คืนหนึ่ง ราวๆ 4 ทุ่มเศษ ในห้องเช่าแคบๆ ของหอพักแห่งหนึ่ง กลางเมืองเชียงใหม่
ผมกำลังนั่งอยู่บนเตียง ดูฟุตบอลนัดชิงเอฟเอคัพ ระหว่างทีมรักของผม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับทีมลิเวอร์พูล คู่รักคู่แค้นนานหลายทศวรรษ ซึ่งในฤดูกาลนั้น สองทีมโคจรมาเจอกันในนัดชิง นั่งดูไป จิบเบียร์ไป คนเดียว ไม่มีใครเป็นเพื่อน เคยมีแฟน แต่เขาก็หนีจากผมไปหลายเดือนเกือบปีแล้ว
สายตาผมจดจ้องหน้าจอทีวีด้วยความตื่นเต้นลุ้นระทึก แล้วเสียงผู้บรรยายเกมก็ดังขึ้นๆเพราะเกมอันเข้มข้น จนถึงจุดพีค
" เดวิดเจมส์ ชกบอลไปข้างหน้า บอลลอยไป คันโตน่าอยู่ตรงนั้นพอดีครับ คันโตน่าถอยครับ หนึ่ง สอง สาม ยิง! เรียบร้อย !!!! เรียบร้อยครับ!!! โอ้โฮ.......แมนยูนำลิเวอร์พูลแล้วครับ หนึ่งประตูต่อศูนย์ โอ้สุดยอดครับก็องโต้ เฉียบขาดจริงๆครับ ......."
"
โว้ยยยยยยย " ผมแหกปากสุดเสียงพร้อมกับดีดตัวทะลึ่งพรวดลุกจากเตียง ชูกำปั้นขึ้นแล้วเหวี่ยงชกอากาศไปหนึ่งทีอย่างสะใจ " อย่างนี้สิวะ !!! วู้........!!!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ดังพอประมาณ ไม่แรงนัก สามครั้ง
"ก๊อกๆๆ"
"ใครครับ ?" ผมตะโกนถาม
" แอ๊ด เราเอง นัท กับไอ้ชัย เปิดประตูหน่อยดิ "
อ้อ ที่แท้ เพื่อนเราเอง...ผมนึกในใจ สองคนนี้ เป็นเพื่อนสนิทของผมมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ช. คณะเดียวกัน แถมเรียนวิชาเอกเดียวกันด้วย อยู่หอใน ม.ช. ก็เคยอยู่ห้องเดียวกัน ผมจึงเดินไปเปิดประตู แล้วถาม
" ว่าไงเพื่อน มาอะไรกันดึกป่านนี้นิ ? "
" จะมาชวนเมิงไปเที่ยวกันหน่อย" ไอ้ชัยตอบ เขาเป็นเพื่อนที่พูดคุยเมิงๆกูๆกับผมตลอด ในขณะที่นัทค่อนข้างเรียบร้อย ไม่เคยพูดคำว่าเมิงหรือกูเลย คำหยาบอื่นๆก็ไม่พูด จะใช้คำแทนตัวว่า "เรา" และเวลาเรียกเพื่อนผู้ชายก็จะเรียกว่า "นาย" อยู่เสมอ
ผมส่ายหน้า "ไปเที่ยวที่ไหนวะ ไม่ไปหรอก กำลังดูบอล แมนยูแข่งอยู่เว้ย พวก...เอ่อ" เกือบจะว่า "พวกเมิง" แล้ว แต่มีนัทอยู่ด้วย เลยเปลี่ยน "พวกนายเข้ามาก่อนมา ดูบอลกับเราก่อน แมนยูนำแล้ว 1-0 " ผมพูดพร้อมยิ้มมุมปาก
ไอ้ชัยมันเชียร์ลิเวอร์พูล!
"
Shit !!" มันสบถภาษาฝรั่งออกมาทันที "สัสเอ๊ยยย ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้แอ๊ด!!!"
ผมหัวเราะหึๆ ก่อนจะพาเพื่อนทั้งสองคนเข้ามาในห้อง ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาให้นัท ส่วนไอ้ชัยให้มันนั่งข้างๆผมบนเตียง
เราสามคนดูบอลกันจนจบ ไอ้ชัยออกอาการหัวเสียที่ทีมลิเวอร์พูลแพ้ในขณะที่ผมนั่งหัวเราะชอบใจ ก่อนจะถามมัน
"ตกลง จะไปเที่ยวที่ไหนกันน่ะ ? ดึกแล้วนา"
"เฮ่ยย....ไปปลดปล่อยหน่อยสิวะ!"
คำว่า "ปลดปล่อย" ของมัน หมายถึงการไปเที่ยวซ่อง หรือไม่ก็อาบอบนวด และจะลงท้ายด้วยเรื่องอย่างว่าทุกครั้งไป
"เมิงพากูสองคนไปหน่อย เพราะเมิงชำนาญภูมิประเทศ" ว่าไปนั่น ไอ้เวรเอ๊ย... " ที่ไหนดี ที่ไหนเจ๋ง เมิงเป็นไกด์เลยเว้ย! เดี๋ยวกูเลี้ยง!"
" เฮ้ย.....จริงป่าว ??? " ผมลากเสียงยาวถาม หรี่ตาที่กำลังเยิ้มด้วยแอลกอฮอลจากเบียร์
" จริงสิวะ! ไปๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย" มันพูดอยู่คนเดียว ในขณะที่นัท เพื่อนผู้สุภาพเอาแต่ยิ้ม
" เอา! ไปก็ไป ขอกูแต่งตัวแป๊บ " ผมตอบตกลง
" โอเค รีบๆเลย ไม่ต้องหล่อมากนักหรอกนะเว้ย " ไอ้ชัยเร่งและกำชับผม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกือบเที่ยงคืน ในยามราตรีที่ดวงจันทร์กลมโตส่องแสงสว่างกระจ่างฟ้า เป็นคืนเดือนเพ็ญเสียด้วย บนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยวสายหนึ่งที่จะนำไปสู่ "สำนักโคมเขียว" ตามความปรารถนาของไอ้ชัย เราสามคน เดินไปสู่บ้านหลังหนึ่งซึ่งผมรู้จักดี โดยผมเดินนำหน้าทำหน้าที่เป็น "ไกด์" อย่างที่ไอ้ชัยว่า
พอถึงหน้าประตูบ้าน ปรากฏว่า ประตูปิด แต่มีแสงไฟสลัว วับๆแวมๆ อยู่ข้างใน
"เอ ประตูด้านหน้านี่มันปิด แต่มีแสงไฟข้างใน" ผมพูดกับเพื่อนทั้งสอง " เราอ้อมไปดูด้านหลังกันไหม ?"
"ก็เอาซี่!" ไอ้ชัยตอบทันที "ไปเลยแอ๊ด นำไปเลย"
ผมจึงพาทั้งสองคนเดินอ้อมไปด้านหลัง จนถึงประตูด้านหลังของบ้านนั้น มีโซ่คล้องใส่กุญแจอยู่
"โหย....ล่ามโซ่ไว้อีก" ไอ้ชัยส่งเสียงคราง
แล้วจู่ๆ ไม่มีปี่มีขลุ่ย เสียงสุนัขที่ไหนไม่รู้ก็หอนขึ้นมาทำลายความเงียบ
"
โบ๋วววววว..........."
ผมสะดุ้งเฮือก นัททำตาเลิ่กลั่ก ในขณะที่ไอ้ชัยผวาแล้วสบถออกมา
" ฟัคเก่น ด้อกกก!!! หอนทำห่- ไรวะตอนนี้ !!! "
ฉับพลัน เราสามคน ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่ง เดินเข้าไปหาประตู ทำท่าเหมือนกำลังจะไขกุญแจที่ล่ามโซ่ประตูนั้น
"อ้อ นั่น น้องคนนั้น น่าจะทำงานอยู่ในนั้นแหละ"
ผมพูดออกมาเบาๆ แล้วสะกิดเพื่อนทั้งสองให้เดินเข้าไปหา "ปะ! ไปกัน"
น้องสาวคนนั้น หันมามองพวกผม แล้วถาม
"พวกพี่ๆ มาเที่ยวกันเหรอคะ ?"
"ใช่จ้ะน้อง" ไอ้ชัยตอบทันควันด้วยสีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย แสดงความหื่นออกนอกหน้า "ยังไม่ปิดใช่ไหมน้อง ?"
"ยังค่ะ" เธอตอบยิ้มๆ พลางเปิดประตู "เข้ามาเลยค่ะพี่"
หล่อนเปิดประตูอ้ากว้างให้ผมสามคนก้าวเข้าไปข้างใน แล้วก็ปิดประตูใส่กลอน
เราทั้งสาม พากันเดินมาจนถึงหน้าตู้กระจก ซึ่งหลังกระจกมีนวลนางนั่งติดเบอร์อยู่ประมาณสิบคน มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคงจะเป็นคนคุมซ่อง ยืนอยู่ห่างๆหน้าตู้กระจก
สิ่งที่ผมสังเกตเห็น และรู้สึกว่าแปลกในทีแรกคือ ขณะนั้น ไม่มีแขกคนอื่นๆเลย นอกจากพวกผมสามคน แต่พอดูนาฬิกา ก็เห็นว่า มันเที่ยงคืนกว่าแล้ว ดังนั้นการที่ไม่มีแขกคนอื่นนอกจากเราสามคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ผมคิดอย่างนั้น
ไอ้ชัย กวักมือเรียกชายคนนั้นมา และสั่งเบียร์มาดื่ม
หลังจากดื่มไป คุยไป มองสาวๆในกระจกไป ไอ้ชัย ก็เลือกคนถูกใจของมันได้ ส่วนผมกับนัท ไม่เลือกใครสักคน โดยเฉพาะนัทไม่สนใจเลย เขาไม่ค่อยอะไรกับเรื่องอย่างว่านี้อยู่แล้ว ส่วนผมมองแล้ว หาคนถูกใจไม่เจอ ก็เลยนั่งอยู่เป็นเพื่อนกับนัท ปล่อยให้ไอ้ชัยไปขึ้นสวรรค์ของมันคนเดียว
ไอ้ชัย ขึ้นห้องไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลงมา บอกกับผมกับนัท
" เฮ้ยเพื่อน! นายสองคน กลับกันก่อนเถอะนะ เราเจอน้องคนนี้แล้ว ถูกใจโคดๆ
คืนนี้ เราจะนอนค้างที่นี่แหละ"
ผมเบิกตาพูด "เฮ้ย....ปิ๊งขนาดนั้นเลยเหรอ ?"
ไอ้ชัยยิ้มกริ่ม "เออว่ะ! แจ่มมากเลยขอบอก! แบบนี้ เตื้อเดียว ไม่พอ!" ว่าเข้าไปนั่น
"บ้าเอ๊ยยย 55555" ผมหัวเราะ อดขำมันไม่ได้
นัทเอ่ยขึ้น ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
"เฮ้ยชัย...นายอ่ะ มีทั้งสร้อยทั้งแหวน แถมพกเงินมาเยอะด้วย นายไม่กลัวเหรอ ?"
ไอ้ชัยทำท่าครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะถอดสร้อยคอและแหวนทองคำยื่นให้นัทรับไว้ และหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดกระเป๋า ดึงแบ๊งค์ห้าร้อยออกมาสองใบ ก่อนจะยื่นกระเป๋าสตางค์ให้นัทไปอีก
"เอ้า นัท! นายช่วยเก็บไว้ให้เราละกัน"
"ได้เพื่อน" นัทพยักหน้าตอบรับ
ไอ้ชัยฉีกยิ้ม ก่อนจะบอก "งั้น เราไปขึ้นห้องละนะ พวกนายก็พากันกลับเถอะ"
ผมกับนัทลุกขึ้น และผมตอบ "โอเค พรุ่งนี้เจอกัน"
"พรุ่งนี้เจอกัน ไอ้เสือ" นัทกล่าวต่อจากผม
จากนั้น ไอ้ชัย ก็เดินขึ้นบันได ไปยังห้องของสาวเจ้าของมัน ส่วนผมกับนัท ก็พากันเดินผ่านตู้กระจก คนคุมผู้ชายก็เปิดประตูให้เราสองคนเดินออกไป แล้วก็ปิดประตู
บรรยากาศภายนอกยิ่งเงียบเชียบวังเวง แต่เราสองคนไม่ได้คิดอะไร พากันเดินอ้อมมาข้างหน้าบ้าน แล้วเดินกลับทางเดิม กลับหอพัก และนัทนอนค้างคืนอยู่กับผม ในคืนนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณเกือบ 9 โมง ไอ้ชัยก็กลับมาหาผมกับนัทที่ห้องในหอพัก หน้าตามันตื่นๆ และมีแววของความตระหนกหรือหวาดกลัวอะไรบางอย่าง เหงื่อโทรมทั่วร่างกาย
ผมเปิดประตูห้องรับมันเข้ามา แล้วก็ถาม
"กลับมาแล้วเหรอเมิง เป็นไงบ้างวะ ? สุขสมอารมณ์หมายขนาดไหน ? แล้วทำไมเมิงทำหน้าตาตื่นยังงั้น ? "
ไอ้ชัยพาตัวเองไปนั่งบนเตียงผม ขอน้ำดื่ม ผมเปิดตู้เย็น หยิบน้ำขวดหนึ่งให้มัน มันรับน้ำขวดนั้นไปด้วยมือสั่นๆ สร้างความแปลกใจให้กับผมและนัท หลังจากมันดื่มน้ำไปสองสามอึก มันก็เริ่มเล่าให้ผมกับนัทฟัง
"มันยังงี้...คือว่า หลังจากที่กูมีอะไรกับน้องคนนั้นเสร็จแล้ว น้องเค้าก็ถามกูว่า พี่จะสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรอีกไหม ? หนูจะได้รีบไปซื้อมาให้พี่ เพราะบ้านจะปิดแล้ว กูก็บอกว่าพอแล้วไม่ซื้ออะไรแล้ว นอนกันเถอะ น้องเค้าก็บอก โอเคงั้นนอนกัน แล้วก็ปิดไฟ กูกับเค้าก็นอนกันแล้วกูก็หลับ "
" อื้อ....แล้วไงต่อ ?" ผมซัก
ไอ้ชัย เล่าต่อไป ด้วยสีหน้าและท่าทางฉงนปนตื่นๆ
และผมสังเกตเห็นแววความหวาดกลัว ปรากฏอยู่ในแววตาของมัน
" พอกูตื่นขึ้นมาตอนเช้า ซักแปดโมงนี่แหละ น้องเค้าก็ไม่อยู่แล้ว กูก็คิดว่า น้องเค้าคงกลับบ้านไปแล้ว เพราะเค้าบอกกูไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืนว่าถ้ากูตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเค้าอยู่ด้วยก็ไม่ต้องแปลกใจ เค้าจะกลับไปก่อน และบอกกูอีกว่า
เวลากูจะกลับ ให้ออกทางหลังบ้าน ทางที่พวกเราเข้าไปกันเมื่อคืนนี้ อย่าออกทางด้านหน้า..." มันพูดถึงครงนี้แล้วก็หยุด ดื่มน้ำอีกอึกหนึ่ง มีอาการตื่นเต้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเล่าต่อไป
" น้องเค้าพูดย้ำกะกูบ่อยมาก เรื่องออกทางด้านหลังเนี่ย... ตอนกูหลับ ก็ไม่ได้หลับสนิทซักเท่าไรว่ะ มันเหมือนหลับๆตื่นๆ หรือหลับไม่เต็มยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ได้หลับบ้างแหละ พอกูตื่นขึ้นมา แล้วลุกขึ้นนั่ง..." มันหยุดนิดหนึ่ง แล้วทำหน้าเหยเก " กูมองดูเตียง แMงโคตรเก่าเลย โทรมมาก มีแต่ฝุ่นและหยากไย่เต็มเลย Shipหาย! กูนอนไปได้ยังไง ? แล้วทำไมมันเป็นยังงี้ ? เมื่อคืนมันยังใหม่ๆอยู่เลย!!!"
ผมกับนัทหันมามองหน้ากันและอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน "เฮ้ย!!!" แล้วผมก็พูด "เมิงเมาหรือเปล่าวะเมื่อคืน ถึงเห็นว่าเตียงมันใหม่ มันคงจะเก่าอย่างที่เมิงเห็นตอนตื่นขึ้นมาดูนั่นละมั้ง ??"
"เมาเชี่ยไรเล่าไอ้แอ๊ด!!" ไอ้ชัยสวนกลับผมทันที "กูไม่เมาหรอก เบียร์แค่สองขวดจะมาเมาอะไร เมิงก็รู้ กูกินเบียร์ได้เป็นโหล"
"โอเคๆ แล้วไงต่อ ?" ผมตัดบทแล้วซักถามมันต่อไป
ไอ้ชัยควักบุหรี่มาจุดสูบ อัดบุหรี่อย่างหนักหน่วง
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้มันเครียดมาก และตื่นกลัวกับอะไรก็ไม่อาจจะทราบได้ ก่อนจะเล่าต่อ
" กูลุกขึ้น ค่อยๆเดินไปที่ประตูห้อง เปิดประตู เมิงรู้ไหม ประตูแม่-ก็ไม่ได้ใส่กลอน! ห้องทั้งห้องก็เก่ามากทรุดโทรมมาก...กูออกมาถึงข้างนอก ค่อยๆเดินลงบันได แล้วเดินมาจนถึงหน้าตู้กระจก..." ถึงตอนนี้มันทำท่าตัวสั่น เหงื่อไหลออกมาให้เห็นเป็นสายจากไรผมและขึ้นเป็นเม็ดๆบนหน้าของมัน " กระจกแม่-แตกยับเลย!! เศษกระจกเกลื่อนไปหมด ไม่เหมือนเมื่อคืนนี้ที่เราเห็นเลย ข้าวของอย่างโต๊ะเก้าอี้ก็เก่าคร่ำคร่า ล้มระเนระนาดไปบ้าง ตั้งอยู่บ้าง กูเห็นอย่างนั้นแล้วกูก็รีบออกทางหลังบ้าน ประตูไม่ได้ล๊อก โซ่ล่ามไว้ลวกๆ เก่าสนิมเขรอะ กูออกมาได้ก็รีบวิ่งออกมา แล้วก็กลับมาห้องเมิงนี่แหละ หัวใจกูจะวาย ไอ้แอ๊ด!!"
ผมกับนัทพากันทึ่ง หันมามองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่นัทจะเปิดปากถาม
" เฮ้ยชัย...นายแน่ใจนะว่านายไม่เมา ? ยังเมาไม่สร่างหรือเปล่า ?" นัทถามยิ้มๆ เหมือนจะพยายามปลุกปลอบใจเพื่อน
" ไม่เมาแน่นอน นัท" ไอ้ชัยตอบพลางส่ายหน้า "เรากินเบียร์แค่สองขวดเองอย่างที่บอก จะเมาได้ไง ? ต่อให้เมา เบียร์แค่สองขวด ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ต้องหายเมาแล้ว"
"มันเหลือเชื่อ!!" ผมพูดสวนต่อจากมัน "ก็เมื่อคืนนี้ทุกอย่างมันยังดูดีอยู่นี่หว่า ทำไมมันกลับตาลปัตรเป็นอีกอย่างในตอนเช้าอย่างที่เมิงว่าอย่างกะหน้ามือเป็นหลังตีนแบบนั้น ?"
"เรากลับไปดูกันไหม ?" นัทถาม
"อึ๊!!" ไอ้ชัยตอบพร้อมกับส่ายหัว และแสดงท่าทางหวาดกลัว แต่ผมข้องใจ ไม่เชื่อ และอยากจะพิสูจน์ความจริง จึงคะยั้นคะยอไอ้ชัยให้ไปให้ได้
(โปรดติดตาม...ยังมีต่อครับ)
{{ HORROR SHORT STORY - เรื่องสั้นขวัญผวา ตอน " ค้างคืน ตื่นสยอง " }}
คืนหนึ่ง ราวๆ 4 ทุ่มเศษ ในห้องเช่าแคบๆ ของหอพักแห่งหนึ่ง กลางเมืองเชียงใหม่
ผมกำลังนั่งอยู่บนเตียง ดูฟุตบอลนัดชิงเอฟเอคัพ ระหว่างทีมรักของผม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับทีมลิเวอร์พูล คู่รักคู่แค้นนานหลายทศวรรษ ซึ่งในฤดูกาลนั้น สองทีมโคจรมาเจอกันในนัดชิง นั่งดูไป จิบเบียร์ไป คนเดียว ไม่มีใครเป็นเพื่อน เคยมีแฟน แต่เขาก็หนีจากผมไปหลายเดือนเกือบปีแล้ว
สายตาผมจดจ้องหน้าจอทีวีด้วยความตื่นเต้นลุ้นระทึก แล้วเสียงผู้บรรยายเกมก็ดังขึ้นๆเพราะเกมอันเข้มข้น จนถึงจุดพีค
" เดวิดเจมส์ ชกบอลไปข้างหน้า บอลลอยไป คันโตน่าอยู่ตรงนั้นพอดีครับ คันโตน่าถอยครับ หนึ่ง สอง สาม ยิง! เรียบร้อย !!!! เรียบร้อยครับ!!! โอ้โฮ.......แมนยูนำลิเวอร์พูลแล้วครับ หนึ่งประตูต่อศูนย์ โอ้สุดยอดครับก็องโต้ เฉียบขาดจริงๆครับ ......."
"โว้ยยยยยยย " ผมแหกปากสุดเสียงพร้อมกับดีดตัวทะลึ่งพรวดลุกจากเตียง ชูกำปั้นขึ้นแล้วเหวี่ยงชกอากาศไปหนึ่งทีอย่างสะใจ " อย่างนี้สิวะ !!! วู้........!!!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ดังพอประมาณ ไม่แรงนัก สามครั้ง
"ก๊อกๆๆ"
"ใครครับ ?" ผมตะโกนถาม
" แอ๊ด เราเอง นัท กับไอ้ชัย เปิดประตูหน่อยดิ "
อ้อ ที่แท้ เพื่อนเราเอง...ผมนึกในใจ สองคนนี้ เป็นเพื่อนสนิทของผมมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ช. คณะเดียวกัน แถมเรียนวิชาเอกเดียวกันด้วย อยู่หอใน ม.ช. ก็เคยอยู่ห้องเดียวกัน ผมจึงเดินไปเปิดประตู แล้วถาม
" ว่าไงเพื่อน มาอะไรกันดึกป่านนี้นิ ? "
" จะมาชวนเมิงไปเที่ยวกันหน่อย" ไอ้ชัยตอบ เขาเป็นเพื่อนที่พูดคุยเมิงๆกูๆกับผมตลอด ในขณะที่นัทค่อนข้างเรียบร้อย ไม่เคยพูดคำว่าเมิงหรือกูเลย คำหยาบอื่นๆก็ไม่พูด จะใช้คำแทนตัวว่า "เรา" และเวลาเรียกเพื่อนผู้ชายก็จะเรียกว่า "นาย" อยู่เสมอ
ผมส่ายหน้า "ไปเที่ยวที่ไหนวะ ไม่ไปหรอก กำลังดูบอล แมนยูแข่งอยู่เว้ย พวก...เอ่อ" เกือบจะว่า "พวกเมิง" แล้ว แต่มีนัทอยู่ด้วย เลยเปลี่ยน "พวกนายเข้ามาก่อนมา ดูบอลกับเราก่อน แมนยูนำแล้ว 1-0 " ผมพูดพร้อมยิ้มมุมปาก ไอ้ชัยมันเชียร์ลิเวอร์พูล!
" Shit !!" มันสบถภาษาฝรั่งออกมาทันที "สัสเอ๊ยยย ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้แอ๊ด!!!"
ผมหัวเราะหึๆ ก่อนจะพาเพื่อนทั้งสองคนเข้ามาในห้อง ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาให้นัท ส่วนไอ้ชัยให้มันนั่งข้างๆผมบนเตียง
เราสามคนดูบอลกันจนจบ ไอ้ชัยออกอาการหัวเสียที่ทีมลิเวอร์พูลแพ้ในขณะที่ผมนั่งหัวเราะชอบใจ ก่อนจะถามมัน
"ตกลง จะไปเที่ยวที่ไหนกันน่ะ ? ดึกแล้วนา"
"เฮ่ยย....ไปปลดปล่อยหน่อยสิวะ!"
คำว่า "ปลดปล่อย" ของมัน หมายถึงการไปเที่ยวซ่อง หรือไม่ก็อาบอบนวด และจะลงท้ายด้วยเรื่องอย่างว่าทุกครั้งไป
"เมิงพากูสองคนไปหน่อย เพราะเมิงชำนาญภูมิประเทศ" ว่าไปนั่น ไอ้เวรเอ๊ย... " ที่ไหนดี ที่ไหนเจ๋ง เมิงเป็นไกด์เลยเว้ย! เดี๋ยวกูเลี้ยง!"
" เฮ้ย.....จริงป่าว ??? " ผมลากเสียงยาวถาม หรี่ตาที่กำลังเยิ้มด้วยแอลกอฮอลจากเบียร์
" จริงสิวะ! ไปๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย" มันพูดอยู่คนเดียว ในขณะที่นัท เพื่อนผู้สุภาพเอาแต่ยิ้ม
" เอา! ไปก็ไป ขอกูแต่งตัวแป๊บ " ผมตอบตกลง
" โอเค รีบๆเลย ไม่ต้องหล่อมากนักหรอกนะเว้ย " ไอ้ชัยเร่งและกำชับผม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกือบเที่ยงคืน ในยามราตรีที่ดวงจันทร์กลมโตส่องแสงสว่างกระจ่างฟ้า เป็นคืนเดือนเพ็ญเสียด้วย บนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยวสายหนึ่งที่จะนำไปสู่ "สำนักโคมเขียว" ตามความปรารถนาของไอ้ชัย เราสามคน เดินไปสู่บ้านหลังหนึ่งซึ่งผมรู้จักดี โดยผมเดินนำหน้าทำหน้าที่เป็น "ไกด์" อย่างที่ไอ้ชัยว่า
พอถึงหน้าประตูบ้าน ปรากฏว่า ประตูปิด แต่มีแสงไฟสลัว วับๆแวมๆ อยู่ข้างใน
"เอ ประตูด้านหน้านี่มันปิด แต่มีแสงไฟข้างใน" ผมพูดกับเพื่อนทั้งสอง " เราอ้อมไปดูด้านหลังกันไหม ?"
"ก็เอาซี่!" ไอ้ชัยตอบทันที "ไปเลยแอ๊ด นำไปเลย"
ผมจึงพาทั้งสองคนเดินอ้อมไปด้านหลัง จนถึงประตูด้านหลังของบ้านนั้น มีโซ่คล้องใส่กุญแจอยู่
"โหย....ล่ามโซ่ไว้อีก" ไอ้ชัยส่งเสียงคราง
แล้วจู่ๆ ไม่มีปี่มีขลุ่ย เสียงสุนัขที่ไหนไม่รู้ก็หอนขึ้นมาทำลายความเงียบ
" โบ๋วววววว..........."
ผมสะดุ้งเฮือก นัททำตาเลิ่กลั่ก ในขณะที่ไอ้ชัยผวาแล้วสบถออกมา
" ฟัคเก่น ด้อกกก!!! หอนทำห่- ไรวะตอนนี้ !!! "
ฉับพลัน เราสามคน ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่ง เดินเข้าไปหาประตู ทำท่าเหมือนกำลังจะไขกุญแจที่ล่ามโซ่ประตูนั้น
"อ้อ นั่น น้องคนนั้น น่าจะทำงานอยู่ในนั้นแหละ"
ผมพูดออกมาเบาๆ แล้วสะกิดเพื่อนทั้งสองให้เดินเข้าไปหา "ปะ! ไปกัน"
น้องสาวคนนั้น หันมามองพวกผม แล้วถาม
"พวกพี่ๆ มาเที่ยวกันเหรอคะ ?"
"ใช่จ้ะน้อง" ไอ้ชัยตอบทันควันด้วยสีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย แสดงความหื่นออกนอกหน้า "ยังไม่ปิดใช่ไหมน้อง ?"
"ยังค่ะ" เธอตอบยิ้มๆ พลางเปิดประตู "เข้ามาเลยค่ะพี่"
หล่อนเปิดประตูอ้ากว้างให้ผมสามคนก้าวเข้าไปข้างใน แล้วก็ปิดประตูใส่กลอน
เราทั้งสาม พากันเดินมาจนถึงหน้าตู้กระจก ซึ่งหลังกระจกมีนวลนางนั่งติดเบอร์อยู่ประมาณสิบคน มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคงจะเป็นคนคุมซ่อง ยืนอยู่ห่างๆหน้าตู้กระจก
สิ่งที่ผมสังเกตเห็น และรู้สึกว่าแปลกในทีแรกคือ ขณะนั้น ไม่มีแขกคนอื่นๆเลย นอกจากพวกผมสามคน แต่พอดูนาฬิกา ก็เห็นว่า มันเที่ยงคืนกว่าแล้ว ดังนั้นการที่ไม่มีแขกคนอื่นนอกจากเราสามคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ผมคิดอย่างนั้น
ไอ้ชัย กวักมือเรียกชายคนนั้นมา และสั่งเบียร์มาดื่ม
หลังจากดื่มไป คุยไป มองสาวๆในกระจกไป ไอ้ชัย ก็เลือกคนถูกใจของมันได้ ส่วนผมกับนัท ไม่เลือกใครสักคน โดยเฉพาะนัทไม่สนใจเลย เขาไม่ค่อยอะไรกับเรื่องอย่างว่านี้อยู่แล้ว ส่วนผมมองแล้ว หาคนถูกใจไม่เจอ ก็เลยนั่งอยู่เป็นเพื่อนกับนัท ปล่อยให้ไอ้ชัยไปขึ้นสวรรค์ของมันคนเดียว
ไอ้ชัย ขึ้นห้องไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลงมา บอกกับผมกับนัท
" เฮ้ยเพื่อน! นายสองคน กลับกันก่อนเถอะนะ เราเจอน้องคนนี้แล้ว ถูกใจโคดๆ คืนนี้ เราจะนอนค้างที่นี่แหละ"
ผมเบิกตาพูด "เฮ้ย....ปิ๊งขนาดนั้นเลยเหรอ ?"
ไอ้ชัยยิ้มกริ่ม "เออว่ะ! แจ่มมากเลยขอบอก! แบบนี้ เตื้อเดียว ไม่พอ!" ว่าเข้าไปนั่น
"บ้าเอ๊ยยย 55555" ผมหัวเราะ อดขำมันไม่ได้
นัทเอ่ยขึ้น ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
"เฮ้ยชัย...นายอ่ะ มีทั้งสร้อยทั้งแหวน แถมพกเงินมาเยอะด้วย นายไม่กลัวเหรอ ?"
ไอ้ชัยทำท่าครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะถอดสร้อยคอและแหวนทองคำยื่นให้นัทรับไว้ และหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดกระเป๋า ดึงแบ๊งค์ห้าร้อยออกมาสองใบ ก่อนจะยื่นกระเป๋าสตางค์ให้นัทไปอีก
"เอ้า นัท! นายช่วยเก็บไว้ให้เราละกัน"
"ได้เพื่อน" นัทพยักหน้าตอบรับ
ไอ้ชัยฉีกยิ้ม ก่อนจะบอก "งั้น เราไปขึ้นห้องละนะ พวกนายก็พากันกลับเถอะ"
ผมกับนัทลุกขึ้น และผมตอบ "โอเค พรุ่งนี้เจอกัน"
"พรุ่งนี้เจอกัน ไอ้เสือ" นัทกล่าวต่อจากผม
จากนั้น ไอ้ชัย ก็เดินขึ้นบันได ไปยังห้องของสาวเจ้าของมัน ส่วนผมกับนัท ก็พากันเดินผ่านตู้กระจก คนคุมผู้ชายก็เปิดประตูให้เราสองคนเดินออกไป แล้วก็ปิดประตู
บรรยากาศภายนอกยิ่งเงียบเชียบวังเวง แต่เราสองคนไม่ได้คิดอะไร พากันเดินอ้อมมาข้างหน้าบ้าน แล้วเดินกลับทางเดิม กลับหอพัก และนัทนอนค้างคืนอยู่กับผม ในคืนนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณเกือบ 9 โมง ไอ้ชัยก็กลับมาหาผมกับนัทที่ห้องในหอพัก หน้าตามันตื่นๆ และมีแววของความตระหนกหรือหวาดกลัวอะไรบางอย่าง เหงื่อโทรมทั่วร่างกาย
ผมเปิดประตูห้องรับมันเข้ามา แล้วก็ถาม
"กลับมาแล้วเหรอเมิง เป็นไงบ้างวะ ? สุขสมอารมณ์หมายขนาดไหน ? แล้วทำไมเมิงทำหน้าตาตื่นยังงั้น ? "
ไอ้ชัยพาตัวเองไปนั่งบนเตียงผม ขอน้ำดื่ม ผมเปิดตู้เย็น หยิบน้ำขวดหนึ่งให้มัน มันรับน้ำขวดนั้นไปด้วยมือสั่นๆ สร้างความแปลกใจให้กับผมและนัท หลังจากมันดื่มน้ำไปสองสามอึก มันก็เริ่มเล่าให้ผมกับนัทฟัง
"มันยังงี้...คือว่า หลังจากที่กูมีอะไรกับน้องคนนั้นเสร็จแล้ว น้องเค้าก็ถามกูว่า พี่จะสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรอีกไหม ? หนูจะได้รีบไปซื้อมาให้พี่ เพราะบ้านจะปิดแล้ว กูก็บอกว่าพอแล้วไม่ซื้ออะไรแล้ว นอนกันเถอะ น้องเค้าก็บอก โอเคงั้นนอนกัน แล้วก็ปิดไฟ กูกับเค้าก็นอนกันแล้วกูก็หลับ "
" อื้อ....แล้วไงต่อ ?" ผมซัก
ไอ้ชัย เล่าต่อไป ด้วยสีหน้าและท่าทางฉงนปนตื่นๆ และผมสังเกตเห็นแววความหวาดกลัว ปรากฏอยู่ในแววตาของมัน
" พอกูตื่นขึ้นมาตอนเช้า ซักแปดโมงนี่แหละ น้องเค้าก็ไม่อยู่แล้ว กูก็คิดว่า น้องเค้าคงกลับบ้านไปแล้ว เพราะเค้าบอกกูไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืนว่าถ้ากูตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเค้าอยู่ด้วยก็ไม่ต้องแปลกใจ เค้าจะกลับไปก่อน และบอกกูอีกว่า เวลากูจะกลับ ให้ออกทางหลังบ้าน ทางที่พวกเราเข้าไปกันเมื่อคืนนี้ อย่าออกทางด้านหน้า..." มันพูดถึงครงนี้แล้วก็หยุด ดื่มน้ำอีกอึกหนึ่ง มีอาการตื่นเต้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเล่าต่อไป
" น้องเค้าพูดย้ำกะกูบ่อยมาก เรื่องออกทางด้านหลังเนี่ย... ตอนกูหลับ ก็ไม่ได้หลับสนิทซักเท่าไรว่ะ มันเหมือนหลับๆตื่นๆ หรือหลับไม่เต็มยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ได้หลับบ้างแหละ พอกูตื่นขึ้นมา แล้วลุกขึ้นนั่ง..." มันหยุดนิดหนึ่ง แล้วทำหน้าเหยเก " กูมองดูเตียง แMงโคตรเก่าเลย โทรมมาก มีแต่ฝุ่นและหยากไย่เต็มเลย Shipหาย! กูนอนไปได้ยังไง ? แล้วทำไมมันเป็นยังงี้ ? เมื่อคืนมันยังใหม่ๆอยู่เลย!!!"
ผมกับนัทหันมามองหน้ากันและอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน "เฮ้ย!!!" แล้วผมก็พูด "เมิงเมาหรือเปล่าวะเมื่อคืน ถึงเห็นว่าเตียงมันใหม่ มันคงจะเก่าอย่างที่เมิงเห็นตอนตื่นขึ้นมาดูนั่นละมั้ง ??"
"เมาเชี่ยไรเล่าไอ้แอ๊ด!!" ไอ้ชัยสวนกลับผมทันที "กูไม่เมาหรอก เบียร์แค่สองขวดจะมาเมาอะไร เมิงก็รู้ กูกินเบียร์ได้เป็นโหล"
"โอเคๆ แล้วไงต่อ ?" ผมตัดบทแล้วซักถามมันต่อไป
ไอ้ชัยควักบุหรี่มาจุดสูบ อัดบุหรี่อย่างหนักหน่วง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้มันเครียดมาก และตื่นกลัวกับอะไรก็ไม่อาจจะทราบได้ ก่อนจะเล่าต่อ
" กูลุกขึ้น ค่อยๆเดินไปที่ประตูห้อง เปิดประตู เมิงรู้ไหม ประตูแม่-ก็ไม่ได้ใส่กลอน! ห้องทั้งห้องก็เก่ามากทรุดโทรมมาก...กูออกมาถึงข้างนอก ค่อยๆเดินลงบันได แล้วเดินมาจนถึงหน้าตู้กระจก..." ถึงตอนนี้มันทำท่าตัวสั่น เหงื่อไหลออกมาให้เห็นเป็นสายจากไรผมและขึ้นเป็นเม็ดๆบนหน้าของมัน " กระจกแม่-แตกยับเลย!! เศษกระจกเกลื่อนไปหมด ไม่เหมือนเมื่อคืนนี้ที่เราเห็นเลย ข้าวของอย่างโต๊ะเก้าอี้ก็เก่าคร่ำคร่า ล้มระเนระนาดไปบ้าง ตั้งอยู่บ้าง กูเห็นอย่างนั้นแล้วกูก็รีบออกทางหลังบ้าน ประตูไม่ได้ล๊อก โซ่ล่ามไว้ลวกๆ เก่าสนิมเขรอะ กูออกมาได้ก็รีบวิ่งออกมา แล้วก็กลับมาห้องเมิงนี่แหละ หัวใจกูจะวาย ไอ้แอ๊ด!!"
ผมกับนัทพากันทึ่ง หันมามองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่นัทจะเปิดปากถาม
" เฮ้ยชัย...นายแน่ใจนะว่านายไม่เมา ? ยังเมาไม่สร่างหรือเปล่า ?" นัทถามยิ้มๆ เหมือนจะพยายามปลุกปลอบใจเพื่อน
" ไม่เมาแน่นอน นัท" ไอ้ชัยตอบพลางส่ายหน้า "เรากินเบียร์แค่สองขวดเองอย่างที่บอก จะเมาได้ไง ? ต่อให้เมา เบียร์แค่สองขวด ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ต้องหายเมาแล้ว"
"มันเหลือเชื่อ!!" ผมพูดสวนต่อจากมัน "ก็เมื่อคืนนี้ทุกอย่างมันยังดูดีอยู่นี่หว่า ทำไมมันกลับตาลปัตรเป็นอีกอย่างในตอนเช้าอย่างที่เมิงว่าอย่างกะหน้ามือเป็นหลังตีนแบบนั้น ?"
"เรากลับไปดูกันไหม ?" นัทถาม
"อึ๊!!" ไอ้ชัยตอบพร้อมกับส่ายหัว และแสดงท่าทางหวาดกลัว แต่ผมข้องใจ ไม่เชื่อ และอยากจะพิสูจน์ความจริง จึงคะยั้นคะยอไอ้ชัยให้ไปให้ได้
(โปรดติดตาม...ยังมีต่อครับ)