การไปญี่ปุ่นครั้งนี้แม่ต้องเป็นคนจัดทริปเองเพราะมีลูกเล็ก ไปไหนจะเคลื่อนตัวช้ากว่าคนอื่นและเคยไปมาหลายรอบแล้ว เพื่อนๆเลยตามใจให้เป็นไกด์ พาลูกเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้แม่ต้องเลยตัดสินใจเช่ารถขับ เพราะสะดวกดี ในทริปเรามีอาม่า น้องฟูจิ (ลูกชายวัย 1.4 ขวบ) และครอบครัวเพื่อนอีก รวมแล้ว 11 คนค่ะ ไว้มาเล่ามาเม้าท์เรื่องเที่ยว..คงยาวมาก วันนี้แม่ต้องเลยย่อเอาแต่เนื้อๆ เอาเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการพาลูกเที่ยวญี่ปุ่นนี้มันดียังไง เพื่อเป็นข้อมูลให้แม่ๆที่ยังไม่เคยไปหรือเตรียมตัวจะไปได้เห็นภาพกันค่ะ
1.อากาศดี๊ดี ครอบครัวเราเลือกไปช่วง พ.ค. คือช่วงที่อุณหภูมิอยู่ประมาณ 19 - 25 องศา จะเจอหนาวบ้างช่วงไปเที่ยวแถวทะเลสาบใกล้ฟูจิ ที่เลือกเที่ยวช่วงนี้เพราะ อากาศดีไม่หนาวเกินไป คนมีลูกจะเข้าใจค่ะ สัมภาระเยอะมากดังนั้นไม่อยากกระเป๋าหนักเพราะต้องแบกเสื้อหนาว แนะนำช่วงนี้เลยค่ะ แต่อาจจะพลาดเห็นซากุระบานเพราะไปหมดแล้ว จริงๆแล้วญี่ปุ่นไปช่วงไหนก็ได้เพราะอากาศดี เหมาะกับการ พาลูกเที่ยว ไม่ร้อนมากเหมือนบ้านเรา ถ้าร้อนมากเด็กจะไม่ไหวได้เพราะไหนจะเดินทาง นอนไม่เป็นเวลา ถ้ามาเจอสภาพอากาศแย่อาจทำให้ป่วยได้ง่ายค่ะ

2.เดินทางไม่ยาวนานจนเกินไป (สำหรับครอบครัวเรานะคะ) ใช้เวลาอยู่บนเครื่องประมาณ 6 ชั่วโมง กำลังดี แบบชิวๆ ด้วยสายการบิน AirasiaX เราเลือกเดินทางกลางคืนเพราะลูกจะได้หลับยาวไปจนถึงญี่ปุ่นเลย ลูกอาจมีร้องไห้บ้าง ส่วนใหญ่เพราะการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศ ของแม่ต้องแก้ไขด้วยการให้ลูกเข้าเต้ากินนม ก็ช่วยได้ระดับนึงค่ะ แต่ถ้าครอบครัวไหนยังไม่เคยพาลูกนั่งเครื่องบิน แนะนำให้ลองพานั่งเครื่องบินในประเทศโดยพาไปเที่ยวใกล้ๆก่อนค่ะ ลองอ่าน การเตรียมตัวพาลูกขึ้นเครื่อง ดูนะคะ

3.มีที่พักหลากสไตล์ แบบแฟมิลี่ เที่ยวแบบกรุ๊ปหาได้จากเว็บ airbnb ตอนแรกเรามีความกังวลเหมือนกันค่ะ เพราะไปช่วงที่ตรงกับ Golden week หรือเทศกาลวันหยุดยาวของที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ทำให้เราจองโรงแรมไม่ได้เพราะสมาชิกเรากรุ๊ปใหญ่ ต้องเลือกโรงแรมที่มีห้องพัก 5 ห้อง ช่วงนั้นเลยเลือกห้องจากโฮสต์ที่เป็นคนญี่ปุ่นเลยในเว็บนี้แหละ ทำให้ได้ที่พักดี ประหยัด และใกล้รถไฟ JR มากๆ ใจกลางกรุงโตเกียว แถวๆ ย่านชิบูย่าเลยค่ะ
4.ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยการเช่ารถจาก Toyota Rent a car บอกเลยว่าบริการดีมากๆเหมาะกับคนมีลูกอย่างยิ่งค่ะ เพราะลำพังหิ้วกระเป๋าแม่ กระเป๋าลูก ลากขึ้นลงรถไฟฟ้า ไหนจะอุ้มลูก รถเข็นเด็ก ไม่ง่ายเลยนะคะ แนะนำเช่ารถขับไปเลยค่ะ เพราะการเช่ารถที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว อีกต่อไป พวงมาลัยอยู่ด้านเดียวกับบ้านเรา ป้ายต่างๆก็มีภาษาอังกฤษกำกับ GPS ญี่ปุนก็โครตจะเฟอร์เฟค การเดินทางครั้งนี้ของเราไม่มีหลงเลยค่ะ แนะนำอย่าใช้ Google map นะคะ เพราะบางครั้งไม่อัพเดต พาหลง พาวน พอสมควร แม่ต้องแนะนำทริคเล็กๆของการใช้ GPS คือ ให้ใช้เบอร์โทรสถานที่ในการ seach จะง่ายมากค่ะ สำหรับลูกเล็ก ก็จะมีที่นั่งเด็ก carseat ที่ติดมากับรถตอนที่เช่า โดยเค้าจะดูจากน้ำหนักเด็กแล้วติดตั้งให้ไว้เลยค่ะ เข้าใจว่าน่าจะเป็นกฎหมายบังคับ สุดท้ายนี้มีหลายคนถามมาว่าค่าทางด่วน ETC และค่าที่จอดรถแพง จริงไหม...ตอบเลยว่า...จริงค่ะ แต่แม่ต้องแนะนำดังนี้คือ ให้เที่ยวเมืองรอบๆโตเกียวเป็นหลัก เพราะโรงแรมที่พักก็ไม่ต้องเสียค่าที่จอด และเราไปกันหลายๆคน ไปช่วยหารค่ารถ ค่าน้ำมัน (ฮา) ก็จะคุ้มค่า และประหยัดกว่าการใช้ JR ค่า

5.แหล่งที่เที่ยว เน้นธรรมชาติ เหมาะกับลูกมากๆ ส่วนใหญ่ที่ครอบครัวเราเลือกไปเที่ยวกันคือ รอบๆโตเกียว ไปเที่ยวบริเวณทะเลสาบฮาโกเน่ ทะเลสาบคาวากูชิโกะ จังหวัดยามานาชิ ธรรมชาติสวยงามและอากาศดีมากๆค่ะ การพาลูกไปเที่ยวต้องเลือกสถานที่แบบนี้นะคะ เพราะคนไม่พลุกพล่าน วิวสวยงาม ลูกจะเพลิดเพลินมากๆ แต่ก็อดพาไปช็อปปิ้ง และ Tokyo Disney sea ไม่ได้ (สนองความต้องการแม่)
6.ห้องน้ำน่าเข้า น่าใช้ทุกที่ ไปเที่ยวญี่ปุ่นทีรัย ไม่พูดถึงห้องน้ำเลยคงไม่ได้ ยิ่งมีลูกแล้วแม่ๆจะรู้ดีว่า อยากได้ห้องน้ำที่มีที่เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือที่นั่งเด็ก ญี่ปุ่นก็มีแทบทุกที่เลยค่ะ แม้แต่ตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่ชอบมากๆก็เป็นที่นั่งเด็กรอคุณแม่ (แบบในรูป) รูปนี้น้องฟูจินั่งรอนานไปหน่อย ร้องเลย หรือเหม็นนะ (ฮาาา...) ข้อดีคือ ทำให้แม่เข้าห้องน้ำพร้อมลูกได้เลย ไม่ต้องฝากคุณพ่อ นอกจากนี้สถานที่ต่างๆ โรงแรม ร้านอาหาร ก็มี ที่เปลี่ยนผ้าอ้อมทุกที่เลยค่ะ พาลูกเที่ยวญี่ปุ่นไม่ต้องกังวลเรื่องสุขอนามัยเลยทีเดียว
7.แหล่งช็อปปิ้ง ของเด็ก ของเล่น สวรรรค์ของแม่ รอบนี้แม่ต้องได้ไป Toyrus ที่เมืองโอไดบะ โตเกียว เพราะเคยอ่านจากรีวิวหลายท่าน มีของให้ช็อปเยอะดี รถเข็นเด็กราคาค่อนข้างถูกกว่าที่บ้านเรา รอบนี้เลยได้ รถเข็นเด็ก ของเล่น ของฝากเด็กๆ มาเพียบ ช่วงที่ไปเห็นที่ญี่ปุ่นฮิตคือ อันปังแมน เลยซื้อสินค้าที่เป็นการ์ตูนตัวนี้มาให้ลูกเล่นเลย จริงๆมีหลายท่านบอกว่า แหล่งซื้อของเด็กเยอะมาก อย่าง Shop Combi หรือในห้างสรรพสินค้า แต่งานนี้ไม่เน้นช็อปปิ้งเลยไม่ได้ไปค่ะ ใครที่เคยไปซื้อของให้ลูกร้านไหนบ้างก็มาแชร์กันนะคะ......
8.รถเข็นเด็ก ไปได้ทุกที่ การเที่ยวครั้งนี้น้องฟูจิ (ลูก) ไม่ค่อยมีปัญหากับการนั่งรถเข็นเด็ก เพราะปกติให้นั่งเป็นประจำค่ะ ช่วงที่ไปเป็นวัยที่กำลังเดินเตาะแตะ แม่ต้องก็ปล่อยให้เดินเล่นบ้างตามสถานที่ที่คนน้อย และติดสายจูงไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ทริปนี้ก็มีนั่ง JR และ Metro อยู่ 1 - 2 วัน คือช่วงที่เที่ยวในโตเกียว ชอบมากๆคือสถานีส่วนใหญ่มีลิฟท์บริการสำหรับรถเข็น รถไฟก็มีที่นั่งให้คนท้อง คนพิการ คนชรา เด็กนั่งรถเข็น โดยเราสังเกตได้จากสัญลักษณ์เหนือเก้าอี้ค่ะ
9.อาหารญี่ปุ่นลูกทานได้ ช่วงที่ไปเที่ยว ลูกอายุได้ขวบกว่าแล้ว ปกติก็จะทานอาหารเด็กที่ทำให้กินเองค่ะ แต่พอไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็ใช้วิธีซื้อโจ๊ก หรืออาหารเด็กสำเร็จรูป เอามาชงแบบง่ายๆเอา ส่วนใหญ่อาหารพวกข้าว ไข่ต้ม ไข่คน ซุป ที่เป็นอาหารเช้าของโรงแรมเด็กก็ทานได้ค่ะ พวกราเมนรสชาติจืดๆ หน่อยก็ทานได้ แต่คุณแม่ต้องชิมก่อนนะคะ อาหารญี่ป่นค่อนข้างมีรสเค็มมากกว่าบ้านเราค่ะ
10.Tokyo Disney Sea สวรรค์ของเด็ก และครอบครัว อันนี้ที่เลือกมาใส่ไว้ข้อสุดท้าย เพราะอยากแนะนำเลยค่ะ มีลูกต้องพาลูกไปนะคะ ตอนแรกไม่คิดจะไปเหมือนกันเพราะลูกยังเล็ก คงไม่สนุก แต่ทางคณะโหวตกันแล้วเลยไปทริปนี้แทนโปรแกรมอื่น ปรากฏว่าชอบกันทุกคนเลย ค่าบัตร ประมาณ 2,200 บาท สำหรับเด็กเล็ก (ไม่ถึงสองขวบ) เข้าฟรี ข้างในอลังการตามแบบฉบับของ Disney เครื่องเล่นทุกอย่างเน้นความปลอดภัยค่ะ พาลูกไปได้เล่นหลายอย่างเลย เช่น โซนอะลาดินไปล่องเรือซินแบต โซน Mermaid lagoon หรือนั่งเรือรอบทะเล Mediterranean หรือนั่งรถไฟ ...อย่างสุดท้ายนี้ รับรองลูกชอบมากค่ะ

mpreneur.com
10 เหตุผลดีๆที่พาลูกเที่ยว...ญี่ปุ่น (เบบี๋วัย 1 ขวบ)
1.อากาศดี๊ดี ครอบครัวเราเลือกไปช่วง พ.ค. คือช่วงที่อุณหภูมิอยู่ประมาณ 19 - 25 องศา จะเจอหนาวบ้างช่วงไปเที่ยวแถวทะเลสาบใกล้ฟูจิ ที่เลือกเที่ยวช่วงนี้เพราะ อากาศดีไม่หนาวเกินไป คนมีลูกจะเข้าใจค่ะ สัมภาระเยอะมากดังนั้นไม่อยากกระเป๋าหนักเพราะต้องแบกเสื้อหนาว แนะนำช่วงนี้เลยค่ะ แต่อาจจะพลาดเห็นซากุระบานเพราะไปหมดแล้ว จริงๆแล้วญี่ปุ่นไปช่วงไหนก็ได้เพราะอากาศดี เหมาะกับการ พาลูกเที่ยว ไม่ร้อนมากเหมือนบ้านเรา ถ้าร้อนมากเด็กจะไม่ไหวได้เพราะไหนจะเดินทาง นอนไม่เป็นเวลา ถ้ามาเจอสภาพอากาศแย่อาจทำให้ป่วยได้ง่ายค่ะ
2.เดินทางไม่ยาวนานจนเกินไป (สำหรับครอบครัวเรานะคะ) ใช้เวลาอยู่บนเครื่องประมาณ 6 ชั่วโมง กำลังดี แบบชิวๆ ด้วยสายการบิน AirasiaX เราเลือกเดินทางกลางคืนเพราะลูกจะได้หลับยาวไปจนถึงญี่ปุ่นเลย ลูกอาจมีร้องไห้บ้าง ส่วนใหญ่เพราะการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศ ของแม่ต้องแก้ไขด้วยการให้ลูกเข้าเต้ากินนม ก็ช่วยได้ระดับนึงค่ะ แต่ถ้าครอบครัวไหนยังไม่เคยพาลูกนั่งเครื่องบิน แนะนำให้ลองพานั่งเครื่องบินในประเทศโดยพาไปเที่ยวใกล้ๆก่อนค่ะ ลองอ่าน การเตรียมตัวพาลูกขึ้นเครื่อง ดูนะคะ
3.มีที่พักหลากสไตล์ แบบแฟมิลี่ เที่ยวแบบกรุ๊ปหาได้จากเว็บ airbnb ตอนแรกเรามีความกังวลเหมือนกันค่ะ เพราะไปช่วงที่ตรงกับ Golden week หรือเทศกาลวันหยุดยาวของที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ทำให้เราจองโรงแรมไม่ได้เพราะสมาชิกเรากรุ๊ปใหญ่ ต้องเลือกโรงแรมที่มีห้องพัก 5 ห้อง ช่วงนั้นเลยเลือกห้องจากโฮสต์ที่เป็นคนญี่ปุ่นเลยในเว็บนี้แหละ ทำให้ได้ที่พักดี ประหยัด และใกล้รถไฟ JR มากๆ ใจกลางกรุงโตเกียว แถวๆ ย่านชิบูย่าเลยค่ะ
4.ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยการเช่ารถจาก Toyota Rent a car บอกเลยว่าบริการดีมากๆเหมาะกับคนมีลูกอย่างยิ่งค่ะ เพราะลำพังหิ้วกระเป๋าแม่ กระเป๋าลูก ลากขึ้นลงรถไฟฟ้า ไหนจะอุ้มลูก รถเข็นเด็ก ไม่ง่ายเลยนะคะ แนะนำเช่ารถขับไปเลยค่ะ เพราะการเช่ารถที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว อีกต่อไป พวงมาลัยอยู่ด้านเดียวกับบ้านเรา ป้ายต่างๆก็มีภาษาอังกฤษกำกับ GPS ญี่ปุนก็โครตจะเฟอร์เฟค การเดินทางครั้งนี้ของเราไม่มีหลงเลยค่ะ แนะนำอย่าใช้ Google map นะคะ เพราะบางครั้งไม่อัพเดต พาหลง พาวน พอสมควร แม่ต้องแนะนำทริคเล็กๆของการใช้ GPS คือ ให้ใช้เบอร์โทรสถานที่ในการ seach จะง่ายมากค่ะ สำหรับลูกเล็ก ก็จะมีที่นั่งเด็ก carseat ที่ติดมากับรถตอนที่เช่า โดยเค้าจะดูจากน้ำหนักเด็กแล้วติดตั้งให้ไว้เลยค่ะ เข้าใจว่าน่าจะเป็นกฎหมายบังคับ สุดท้ายนี้มีหลายคนถามมาว่าค่าทางด่วน ETC และค่าที่จอดรถแพง จริงไหม...ตอบเลยว่า...จริงค่ะ แต่แม่ต้องแนะนำดังนี้คือ ให้เที่ยวเมืองรอบๆโตเกียวเป็นหลัก เพราะโรงแรมที่พักก็ไม่ต้องเสียค่าที่จอด และเราไปกันหลายๆคน ไปช่วยหารค่ารถ ค่าน้ำมัน (ฮา) ก็จะคุ้มค่า และประหยัดกว่าการใช้ JR ค่า
5.แหล่งที่เที่ยว เน้นธรรมชาติ เหมาะกับลูกมากๆ ส่วนใหญ่ที่ครอบครัวเราเลือกไปเที่ยวกันคือ รอบๆโตเกียว ไปเที่ยวบริเวณทะเลสาบฮาโกเน่ ทะเลสาบคาวากูชิโกะ จังหวัดยามานาชิ ธรรมชาติสวยงามและอากาศดีมากๆค่ะ การพาลูกไปเที่ยวต้องเลือกสถานที่แบบนี้นะคะ เพราะคนไม่พลุกพล่าน วิวสวยงาม ลูกจะเพลิดเพลินมากๆ แต่ก็อดพาไปช็อปปิ้ง และ Tokyo Disney sea ไม่ได้ (สนองความต้องการแม่)
6.ห้องน้ำน่าเข้า น่าใช้ทุกที่ ไปเที่ยวญี่ปุ่นทีรัย ไม่พูดถึงห้องน้ำเลยคงไม่ได้ ยิ่งมีลูกแล้วแม่ๆจะรู้ดีว่า อยากได้ห้องน้ำที่มีที่เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือที่นั่งเด็ก ญี่ปุ่นก็มีแทบทุกที่เลยค่ะ แม้แต่ตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่ชอบมากๆก็เป็นที่นั่งเด็กรอคุณแม่ (แบบในรูป) รูปนี้น้องฟูจินั่งรอนานไปหน่อย ร้องเลย หรือเหม็นนะ (ฮาาา...) ข้อดีคือ ทำให้แม่เข้าห้องน้ำพร้อมลูกได้เลย ไม่ต้องฝากคุณพ่อ นอกจากนี้สถานที่ต่างๆ โรงแรม ร้านอาหาร ก็มี ที่เปลี่ยนผ้าอ้อมทุกที่เลยค่ะ พาลูกเที่ยวญี่ปุ่นไม่ต้องกังวลเรื่องสุขอนามัยเลยทีเดียว
7.แหล่งช็อปปิ้ง ของเด็ก ของเล่น สวรรรค์ของแม่ รอบนี้แม่ต้องได้ไป Toyrus ที่เมืองโอไดบะ โตเกียว เพราะเคยอ่านจากรีวิวหลายท่าน มีของให้ช็อปเยอะดี รถเข็นเด็กราคาค่อนข้างถูกกว่าที่บ้านเรา รอบนี้เลยได้ รถเข็นเด็ก ของเล่น ของฝากเด็กๆ มาเพียบ ช่วงที่ไปเห็นที่ญี่ปุ่นฮิตคือ อันปังแมน เลยซื้อสินค้าที่เป็นการ์ตูนตัวนี้มาให้ลูกเล่นเลย จริงๆมีหลายท่านบอกว่า แหล่งซื้อของเด็กเยอะมาก อย่าง Shop Combi หรือในห้างสรรพสินค้า แต่งานนี้ไม่เน้นช็อปปิ้งเลยไม่ได้ไปค่ะ ใครที่เคยไปซื้อของให้ลูกร้านไหนบ้างก็มาแชร์กันนะคะ......
8.รถเข็นเด็ก ไปได้ทุกที่ การเที่ยวครั้งนี้น้องฟูจิ (ลูก) ไม่ค่อยมีปัญหากับการนั่งรถเข็นเด็ก เพราะปกติให้นั่งเป็นประจำค่ะ ช่วงที่ไปเป็นวัยที่กำลังเดินเตาะแตะ แม่ต้องก็ปล่อยให้เดินเล่นบ้างตามสถานที่ที่คนน้อย และติดสายจูงไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ทริปนี้ก็มีนั่ง JR และ Metro อยู่ 1 - 2 วัน คือช่วงที่เที่ยวในโตเกียว ชอบมากๆคือสถานีส่วนใหญ่มีลิฟท์บริการสำหรับรถเข็น รถไฟก็มีที่นั่งให้คนท้อง คนพิการ คนชรา เด็กนั่งรถเข็น โดยเราสังเกตได้จากสัญลักษณ์เหนือเก้าอี้ค่ะ
9.อาหารญี่ปุ่นลูกทานได้ ช่วงที่ไปเที่ยว ลูกอายุได้ขวบกว่าแล้ว ปกติก็จะทานอาหารเด็กที่ทำให้กินเองค่ะ แต่พอไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็ใช้วิธีซื้อโจ๊ก หรืออาหารเด็กสำเร็จรูป เอามาชงแบบง่ายๆเอา ส่วนใหญ่อาหารพวกข้าว ไข่ต้ม ไข่คน ซุป ที่เป็นอาหารเช้าของโรงแรมเด็กก็ทานได้ค่ะ พวกราเมนรสชาติจืดๆ หน่อยก็ทานได้ แต่คุณแม่ต้องชิมก่อนนะคะ อาหารญี่ป่นค่อนข้างมีรสเค็มมากกว่าบ้านเราค่ะ
10.Tokyo Disney Sea สวรรค์ของเด็ก และครอบครัว อันนี้ที่เลือกมาใส่ไว้ข้อสุดท้าย เพราะอยากแนะนำเลยค่ะ มีลูกต้องพาลูกไปนะคะ ตอนแรกไม่คิดจะไปเหมือนกันเพราะลูกยังเล็ก คงไม่สนุก แต่ทางคณะโหวตกันแล้วเลยไปทริปนี้แทนโปรแกรมอื่น ปรากฏว่าชอบกันทุกคนเลย ค่าบัตร ประมาณ 2,200 บาท สำหรับเด็กเล็ก (ไม่ถึงสองขวบ) เข้าฟรี ข้างในอลังการตามแบบฉบับของ Disney เครื่องเล่นทุกอย่างเน้นความปลอดภัยค่ะ พาลูกไปได้เล่นหลายอย่างเลย เช่น โซนอะลาดินไปล่องเรือซินแบต โซน Mermaid lagoon หรือนั่งเรือรอบทะเล Mediterranean หรือนั่งรถไฟ ...อย่างสุดท้ายนี้ รับรองลูกชอบมากค่ะ