สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวเส้นทางแชงกรีล่า เส้นทางในฝันของหลายๆ คน รวมถึงเราด้วย ทริปนี้ เราไปมาเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (6-16 เม.ย. 2560) การเดินทาง เริ่มต้นที่คุนหมิง และปลายทางสุดท้ายที่ย่าติง ข้อมูลเยอะ รูปแยะ มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง มีแนะนำแอปสำหรับคนที่พูดจีนไม่ได้ซักคำ การเดินทางครั้งนี้ มีทั้งที่อยู่ในแพลน และมีที่ผิดแพลน หลง งง คุยไม่รู้เรื่อง และที่ยิ่งกว่านั้น มีรีวิวห้องน้ำ สถานที่ในตำนานของประเทศจีน ห้องน้ำในทุกสถานที่ที่ได้ไป จะมาอยู่ในกระทู้มหากาพย์นี้ ใครที่ไม่เคยไปสัมผัสประเทศจีน อาจจะมีความสงสัยมาตลอด ว่าที่เขาว่ากันว่ามันไม่ดีงั้นงี้ จริงๆ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่ มาพิสูจน์กัน
ข้อมูลโดยรวมของทริป
เมืองที่ไป : คุนหมิง - ลี่เจียง - แชงกรีล่า - เต้าเฉิง - ย่าติง
ระยะเวลา : 11 วัน
งบประมาณ : 12,000 บาท รวมทุกอย่าง ที่พัก อาหาร รถไฟ รถบัส แต่ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ กรุงเทพ – คุนหมิง
สมาชิก : 4 คน ไม่มีใครฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาจีนได้เลย (ถึงแม้หน้าตาจะหมวยมากก็ตาม) แต่พอสื่อสารภาษาอังกฤษได้
เพื่อความง่ายในการค้นหาข้อมูล สามารถจิ้มไปดูข้อมูลในแต่ละวันตามด้านล่างนี้ได้เลยยยย
Day 1 : 6 เมษายน 2560 เดินทางสู่คุนหมิง และนั่งรถไฟนอนไปลี่เจียง
https://pantip.com/topic/36509005/comment2
Day 2 : 7 เมษายน 2560 เที่ยวรอบเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang)
https://pantip.com/topic/36509005/comment9
Day 3 : 8 เมษายน 2560 ออกนอกเมืองไปภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon snow mountain)
https://pantip.com/topic/36509005/comment26
Day 4 : 9 เมษายน 2560 เดินทางต่อไปเมืองจงเตี้ยน (Zongdian) หรือแชงกรีล่า (Xiangerila)
https://pantip.com/topic/36509005/comment43
Day 5 : 10 เมษายน 2560 เดินทางยาวๆ ไปเมืองลือว่า (Riwa)
https://pantip.com/topic/36509005/comment60
Day 6 : 11 เมษายน 2560 เข้าสู่อุทยานย่าติง (Yading Natural reserve) และไปทะเลสาบกบ (Pearl Lake)
https://pantip.com/topic/36509005/comment66
Day 7 : 12 เมษายน 2560 ไปทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake)
https://pantip.com/topic/36509005/comment80
Day 8 : 13 เมษายน 2560 เดินทางกลับไปเมืองแชงกรีล่า
https://pantip.com/topic/36509005/comment92
Day 9 : 14 เมษายน 2560 ออกนอกเมืองไปเที่ยวภูเขาหิมะพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue moon valley snow mountain) หรือ ภูเขาหิมะลือข่า (Shika Snow Mountain) และรถนอนเข้าคุนหมิง
https://pantip.com/topic/36509005/comment96
Day 10 : 15 เมษายน 2560 วันเดย์ทริปที่คุนหมิง
https://pantip.com/topic/36509005/comment102
Day 11 : 16 เมษายน 2560 บินกลับกรุงเทพ
https://pantip.com/topic/36509005/comment106
มาเริ่มเรื่องการเตรียมตัวกันเถอะ
Preparation การเตรียมตัว เตรียมแพลน เตรียมใจ แอปที่แนะนำ ข้อมูล และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
ทริปนี้ บังเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนมกราคม ณ เมืองหลวงของประเทศไทย วันหนึ่งเราก็เกิดนิมิตขึ้นมาว่า สงกรานต์ปีนี้ยังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนเลย เปิดปฏิทินดูวันหยุดแล้ว ถ้าลาเพิ่มอีก 4 วัน จะได้วันหยุดยาว 11 วันมาครอง!! ทริปต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด มือทั้งสองข้างก็เริ่มหาข้อมูลสภาพอากาศ ราคาตั๋วเครื่องบิน และงบประมาณการเที่ยวในแต่ละที่ทันที ภายใน 1 วัน เราก็ได้ลิสต์รายชื่อทริปและข้อมูลคร่าวๆ ต่างๆ มาครอง จากนั้นก็ตัดสินใจจากงบประมาณ ความคุ้มค่า และความน่าสนใจของแต่ละที่ สรุปมาได้ว่า เส้นทางแชงกรีล่านี่ล่ะ ที่เหมาะจะไปเที่ยวช่วงนี้ที่สุด ใช้งบน้อย สถานที่สวยงามตรึงใจ และเหมาะกับระยะเวลา 11 วัน จากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินทันที เพื่อปิดโอกาสไม่ให้ใครถอนตัวทัน เราหาตั๋วถูกจากเวป Skyscanner.com พบว่า ช่วงสงกรานต์ ถ้าเดินทางวันที่ 5-15 เม.ย. จะได้ราคาถูกที่สุดคือ 6,779 บาท จากสายการบิน China Eastern เราไม่ลังเลที่จะกดจองเลย จบไป 1 เรื่อง (ซึ่งในภายหลัง สายการบินส่งเมลมาเลื่อนไฟลท์ขากลับให้เร็วขึ้น เราเลยขอเลื่อนให้ช้าลง ซึ่งไฟลท์ถัดไป จะเป็นไฟลท์วันที่ 16 เม.ย. เลย สรุป ก็เลยได้เลื่อนตั๋วกลับเป็นวันที่ 16 แบบฟรีๆ)
ต่อมาเรื่องแพลน แน่นอน ว่าเวป Pantip.com เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีเลย มีกระทู้ดีๆ มากมายอยู่ที่เวปนี้ อยากรู้เรื่องอะไรก็เสิร์ชหาเลย ถ้าไม่เจอ ก็หาจาก google เอา ภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง แล้วข้อมูลต่างๆ ก็ถูกรวบรวมมาเป็นแพลน รายละเอียดในแต่ละวันคร่าวๆ ตามนี้เลย
Day 1 เดินทางสู่คุนหมิง และนั่งรถไฟนอนไปลี่เจียง
Day 2 เที่ยวรอบเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang)
Day 3 ออกนอกเมืองไปภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon snow mountain)
Day 4 เดินทางต่อไปเมืองจงเตี้ยน (Zongdian) หรือแชงกรีล่า (Xiangerila)
Day 5 เดินทางยาวๆ ไปเมืองลือว่า (Riwa)
Day 6 เข้าอุทยานย่าติง (Yading Natural reserve) และไปทะเลสาบกบ (Pearl Lake)
Day 7 ไปทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake)
Day 8 เดินทางกลับไปเมืองจงเตี้ยน
Day 9 ออกนอกเมืองไปเที่ยวภูเขาหิมะพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue moon valley snow mountain) หรือ ภูเขาหิมะลือข่า (Shika Snow Mountain) และเดินทางข้ามคืนเข้าคุนหมิง
Day 10 วันเดย์ทริปในคุนหมิง
Day 11 เดินทางกลับกรุงเทพ
ก่อนการเดินทาง เราและแก๊งของเรา ได้โหลดแอปต่างๆ ที่น่าจะเกิดประโยชน์ในทริปนี้ไปหลายตัว หลังจากจบทริป เราขอสรุป แอปที่สมควรโหลดไปใช้งานเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีอินเตอร์เนท ดังนี้
1. Google Translate (มีทั้ง IOS, Android) แอปแปลภาษาที่ใช้เป็นตัวหลัก ช่วยชีวิตได้หลายๆ ครั้ง ยิ่งช่วงเวลาที่ต่ออินเตอร์เนทได้ สามารถช่วยแปลคำพูดของทั้งทางฝั่งไทยและจีนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะวิธีถ่ายรูป พิมพ์ หรือพูด ก็สามารถแปลได้หมด แต่ในช่วงเวลาที่ไม่มีอินเตอร์เนท เราก็เก็งข้อสอบไว้ ว่าเดี๋ยวจะต้องใช้คำไหน ประโยคไหนบ้าง แล้วกด Starred หรือกดดาวไว้
ป.ล. พิมพ์หรือพูดเป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้แปลงเป็นภาษาจีน จะได้ข้อความที่ตรงความหมายมากกว่าใช้ภาษาไทยนะ
2. Pleco แอปพจนานุกรอังกฤษ-จีน และยังมีประโยคภาษาจีนที่น่าจะมีประโยชน์ให้ได้ใช้ เป็นแบบออฟไลน์ เพราะฉะนั้นในยามที่เข้าตาจน มันก็สามารถช่วยเราได้
3. Maps.me แอปแผนที่ออฟไลน์ ที่ใช้งานได้ดีพอสมควร ได้มีโอกาสใช้ตอนอยุ่ในตัวเมืองเก่าลี่เจียง และในเมืองคุนหมิง มีติดเครื่องไว้ให้อุ่นใจในยามที่ไม่มีอินเตอร์เนท
4. WeChat นอกเหนือจากแอปที่กล่าวมา เราก็ควรโหลด WeChat แอปสนทนายอดนิยมในจีนไว้ด้วย ทั้งเผื่อคุยระหว่างในกลุ่ม และไว้คุยกับทางโรงแรม เอเจนซี่ทัวร์ หรือคนอื่นๆ ในจีน
5. OnavoProtect และ VPN Master เนื่องจากประเทศจีน บล็อกแอป social media เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Facebook, line, Instagram, google ฯลฯ ดังนั้นถ้าใครอยากใช้งานแอปพวกนี้ ก็ต้องโหลด VPN ไปใช้ด้วย
เราแนะนำแอป OnavoProtect(ดีที่สุด และ auto connect) และโหลดตัวสำรองเป็นแอป VPN Master
ข้อมูลและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
1. สภาพอากาศช่วงที่จะไป เป็นช่วงหน้าใบไม้ผลิของจีน แต่เมืองที่ไป มีตั้งแต่อุณหภูมิ 20 ลดไปจนถึงติดลบ เพราะเราจะมีขึ้นภูเขาหิมะ และไปเมืองที่สูงระดับมากกว่า 4,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เพราะฉะนั้น ก็ต้องเตรียมเครื่องแต่งกายไปให้พร้อมรับมือความหนาวและหิมะ จะลองจอน ฮีทเทค หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ เอาไปให้หมด นอกจากนี้ก็ลิปมัน ครีมบำรุงผิว กันปากแตก ผิวแตก อ่อ แล้วก็แว่นกันแดด ก็จำเป็น ในวันที่ขึ้นภูเขาหิมะ ควรใส่ เพราะหิมะสีขาวนั้นทำให้แสบตาสุดๆ
2. อาหารแห้ง เนื่องจากที่ได้หาข้อมูลมา หลายๆ คนบอกว่าอาหารที่จีนนั้น กินไม่ได้ กินยาก กินลำบาก กลัวท้องเสีย กลัวเนื้อหมา ฯลฯ และในหลายๆ ครั้งที่เดินทางอยู่บนรถไฟ หรือรถบัสเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ชั่วโมง และบางเมืองก็อาจจะหาอาหารกินยากอีก จึงได้มีการตระเตรียมอาหารแห้งไปเผื่อเยอะมาก ก็อยากจะบอกว่า เตรียมไปเผื่อแค่มื้อที่ต้องกินบนรถในวันที่ต้องเดินทางไกล กับวันที่ต้องเทรกกิ้งทั้งวัน และอาจเผื่อถึงมื้อเช้าในทุกๆ วัน (ถ้าเป็นคนที่ต้องกินข้าวเช้า) ก็พอแล้ว อาหารแห้งที่เราเตรียมไปกันก็อย่างเช่น บะหมี่สำเร็จรูป โจ๊กสำเร็จรูป น้ำพริก ปลากระป๋อง หมูแดดเดียว ไข่เค็ม หมูหยอง ประมาณนี้ แล้วก็มีพวกลูกอม ช็อคโกแลต ขนม ติดๆ ไปหน่อย
3. ยา นอกจากยาสามัญทั่วไป เช่น พารา แก้ท้องเสีย ก็ขอแนะนำยาแก้เมารถ สำหรับคนที่เมารถหรือกลัวว่าจะเมารถ เพราะทางที่นี่ ขึ้นภูเขาสูงอยู่ตลอดเวลา ทางเลยคดเคี้ยวเลี้ยวลดสุดๆ แล้วก็ถ้าใครไม่เคยไปอยู่บนที่สูงมากๆ (ระดับ 2,500 เมตรขึ้นไป) อาจจะเป็นโรคแพ้ความสูงได้ ให้ลองปรึกษาแพทย์ เพื่อขอยาป้องกัน ชื่อยา Acetazolamide (Diamox)
4. หน้ากากอนามัย (แนะนำหน้ากากคาร์บอน) สิ่งที่ต้องเผชิญแน่ๆ คือ ตอนอยู่บนรถบัสข้ามเมือง คนขับรถ และคนบนรถ จะสูบบุหรี่ กลิ่นก็จะตลบอบอวนอยู่บนรถ ถ้าเปิดหน้าต่างระบายอากาศ ก็จะเจอกับฝุ่นบนถนนลูกรังที่คลุ้งเข้ามาในรถ ซึ่งทั้ง 2 อย่างเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันตัวเอง ด้วยหน้ากากอนามัย ซึ่งถ้าเป็นแบบคาร์บอน ก็จะยิ่งกรองสารพิษ ฝุ่นควัน ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา แนะนำให้เตรียมไป
5. อินเตอร์เนท เราไม่สามารถซื้อซิมที่ประเทศจีนได้ง่ายๆ เหมือนประเทศอื่น ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือเปิด Roaming ไปจากไทย หรือใช้ pocket wifi แต่เท่าที่เราหาข้อมูลมา ส่วนใหญ่ มันก็จะมีสัญญาณแค่ในเมือง ยิ่งเราไปไกลจากคุนหมิงเท่าไหร่ สัญญาณอินเตอร์เนทก็น้อยลง ถึงขั้นไม่มีเลย ในทริปนี้ ถ้าวันไหนมีสัญญาณ 3G, 4G พี่คนนึงในทริป ก็จะซื้อ data roaming ของ Dtac วันละ 450 บาทมาใช้ ก็ต้องดูที่วันนั้นๆ อีกที ว่าแต่ละวันมีสัญญาณแรงๆ ให้ใช้ได้มั้ย คำเตือนก็คือ อย่าคาดหวังมากว่าจะสามารถออนไลน์ได้ทุกวันและตลอดเวลา เช่น ที่ย่าติง เราจะเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเลย แม้แต่ไฟฟ้า ยังแทบจะไม่มี
ถ้าเตรียมทั้งหมดนี้เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมยิ่งกว่าพร้อมสำหรับออกเดินทางไกลกันแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียม ก็คือ เตรียมใจที่จะพบกับสิ่งแปลกใหม่ที่เราอาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต แต่เราก็ได้มาเจอมารู้มาเห็นในทริปนี้ค่ะ พร้อมแล้วก้ลุยกันเล้ยยยยย!!!
ป.ล. ถ้าจะพร้อมกว่านี้ ฝากเพจใหม่ของเราด้วยค่า เพิ่งเปิดสดๆ ร้อนๆ มีคำถามอะไรเกียวกับการท่องเที่ยว เชิญถามได้เลยค่า
https://www.facebook.com/CallMeWheneverGo/
[CR] พาเที่ยวแชงกรีล่าช่วงสงกรานต์ 11 วัน (คุนหมิง-ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ย่าติง) พูดจีนไม่ได้ แต่ข้อมูลแน่นมาก กับงบหมื่นสอง
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวเส้นทางแชงกรีล่า เส้นทางในฝันของหลายๆ คน รวมถึงเราด้วย ทริปนี้ เราไปมาเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (6-16 เม.ย. 2560) การเดินทาง เริ่มต้นที่คุนหมิง และปลายทางสุดท้ายที่ย่าติง ข้อมูลเยอะ รูปแยะ มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง มีแนะนำแอปสำหรับคนที่พูดจีนไม่ได้ซักคำ การเดินทางครั้งนี้ มีทั้งที่อยู่ในแพลน และมีที่ผิดแพลน หลง งง คุยไม่รู้เรื่อง และที่ยิ่งกว่านั้น มีรีวิวห้องน้ำ สถานที่ในตำนานของประเทศจีน ห้องน้ำในทุกสถานที่ที่ได้ไป จะมาอยู่ในกระทู้มหากาพย์นี้ ใครที่ไม่เคยไปสัมผัสประเทศจีน อาจจะมีความสงสัยมาตลอด ว่าที่เขาว่ากันว่ามันไม่ดีงั้นงี้ จริงๆ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่ มาพิสูจน์กัน
ข้อมูลโดยรวมของทริป
เมืองที่ไป : คุนหมิง - ลี่เจียง - แชงกรีล่า - เต้าเฉิง - ย่าติง
ระยะเวลา : 11 วัน
งบประมาณ : 12,000 บาท รวมทุกอย่าง ที่พัก อาหาร รถไฟ รถบัส แต่ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ กรุงเทพ – คุนหมิง
สมาชิก : 4 คน ไม่มีใครฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาจีนได้เลย (ถึงแม้หน้าตาจะหมวยมากก็ตาม) แต่พอสื่อสารภาษาอังกฤษได้
เพื่อความง่ายในการค้นหาข้อมูล สามารถจิ้มไปดูข้อมูลในแต่ละวันตามด้านล่างนี้ได้เลยยยย
Day 1 : 6 เมษายน 2560 เดินทางสู่คุนหมิง และนั่งรถไฟนอนไปลี่เจียง
https://pantip.com/topic/36509005/comment2
Day 2 : 7 เมษายน 2560 เที่ยวรอบเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang)
https://pantip.com/topic/36509005/comment9
Day 3 : 8 เมษายน 2560 ออกนอกเมืองไปภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon snow mountain)
https://pantip.com/topic/36509005/comment26
Day 4 : 9 เมษายน 2560 เดินทางต่อไปเมืองจงเตี้ยน (Zongdian) หรือแชงกรีล่า (Xiangerila)
https://pantip.com/topic/36509005/comment43
Day 5 : 10 เมษายน 2560 เดินทางยาวๆ ไปเมืองลือว่า (Riwa)
https://pantip.com/topic/36509005/comment60
Day 6 : 11 เมษายน 2560 เข้าสู่อุทยานย่าติง (Yading Natural reserve) และไปทะเลสาบกบ (Pearl Lake)
https://pantip.com/topic/36509005/comment66
Day 7 : 12 เมษายน 2560 ไปทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake)
https://pantip.com/topic/36509005/comment80
Day 8 : 13 เมษายน 2560 เดินทางกลับไปเมืองแชงกรีล่า
https://pantip.com/topic/36509005/comment92
Day 9 : 14 เมษายน 2560 ออกนอกเมืองไปเที่ยวภูเขาหิมะพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue moon valley snow mountain) หรือ ภูเขาหิมะลือข่า (Shika Snow Mountain) และรถนอนเข้าคุนหมิง
https://pantip.com/topic/36509005/comment96
Day 10 : 15 เมษายน 2560 วันเดย์ทริปที่คุนหมิง
https://pantip.com/topic/36509005/comment102
Day 11 : 16 เมษายน 2560 บินกลับกรุงเทพ
https://pantip.com/topic/36509005/comment106
มาเริ่มเรื่องการเตรียมตัวกันเถอะ
Preparation การเตรียมตัว เตรียมแพลน เตรียมใจ แอปที่แนะนำ ข้อมูล และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
ทริปนี้ บังเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนมกราคม ณ เมืองหลวงของประเทศไทย วันหนึ่งเราก็เกิดนิมิตขึ้นมาว่า สงกรานต์ปีนี้ยังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนเลย เปิดปฏิทินดูวันหยุดแล้ว ถ้าลาเพิ่มอีก 4 วัน จะได้วันหยุดยาว 11 วันมาครอง!! ทริปต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด มือทั้งสองข้างก็เริ่มหาข้อมูลสภาพอากาศ ราคาตั๋วเครื่องบิน และงบประมาณการเที่ยวในแต่ละที่ทันที ภายใน 1 วัน เราก็ได้ลิสต์รายชื่อทริปและข้อมูลคร่าวๆ ต่างๆ มาครอง จากนั้นก็ตัดสินใจจากงบประมาณ ความคุ้มค่า และความน่าสนใจของแต่ละที่ สรุปมาได้ว่า เส้นทางแชงกรีล่านี่ล่ะ ที่เหมาะจะไปเที่ยวช่วงนี้ที่สุด ใช้งบน้อย สถานที่สวยงามตรึงใจ และเหมาะกับระยะเวลา 11 วัน จากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินทันที เพื่อปิดโอกาสไม่ให้ใครถอนตัวทัน เราหาตั๋วถูกจากเวป Skyscanner.com พบว่า ช่วงสงกรานต์ ถ้าเดินทางวันที่ 5-15 เม.ย. จะได้ราคาถูกที่สุดคือ 6,779 บาท จากสายการบิน China Eastern เราไม่ลังเลที่จะกดจองเลย จบไป 1 เรื่อง (ซึ่งในภายหลัง สายการบินส่งเมลมาเลื่อนไฟลท์ขากลับให้เร็วขึ้น เราเลยขอเลื่อนให้ช้าลง ซึ่งไฟลท์ถัดไป จะเป็นไฟลท์วันที่ 16 เม.ย. เลย สรุป ก็เลยได้เลื่อนตั๋วกลับเป็นวันที่ 16 แบบฟรีๆ)
ต่อมาเรื่องแพลน แน่นอน ว่าเวป Pantip.com เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีเลย มีกระทู้ดีๆ มากมายอยู่ที่เวปนี้ อยากรู้เรื่องอะไรก็เสิร์ชหาเลย ถ้าไม่เจอ ก็หาจาก google เอา ภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง แล้วข้อมูลต่างๆ ก็ถูกรวบรวมมาเป็นแพลน รายละเอียดในแต่ละวันคร่าวๆ ตามนี้เลย
Day 1 เดินทางสู่คุนหมิง และนั่งรถไฟนอนไปลี่เจียง
Day 2 เที่ยวรอบเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang)
Day 3 ออกนอกเมืองไปภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon snow mountain)
Day 4 เดินทางต่อไปเมืองจงเตี้ยน (Zongdian) หรือแชงกรีล่า (Xiangerila)
Day 5 เดินทางยาวๆ ไปเมืองลือว่า (Riwa)
Day 6 เข้าอุทยานย่าติง (Yading Natural reserve) และไปทะเลสาบกบ (Pearl Lake)
Day 7 ไปทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake)
Day 8 เดินทางกลับไปเมืองจงเตี้ยน
Day 9 ออกนอกเมืองไปเที่ยวภูเขาหิมะพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue moon valley snow mountain) หรือ ภูเขาหิมะลือข่า (Shika Snow Mountain) และเดินทางข้ามคืนเข้าคุนหมิง
Day 10 วันเดย์ทริปในคุนหมิง
Day 11 เดินทางกลับกรุงเทพ
ก่อนการเดินทาง เราและแก๊งของเรา ได้โหลดแอปต่างๆ ที่น่าจะเกิดประโยชน์ในทริปนี้ไปหลายตัว หลังจากจบทริป เราขอสรุป แอปที่สมควรโหลดไปใช้งานเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีอินเตอร์เนท ดังนี้
1. Google Translate (มีทั้ง IOS, Android) แอปแปลภาษาที่ใช้เป็นตัวหลัก ช่วยชีวิตได้หลายๆ ครั้ง ยิ่งช่วงเวลาที่ต่ออินเตอร์เนทได้ สามารถช่วยแปลคำพูดของทั้งทางฝั่งไทยและจีนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะวิธีถ่ายรูป พิมพ์ หรือพูด ก็สามารถแปลได้หมด แต่ในช่วงเวลาที่ไม่มีอินเตอร์เนท เราก็เก็งข้อสอบไว้ ว่าเดี๋ยวจะต้องใช้คำไหน ประโยคไหนบ้าง แล้วกด Starred หรือกดดาวไว้
ป.ล. พิมพ์หรือพูดเป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้แปลงเป็นภาษาจีน จะได้ข้อความที่ตรงความหมายมากกว่าใช้ภาษาไทยนะ
2. Pleco แอปพจนานุกรอังกฤษ-จีน และยังมีประโยคภาษาจีนที่น่าจะมีประโยชน์ให้ได้ใช้ เป็นแบบออฟไลน์ เพราะฉะนั้นในยามที่เข้าตาจน มันก็สามารถช่วยเราได้
3. Maps.me แอปแผนที่ออฟไลน์ ที่ใช้งานได้ดีพอสมควร ได้มีโอกาสใช้ตอนอยุ่ในตัวเมืองเก่าลี่เจียง และในเมืองคุนหมิง มีติดเครื่องไว้ให้อุ่นใจในยามที่ไม่มีอินเตอร์เนท
4. WeChat นอกเหนือจากแอปที่กล่าวมา เราก็ควรโหลด WeChat แอปสนทนายอดนิยมในจีนไว้ด้วย ทั้งเผื่อคุยระหว่างในกลุ่ม และไว้คุยกับทางโรงแรม เอเจนซี่ทัวร์ หรือคนอื่นๆ ในจีน
5. OnavoProtect และ VPN Master เนื่องจากประเทศจีน บล็อกแอป social media เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Facebook, line, Instagram, google ฯลฯ ดังนั้นถ้าใครอยากใช้งานแอปพวกนี้ ก็ต้องโหลด VPN ไปใช้ด้วย
เราแนะนำแอป OnavoProtect(ดีที่สุด และ auto connect) และโหลดตัวสำรองเป็นแอป VPN Master
ข้อมูลและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
1. สภาพอากาศช่วงที่จะไป เป็นช่วงหน้าใบไม้ผลิของจีน แต่เมืองที่ไป มีตั้งแต่อุณหภูมิ 20 ลดไปจนถึงติดลบ เพราะเราจะมีขึ้นภูเขาหิมะ และไปเมืองที่สูงระดับมากกว่า 4,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เพราะฉะนั้น ก็ต้องเตรียมเครื่องแต่งกายไปให้พร้อมรับมือความหนาวและหิมะ จะลองจอน ฮีทเทค หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ เอาไปให้หมด นอกจากนี้ก็ลิปมัน ครีมบำรุงผิว กันปากแตก ผิวแตก อ่อ แล้วก็แว่นกันแดด ก็จำเป็น ในวันที่ขึ้นภูเขาหิมะ ควรใส่ เพราะหิมะสีขาวนั้นทำให้แสบตาสุดๆ
2. อาหารแห้ง เนื่องจากที่ได้หาข้อมูลมา หลายๆ คนบอกว่าอาหารที่จีนนั้น กินไม่ได้ กินยาก กินลำบาก กลัวท้องเสีย กลัวเนื้อหมา ฯลฯ และในหลายๆ ครั้งที่เดินทางอยู่บนรถไฟ หรือรถบัสเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ชั่วโมง และบางเมืองก็อาจจะหาอาหารกินยากอีก จึงได้มีการตระเตรียมอาหารแห้งไปเผื่อเยอะมาก ก็อยากจะบอกว่า เตรียมไปเผื่อแค่มื้อที่ต้องกินบนรถในวันที่ต้องเดินทางไกล กับวันที่ต้องเทรกกิ้งทั้งวัน และอาจเผื่อถึงมื้อเช้าในทุกๆ วัน (ถ้าเป็นคนที่ต้องกินข้าวเช้า) ก็พอแล้ว อาหารแห้งที่เราเตรียมไปกันก็อย่างเช่น บะหมี่สำเร็จรูป โจ๊กสำเร็จรูป น้ำพริก ปลากระป๋อง หมูแดดเดียว ไข่เค็ม หมูหยอง ประมาณนี้ แล้วก็มีพวกลูกอม ช็อคโกแลต ขนม ติดๆ ไปหน่อย
3. ยา นอกจากยาสามัญทั่วไป เช่น พารา แก้ท้องเสีย ก็ขอแนะนำยาแก้เมารถ สำหรับคนที่เมารถหรือกลัวว่าจะเมารถ เพราะทางที่นี่ ขึ้นภูเขาสูงอยู่ตลอดเวลา ทางเลยคดเคี้ยวเลี้ยวลดสุดๆ แล้วก็ถ้าใครไม่เคยไปอยู่บนที่สูงมากๆ (ระดับ 2,500 เมตรขึ้นไป) อาจจะเป็นโรคแพ้ความสูงได้ ให้ลองปรึกษาแพทย์ เพื่อขอยาป้องกัน ชื่อยา Acetazolamide (Diamox)
4. หน้ากากอนามัย (แนะนำหน้ากากคาร์บอน) สิ่งที่ต้องเผชิญแน่ๆ คือ ตอนอยู่บนรถบัสข้ามเมือง คนขับรถ และคนบนรถ จะสูบบุหรี่ กลิ่นก็จะตลบอบอวนอยู่บนรถ ถ้าเปิดหน้าต่างระบายอากาศ ก็จะเจอกับฝุ่นบนถนนลูกรังที่คลุ้งเข้ามาในรถ ซึ่งทั้ง 2 อย่างเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันตัวเอง ด้วยหน้ากากอนามัย ซึ่งถ้าเป็นแบบคาร์บอน ก็จะยิ่งกรองสารพิษ ฝุ่นควัน ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา แนะนำให้เตรียมไป
5. อินเตอร์เนท เราไม่สามารถซื้อซิมที่ประเทศจีนได้ง่ายๆ เหมือนประเทศอื่น ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือเปิด Roaming ไปจากไทย หรือใช้ pocket wifi แต่เท่าที่เราหาข้อมูลมา ส่วนใหญ่ มันก็จะมีสัญญาณแค่ในเมือง ยิ่งเราไปไกลจากคุนหมิงเท่าไหร่ สัญญาณอินเตอร์เนทก็น้อยลง ถึงขั้นไม่มีเลย ในทริปนี้ ถ้าวันไหนมีสัญญาณ 3G, 4G พี่คนนึงในทริป ก็จะซื้อ data roaming ของ Dtac วันละ 450 บาทมาใช้ ก็ต้องดูที่วันนั้นๆ อีกที ว่าแต่ละวันมีสัญญาณแรงๆ ให้ใช้ได้มั้ย คำเตือนก็คือ อย่าคาดหวังมากว่าจะสามารถออนไลน์ได้ทุกวันและตลอดเวลา เช่น ที่ย่าติง เราจะเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเลย แม้แต่ไฟฟ้า ยังแทบจะไม่มี
ถ้าเตรียมทั้งหมดนี้เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมยิ่งกว่าพร้อมสำหรับออกเดินทางไกลกันแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียม ก็คือ เตรียมใจที่จะพบกับสิ่งแปลกใหม่ที่เราอาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต แต่เราก็ได้มาเจอมารู้มาเห็นในทริปนี้ค่ะ พร้อมแล้วก้ลุยกันเล้ยยยยย!!!
ป.ล. ถ้าจะพร้อมกว่านี้ ฝากเพจใหม่ของเราด้วยค่า เพิ่งเปิดสดๆ ร้อนๆ มีคำถามอะไรเกียวกับการท่องเที่ยว เชิญถามได้เลยค่า
https://www.facebook.com/CallMeWheneverGo/