เรื่องอาจจะยาวหน่อยนะครับ จะแบ่งเป็นอดีตถึงปัจจุบัน
เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ผมเรียนมหาลัย ได้ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกชอบเพราะเห็นเค้าเป็นคนเฮฮาสนุกสนาน แรกๆก็คุยเป็นเพื่อนปกติ ผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรแต่เมื่อเวลานานไป เข้าช่วงปี3 ทั้งเค้าและผมได้คุยกันเหมือนว่าเค้าก็จะมีใจ ผมก็ได้ถามว่ายังโสดมั้ยเค้าบอกว่าเค้าโสด ผมไปถามเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่เป็นเพื่อนสนิทเค้า เพื่อนก็บอกว่าเพื่อนก็ไม่เคยเห็นแฟนของผู้หญิงคนนี้ ผมจึงตัดสินใจลองคบกันเค้าก็ตกลง แล้วช่วงคบกันเค้าเป็นคนนิสัยแบบว่า ไม่ยอมแพ้อะไรเลย ถึงเค้าจะเป็นฝ่ายผิดเค้าก็ไม่ยอมผิด ต้องชนะทุกอย่าง แล้วซึ่งตัวผมเองเป็นคนที่แบบถ้ารักใครแล้วก็จะยอมไปซะทุกเรื่อง อาจจะเป็นข้อเสียของผมเลยก็ได้ ผมก็ยอมมาตลอด แรกๆเค้าก็จะปล่อยๆไม่สนใจอะไรมาก แต่พอคบกันไปนานเค้าเริ่มที่จะบังคับผมมากขึ้น ทั้งขอดูเฟส ดูไลน์ บางทีคุยกับเพื่อนเค้าก็หงุดหงิดใส่ผมซะดื้อๆ ผมก็อธิบายทุกอย่างใครเป็นใคร แรกๆก็ทนได้นะ เพราะเราเองก็ไม่ได้มีใคร มีแค่เค้าคนเดียวเราก็บริสุทธิ์ใจ เลยให้ดูเพื่อให้เค้ามั่นใจ สบายใจ แต่เริ่มจะมากขึ้น เริ่มบังคับไม่ให้ไปไหน ออกไปก็ห้ามกลับดึก ซึ่งบางทีเพื่อนมาชวน ผมก็ต้องปฏิเสธเพื่อไม่อยากทะเลาะกัน แต่เวลาเค้าไปเที่ยวกับผู้ชาย ผมไม่สามารถห้ามอะไรได้เลย พอถามก็บอกว่าแค่เพื่อน แต่พอผมขอไปด้วยไม่ยอมให้ไป ถ้าผมห้ามหรือขัดใจหน่อยเค้าก็วีนใส่ทันที แล้วก็จับได้หลายครั้งว่าคุยกับคนอื่นแต่ก็แกล้งโง่มาตลอด จนเรื่องพีคมันอยู่ที่ว่า ปลายปี4กำลังจะจบ มีพี่ที่เรียนด้วยกันไปเห็นเค้าเดินกับผู้ชายในห้าง พี่ก็แอบถ่ายรูปมาให้ดู แล้วผมก็ถามเค้าว่า ไปเที่ยวไหนมาบ้าง เค้าบอกว่าไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านตลอด ผมก็รู้แล้วว่าโกหก แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อว่าเค้าจะมีใครจริงๆ คงเป็นเพราะความรักทำให้เราตาบอดจริงๆ ไม่ฟังอะไรเลย รักไม่ลืมหูลืมตา เพราะทุกครั้งที่ไปที่บ้านเค้าก็จะเห็นเค้าอยู่กับแม่กับยาย ที่ไปที่บ้านนี่ไม่ได้ไปคนเดียวนะครับ ไปทำรายงานกันเป็นกลุ่ม เค้าก็ไม่ได้แนะนำกับแม่ว่าผมเป็นแฟนหรืออะไร จนมีวันหนึ่งผมไปที่บ้านเค้าแล้วเห็นมีผู้ชายอยู่ด้วยซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมจึงแอบถ่ายรูปผู้ชายไว้แล้วเลี้ยวรถกลับทันที แล้วโทรกลับไปเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ แต่เค้าเป็นฝ่ายโทรกลับมาเอง พอโทรกลับมาผมก็ถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ เค้าบอกว่าไม่ว่าง แล้วผมก็ถามอยู่กับใครเห็นมีผู้ชาย เค้าก็ตกใจ ว่าผมรู้ได้ไง ผมบอกว่าผมเข้าไปที่บ้านมาแล้วเห็น เค้าบอกว่าพี่ชายเพิ่งกลับมาจากออกเรือ ผมจึงเอารูปไปให้พี่ที่เห็นดูว่าใช่คนเดียวกันมั้ย พี่เค้าบอกว่าคนเดียวกัน ทีนี้เรื่องเริ่มสนุกละครับ เค้ามีอะไรปิดบังแน่ๆ เพื่อนๆต่างช่วยกันสืบ แล้วได้ไปเจอ เฟสบุ๊คจริงๆ เค้าขึ้นว่าแต่งงานแล้ว เพื่อนทุกคนนี่อึ้งไปเลย เพราะเฟสบุ๊คปกติที่เพื่อนๆมี เค้าเหมือนคนโสดจริงๆ ผมกลายเป็นชู้โดยไม่รู้ตัวทันที เค้าหลอกผมมาตลอด จนจบปี4 ไปงานรับปริญญา ทุกคนจึงได้เห็นแฟนตัวจริงเค้า ผมนี่ทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว แล้วบันดากิ๊กทั้งหลายก็มารวมตัวกันในงานนั้น มาถ่ายรูปด้วยกัน ไม่เคยคิดว่ามันจะแรดขนาดนี้ (ขออภัยใช้คำไม่สุภาพ) ผมย้อนกลับไปคิด ตอนที่เค้าตัดสินใจคบกับผม เค้าอาจจะแค่เหงาก็ได้ เพราะว่า แฟนเค้าไม่ค่อยว่าง ออกเรือ เดือนนึงกลับบ้านไม่กี่ครั้ง จนทำให้เจอคนทำดีด้วยก็หวั่นไหว ผมเหมือนแค่คนแก้เหงา ทุกคนรู้เรื่องพยายามบอกให้ผมเลิก แต่ผมก็ยังดื้อไม่ฟังใคร โง่จริงๆผมเนี่ย เค้าทำกับเราขนาดนี้ยังทนอยู่ได้ หลังผมเริ่มเปลี่ยนไป จะเข้าเรื่องปัจจุบันละนะครับ คือ
ที่ผมเปลี่ยนไปคือ ผมเจอผู้หญิงคนนึงในเกมซึ่งเมื่อผมได้เจอน้องเค้า ขอเรียกน้องละกัน ได้คุยกันมาเรื่อยๆ ผูกพันกันมากขึ้น ทำให้ผมหวั่นไหว ในบางเรื่องผมไม่เคยเป็นกับคนเก่าเลย แต่เพิ่งมาเป็นกับคนนี้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนไป ซึ่งผมกับน้องตอนนี้เรายังไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย เราอยู่ห่างกัน500กว่ากิโลได้ แต่ก็คุยกันตลอด เห็นหน้ากันบ้าง แต่ในช่วงที่ผมคุยกับน้องเค้าแรกๆ คนเก่าก็ยังไม่ยอมเลิกนะครับ เค้ารู้ว่าผมเปลี่ยนไปต้องมีใครแน่ๆ เหมือนเค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผมกลับไปอยู่กับเค้า แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกแน่ๆ แล้วช่วงที่พลาดไปก็คือ คนเก่ามาหาผมที่บ้านแล้วผมพลาดตรงที่ว่า ไปมีอะไรกันโดยที่ผมไม่ได้ป้องกัน คือตอนนั้นในหัวของผมที่ทำไปคิดแค่ว่า ทำให้จบๆจะได้เลิกยุ่งกันสักที เพราะเค้าจะมีอะไรกับผมให้ได้เค้าถึงจะยอมกลับไป เค้าคงคิดว่าทำอย่างนี้แล้วผมจะกลับไปอยู่กับเค้า แต่ไม่เลยไม่ได้คิดจะกลับไปทนอยู่ในสภาพแบบเดิมอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องขึ้นมา อันนี้ผมผิดเองจริงๆที่มักง่ายไม่ได้ป้องกัน แล้วผมก็คุยกับน้องมาเรื่อยๆจนได้ตัดสินใจคบกัน แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นผ่านไป2เดือน เค้ามาบอกว่าเค้าท้องกับผม ซึ่งในตอนนั้นผมเองยังไม่เชื่อว่าเค้าจะท้องกับผมจริงๆ เพราะช่วงที่หายไป เค้าก็ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวแน่นอน แต่อาจจะเป็นการเอาชนะผมมากกว่าเลยใช้เรื่องนี้ท้องมาอ้างให้ผมรับผิดชอบ ผมปรึกษาพี่ๆทุกคน จนสุดท้ายไม่ไหวแล้วจริงๆ เลยตัดสินใจให้มานั่งคุยที่บ้านกับพ่อผมด้วยเลย ก็เล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง พ่อถามมันว่ามั่นใจใช่มั้ยว่าเป็นลูกผม มันบอกมั่นใจเสียงสั่นๆ พ่อบอกว่าถ้ามั่นใจก็ให้ไปตรวจ มันก็เงียบไม่พูดอะไร แต่ตอนนั้นทุกคนคิดแล้วว่าไม่ได้ท้องจริงๆหรอก มันคงจะทนไม่ได้ที่รู้สึกแพ้ เพราะเมื่อก่อนผมยอมมันมาตลอด แต่บางเรื่องที่ยอมไม่ใช่ยอมเพราะรักหรอกนะ ผมยอมเพราะรำคาญเลยยอมทำให้มันจบๆไป หลังจากคืนนั้นคุยกันเรียบร้อยก็คิดว่ามันจะจบ เพราะอาทิตต่อมา มันไปบวชชี ผมก็คิดว่าจะเลิกยุ่งกับผมแล้ว มันคงจะคิดได้ แต่ไม่เลย มันคิดอะไรไม่ได้เลย มันยังมาวนเวียนก่อกวนคนที่ยุ่งกับผมไปวุ่นวายกับน้องเค้า ทำให้น้องเค้าคิดมากเรื่องที่ ถ้ามันไม่ยอมจบแล้วลูกคนนั้นเป็นของผมจริงๆจะทำยังไง น้องก็บอกว่าถ้าเป็นลูกของผมจริงๆเรื่องของผมกับน้องก็ต้องจบกันแค่นี้ อันนี้ผมเข้าใจนะว่าผู้หญิงก็ต้องอยากเจอผู้ชายที่ดีพร้อม ผมพยายามพูดให้น้องเข้าใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้เรื่องของผมกับน้องเป็นไปได้ แต่น้องก็ยังไม่มั่นใจ ในส่วนนึงเราอยู่ไกลกันแล้วยังไม่ได้เจอตัวจริงกันด้วยก็อาจจะมีระแวงได้ แต่ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้ยุ่งกับใครเลยจริงๆ แล้วก็สัญญาไว้แล้ว ก.ค. นี้จะไปหาแน่นอน แล้วก็ไม่นานมานี้ เพื่อนมันมาบอกว่ามันแท้งลูกแล้ว ลูกที่มันคิดว่าเป็นลูกของผม ซึ่งพอไปเล่าให้พี่และเพื่อนคนอื่นฟัง ทุกคนคิดอย่างเดียวกันหมดว่า มันแค่สร้างเรื่องขึ้นเพื่อที่จะเอาชนะผมเท่านั้น ผมก็เอาไปบอกให้น้องเค้าฟังเพื่อที่จะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะกลับแล้วบอกว่านี่ลูกผมอีก แล้วผมก็บล็อคทุกอย่าง ตัดขาดจากมันไปหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่คุยกับน้อง ถ้าคุยๆกันดีๆอยู่ แล้วไปวกเข้าเรื่องเก่าๆ น้องจะหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วก็จะคิดมากกลัวว่าเรื่องของเราจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งนี่คือปัญหาที่อยากจะขอความเห็นจากทุกคนที่เข้ามาอ่านเลยครับ ว่าผมจะทำยังไงดีที่จะช่วยให้น้องเค้าหลุดพ้นจากเรื่องเดิมๆ ไม่ให้กลับไปคิดถึงมัน เพราะตอนนี้ ถ้าคุยถึงเรื่องนี้น้องเค้าจะหงุดหงิดมาก ทำให้ผมไม่สบายใจไปด้วย บางทีพอเค้าหงุดหงิด คืนนั้นทั้งคืนผมจะนอนไม่หลับเลย คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้น้องเค้าเชื่อใจในตัวผม บางทีคิดแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ซึ่งผมเป็นคนที่ร้องยากมาก ขนาดคนเก่ามันทำกับผมแบบนั้น ผมเสียใจนะ แต่น้ำตาผมยังไม่เคยไหลเลยจริงๆ ปัญหาตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ผม แต่อยู่ที่ตัวน้องเค้าว่าเมื่อไรเค้าจะลืมเรื่องนี้ได้ ใครมีความคิดเห็นยังไงช่วยได้บ้างครับ
ผู้ชายเคยผิดพลาด แต่คิดจะเริ่มต้นใหม่จริงๆจะทำยังไงให้ฝ่ายหญิงเชื่อดีครับ
เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ผมเรียนมหาลัย ได้ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกชอบเพราะเห็นเค้าเป็นคนเฮฮาสนุกสนาน แรกๆก็คุยเป็นเพื่อนปกติ ผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรแต่เมื่อเวลานานไป เข้าช่วงปี3 ทั้งเค้าและผมได้คุยกันเหมือนว่าเค้าก็จะมีใจ ผมก็ได้ถามว่ายังโสดมั้ยเค้าบอกว่าเค้าโสด ผมไปถามเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่เป็นเพื่อนสนิทเค้า เพื่อนก็บอกว่าเพื่อนก็ไม่เคยเห็นแฟนของผู้หญิงคนนี้ ผมจึงตัดสินใจลองคบกันเค้าก็ตกลง แล้วช่วงคบกันเค้าเป็นคนนิสัยแบบว่า ไม่ยอมแพ้อะไรเลย ถึงเค้าจะเป็นฝ่ายผิดเค้าก็ไม่ยอมผิด ต้องชนะทุกอย่าง แล้วซึ่งตัวผมเองเป็นคนที่แบบถ้ารักใครแล้วก็จะยอมไปซะทุกเรื่อง อาจจะเป็นข้อเสียของผมเลยก็ได้ ผมก็ยอมมาตลอด แรกๆเค้าก็จะปล่อยๆไม่สนใจอะไรมาก แต่พอคบกันไปนานเค้าเริ่มที่จะบังคับผมมากขึ้น ทั้งขอดูเฟส ดูไลน์ บางทีคุยกับเพื่อนเค้าก็หงุดหงิดใส่ผมซะดื้อๆ ผมก็อธิบายทุกอย่างใครเป็นใคร แรกๆก็ทนได้นะ เพราะเราเองก็ไม่ได้มีใคร มีแค่เค้าคนเดียวเราก็บริสุทธิ์ใจ เลยให้ดูเพื่อให้เค้ามั่นใจ สบายใจ แต่เริ่มจะมากขึ้น เริ่มบังคับไม่ให้ไปไหน ออกไปก็ห้ามกลับดึก ซึ่งบางทีเพื่อนมาชวน ผมก็ต้องปฏิเสธเพื่อไม่อยากทะเลาะกัน แต่เวลาเค้าไปเที่ยวกับผู้ชาย ผมไม่สามารถห้ามอะไรได้เลย พอถามก็บอกว่าแค่เพื่อน แต่พอผมขอไปด้วยไม่ยอมให้ไป ถ้าผมห้ามหรือขัดใจหน่อยเค้าก็วีนใส่ทันที แล้วก็จับได้หลายครั้งว่าคุยกับคนอื่นแต่ก็แกล้งโง่มาตลอด จนเรื่องพีคมันอยู่ที่ว่า ปลายปี4กำลังจะจบ มีพี่ที่เรียนด้วยกันไปเห็นเค้าเดินกับผู้ชายในห้าง พี่ก็แอบถ่ายรูปมาให้ดู แล้วผมก็ถามเค้าว่า ไปเที่ยวไหนมาบ้าง เค้าบอกว่าไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านตลอด ผมก็รู้แล้วว่าโกหก แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อว่าเค้าจะมีใครจริงๆ คงเป็นเพราะความรักทำให้เราตาบอดจริงๆ ไม่ฟังอะไรเลย รักไม่ลืมหูลืมตา เพราะทุกครั้งที่ไปที่บ้านเค้าก็จะเห็นเค้าอยู่กับแม่กับยาย ที่ไปที่บ้านนี่ไม่ได้ไปคนเดียวนะครับ ไปทำรายงานกันเป็นกลุ่ม เค้าก็ไม่ได้แนะนำกับแม่ว่าผมเป็นแฟนหรืออะไร จนมีวันหนึ่งผมไปที่บ้านเค้าแล้วเห็นมีผู้ชายอยู่ด้วยซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมจึงแอบถ่ายรูปผู้ชายไว้แล้วเลี้ยวรถกลับทันที แล้วโทรกลับไปเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ แต่เค้าเป็นฝ่ายโทรกลับมาเอง พอโทรกลับมาผมก็ถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ เค้าบอกว่าไม่ว่าง แล้วผมก็ถามอยู่กับใครเห็นมีผู้ชาย เค้าก็ตกใจ ว่าผมรู้ได้ไง ผมบอกว่าผมเข้าไปที่บ้านมาแล้วเห็น เค้าบอกว่าพี่ชายเพิ่งกลับมาจากออกเรือ ผมจึงเอารูปไปให้พี่ที่เห็นดูว่าใช่คนเดียวกันมั้ย พี่เค้าบอกว่าคนเดียวกัน ทีนี้เรื่องเริ่มสนุกละครับ เค้ามีอะไรปิดบังแน่ๆ เพื่อนๆต่างช่วยกันสืบ แล้วได้ไปเจอ เฟสบุ๊คจริงๆ เค้าขึ้นว่าแต่งงานแล้ว เพื่อนทุกคนนี่อึ้งไปเลย เพราะเฟสบุ๊คปกติที่เพื่อนๆมี เค้าเหมือนคนโสดจริงๆ ผมกลายเป็นชู้โดยไม่รู้ตัวทันที เค้าหลอกผมมาตลอด จนจบปี4 ไปงานรับปริญญา ทุกคนจึงได้เห็นแฟนตัวจริงเค้า ผมนี่ทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว แล้วบันดากิ๊กทั้งหลายก็มารวมตัวกันในงานนั้น มาถ่ายรูปด้วยกัน ไม่เคยคิดว่ามันจะแรดขนาดนี้ (ขออภัยใช้คำไม่สุภาพ) ผมย้อนกลับไปคิด ตอนที่เค้าตัดสินใจคบกับผม เค้าอาจจะแค่เหงาก็ได้ เพราะว่า แฟนเค้าไม่ค่อยว่าง ออกเรือ เดือนนึงกลับบ้านไม่กี่ครั้ง จนทำให้เจอคนทำดีด้วยก็หวั่นไหว ผมเหมือนแค่คนแก้เหงา ทุกคนรู้เรื่องพยายามบอกให้ผมเลิก แต่ผมก็ยังดื้อไม่ฟังใคร โง่จริงๆผมเนี่ย เค้าทำกับเราขนาดนี้ยังทนอยู่ได้ หลังผมเริ่มเปลี่ยนไป จะเข้าเรื่องปัจจุบันละนะครับ คือ
ที่ผมเปลี่ยนไปคือ ผมเจอผู้หญิงคนนึงในเกมซึ่งเมื่อผมได้เจอน้องเค้า ขอเรียกน้องละกัน ได้คุยกันมาเรื่อยๆ ผูกพันกันมากขึ้น ทำให้ผมหวั่นไหว ในบางเรื่องผมไม่เคยเป็นกับคนเก่าเลย แต่เพิ่งมาเป็นกับคนนี้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนไป ซึ่งผมกับน้องตอนนี้เรายังไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย เราอยู่ห่างกัน500กว่ากิโลได้ แต่ก็คุยกันตลอด เห็นหน้ากันบ้าง แต่ในช่วงที่ผมคุยกับน้องเค้าแรกๆ คนเก่าก็ยังไม่ยอมเลิกนะครับ เค้ารู้ว่าผมเปลี่ยนไปต้องมีใครแน่ๆ เหมือนเค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผมกลับไปอยู่กับเค้า แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกแน่ๆ แล้วช่วงที่พลาดไปก็คือ คนเก่ามาหาผมที่บ้านแล้วผมพลาดตรงที่ว่า ไปมีอะไรกันโดยที่ผมไม่ได้ป้องกัน คือตอนนั้นในหัวของผมที่ทำไปคิดแค่ว่า ทำให้จบๆจะได้เลิกยุ่งกันสักที เพราะเค้าจะมีอะไรกับผมให้ได้เค้าถึงจะยอมกลับไป เค้าคงคิดว่าทำอย่างนี้แล้วผมจะกลับไปอยู่กับเค้า แต่ไม่เลยไม่ได้คิดจะกลับไปทนอยู่ในสภาพแบบเดิมอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องขึ้นมา อันนี้ผมผิดเองจริงๆที่มักง่ายไม่ได้ป้องกัน แล้วผมก็คุยกับน้องมาเรื่อยๆจนได้ตัดสินใจคบกัน แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นผ่านไป2เดือน เค้ามาบอกว่าเค้าท้องกับผม ซึ่งในตอนนั้นผมเองยังไม่เชื่อว่าเค้าจะท้องกับผมจริงๆ เพราะช่วงที่หายไป เค้าก็ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวแน่นอน แต่อาจจะเป็นการเอาชนะผมมากกว่าเลยใช้เรื่องนี้ท้องมาอ้างให้ผมรับผิดชอบ ผมปรึกษาพี่ๆทุกคน จนสุดท้ายไม่ไหวแล้วจริงๆ เลยตัดสินใจให้มานั่งคุยที่บ้านกับพ่อผมด้วยเลย ก็เล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง พ่อถามมันว่ามั่นใจใช่มั้ยว่าเป็นลูกผม มันบอกมั่นใจเสียงสั่นๆ พ่อบอกว่าถ้ามั่นใจก็ให้ไปตรวจ มันก็เงียบไม่พูดอะไร แต่ตอนนั้นทุกคนคิดแล้วว่าไม่ได้ท้องจริงๆหรอก มันคงจะทนไม่ได้ที่รู้สึกแพ้ เพราะเมื่อก่อนผมยอมมันมาตลอด แต่บางเรื่องที่ยอมไม่ใช่ยอมเพราะรักหรอกนะ ผมยอมเพราะรำคาญเลยยอมทำให้มันจบๆไป หลังจากคืนนั้นคุยกันเรียบร้อยก็คิดว่ามันจะจบ เพราะอาทิตต่อมา มันไปบวชชี ผมก็คิดว่าจะเลิกยุ่งกับผมแล้ว มันคงจะคิดได้ แต่ไม่เลย มันคิดอะไรไม่ได้เลย มันยังมาวนเวียนก่อกวนคนที่ยุ่งกับผมไปวุ่นวายกับน้องเค้า ทำให้น้องเค้าคิดมากเรื่องที่ ถ้ามันไม่ยอมจบแล้วลูกคนนั้นเป็นของผมจริงๆจะทำยังไง น้องก็บอกว่าถ้าเป็นลูกของผมจริงๆเรื่องของผมกับน้องก็ต้องจบกันแค่นี้ อันนี้ผมเข้าใจนะว่าผู้หญิงก็ต้องอยากเจอผู้ชายที่ดีพร้อม ผมพยายามพูดให้น้องเข้าใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้เรื่องของผมกับน้องเป็นไปได้ แต่น้องก็ยังไม่มั่นใจ ในส่วนนึงเราอยู่ไกลกันแล้วยังไม่ได้เจอตัวจริงกันด้วยก็อาจจะมีระแวงได้ แต่ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้ยุ่งกับใครเลยจริงๆ แล้วก็สัญญาไว้แล้ว ก.ค. นี้จะไปหาแน่นอน แล้วก็ไม่นานมานี้ เพื่อนมันมาบอกว่ามันแท้งลูกแล้ว ลูกที่มันคิดว่าเป็นลูกของผม ซึ่งพอไปเล่าให้พี่และเพื่อนคนอื่นฟัง ทุกคนคิดอย่างเดียวกันหมดว่า มันแค่สร้างเรื่องขึ้นเพื่อที่จะเอาชนะผมเท่านั้น ผมก็เอาไปบอกให้น้องเค้าฟังเพื่อที่จะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะกลับแล้วบอกว่านี่ลูกผมอีก แล้วผมก็บล็อคทุกอย่าง ตัดขาดจากมันไปหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่คุยกับน้อง ถ้าคุยๆกันดีๆอยู่ แล้วไปวกเข้าเรื่องเก่าๆ น้องจะหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วก็จะคิดมากกลัวว่าเรื่องของเราจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งนี่คือปัญหาที่อยากจะขอความเห็นจากทุกคนที่เข้ามาอ่านเลยครับ ว่าผมจะทำยังไงดีที่จะช่วยให้น้องเค้าหลุดพ้นจากเรื่องเดิมๆ ไม่ให้กลับไปคิดถึงมัน เพราะตอนนี้ ถ้าคุยถึงเรื่องนี้น้องเค้าจะหงุดหงิดมาก ทำให้ผมไม่สบายใจไปด้วย บางทีพอเค้าหงุดหงิด คืนนั้นทั้งคืนผมจะนอนไม่หลับเลย คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้น้องเค้าเชื่อใจในตัวผม บางทีคิดแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ซึ่งผมเป็นคนที่ร้องยากมาก ขนาดคนเก่ามันทำกับผมแบบนั้น ผมเสียใจนะ แต่น้ำตาผมยังไม่เคยไหลเลยจริงๆ ปัญหาตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ผม แต่อยู่ที่ตัวน้องเค้าว่าเมื่อไรเค้าจะลืมเรื่องนี้ได้ ใครมีความคิดเห็นยังไงช่วยได้บ้างครับ