กระทู้แรกของเรากับการเดินทางไป Working Holiday in Canada ><

Hello!! หนีห่าวว สวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคน เราเพิ่งจะกลับมาจากโครงการ Working holiday ที่แคนาดา เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปสัมผัสมาเผื่อเพื่อนๆคนไหนมีความสนใจอยากไปแบบเรา นี่ก็เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้ามีอะไรแนะนำรบกวนฝากด้วยน้าค่า   อมยิ้ม04อมยิ้ม04

หัวข้อที่เรานึกได้ในตอนนี้ก็จะมีประมาณนี้น้า
1.โครงการ Working Holiday Visa และ Work permit
2. เรียนภาษาในต่างแดน 3 เดือน
3. การทำงานในต่างแดนและการใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่งเราไปอยู่มา 3 เมือง ก็จะแบ่งเป็น 3 part เพื่อความไม่ยาวเนอะ
   3.1 Vancouver (Raincouver, Vancity) ,BC มีฉายาเยอะเบยย
   3.2 Banff , Alberta คือเมืองนี้สวยมากกสวยเหมือนเมืองในฝันเลยอ่ะ (อันนี้จิงๆนะ)
   3.3 Keremeos , BC เงียบ สงบ เหมาะแก่การเก็บตังค์ค่าตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน อิอิ
4. Budget ของการผจญภัยในครั้งนี้
5. เก็บตก. . .

**ฝากกบอกกที่แคนาดาคนจีนและคนเอเชียเยอะมากกก ถ้าเพื่อนๆพูดภาษาจีนและญี่ปุ่นได้นะ หางานสบายเลยย


1.โครงการ Working Holiday Visa หรือเรียกอีกอย่างว่า IEC และ Work permit


เราสมัครผ่าน Agency ซึ่งสมัครเรียนภาษาอย่างต่ำ 3เดือน ก็จะเป็นโครงการ (เรียน 3 เดือน ทำงาน 9 เดือน) รวมทั้งหมด 1ปี คือวีซ่าที่รัฐบาลออกให้ แต่ระหว่างที่เราเรียน เราก็ยังสามารถทำงาน part time ได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ หลังจากเรียนจบเราอยากทำงานแบบไหน ที่เมืองไหนเราสามารถจัดสรรชีวิตตัวเองได้เลย เพราะเราจะได้ open work permit ไม่จำกัดจำนวนนายจ้าง บลาาาาๆๆๆๆๆ ซึ่งหลังจากจบระยะเวลาของโครงการถ้าเพื่อนๆอยากอยู่ต่อ เราก็สามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวต่อได้ ซึ่งรัฐบาลจะเป็นคนกำหนดว่าเราจะได้อยู่ต่อ 1-3 เดือน ทางที่ดีควรสมัครก่อนที่วีซ่าจะหมดประมาณ 30-40วัน ซึ่งถ้าเป็นช่วงที่โรงเรียนต่างๆจะเปิดเทอมอาจมีคนสมัครขอ study visa กันเยอะก็ต้องเผื่อเวลาช่วงนี้ไว้ด้วย เยี่ยมเยี่ยม


2. เรียนภาษาในต่างแดน 3 เดือน

   เราตัดสินใจเลือกเรียนภาษาที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่งใจกลางเมืองแวนคูเวอร์(อาจจะเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคนใช่ป่าว??) 1ในนั้นก็รวมถึงเราด้วย ถือว่าเป็นเมืองธุรกืจที่สวยมาก ที่ๆเราชอบไปคือ Canada Place เพราะอยู่ใกล้กับโรงเรียนเดินมาแปปเดียวก็ถึง และอีกเหตุผลนึงที่เราเลือกVancouver แทนที่จะเป็น Toronto เพราะเรื่องสภาพอากาศ จริงๆแล้วเราเป็นคนขี้หนาวมากก การที่ตัดสินใจมาอยู่แคนาดาคือความที่อยากจะพิสูจน์ข้อจำกัดของตัวเองข้อนึงเลยยว่าจะสามารถทนความหนาวได้หรือไม่ และอีกอย่างคือ Toronto มีภาษีและค่าครองชีพที่แพงกว่านั่นคือเหตุผล ขนาดแวนคูเวอร์ถูกแล้วก็ยังถือว่าแพงงอยู่ดี แหะๆ หัวเราะFacepalm
   Host -> เรื่องโฮสเด็ดมาก!!! ก่อนมาเราขอพรทุกวัดเลยนะ ขอให้เจอโฮสดีแบบที่เพื่อนเราเคยเจอแต่ไม่เลย ตรงกันข้าม มาวันแรกโฮสเราเขียนจดหมายบอกเราว่าเขาจะไปงานวันเกิด ไม่ได้อยุ่บ้านต้อนรับ เราก็โอเครไม่ได้อะไร พอผ่านไป 2-3วัน ต่อมาโฮสบอกว่าเขาจะไป Vacation ที่ ฟิลิปปิน แล้วก็ทิ้งเงินไว้ให้เรา 100$(ประมาณ 2,500บาท) สำหรับ2-3สัปดาห์ For What????? มันใช่อ่อวววว แล้วจะรับเราเข้ามาทำไมมมม ฮ้าาาา วันนึงก็ใช้ 40-50$ แล้ว นี่2อาทิตย์ให้ใช้ 100$ อยู่ไม่ได้อ่ะ พยายามจะกิน Mac ทุกวันก้ยังไม่พอ เลยไปคุยกับโรงเรียนและ Agency ว่าไม่โอหละ มันไม่ไหวจริงๆนะ ซึ่งบ้านหลังนั้นมีนักเรียนอยู่ตั้ง7คนอ่ะ แล้วก็ไม่ใช่เราคนเดียวที่ย้ายออก เพื่อนคนอื่นก็ย้ายออกเหมือนกัน อาทิตย์ต่อมาเลยได้ย้ายบ้านไปอยู่กับคนอิตาลี ดีขึ้นมานิดแต่ขี้งกมาก นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ซื้อมาแต่ขนมปังหมดอายุที่แช่ช่องแข็ง ห้ามอาบน้ำเกิน 15 นาที  แต่ก็ยังดีกว่าบ้านแรก ต้องหาข้าวกินเองทุกวัน จะรับมาทำไมก็ไม่รู้ เราอยู่กับโฮสแค่ 1เดือน พอ จบ!!!! จริงๆแล้วย้ายไปย้ายมานี่เหนื่อยขนของมากเลยยย แต่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตดี ทำให้เข้มแข็งขึ้นเยอะ แต่บางวันก็แบบอยากกลับบ้านมาก ยิ่งตอนที่ไม่สบาย เพราะ Vancouver มีอีกชื่อนึงคือ raincouver ฝนตกตลอดเลยทำให้ไม่สบาย+อากาศที่เย็นกว่าบ้านเราด้วย
   กว่าจะมาเข้าเรื่องเรียน lol ยังมีใครอยากอ่านกันอยู่ไหมเนี่ย 5555 บอกเลยว่าเหมือนเรียนสถาบันภาษาที่ไทยเลย แค่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมมีกฎที่ทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษ แต่ก็มีเด็กที่มากับเพื่อนชาติตัวเองชอบคุยภาษาของตัวเอง เซงมากกก ประเด็นคือห้องเราก็ไม่มีคนไทย เพื่อนก็ชอบคุยภาษาเขา เราเลยต้องไปคุยกับคนที่มาคนเดียวหรือไปคุยกับครูแทน ซึ่งการเรียนการสอนเขาจะไม่ค่อยเน้นวิชาการ เน้นเล่นเกมส์ พูด คิดหัวข้อสนทนาซะเป็นส่วนมาก ซึ่งโรงเรียนที่เราเรียนจะเริ่มประมาณ 8.45 AM -2.15 PM วันจันทร์ถึงพฤหัส ส่วนวันศุกร์จะเลิกประมาณ 12.30 แต่จะมี class พิเศษ เราจะเรียนหรือไม่เรียนก็ได้ ถ้าเรียนก็จะได้รู้จักเพื่อนต่างห้องมากขึ้น  หลังจากนั้นก็จะมีกิจกรรมช่วงตอนเย็นแต่ละวันก็จะไม่เหมือนกัน เราจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้

อันนี้เป็นตัวอย่างตารางกิจกรรมประจำแต่ละเดือน

ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่เราเรียนเสร็จ เลิกเรียน หรือรอเพื่อนนอกจากห้างใน downtownแล้ว ยังมีห้องสมุดที่ใหญ่และสวยมาก ทั้งยังมี class เรียนที่สอนฟรีอีกด้วย ที่ชอบมากๆอีกอย่างนึงของแวนคูเวอร์คือ มีห้องสมุดเยอะมาก ถ้าเปรียบกับบ้านเราเรียกได้ว่ามีแทบทุกหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ซึ่งแต่ละห้องสมุดชุมชนก็ยังมีclass เรียนภาษาและ class อื่นๆสอนเหมือนกัน รัฐบาลเขาให้ความสำคัญกับการศึกษามากจริงๆ และคนในประเทศเขาก็รักการอ่านกันมาก อย่างเช่นบนรถเมล์หรือรถไฟ คนส่วนมากจะอ่านหนังสือ หรือ เล่น sudoku

อันนี้คือห้องสมุดใจกลางเมืองและตัวอย่างบัตรสมาชิกแค่นำ passport กับที่อยู่ปัจจุบันไปก็สามารถสมัครได้เลย ทั้งยังได้ยืม DVD ฟรีอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่