สถานทูตเกาหลีใต้ชี้แจง .... กรณีปฏิเสธคนไทยเข้าเกาหลีใต้

ทางไทยรัฐส่งอีเมล์ ไปถามสถานทูตเกาหลีใต้ ในประเทศไทย
และทางสถานทูตเกาหลีใต้ ในประเทศไทยตอบกลับมาตามนี้นะครับ


โดยคำตอบของทางสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในประเทศไทย เริ่มต้นว่า ในปัจจุบันตัวเลขของคนไทยที่เดินทางเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้
แล้วอยู่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต .... ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดสังเกต

และยังมีรายงานด้วยว่า ครึ่งหนึ่งของคนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ขณะนี้ เป็นพวกที่อยู่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
โดยส่วนใหญ่ของคนไทยกลุ่มนี้ เข้ามาโดยอาศัยช่องทางการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าที่ให้พำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน
ซึ่งจะเข้าไปลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมาย ตามโรงงานอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และร้านนวดแผนโบราณ

ยิ้มสำหรับประเด็นเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวนั้น สถานเอกอัครทูตเกาหลีใต้ ชี้แจงว่า
นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม อาทิ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใบจองโรงแรมที่พัก
และที่สำคัญคือต้องสามารถอธิบายกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ชัดเจน ถึงจุดประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่เคยปฏิเสธการให้วีซ่าเข้าเมือง อันเนื่องมาจากปัญหาด้านเพศสภาพ เช่น กลุ่มหญิงหรือชายข้ามเพศ
นอกจากนี้ ก็ยังไม่มีการเลือกปฏิบัติกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น คนที่ทำงานอิสระ หรือฟรีแลนซ์
โดยหลักเกณฑ์และกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองก็ใช้เหมือนกันกับชาวต่างชาติทุกประเทศ

และไม่มีหลักเกณฑ์พิเศษใดๆที่นำมาใช้กันคนไทยเลย!

ในระหว่างการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนั้น จะมีการเสนอให้ใช้ล่ามภาษาไทย
ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์จะสามารถตอบคำถามได้ โดยไม่ต้องมีอุปสรรคทางด้านภาษา

ยิ้มและหากมีการปฏิเสธไม่ให้ให้เข้าประเทศ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะออกเอกสารการปฏิเสธการเข้าเมืองให้แก่ผู้ถูกสัมภาษณ์
โดยระบุถึงเหตุผลที่ปฏิเสธเป็นภาษาไทย

โดยจะต้องให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ลงนามรับทราบทุกครั้ง พร้อมทั้งระบุด้วยว่า หากผู้ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองไม่เห็นด้วย
ก็สามารถอุทธรณ์กับหน่วยตรวจคนเข้าเมืองได้
โดยกรอกแบบฟอร์มที่มีให้

ยิ้มสำหรับขั้นตอนหลังจากที่มีการปฏิเสธการให้เข้าเมืองแล้ว ระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับ ผู้ถูกปฏิเสธจะถูกขอให้ไปรออยู่ในห้องพัก
ที่บริหารจัดการโดยสายการบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในห้องดังกล่าวล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบิน
ทั้งนี้เพราะสายการบินจะต้องรับผิดชอบดูแลพาผู้ถูกปฏิเสธเข้าเมืองกลับประเทศต้นทาง
อย่างไรก็ตาม หากผู้ถูกปฏิเสธเข้าเมืองไม่ต้องการที่จะอยู่ในห้องดังกล่าว ก็สามารถขออนุญาตออกไปอยู่นอกห้องได้

.....ซึ่งแม้ว่า ในห้องดังกล่าวจะมีการเสริฟอาหารให้ แต่ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่สายการบิน เพื่อขอออกไปซื้ออาหารรับประทานเองได้โดยอิสระ

พร้อมย้ำอย่างชัดเจนในตอนท้ายอีกครั้งด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้
ไม่ได้รังเกียจหรือกีดกันชาวไทยเป็นพิเศษอย่างที่เข้าใจผิดกัน!



เครดิตไทยรัฐออนไลน์   http://www.thairath.co.th/content/952587

เรื่องราวมักมีหลายแง่มุม และนี่เป็นแง่มุมจากทางฝั่งเกาหลีใต้นะจ๊ะ
เห็นน่าสนใจดี .... เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง

คิดเห็นอย่างไร เชิญออกความคิดเห็นโลด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่