สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพามากินแบบเต็มแม็กซ์กับ ร้าน Ippudo ร้านราเมงแบบพรีเมี่ยมที่ Central Embassy ครับ ที่จริงร้านนี้ผมเล็งมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้กินสักทีเพราะราคาแรงตามคุณภาพ
แต่วันนี้พามากินแบบบุฟเฟ่ต์ หรือ All you can eat ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณอีกต่อไป จะพาแฟน พาลูกน้อง พาเพื่อนมาเลี้ยง ก็สบาย เฉพาะเมื่อจองที่นั่งล่วงหน้า ผ่าน Hungryhub เท่านั้น
ราคา: จันทร์-ศุกร์ 599 Baht NET ต่อท่าน ,
เสาร์-อาทิตย์ 699 Baht NET ต่อท่าน
จำกัดเวลา: 2 ชั่วโมง
ระยะเวลาโปรโมชั่น: 7 เม.ย. – 7 ก.ค. 2560
จองที่นั่งเพื่อรับสิทธิ์ All you can eat ได้ที่นี่
https://goo.gl/aUB6VM
ดูรายละเอียดเมนูทั้งหมดได้ที่นี่
https://goo.gl/06krwQ
..
..
ร้านตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 Central Embassy ร้านจะอยู่มุมๆ ตรงข้ามร้าน Onisuka Tiger

Ippudo เป็นร้านราเมงซุปกระดูกหมูสัญชาติญี่ปุ่น ต้นกำเนิดจากเมืองฮากาตะ ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1985 (ก่อนผมเกิดอีก) จนตอนนี้ขยายสาขาไปทั่วโลกแล้ว ทั้งนิวยอร์ก ซิดนีย์ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน โซล เซี่ยงไฮ้ กัวลาลัมเปอร์ กวางเจา เซินเจิ้น ปักกิ่ง เฉินตู มะนิลา จาการ์ต้า ลอนดอนและกรุงเทพฯ
คุณชิกามิ คาวาฮารา ผู้ก่อตั้ง Ippudo ได้รับตำแหน่งราเมงคิงในปี ค.ศ. 2005 และได้รับตำแหน่งชนะเลิศ “TV Champion Ramen Chef” 3 ปีซ้อน มีชื่ออยู่ใน “Ramen Hall of Fame”
ทางร้านจะใส่ใจทุกรายละเอียด ในทุกๆเมนูที่เสิร์ฟ ตั้งแต่คุณภาพวัตถุดิบ การเคี่ยวน้ำซุปนานถึง 15 ชั่วโมง รวมทั้งเส้นราเมงโฮมเมด เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนมีเรื่องราวและปรุงด้วยความใส่ใจ ด้วยน้ำซุปต้มกระดูกหมู ทงคัทซึในสไตล์ฮากาตะที่รสชาติเข้มข้น ละมุนในแบบฉบับของ Ippudo

มองจากภายนอกร้านอาจจะดูเล็ก แต่พอเข้ามาแล้วร้านค่อนข้างกว้างและโล่งมาก
โคมไฟประดับตรงกลางช่วยให้ร้านดูสว่างน่านั่ง

ส่วนใครอยากได้เป็นส่วนตัวหน่อยก็สามารถเลือกนั่งมุมอื่นๆ รอบๆร้านได้

มองมาที่ครัว จะเห็นพ่อครัวกำลังปรุงอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลายคนกำลังคิดว่ามาทานบุฟเฟ่ต์ในร้านราเมงจะต้องกินราเมงเยอะแค่ไหนถึงจะคุ้ม แต่ที่จริงเมนูมีหลากหลายกว่านั้น เพราะในบุฟเฟ่ต์ประกอบด้วย Premium Menu 1 อย่าง (สั่งได้คนละ 1 จาน) Ramen 3 ชนิด ที่ทางร้านเลือกมาให้แล้วว่าเป็น Signature ของร้าน / Appetizer 10 จาน ให้กินได้หลากหลาย เช่น เกี๊ยวซ่า ไก่ทอด สลัดต่าง / Rice Dishes 2 อย่าง ที่ไม่ใช่แค่มีเพื่อให้อิ่มๆ แต่มันอร่อยด้วย / และตบท้ายด้วย ของหวาน 3 อย่าง
ตรงนี้รวมเครื่องดื่ม Green Tea เรียบร้อยแล้ว
..
..
..
..
เอาหละ เรามาเริ่มกันที่ Premium Menu นั่นคือ Aburi Salmon Roll
อันนี้สั่งได้แค่คนละ 1 จาน

Aburi Salmon Roll – 150
เมนูนี้เป็นแซลมอนย่างปรุงรสด้วยซอสไข่เมนไทโกะ ท๊อปด้วยไข่กุ้งโทบิกะ

จะดูแปลกตาๆหน่อย ตอนแรกอาจเดาไม่ออกว่าคืออะไร แต่มันพิเศษตรงที่แซลมอนถูกนำมาม้วนและรนไฟเล็กน้อยจนมีกลิ่นหอมแบบ Salmon Burn ไข่ปลาด้านบนรสชาติเข้มข้นแหละหนัก แต่พอทานรวมกันก็อร่อยลงตัวพอดี
สำหรับเมนูอื่นๆจากนี้ สามารถสั่งได้แบบไม่จำกัดครับ

Goma Q – 70
แตงกวาญี่ปุ่นเย็นๆ กรอบๆ หอมน้ำมันงาซึ่งเป็น Dressing สูตรพิเศษของร้าน ทานแล้วสดชื่น ช่วยตัดเลี่ยนจากการกินราเมงได้ดีมาก

IPPUDO’s Original Potato salad – 80
สลัดมันฝรั่งบดโฮมเมด รสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมข้าวโพดหอม และไข่ยางมะตูม รสชาติจะเบาๆช่วยเรียกน้ำย่อยและเตรียมท้องให้พร้อมกับจานต่อไป

เหล่านี้คือขนมปังนึ่งสีขาวสอดไส้ อารมณ์แซนวิช รสชาติจะเบาๆแบบญี่ปุ่น

Fried Chicken Bun – 80
ไก่ทอดคาราอาเกะ ใส่ในบันนึ่ง ทานพร้อมผักกาดหอมกรอบ ซอสครีมมาโยและซอสสูตรพิเศษ
IPPUDO Pork Bun – 80
จานนี้เริ่มต้นจากนิวยอร์ก เป็นการเอาหมูสามชั้นหมักจนนุ่มได้รสชาติที่กลมกล่อมแทนไก่ทอดคาราเกะ
Fried Shrimp Bun – 90
จานนี้จะเป็นกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด หอมมาก กุ้งเยอะอยู่นะ
เลือกอันที่อยากทานนะครับ สั่งมาหมดเดี๋ยวจะอิ่มกันเกินไป

IPPUDO Hakata Gyoza – 90
เกี๊ยวซ่าสูตรดั้งเดิมสไตล์ฮากาตะ แป้งขาวบาง ไส้อร่อยรสชาติดีสุกกำลังดีไม่เละเกินไป ทานคู่กับซอสจิ้ม เสิร์ฟกระทะร้อน

เกี๊ยวซ่ายังไม่จบ
..
..
ทางร้านยังมีอีกเมนูเกี๊ยวซ่าที่อยากให้ลอง
Spicy Boiled Gyoza – 110
จานนี้เป็น ที่ราดซอสรสเผ็ดซึ่งหอมนํ้ามันพริกหอมมาในจาน โรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่นฝอยทานคู่กันช่วยเพิ่มความแรง เท่าที่ถามมาหลายคนอาจไม่ค่อยชอบ แต่ผมว่ามันอร่อยดีนะ ชอบรสชาติของซอสและความฉุนของต้นหอม หน้าตาดูเหมือนเผ็ดมาก แต่ที่จริงไม่เผ็ดขนาดนั้น

นี่ไงๆๆๆ กินพร้อมกันแบบนี้ อร่อยมาก

IPPUDO Chicken Nunban – 120
ไก่ทอดคาราอาเกะคลุกกระเทียมและพริกไทย กรอบนอกนุ่มในถือว่าทำได้ดี เสิร์ฟมาร้อนๆ ราดซอสเปรี้ยวสีดำมาแล้ว สามารถเพิ่มความหอมด้วยเลมอนได้

เวลาทานก็จิ้มทาร์ทาร์ซอสแบบนี้ จะได้ความหอมมันจากซอสเพิ่มเข้าไปอีก
..
..
เรามาต่อกันที่ราเมงกันบ้าง
..
..
ราเมงจะถูกแบ่งรสชาติด้วยสีของถ้วย ซึ่งแสดงถึงระดับความจัดจ้านของรสชาติ

Shiromaru Motoaji (Regular) – 200
เริ่มจากถ้วยสีขาวเป็นรสชาติออริจินอล ราเมงทงคัทสึสูตรดั้งเดิม รสชาติน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นแต่ทานได้คล่องคอ เข้ากับเส้นราเมงแบบโฮมเมดบางๆ เนื้อหมูส่วนไหล่หอมนุ่มแต่ไม่เละ ทานกับถั่วงอก เห็ดหูหนูและต้นหอม

Akamaru Shinaji (Regular) – 200
สำหรับราเมงถ้วยสีแดงนี้ รสชาติจะเผ็ดขึ้นกว่าถ้วยแรกเพราะถูกปรับให้จัดจ้านขึ้น จากซอสเต้าเจี้ยวมิโสะสูตรพิเศษและน้ำมันกระเทียมเพิ่มความหอม ทานกับหมูชาชู เห็ดหูหนูคิคุราเกะ และสาหร่าย ถ้าชอบรสจัดแนะนำให้เพิ่มกระเทียมบดและงาบดลงไปจะทำให้น้ำซุปยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก

Karaka Men (Regular) – 230
สำหรับถ้วยสีแดง-ดำ นี้จะเป็นราเมงทงคัตสึรสเผ็ดร้อนสูตรพิเศษ รสชาติจะเข้มข้นที่สุด ส่วนเส้นราเมงชามนี้เลือกเป็นเส้นเล็กแหละหยัก ต่างจาก 2 ถ้วยก่อนหน้า อร่อยไปอีกแบบ ซึ่งเป็นการรวมเอานํ้าซุปกระดูกหมูสูตรต้นตํารับ และมิโซะรสเผ็ด เม็ดมะม่วงพิมพานต์และหมูสับเข้าไว้ด้วยกัน

Bakuretsu Tofu – 150
เป็นสตูเต้าหู้ รสเผ็ด จะมีเส้นราเมงกรอบมาด้วย เสิร์ฟพร้อมกับหมูสับและเต้าหู้นุ่มๆ รสชาติเข้มข้นมาก จานนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก

Teppan Spicy Fried Rice -130
จานนี้เป็นข้าวผัดสไปซี่ รสจัดจ้านอีกแล้ว โปะด้านบนด้วยไข่ออนเซน และสาหร่าย เสิร์ฟกระทะร้อน ก่อนทานให้เอาช้อนเจาะไข่แดงแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อน ทานบนกระทะร้อนช่วยเพิ่มความอร่อย

Ice Cream with Shiratama & Red Bean Sauce – 120
ไอศกรีมชาเขียวหอมเข้มข้น มาพร้อมโมจิ ราดซอสถั่วแดง หอม มัน หวาน หนึบๆ ครบ

Earl Grey Tea Pudding – 90
พุดดิ้งรสชาติละมุนๆ หอมชา Earl Grey เบาๆ ถ้าจะกินจริงๆผมว่ากินได้ 5 ถ้วย 555
สรุปความประทับใจ
สำหรับมื้อนี้ผมประทับใจกับรสชาติและคุณภาพอาหาร เพราะเมนูที่ทานเป็นเมนูเกรดเดียวกับเมนู A la carte แต่ทานในแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งจะแตกต่างจากร้านบุฟเฟ่ต์โดยเฉพาะซึ่งอาจจะมีการปรับเกรดตามความเหมาะสม ผมเลยได้ทานอาหารที่มีความพรีเมี่ยมแบบ Ippudo จริงๆ แต่สิ่งที่ควรปรับคือขนาดของราเมง น่าจะถ้วยเล็กลงสักหน่อย เพราะบางคนน่าจะอยากลองชิมทุกรสชาติ คราวหน้ามากินแบบ A la carte จะได้สั่งถูก
เมนูที่ชอบที่สุด
ได้แก่ Aburi Salmon Roll รสชาติหอมอร่อยเข้มข้นดี น่าจะสั่งได้ไม่อั้น 555 Akamaru Shinaji ชอบที่รสชาติเผ็ดกำลังดี หอมเต้าเจี้ยวมิโสะ น้ำมันกระเทียม หมูชาชูก็นุ่มมาก Spicy Boiled Gyoza ชอบเนื้อเกี๊ยวซ่า รสชาติของซอสและความฉุนของต้นหอม ขอแถมของหวานเป็น Earl Grey Tea Pudding เพราะรสชาติละมุนๆ หอมชาและไม่หวานมาก
สำหรับบุฟเฟ่ต์ Ippudo ถ้ามองว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ราเมงในราคา 599 บาท หลายคนอาจมองว่าแพงเกินไปจะกินราเมงได้สักกี่ถ้วยเชียว แต่ที่จริงแล้วใน All you can eat มีเมนูมากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็น Side dish ต่างๆ แต่กลับมองว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ลองชิมร้านใหม่ๆ เมนูใหม่ๆ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะบางทีเราเลือกทานบุฟเฟ่ต์เพื่อให้สามารถเลือกทานอาหารได้หลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องอิ่มเกินไป ภายใต้งบที่ควบคุมได้
แค่จองที่นั่งล่วงหน้า ก็รับสิทธิ์ All you can eat ได้เลย
https://goo.gl/aUB6VM
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ Temmax : รีวิวกิน เที่ยว แบบเต็มแม็กซ์ ด้วยนะครับ ^^
พยายามรวบรวมข้อมูลให้เป็นที่เป็นทาง จะได้ค้นหากันง่ายๆครับ
http://www.facebook.com/tem.temmax
http://www.tem-temmax.com
[SR] พากิน IPPUDO Ramen แบบบุฟเฟ่ต์ กับความอร่อยที่มากกว่าราเมง
แต่วันนี้พามากินแบบบุฟเฟ่ต์ หรือ All you can eat ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณอีกต่อไป จะพาแฟน พาลูกน้อง พาเพื่อนมาเลี้ยง ก็สบาย เฉพาะเมื่อจองที่นั่งล่วงหน้า ผ่าน Hungryhub เท่านั้น
ราคา: จันทร์-ศุกร์ 599 Baht NET ต่อท่าน ,
เสาร์-อาทิตย์ 699 Baht NET ต่อท่าน
จำกัดเวลา: 2 ชั่วโมง
ระยะเวลาโปรโมชั่น: 7 เม.ย. – 7 ก.ค. 2560
จองที่นั่งเพื่อรับสิทธิ์ All you can eat ได้ที่นี่
https://goo.gl/aUB6VM
ดูรายละเอียดเมนูทั้งหมดได้ที่นี่
https://goo.gl/06krwQ
..
..
ร้านตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 Central Embassy ร้านจะอยู่มุมๆ ตรงข้ามร้าน Onisuka Tiger
Ippudo เป็นร้านราเมงซุปกระดูกหมูสัญชาติญี่ปุ่น ต้นกำเนิดจากเมืองฮากาตะ ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1985 (ก่อนผมเกิดอีก) จนตอนนี้ขยายสาขาไปทั่วโลกแล้ว ทั้งนิวยอร์ก ซิดนีย์ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน โซล เซี่ยงไฮ้ กัวลาลัมเปอร์ กวางเจา เซินเจิ้น ปักกิ่ง เฉินตู มะนิลา จาการ์ต้า ลอนดอนและกรุงเทพฯ
คุณชิกามิ คาวาฮารา ผู้ก่อตั้ง Ippudo ได้รับตำแหน่งราเมงคิงในปี ค.ศ. 2005 และได้รับตำแหน่งชนะเลิศ “TV Champion Ramen Chef” 3 ปีซ้อน มีชื่ออยู่ใน “Ramen Hall of Fame”
ทางร้านจะใส่ใจทุกรายละเอียด ในทุกๆเมนูที่เสิร์ฟ ตั้งแต่คุณภาพวัตถุดิบ การเคี่ยวน้ำซุปนานถึง 15 ชั่วโมง รวมทั้งเส้นราเมงโฮมเมด เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนมีเรื่องราวและปรุงด้วยความใส่ใจ ด้วยน้ำซุปต้มกระดูกหมู ทงคัทซึในสไตล์ฮากาตะที่รสชาติเข้มข้น ละมุนในแบบฉบับของ Ippudo
มองจากภายนอกร้านอาจจะดูเล็ก แต่พอเข้ามาแล้วร้านค่อนข้างกว้างและโล่งมาก
โคมไฟประดับตรงกลางช่วยให้ร้านดูสว่างน่านั่ง
ส่วนใครอยากได้เป็นส่วนตัวหน่อยก็สามารถเลือกนั่งมุมอื่นๆ รอบๆร้านได้
มองมาที่ครัว จะเห็นพ่อครัวกำลังปรุงอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลายคนกำลังคิดว่ามาทานบุฟเฟ่ต์ในร้านราเมงจะต้องกินราเมงเยอะแค่ไหนถึงจะคุ้ม แต่ที่จริงเมนูมีหลากหลายกว่านั้น เพราะในบุฟเฟ่ต์ประกอบด้วย Premium Menu 1 อย่าง (สั่งได้คนละ 1 จาน) Ramen 3 ชนิด ที่ทางร้านเลือกมาให้แล้วว่าเป็น Signature ของร้าน / Appetizer 10 จาน ให้กินได้หลากหลาย เช่น เกี๊ยวซ่า ไก่ทอด สลัดต่าง / Rice Dishes 2 อย่าง ที่ไม่ใช่แค่มีเพื่อให้อิ่มๆ แต่มันอร่อยด้วย / และตบท้ายด้วย ของหวาน 3 อย่าง
ตรงนี้รวมเครื่องดื่ม Green Tea เรียบร้อยแล้ว
..
..
..
..
เอาหละ เรามาเริ่มกันที่ Premium Menu นั่นคือ Aburi Salmon Roll
อันนี้สั่งได้แค่คนละ 1 จาน
Aburi Salmon Roll – 150
เมนูนี้เป็นแซลมอนย่างปรุงรสด้วยซอสไข่เมนไทโกะ ท๊อปด้วยไข่กุ้งโทบิกะ
จะดูแปลกตาๆหน่อย ตอนแรกอาจเดาไม่ออกว่าคืออะไร แต่มันพิเศษตรงที่แซลมอนถูกนำมาม้วนและรนไฟเล็กน้อยจนมีกลิ่นหอมแบบ Salmon Burn ไข่ปลาด้านบนรสชาติเข้มข้นแหละหนัก แต่พอทานรวมกันก็อร่อยลงตัวพอดี
สำหรับเมนูอื่นๆจากนี้ สามารถสั่งได้แบบไม่จำกัดครับ
Goma Q – 70
แตงกวาญี่ปุ่นเย็นๆ กรอบๆ หอมน้ำมันงาซึ่งเป็น Dressing สูตรพิเศษของร้าน ทานแล้วสดชื่น ช่วยตัดเลี่ยนจากการกินราเมงได้ดีมาก
IPPUDO’s Original Potato salad – 80
สลัดมันฝรั่งบดโฮมเมด รสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมข้าวโพดหอม และไข่ยางมะตูม รสชาติจะเบาๆช่วยเรียกน้ำย่อยและเตรียมท้องให้พร้อมกับจานต่อไป
เหล่านี้คือขนมปังนึ่งสีขาวสอดไส้ อารมณ์แซนวิช รสชาติจะเบาๆแบบญี่ปุ่น
Fried Chicken Bun – 80
ไก่ทอดคาราอาเกะ ใส่ในบันนึ่ง ทานพร้อมผักกาดหอมกรอบ ซอสครีมมาโยและซอสสูตรพิเศษ
IPPUDO Pork Bun – 80
จานนี้เริ่มต้นจากนิวยอร์ก เป็นการเอาหมูสามชั้นหมักจนนุ่มได้รสชาติที่กลมกล่อมแทนไก่ทอดคาราเกะ
Fried Shrimp Bun – 90
จานนี้จะเป็นกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด หอมมาก กุ้งเยอะอยู่นะ
เลือกอันที่อยากทานนะครับ สั่งมาหมดเดี๋ยวจะอิ่มกันเกินไป
IPPUDO Hakata Gyoza – 90
เกี๊ยวซ่าสูตรดั้งเดิมสไตล์ฮากาตะ แป้งขาวบาง ไส้อร่อยรสชาติดีสุกกำลังดีไม่เละเกินไป ทานคู่กับซอสจิ้ม เสิร์ฟกระทะร้อน
เกี๊ยวซ่ายังไม่จบ
..
..
ทางร้านยังมีอีกเมนูเกี๊ยวซ่าที่อยากให้ลอง
Spicy Boiled Gyoza – 110
จานนี้เป็น ที่ราดซอสรสเผ็ดซึ่งหอมนํ้ามันพริกหอมมาในจาน โรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่นฝอยทานคู่กันช่วยเพิ่มความแรง เท่าที่ถามมาหลายคนอาจไม่ค่อยชอบ แต่ผมว่ามันอร่อยดีนะ ชอบรสชาติของซอสและความฉุนของต้นหอม หน้าตาดูเหมือนเผ็ดมาก แต่ที่จริงไม่เผ็ดขนาดนั้น
นี่ไงๆๆๆ กินพร้อมกันแบบนี้ อร่อยมาก
IPPUDO Chicken Nunban – 120
ไก่ทอดคาราอาเกะคลุกกระเทียมและพริกไทย กรอบนอกนุ่มในถือว่าทำได้ดี เสิร์ฟมาร้อนๆ ราดซอสเปรี้ยวสีดำมาแล้ว สามารถเพิ่มความหอมด้วยเลมอนได้
เวลาทานก็จิ้มทาร์ทาร์ซอสแบบนี้ จะได้ความหอมมันจากซอสเพิ่มเข้าไปอีก
..
..
เรามาต่อกันที่ราเมงกันบ้าง
..
..
ราเมงจะถูกแบ่งรสชาติด้วยสีของถ้วย ซึ่งแสดงถึงระดับความจัดจ้านของรสชาติ
Shiromaru Motoaji (Regular) – 200
เริ่มจากถ้วยสีขาวเป็นรสชาติออริจินอล ราเมงทงคัทสึสูตรดั้งเดิม รสชาติน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นแต่ทานได้คล่องคอ เข้ากับเส้นราเมงแบบโฮมเมดบางๆ เนื้อหมูส่วนไหล่หอมนุ่มแต่ไม่เละ ทานกับถั่วงอก เห็ดหูหนูและต้นหอม
Akamaru Shinaji (Regular) – 200
สำหรับราเมงถ้วยสีแดงนี้ รสชาติจะเผ็ดขึ้นกว่าถ้วยแรกเพราะถูกปรับให้จัดจ้านขึ้น จากซอสเต้าเจี้ยวมิโสะสูตรพิเศษและน้ำมันกระเทียมเพิ่มความหอม ทานกับหมูชาชู เห็ดหูหนูคิคุราเกะ และสาหร่าย ถ้าชอบรสจัดแนะนำให้เพิ่มกระเทียมบดและงาบดลงไปจะทำให้น้ำซุปยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก
Karaka Men (Regular) – 230
สำหรับถ้วยสีแดง-ดำ นี้จะเป็นราเมงทงคัตสึรสเผ็ดร้อนสูตรพิเศษ รสชาติจะเข้มข้นที่สุด ส่วนเส้นราเมงชามนี้เลือกเป็นเส้นเล็กแหละหยัก ต่างจาก 2 ถ้วยก่อนหน้า อร่อยไปอีกแบบ ซึ่งเป็นการรวมเอานํ้าซุปกระดูกหมูสูตรต้นตํารับ และมิโซะรสเผ็ด เม็ดมะม่วงพิมพานต์และหมูสับเข้าไว้ด้วยกัน
Bakuretsu Tofu – 150
เป็นสตูเต้าหู้ รสเผ็ด จะมีเส้นราเมงกรอบมาด้วย เสิร์ฟพร้อมกับหมูสับและเต้าหู้นุ่มๆ รสชาติเข้มข้นมาก จานนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก
Teppan Spicy Fried Rice -130
จานนี้เป็นข้าวผัดสไปซี่ รสจัดจ้านอีกแล้ว โปะด้านบนด้วยไข่ออนเซน และสาหร่าย เสิร์ฟกระทะร้อน ก่อนทานให้เอาช้อนเจาะไข่แดงแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อน ทานบนกระทะร้อนช่วยเพิ่มความอร่อย
Ice Cream with Shiratama & Red Bean Sauce – 120
ไอศกรีมชาเขียวหอมเข้มข้น มาพร้อมโมจิ ราดซอสถั่วแดง หอม มัน หวาน หนึบๆ ครบ
Earl Grey Tea Pudding – 90
พุดดิ้งรสชาติละมุนๆ หอมชา Earl Grey เบาๆ ถ้าจะกินจริงๆผมว่ากินได้ 5 ถ้วย 555
สรุปความประทับใจ
สำหรับมื้อนี้ผมประทับใจกับรสชาติและคุณภาพอาหาร เพราะเมนูที่ทานเป็นเมนูเกรดเดียวกับเมนู A la carte แต่ทานในแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งจะแตกต่างจากร้านบุฟเฟ่ต์โดยเฉพาะซึ่งอาจจะมีการปรับเกรดตามความเหมาะสม ผมเลยได้ทานอาหารที่มีความพรีเมี่ยมแบบ Ippudo จริงๆ แต่สิ่งที่ควรปรับคือขนาดของราเมง น่าจะถ้วยเล็กลงสักหน่อย เพราะบางคนน่าจะอยากลองชิมทุกรสชาติ คราวหน้ามากินแบบ A la carte จะได้สั่งถูก
เมนูที่ชอบที่สุด
ได้แก่ Aburi Salmon Roll รสชาติหอมอร่อยเข้มข้นดี น่าจะสั่งได้ไม่อั้น 555 Akamaru Shinaji ชอบที่รสชาติเผ็ดกำลังดี หอมเต้าเจี้ยวมิโสะ น้ำมันกระเทียม หมูชาชูก็นุ่มมาก Spicy Boiled Gyoza ชอบเนื้อเกี๊ยวซ่า รสชาติของซอสและความฉุนของต้นหอม ขอแถมของหวานเป็น Earl Grey Tea Pudding เพราะรสชาติละมุนๆ หอมชาและไม่หวานมาก
สำหรับบุฟเฟ่ต์ Ippudo ถ้ามองว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ราเมงในราคา 599 บาท หลายคนอาจมองว่าแพงเกินไปจะกินราเมงได้สักกี่ถ้วยเชียว แต่ที่จริงแล้วใน All you can eat มีเมนูมากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็น Side dish ต่างๆ แต่กลับมองว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ลองชิมร้านใหม่ๆ เมนูใหม่ๆ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะบางทีเราเลือกทานบุฟเฟ่ต์เพื่อให้สามารถเลือกทานอาหารได้หลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องอิ่มเกินไป ภายใต้งบที่ควบคุมได้
แค่จองที่นั่งล่วงหน้า ก็รับสิทธิ์ All you can eat ได้เลย
https://goo.gl/aUB6VM
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ Temmax : รีวิวกิน เที่ยว แบบเต็มแม็กซ์ ด้วยนะครับ ^^
พยายามรวบรวมข้อมูลให้เป็นที่เป็นทาง จะได้ค้นหากันง่ายๆครับ
http://www.facebook.com/tem.temmax
http://www.tem-temmax.com
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น