เป็นกระทู้แรกที่อยากเขียนหลังจากนั่งดูข่าวดังในทีวี คดีฆ่าหั่นศพ เห็นคนเป็นแม่ให้สัมภาษณ์ว่าลูกสาวคนเล็กไปทำงานและส่งเงินมาสร้างบ้านให้แม่ (คุณแม่รู้ไหมลูกสาวทำอาชีพอะไร) และพี่สาวที่ทราบมาตลอดว่าน้องสาวยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้เรานึกถึงพฤติกรรมต่างๆของนักเรียนที่เราเจอในโรงเรียน
1.เราเคยไปเยี่ยมบ้านนักเรียนที่มีฐานะยากจนในห้องเพื่อจะขอทุนให้เด็ก เจอคุณแม่ที่อายุประมาณ27ปี มีลูกชาย1คนและหญิง1คน อายุ 10และ9ขวบ เด็กผู้หญิงตรวจจากแพทย์พบว่าเป็นเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้แต่ไม่มีปัญหาในดำรงชีวิต
แต่มีปัญหามากในการเรียนรู้ ในขณะที่เรานั่งรอเพื่อพูดคุยกับแม่เด็กที่หน้าบ้าน แม่เด็กและสามีใหม่ ทะเลาะกันในบ้านเสียงลั่น ด้วยคำพูดหยาบคาย สัตว์เลื้อยคลานออกมาครบ ในขณะที่เรานั่งตัวแข็งรอที่หน้าบ้าน จนมียายของเด็กเดินมาหาและทราบข้อมูลว่า ปกติแม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้านคือจะไปทำงานที่อื่นหลายๆวัน ลูกจะอยู่กับยาย
2. เด็กชายอายุ9ขวบ มีนิสัยเกเร ชอบแกล้งเพื่อนที่ไม่มีทางสู้ เป็นหัวโจก ทำลายข้าวของเพื่อนที่เขาไม่ชอบ รังแกผู้หญิง เราซึ่งเป็นครูประจำชั้นหมดทางแก้ไข ไปพบผู้ปกครองที่บ้าน เด็กอาศัยกับยายกับตาที่ตามใจ ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่เด็กมีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นแน่ๆ ได้รับคำตอบจากยายว่า ฉันไม่รู้จะสอนมันยังไง ครูจัดการให้เลยแล้วกัน (คือเราจะได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองเด็กคนอื่นบ่อยมากเรื่องที่เด็กชายคนนี้ไปรังแกลูกเค้า ชกต่อยเลือดตกก็มีค่ะ)
3.มีเด็กชายคนหนึ่ง อายุ8ขวบ เดิมเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง แต่หลังจากเราพบว่าเค้าเหม่อลอยในห้อง เวลาทำงานจะช้าลงจากปกติเป็นเด็กเรียนดี ลายมือสวย เลยแกล้งไปชวนคุย
"วันหยุดหนูไปเที่ยวที่ไหนมาครับ" เด็กตอบว่าไปบ้านพ่อใหม่ที่.....
เราฟังแล้วก็นึกเองในใจว่าพอจะรู้สาเหตุที่เค้าเปลี่ยนไป
#จากที่เราเป็นคุณครูเด็กในวัยประถมมา ความแตกต่างของ นักเรียนที่ไม่มีปัญหาครอบครัว กับเด็กที่พ่อแม่แยกทางหรือพ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมเลี้ยงดูจะเห็นได้ชัดมากค่ะ
อนาคตดีดี และเป็นคนดีในสังคม นอกจากให้การศึกษา คือการให้การอบรมเลี้ยงดูอย่างใส่ใจและถูกต้องจากครอบครัว
เราไม่รู้ว่าเด็กสามคนที่เรายกตัวอย่างโตขึ้นเค้าจะมีปัญหาอะไรต่อที่มันใหญ่กว่านี้ไหม หรือเค้าอาจจะเป็นวัยเด็กที่พอโตขึ้นพฤติกรรมเหล่านี้จะหายไปและเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ
จากข่าวดัง สะท้อนถึงอะไรหลายๆอย่างที่ต้องเริ่มจากครอบครัว จากสิ่งที่เจอในโรงเรียนของเด็กที่มีปัญหาครอบครัว
1.เราเคยไปเยี่ยมบ้านนักเรียนที่มีฐานะยากจนในห้องเพื่อจะขอทุนให้เด็ก เจอคุณแม่ที่อายุประมาณ27ปี มีลูกชาย1คนและหญิง1คน อายุ 10และ9ขวบ เด็กผู้หญิงตรวจจากแพทย์พบว่าเป็นเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้แต่ไม่มีปัญหาในดำรงชีวิต
แต่มีปัญหามากในการเรียนรู้ ในขณะที่เรานั่งรอเพื่อพูดคุยกับแม่เด็กที่หน้าบ้าน แม่เด็กและสามีใหม่ ทะเลาะกันในบ้านเสียงลั่น ด้วยคำพูดหยาบคาย สัตว์เลื้อยคลานออกมาครบ ในขณะที่เรานั่งตัวแข็งรอที่หน้าบ้าน จนมียายของเด็กเดินมาหาและทราบข้อมูลว่า ปกติแม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้านคือจะไปทำงานที่อื่นหลายๆวัน ลูกจะอยู่กับยาย
2. เด็กชายอายุ9ขวบ มีนิสัยเกเร ชอบแกล้งเพื่อนที่ไม่มีทางสู้ เป็นหัวโจก ทำลายข้าวของเพื่อนที่เขาไม่ชอบ รังแกผู้หญิง เราซึ่งเป็นครูประจำชั้นหมดทางแก้ไข ไปพบผู้ปกครองที่บ้าน เด็กอาศัยกับยายกับตาที่ตามใจ ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่เด็กมีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นแน่ๆ ได้รับคำตอบจากยายว่า ฉันไม่รู้จะสอนมันยังไง ครูจัดการให้เลยแล้วกัน (คือเราจะได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองเด็กคนอื่นบ่อยมากเรื่องที่เด็กชายคนนี้ไปรังแกลูกเค้า ชกต่อยเลือดตกก็มีค่ะ)
3.มีเด็กชายคนหนึ่ง อายุ8ขวบ เดิมเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง แต่หลังจากเราพบว่าเค้าเหม่อลอยในห้อง เวลาทำงานจะช้าลงจากปกติเป็นเด็กเรียนดี ลายมือสวย เลยแกล้งไปชวนคุย
"วันหยุดหนูไปเที่ยวที่ไหนมาครับ" เด็กตอบว่าไปบ้านพ่อใหม่ที่.....
เราฟังแล้วก็นึกเองในใจว่าพอจะรู้สาเหตุที่เค้าเปลี่ยนไป
#จากที่เราเป็นคุณครูเด็กในวัยประถมมา ความแตกต่างของ นักเรียนที่ไม่มีปัญหาครอบครัว กับเด็กที่พ่อแม่แยกทางหรือพ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมเลี้ยงดูจะเห็นได้ชัดมากค่ะ
อนาคตดีดี และเป็นคนดีในสังคม นอกจากให้การศึกษา คือการให้การอบรมเลี้ยงดูอย่างใส่ใจและถูกต้องจากครอบครัว
เราไม่รู้ว่าเด็กสามคนที่เรายกตัวอย่างโตขึ้นเค้าจะมีปัญหาอะไรต่อที่มันใหญ่กว่านี้ไหม หรือเค้าอาจจะเป็นวัยเด็กที่พอโตขึ้นพฤติกรรมเหล่านี้จะหายไปและเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ