สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
มาแปลให้ตามที่ คุณ สารานุกรมกัลโช่ ให้ลิงค์ต้นทางมานะครับ ผิดถูกอย่างไรแก้ไขเพิ่มเติมชี้แจงได้ครับ
ขอบคุณ โรม
ขอบคุณ คุณพ่อ และ คุณแม่ของผม , น้องชาย , ญาติๆและเพื่อนๆของผมทุกคน
ขอบคุณภรรยาของผมและลูกๆทั้งสามคน
ผมต้องการที่จะเริ่มพูดจากบรรทัดสุดท้าย จากคำว่า " ลาก่อน "
เพราะผมไม่แน่ใจว่าในท้ายที่สุดแล้วผมจะสามารถอ่านบรรทัดนี้ออกมาได้รึเปล่า
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกเรื่องราวทุกสิ่งตลอด 28 ปีในประโยคไม่กี่ประโยค
ผมอยากจะกลั่นมันออกมาเป็นเพลงหรือบทกวีนะ แต่ผมเขียนมันไม่เป็น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมพยายามอย่างเต็มที่ในการแสดงตัวตนและความรู้สึกผ่านทางเท้าทั้งสองข้างของผม , สำหรับผมแล้วเพราะแบบนี้แหละมันเลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายขึ้นมากตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็ก
สมัยผมยังเด็ก , คุณลองเดาดูสิว่า "ของเล่นอะไรที่ผมชอบมากที่สุด?" "แน่นอนว่ามันต้องเป็น ฟุตบอล อยู่แล้ว"
และมันยังคงเป็นแบบนั้นตราบมาจนถึงวันนี้
ในบางช่วงของชีวิต คุณเติบโตขึ้น และนั่นเป็นสิ่งที่มีคนบอกผม "มันถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจแล้ว"
"ช่วงเวลาที่เลวร้าย"
ย้อนกลับไปวันที่ 17 มิถุนายน 2001 , พวกเราทุกคนอยากให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ
แทบจะรอไม่ไหวกว่าจะได้ยินเสียงผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา
ผมยังคงรู้สึกขนลุกเสมอเมื่อนึกย้อนไปถึงตอนนั้น
แต่ในวันนี้ "เวลา" เดินมาแตะไหล่ผมแล้วก็มันก็บอกกับผมว่า
"พวกเราต้องโตขึ้นได้แล้ว ในวันพรุ่งนี้นายก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถอดกางเกงขาสั้นกับรองเท้าสตั๊ดนั่นซะ เพราะ จากวันนี้เป็นต้นไปนายจะไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว หมดเวลาเพลิดเพลินในการสูดดมกลิ่นหญ้าในสนาม แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาบนใบหน้า ตอนที่กำลังพุ่งตรงไปหาประตูฝั่งตรงข้าม , อะดรีนาลีนในตัวสูบฉีด , ความสนุกเวลาเราฉลองที่ได้ชัยชนะ"
หลายเดือนที่ผ่านมา ผมเฝ้าถามตัวเองว่าทำไมผมต้องตื่นจากฝันนี้ด้วย
ลองคิดดูสิ สมัยพวกคุณยังเด็ก แล้วคุณกำลังนอนหลับฝันดี แต่แม่ของคุณมาปลุกแล้วก็บอกว่าให้รีบตื่นไปโรงเรียนได้แล้ว
คุณต้องการจะฝันต่อ คุณพยายามที่จะกลับไปยังฝันดีนั้นอีกครั้ง แต่ไม่เคยมีใครทำแบบนั้นได้หรอก
ตอนนี้ มันไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือ "ความจริง"
และผมคงไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกแล้ว
ผมอยากจะมอบคำพูดเหล่านี้ให้กับทุกๆคน ให้กับเด็กๆทุกคนที่คอยสนับสนุนผมมาตลอด
ให้กับเด็กๆในเมื่อวานนี้ ซึ่งวันนี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เป็นพ่อและแม่ และมอบให้สำหรับเด็กๆในวันนี้ คนที่อาจจะร้องตะโกนคำว่า
"ต๊อตติโกล!"
ผมอยากจะคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าสำหรับพวกคุณแล้ว เรื่องราวของผม อาชีพของผม ภาระหน้าที่ของผม
จะกลายเป็นเทพนิยายที่จะสืบทอดหรือบอกต่อกันไป
เพราะวันนี้ เรื่องราวเหล่านั้น "มันจบแล้วจริงๆ"
ผมถอดเสื้อตัวนี้เป็นครั้งสุดแล้วท้ายแล้วละ
ผมจะพับมันเก็บเอาไว้ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่พร้อมที่จะพูดคำว่า "ผมพอแล้ว" ออกมาก็ตาม
และผมคิดว่ามันคงไม่มีทางมีวันนั้นสำหรับผมหรอก
ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถให้สัมภาษณ์หรือพูดบอกเล่าความรู้สึกทั้งหมดอย่างชัดเจนได้ เพราะมันไม่ง่ายเลย
"ผมกลัว" มันไม่ได้เป็นความรู้สึกกลัวแบบที่คุณกำลังยืนอยู่ต่อหน้าประตูเวลารอสังหารจุดโทษ
ตอนนี้ผมไม่สามารถมองเห็นอนาคตของผมผ่านรูตาข่ายประตูได้อีกแล้ว
ปล่อยให้ผมได้รู้สึกกลัวแบบนี้ต่อไปอีกหน่อยเถอะนะ
เอาละ ตอนนี้ นี่คือคนที่ต้องการคุณตลอดมาและความรักที่พวกคุณแสดงออกมาให้ผมเห็นเสมอนั้นมันมากมายจริงๆ
ด้วยแรงสนับสนุนจากพวกคุณ ผมจึงสามารถก้าวต่อไปได้และสามารถเริ่มการผจญภัยบทใหม่ของผมได้ซักที
ถึงเวลาของผมที่จะต้องกล่าวขอบคุณ เพื่อนรวมทีมที่ผ่านมาทั้งหมด , โค้ชทุกคน , ผู้จัดการทีมทุกท่าน , ประธานาธิบดี และ ทุกๆคนที่เคยทำงานเคียงข้างผมมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้
สำหรับแฟนๆทุกคนและสำหรับแสตนด์ที่นั่งทางทิศใต้ (Curva Sud) , ที่เป็นแสงนำทางให้กับชาวโรมันทั้งหมดและโรมันนิสตี้(น่าจะเป็นชื่อเรียกแฟนๆโรมา)
ได้เกิดที่โรมและได้เป็นโรมันนิสตี้ถือเป็นเรื่องพิเศษสำหรับผม
การได้เป็นกัปตันของทีมๆนี้ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก
คุณจะอยู่ในชีวิต ร่างกาย และความรู้สึกของผม และมันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป
ผมไม่สามารถที่จะมอบความบันเทิงให้แก่คุณด้วยเท้าทั้งสองข้างของผมได้อีกต่อไปแล้ว
แต่หัวใจของผมจะยังคงอยู่ที่นี่เคียงข้างคุณอยู่เสมอและตลอดไป
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ผมจะลงบันไดนั้นเพื่อไปยังห้องแต่งตัวที่เคยต้อนรับผมเมื่อครั้งผมยังเป็นเด็ก
และผมต้องจากมันไปเมื่อผมกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ผมภูมิใจและมีความสุขมากที่ได้ทุ่มเทมอบความรักให้กับทุกคนตลอด 28 ปีนี้
I LOVE YOU
ปล. อาจจะแปลตะกุกตะกักบ้างนะครับ เพราะไม่ค่อยได้อ่านภาษาอังกฤษแล้วพิมพ์ออกมาเป็นภาษาไทยเท่าไหร่นัก แต่ถือว่าทำเพื่อแฟนๆ
อิตาลีทุกคน เพราะผมเองก็เป็นแฟนคลับอิตาลี ต๊อตติกHเป็นนักเตะที่ได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็ก ตอนพิมพ์ไปก็แอบน้ำตาซึมบางช่วง
พญาหมาป่าแห่งโรม ฟรานเชสโก้ ต็อตติชุด world cup 2006 เหลือแค่บุฟฟ่อนแล้วสินะ แก้ไขนะครับ เหลืออีกหลายคนเลย บางคนนึก
ว่าแขวนไปแล้วแต่ยังเล่นอยู่แฮะ ทั้งพี่แดง และพี่ปิร์โล่ทำได้ทุกอย่าง
ขอบคุณ โรม
ขอบคุณ คุณพ่อ และ คุณแม่ของผม , น้องชาย , ญาติๆและเพื่อนๆของผมทุกคน
ขอบคุณภรรยาของผมและลูกๆทั้งสามคน
ผมต้องการที่จะเริ่มพูดจากบรรทัดสุดท้าย จากคำว่า " ลาก่อน "
เพราะผมไม่แน่ใจว่าในท้ายที่สุดแล้วผมจะสามารถอ่านบรรทัดนี้ออกมาได้รึเปล่า
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกเรื่องราวทุกสิ่งตลอด 28 ปีในประโยคไม่กี่ประโยค
ผมอยากจะกลั่นมันออกมาเป็นเพลงหรือบทกวีนะ แต่ผมเขียนมันไม่เป็น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมพยายามอย่างเต็มที่ในการแสดงตัวตนและความรู้สึกผ่านทางเท้าทั้งสองข้างของผม , สำหรับผมแล้วเพราะแบบนี้แหละมันเลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายขึ้นมากตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็ก
สมัยผมยังเด็ก , คุณลองเดาดูสิว่า "ของเล่นอะไรที่ผมชอบมากที่สุด?" "แน่นอนว่ามันต้องเป็น ฟุตบอล อยู่แล้ว"
และมันยังคงเป็นแบบนั้นตราบมาจนถึงวันนี้
ในบางช่วงของชีวิต คุณเติบโตขึ้น และนั่นเป็นสิ่งที่มีคนบอกผม "มันถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจแล้ว"
"ช่วงเวลาที่เลวร้าย"
ย้อนกลับไปวันที่ 17 มิถุนายน 2001 , พวกเราทุกคนอยากให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ
แทบจะรอไม่ไหวกว่าจะได้ยินเสียงผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา
ผมยังคงรู้สึกขนลุกเสมอเมื่อนึกย้อนไปถึงตอนนั้น
แต่ในวันนี้ "เวลา" เดินมาแตะไหล่ผมแล้วก็มันก็บอกกับผมว่า
"พวกเราต้องโตขึ้นได้แล้ว ในวันพรุ่งนี้นายก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถอดกางเกงขาสั้นกับรองเท้าสตั๊ดนั่นซะ เพราะ จากวันนี้เป็นต้นไปนายจะไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว หมดเวลาเพลิดเพลินในการสูดดมกลิ่นหญ้าในสนาม แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาบนใบหน้า ตอนที่กำลังพุ่งตรงไปหาประตูฝั่งตรงข้าม , อะดรีนาลีนในตัวสูบฉีด , ความสนุกเวลาเราฉลองที่ได้ชัยชนะ"
หลายเดือนที่ผ่านมา ผมเฝ้าถามตัวเองว่าทำไมผมต้องตื่นจากฝันนี้ด้วย
ลองคิดดูสิ สมัยพวกคุณยังเด็ก แล้วคุณกำลังนอนหลับฝันดี แต่แม่ของคุณมาปลุกแล้วก็บอกว่าให้รีบตื่นไปโรงเรียนได้แล้ว
คุณต้องการจะฝันต่อ คุณพยายามที่จะกลับไปยังฝันดีนั้นอีกครั้ง แต่ไม่เคยมีใครทำแบบนั้นได้หรอก
ตอนนี้ มันไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือ "ความจริง"
และผมคงไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกแล้ว
ผมอยากจะมอบคำพูดเหล่านี้ให้กับทุกๆคน ให้กับเด็กๆทุกคนที่คอยสนับสนุนผมมาตลอด
ให้กับเด็กๆในเมื่อวานนี้ ซึ่งวันนี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เป็นพ่อและแม่ และมอบให้สำหรับเด็กๆในวันนี้ คนที่อาจจะร้องตะโกนคำว่า
"ต๊อตติโกล!"
ผมอยากจะคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าสำหรับพวกคุณแล้ว เรื่องราวของผม อาชีพของผม ภาระหน้าที่ของผม
จะกลายเป็นเทพนิยายที่จะสืบทอดหรือบอกต่อกันไป
เพราะวันนี้ เรื่องราวเหล่านั้น "มันจบแล้วจริงๆ"
ผมถอดเสื้อตัวนี้เป็นครั้งสุดแล้วท้ายแล้วละ
ผมจะพับมันเก็บเอาไว้ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่พร้อมที่จะพูดคำว่า "ผมพอแล้ว" ออกมาก็ตาม
และผมคิดว่ามันคงไม่มีทางมีวันนั้นสำหรับผมหรอก
ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถให้สัมภาษณ์หรือพูดบอกเล่าความรู้สึกทั้งหมดอย่างชัดเจนได้ เพราะมันไม่ง่ายเลย
"ผมกลัว" มันไม่ได้เป็นความรู้สึกกลัวแบบที่คุณกำลังยืนอยู่ต่อหน้าประตูเวลารอสังหารจุดโทษ
ตอนนี้ผมไม่สามารถมองเห็นอนาคตของผมผ่านรูตาข่ายประตูได้อีกแล้ว
ปล่อยให้ผมได้รู้สึกกลัวแบบนี้ต่อไปอีกหน่อยเถอะนะ
เอาละ ตอนนี้ นี่คือคนที่ต้องการคุณตลอดมาและความรักที่พวกคุณแสดงออกมาให้ผมเห็นเสมอนั้นมันมากมายจริงๆ
ด้วยแรงสนับสนุนจากพวกคุณ ผมจึงสามารถก้าวต่อไปได้และสามารถเริ่มการผจญภัยบทใหม่ของผมได้ซักที
ถึงเวลาของผมที่จะต้องกล่าวขอบคุณ เพื่อนรวมทีมที่ผ่านมาทั้งหมด , โค้ชทุกคน , ผู้จัดการทีมทุกท่าน , ประธานาธิบดี และ ทุกๆคนที่เคยทำงานเคียงข้างผมมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้
สำหรับแฟนๆทุกคนและสำหรับแสตนด์ที่นั่งทางทิศใต้ (Curva Sud) , ที่เป็นแสงนำทางให้กับชาวโรมันทั้งหมดและโรมันนิสตี้(น่าจะเป็นชื่อเรียกแฟนๆโรมา)
ได้เกิดที่โรมและได้เป็นโรมันนิสตี้ถือเป็นเรื่องพิเศษสำหรับผม
การได้เป็นกัปตันของทีมๆนี้ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก
คุณจะอยู่ในชีวิต ร่างกาย และความรู้สึกของผม และมันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป
ผมไม่สามารถที่จะมอบความบันเทิงให้แก่คุณด้วยเท้าทั้งสองข้างของผมได้อีกต่อไปแล้ว
แต่หัวใจของผมจะยังคงอยู่ที่นี่เคียงข้างคุณอยู่เสมอและตลอดไป
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ผมจะลงบันไดนั้นเพื่อไปยังห้องแต่งตัวที่เคยต้อนรับผมเมื่อครั้งผมยังเป็นเด็ก
และผมต้องจากมันไปเมื่อผมกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ผมภูมิใจและมีความสุขมากที่ได้ทุ่มเทมอบความรักให้กับทุกคนตลอด 28 ปีนี้
I LOVE YOU
ปล. อาจจะแปลตะกุกตะกักบ้างนะครับ เพราะไม่ค่อยได้อ่านภาษาอังกฤษแล้วพิมพ์ออกมาเป็นภาษาไทยเท่าไหร่นัก แต่ถือว่าทำเพื่อแฟนๆ
อิตาลีทุกคน เพราะผมเองก็เป็นแฟนคลับอิตาลี ต๊อตติกHเป็นนักเตะที่ได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็ก ตอนพิมพ์ไปก็แอบน้ำตาซึมบางช่วง
พญาหมาป่าแห่งโรม ฟรานเชสโก้ ต็อตติ
ว่าแขวนไปแล้วแต่ยังเล่นอยู่แฮะ ทั้งพี่แดง และพี่ปิร์โล่ทำได้ทุกอย่าง
แสดงความคิดเห็น
ตอนที่ "ต็อดติ" พูดกลางสนาม(ตรงเสื้อเบอร์ 10 ตัวใหญ่) กับตอนที่เอาปลอกแขนให้เด็ก แปลว่าอะไรครับ พอดีดูคลิปต่างประเทศ