงกระดาษที่ยายจันใส่ขนมให้ ผมไม่กล้ามอง เลยค่อยๆเอามือล้วงเข้าไปในถุงนั้น รู้สึกเลยว่ามือสั่นและมีเหงื่อซึมออกมา
ก้อนหิน...!!
ในถุงกระดาษเก่าๆนั้นมีแต่ก้อนหินครับประมาณสี่ห้าก้อน
ความรู้สึกของผมมันจุกๆ พูดไม่ออก ไม่ได้กลัวนะครับ แต่รู้สึกเศร้า ยายจันตายไปแล้วยังมีจิตใจห่วงลูกหลานกลัวจะหิวเลยให้ขนมมากิน
ผมเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบ ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง จนไปเข้าค่ายกลับมาก็เป็นวันสวดศพคืนสุดท้าย ผมไปช่วยงานที่บ้านไอ้โจ้ ก็เล่าเรื่องที่ไปเข้าค่ายมาให้มันฟัง แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะขึ้นไปไหว้ศพยายจัน ขอบคุณยายที่อุตส่าห์ให้ขนมไปกิน ก้อนหินที่ยายจันให้ไว้ผมเอาไปไว้ที่เพิงขายขนมของยาย ทุกคนที่มางานต่างก็บอกว่า ยายจันสุขภาพแข็งแรงดี ทำไมอยู่ๆก็ตาย ไอ้โจ้เล่าให้ผมฟังว่า ก่อนที่จะรู้ว่ายายจันตาย มีเสียงเหมือนคนทุบฝาบ้าน ดังปังๆ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเพราะต่างก็กำลังหลับกันอยู่ จนได้ยินเสียงยายจันร้องกรี๊ดลั่นบ้าน ทุกคนก็พากันตื่นไปดูยายจัน แต่ก็ไม่ทันแล้ว ยายจันนอนนิ่ง เงียบไป ยายจันตายแล้วโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
พอถึงวันเผาศพยายจัน มีคนมาบอกพ่อไอ้โจ้ว่า ยายจันโดนของ จริงๆแล้วมีคนทำของใส่พ่อไอ้โจ้ที่กำลังจะลงสมัคร อบต. แต่ของไปเข้ายายจัน ยายจันเลยรับเคราะห์แทน พ่อไอ้โจ้เลยถามว่าของนั้นอยู่ไหน คืออะไร แล้วใครเป็นคนทำ คนนั้นก็บอกว่า บอกไม่ได้ว่าใครทำ แต่ของอยู่ที่เพิงขายของของยายจันเป็นแผ่นไม้มีอักขระลงอาคม พวกญาติๆก็ไปค้นหากัน ก็เจอเศษไม้ที่ยายจันผ่าเตรียมทำเชื้อไฟ มีแผ่นไม้แปลกๆสีดำด้านมีอักขระลงไว้อยู่ในนั้นจริงๆ
ไอ้โจ้เห็นแผ่นไม้ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วมันก็เล่าให้ทุกคนฟังว่า เมื่อสองวันก่อนยายจันให้มันไปช่วยขนไม้ที่ยายจะทำเชื้อไฟ มันก็เห็นไม้แผ่นนี้ แต่ก็ไม่ได้ถามว่ายายเอามาจากไหน
แล้วเรื่องนี้ก็เลยไม่มีใครสรุปได้ว่า ยายจันตายเพราะโดนของ หรือตายเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ จนทุกวันนี้ทุกคนที่คิดถึงยายจันก็ยังกังขาว่ายายจันตายเพราะอะไร ส่วนชิ้นไม้พวกนั้นก็มีคนเอาไปเผาทิ้งแล้วครับ
***********************
@@[มันจะผีๆหน่อยนะ] 11 เรื่องผีๆที่เราเคยเจอ ภาค.2 @@
**********************************
....อันเนื่องมาจากกระทู้นี้ที่เคยตั้งไว้ครับ
10 เรื่องผีๆ ที่เราเคยเจอ
https://pantip.com/topic/33716461
แล้ว..ผมก็ลงให้อ่านได้แค่ 9 เรื่อง ก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้ลงเรื่องที่10 เพราะตัวละครในเรื่องที่10 มาเข้าฝันผม นางขู่ว่าถ้าเล่าเรื่องนี้ ผมตาย
ผมเชื่อความฝันตัวเอง ก็เลยไม่ลงเรื่องนี้ครับ ผมตั้งกระทู้นั้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2558 วันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็จะครบ2ปีแล้วที่ตั้งกระทู้นั้น เรื่องที่10ที่ผมจะเล่ายังคงติดค้างกันอยู่ ก็ขอเอามารวมไว้ในกระทู้นี้เลยแล้วกันนะครับ ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ผมก็จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่11 แต่ถ้ายังมีอะไรบางอย่างมาห้ามไม่ให้เล่าอีก ผมก็คงต้องหยุดไว้แค่เรื่องที่10ครับ และเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเองตลอดไป
ข้อตกลง : แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนเนอะครับ บางคนอาจเชื่อว่าเรื่องจริง บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องแต่ง สรุปว่าอ่านฆ่าเวลาก็แล้วกันเนอะครับ อ่านสบายๆ ไม่คิดมาก ไม่เครียด จับผิดก็ได้ สนุกดีครับ อ่านแล้วก็ปล่อยความรู้สึกที่มีไว้ในกระทู้นี้ อย่าเอากลับไปคิดต่อเดี๋ยวจิตจะตก นอนไม่หลับ ไม่สบายตัวนะครับ ^^
อ๋อ อีกเรื่อง ใครที่คาดหวังว่าจะได้อ่านเรื่องผีสยองๆ แหกตา หัวขาด ไส้ปลิ้น เรื่องของผมไม่มีหรอกครับ เจอมาแค่ซอฟๆ ถ้าฮาร์ดคอขนาดนั้นผมคงออกบวชไปละครับ แหะ แหะ
เริ่มเรื่องแรกกันเลยดีกว่าครับ
เรื่องที่.1 : ก้อนหินของยายจัน
...ย้อนกลับไปตอนที่ผมอยู่ม.3 ผมต้องไปเข้าค่ายลูกเสือครับ ครูนัดเจอกันที่สถานีรถไฟแต่เช้า เพราะจะต้องนั่งรถไฟไปลงที่พิษณุโลกไปค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ
ผมก็ต้องออกจากบ้านแต่เช้ามืด มารอรถเมล์ที่จะผ่านหน้าบ้าน ตรงศาลาท่ารถแถวๆบ้านก็จะมีเพิงขายกล้วยปิ้ง เผือกปิ้ง มันปิ้งที่เป็นก้อนกลมๆอ่ะครับ คนขายก็เป็นยายจันยายของไอ้โจ้เพื่อนผมเอง สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือครับ จะนัดอะไรกันก็ลำบาก ถ้าใครมาช้าก็ต้องรอกันไปจะตามกันก็ไม่ได้ ตอนตี5กว่าๆผมเดินออกมาจากบ้านมารอรถเมล์เที่ยวแรกที่จะมาตอนตีห้าครึ่ง บรรยากาศตอนเช้ามืดมันก็วังเวงอ่ะครับ อากาศเย็นๆ ผมเห็นแสงไฟจากเพิงขายของของยายจันก็ใจชื้น อย่างน้อยก็มียายจันเป็นเพื่อนหล่ะว๊ะ ไอ้โจ้ก็คงมารออยู่แล้วมันคงออกมาช่วยยายเตรียมของ ผมเดินไปจนถึงศาลาก็เข้าไปที่เพิงขายของของยายจัน เห็นเพียงเงาตะคุ่มๆ เพราะมีแสงไฟแค่ตะเกียงริบหรี่ๆกับไฟจากเตาถ่าน
"ยายจัน ไอ้โจ้ยังไม่ออกมาหรอครับ"
"อือ" เสียงยายจันตอบผม ผมก็คิดว่าเดี๋ยวอีกซักพักไอ้โจ้คงจะตามออกมา ก็เลยยืนรออยู่ตรงข้างๆเพิงยายจัน
จนผมได้ยินเสียงรถเมล์จอดรับคนก่อนที่จะมาถึงผม ไอ้โจ้ก็ยังไม่ออกมา ผมก็เริ่มกังวลกลัวมันจะไม่ทัน
"ยายไอ้โจ้ยังไม่ออกมาอีก รถเมล์มาแล้วเนี่ย" ผมหันไปบอกยายจัน
"อือ" ยายจันตอบผม แล้วก็กวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา
ผมเดินเข้าไปหายายจัน ยายจันยื่นถุงกระดาษใส่ขนมมันปิ้งมาให้ (ไอ้ที่เป็นก้อนกลมๆอ่ะครับ) ผมก็รีบรับมายัดใส่กระเป๋าแล้วก็ไหว้ขอบคุณยายจัน ยังรู้สึกถึงความอุ่นๆของขนม แล้วก็รีบไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดรับพอดี ใจก็กังวลที่ไอ้โจ้ไม่ได้มาด้วยกัน
จนไปถึงสถานีรถไฟ ก็เข้าแถวนั่งรอรถไฟกันครับ ผมพยายามมองหาไอ้โจ้เผื่อว่ามันจะมา แต่มันก็ไม่มากระทั่ง พวกผมนั่งรถไฟออกเดินทางไปเข้าค่ายครับ บนรถไฟผมก็ถามไอ้โอมเพื่อนที่อยู่ใกล้บ้านไอ้โจ้มากที่สุด ไอ้โอมบอกผมว่าที่ไอ้โจ้ไม่ได้มาเข้าค่ายเพราะว่า ยายจัน ตายตั้งแต่ตอนตีสี่
ผมได้ยินก็ถึงกับจุก พูดอะไรไม่ออก แล้วยายจันที่ผมเจอเมื่อเช้าหล่ะ แล้วขนมมันปิ้งที่ยายจันให้ผมมาหล่ะ ผมค่อยๆเปิดซิบกระเป๋าสะพาย ด้วยอาการสั่นๆ หัวใจเต้นแรง ค่อยๆ แง้มดูถุงกระดาษที่ยายจันใส่ขนมให้ ผมไม่กล้ามอง เลยค่อยๆเอามือล้วงเข้าไปในถุงนั้น รู้สึกเลยว่ามือสั่นและมีเหงื่อซึมออกมา
ก้อนหิน...!!
ในถุงกระดาษเก่าๆนั้นมีแต่ก้อนหินครับประมาณสี่ห้าก้อน
ความรู้สึกของผมมันจุกๆ พูดไม่ออก ไม่ได้กลัวนะครับ แต่รู้สึกเศร้า ยายจันตายไปแล้วยังมีจิตใจห่วงลูกหลานกลัวจะหิวเลยให้ขนมมากิน
ผมเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบ ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง จนไปเข้าค่ายกลับมาก็เป็นวันสวดศพคืนสุดท้าย ผมไปช่วยงานที่บ้านไอ้โจ้ ก็เล่าเรื่องที่ไปเข้าค่ายมาให้มันฟัง แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะขึ้นไปไหว้ศพยายจัน ขอบคุณยายที่อุตส่าห์ให้ขนมไปกิน ก้อนหินที่ยายจันให้ไว้ผมเอาไปไว้ที่เพิงขายขนมของยาย ทุกคนที่มางานต่างก็บอกว่า ยายจันสุขภาพแข็งแรงดี ทำไมอยู่ๆก็ตาย ไอ้โจ้เล่าให้ผมฟังว่า ก่อนที่จะรู้ว่ายายจันตาย มีเสียงเหมือนคนทุบฝาบ้าน ดังปังๆ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเพราะต่างก็กำลังหลับกันอยู่ จนได้ยินเสียงยายจันร้องกรี๊ดลั่นบ้าน ทุกคนก็พากันตื่นไปดูยายจัน แต่ก็ไม่ทันแล้ว ยายจันนอนนิ่ง เงียบไป ยายจันตายแล้วโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
พอถึงวันเผาศพยายจัน มีคนมาบอกพ่อไอ้โจ้ว่า ยายจันโดนของ จริงๆแล้วมีคนทำของใส่พ่อไอ้โจ้ที่กำลังจะลงสมัคร อบต. แต่ของไปเข้ายายจัน ยายจันเลยรับเคราะห์แทน พ่อไอ้โจ้เลยถามว่าของนั้นอยู่ไหน คืออะไร แล้วใครเป็นคนทำ คนนั้นก็บอกว่า บอกไม่ได้ว่าใครทำ แต่ของอยู่ที่เพิงขายของของยายจันเป็นแผ่นไม้มีอักขระลงอาคม พวกญาติๆก็ไปค้นหากัน ก็เจอเศษไม้ที่ยายจันผ่าเตรียมทำเชื้อไฟ มีแผ่นไม้แปลกๆสีดำด้านมีอักขระลงไว้อยู่ในนั้นจริงๆ
ไอ้โจ้เห็นแผ่นไม้ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วมันก็เล่าให้ทุกคนฟังว่า เมื่อสองวันก่อนยายจันให้มันไปช่วยขนไม้ที่ยายจะทำเชื้อไฟ มันก็เห็นไม้แผ่นนี้ แต่ก็ไม่ได้ถามว่ายายเอามาจากไหน
แล้วเรื่องนี้ก็เลยไม่มีใครสรุปได้ว่า ยายจันตายเพราะโดนของ หรือตายเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ จนทุกวันนี้ทุกคนที่คิดถึงยายจันก็ยังกังขาว่ายายจันตายเพราะอะไร ส่วนชิ้นไม้พวกนั้นก็มีคนเอาไปเผาทิ้งแล้วครับ