[CR] รีวิว เที่ยวญี่ปุ่นกับแฟน 2017

SATURDAY SISTERS

สวัสดีค่า นี่เป็นทริปแรกของเราสองคนที่ไปต่างประเทศด้วยกัน
วางแผนกันเอง เที่ยวเอง งงกันเอง สนุกกันเอง
ทริปนี้เรามีเที่ยวทั้งในตัวเมืองและออกไปชมธรรมชาติ
แล้วยังไม่พลาด สวนสนุก ดิสนีย์ ซี
อยากเอามาแชร์สำหรับใครที่กำลังวางแผนหรืออยากลองไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟนกันค่า

ปล.รีวิวนี้ไม่ใช่แบบประหยัด แต่ก็ไม่ได้จ่ายไม่อั้น
ทริปนี้แบบเน้นสะดวกสบายทั้งกายและใจเป็นหลัก : )

YouTube: https://youtu.be/8GWAe2odU8I


ทริปนี้เราวางแผนเที่ยวกัน5วัน4คืน โดยทริปจะเป็นแบบตารางด้านล่างค่ะ
ใครสนใจจะเอาไปปรับใช้ให้เข้ากับทริปตัวเองก็ได้นะคะ
ช่วงเวลาที่เราเดินทางคือกลางเดือน พฤษภาคม2017 นะคะ
เป็นช่วงที่อากาศไม่หนาวมาก มีฝนเล็กน้อย แต่งกายเหมือนอยู่กรุงเทพฯได้ค่ะ
อาจจะมีเสื้อกันหนาวหรือผ้าพันคอเอาไว้ เวลาช่วงเย็นๆกลางคืน
อุณหภูมิที่เราเจอต่ำสุดกันที่10องศา ที่ฟูจิ ส่วนในเมืองประมาณ14-17องศาค่ะ

วันที่1:
-ช่วงเย็นลงเครื่องที่สนามบินNarita เวลา19.00
นั่งรถไฟKeisei Skyliner ไปลง Ueno
จองที่พักที่Uenoไว้ให้ใกล้ๆสถานี ขึ้นมาจะได้เดินไปที่พักง่ายๆ และพักคืนที่1ที่Ueno

วันที่2:
-ช่วงเช้าออกจากUeno ไปสถานีShinjuku เพื่อเดินทางไปKawaguchiko(Fuji) ไปโดยรถบัส โดยจองตั๋วไว้ที่ไทยแล้วก่อนไป
-ช่วงบ่ายถึงKawaguchiko เดินเล่นพักผ่อน
-ค้างคืนที่2

วันที่3:
-ช่วงเช้าออกจากที่พักไม่เกินเที่ยง เพื่อกลับเข้าShinjuku เดินทางด้วยรถบัส
-ช่วงบ่ายถึงShinjuku เข้าเก็บของที่ห้องพัก
-ช่วงเย็น เดินเล่น shopping ใช้ชีวิตชิคๆในเมือง
-ค้างคืนที่3ที่Shinjuku

วันที่4:
-ช่วงเช้าออกเดินทางไปTokyo Disney Sea เดินทางโดยรถบัส
-ใช้เวลาทั้งวันที่สวนสนุก
-กลับที่พักและค้างคืนที่4ที่Shinjuku

วันที่5:
-ช่วงเช้าเก็บของcheck outจากที่พักไม่เกิน10โมง
-เดินเล่นแถวShibuya ก่อนกลับไปอยู่แถวUenoเพื่อรอขึ้นKeisei Skyliner ไปสนามบิน
-ช่วงเย็นเตรียมตัวไปสนามบิน
-เครื่องออก20.15 บินกลับถึงไทยเวลา 01.00



ครั้งนี้เราเดินทางกันด้วยสายการบินAirAsiaค่ะ เป็นแบบบินตรง 6ชม.
จองล่วงหน้าก่อนค่อนข้างนาน ไม่ใช่เพราะจะได้ตั๋วถูกแบบสุดๆนะ เพราะว่างช่วงนี้555
ราคาตั๋วได้มาคนละ13,000นิดๆ
ราคารวมโหลดกระเป๋าได้คนละ20โล+เลือกที่นั่งเองได้+อาหารร้อนบนเครื่องคนละ1มื้อ

เราออกเดินทาง11โมงที่ไทย(สนามบินดอนเมือง)
ไปถึงโน่นก็1ทุ่มของเขาพอดี นั่งหลับยาวๆมา
อาหารบนเครื่องก็พอทานได้ค่ะ ข้าวไก่เทอริยากิร้อนๆ กับน้ำเปล่าขวดกลาง1ขวด

ส่วนเรื่องinternet เวลาเดินทางเราซื้อซิมที่ไทยมาค่ะ
ก่อนเครื่องลงก็ใส่ซิม ลงเครื่องแล้วก็เปิดใช้ได้เลยทันที
เล่นเนตได้เรื่อยๆ อัพรูปได้ไม่มีปัญหา เรามานี่ใช้google mapsสะเยอะ555
อันน้องชายของแฟนซื้อมาให้ใช้ ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆ แนะนำเพราะสะดวกดีค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เราใช้วิธีต่อเข้าเมืองโดยซื้อบัตรโดยสาร Keisei Skyliner
วิธีเราดูจากเวปนี้เลยค่ะ http://www.his-bkk.com/th/article/skyliner_guide.php

แต่ไม่ได้ซื้อจากที่เวปนี้นะ เราไปซื้อที่หน้าเคาท์เตอร์ตรงนั้นเลย
ซื้อแบบตั๋วไป-กลับ Ueno-Narira airport ไว้เลยค่ะ คนละประมาณ¥4,700 (ประมาณ1,400บาท)
เข้าคิวแปปเดียวก็ได้แล้วค่ะ

แต่เราพลาดไม่ได้นั่งขาไปกัน
เนื่องจากความงง5555 เลยขึ้นรถแบบธรรมดา Keisei access เข้าเมืองไปแทน
(เพราะมันใช้ชานชาลาเดียวกัน และรถแบบธรรมดาวิ่งเข้ามาก่อน
เห็นคนขึ้นหมด เราก็ขึ้นกันตาม ตอนคิดได้ไว้ว่ามันไม่ใช่นี่หว่าประตูก็ปิดแล้ว เป็นเช่นนี้นี่เอง)
แนะนำดูกันดีๆนะคะ แต่ทุกคนอาจจะไม่พลาดหรอก เราโง่เอง5555

*Keisei accessมันก็จะเป็นเหมือนรถไฟญี่ปุ่นธรรมดาเลย
และช้ากว่าSkyliner ไปประมาณ30นาที จาก40นาทีเลยกลายเป็น70นาที ถึงจะถึงUeno ค่ะ


ตรงยาวๆจากนาริตะ มาลงที่สถานี Ueno


ที่พักคืนแรกของเราคือ Sutton place hotel Ueno จองผ่านAgodaมา ราคาคืนละ3พันนิดๆ
เดินไปได้จากสถานี ไม่ไกลมาก
มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อเปิดดึกๆอยู่ระหว่างทางจากสถานีไปที่พัก สะดวกมากเลยค่ะ
พอไปถึงเราสองคนก็เข้าไปที่พักเพื่อเก็บกระเป๋าและเดินออกมาหาอะไรกินต่อ


ห้องพักเราเป็นแบบนี้เลยค่ะ ไม่ได้ถ่ายห้องพักไว้เนื่องจาก ลืม...
เลยยืมรูปจากเวปนี้มาค่า https://www.tsunagujapan.com/comfortable-yet-budget.../


เช้าขึ้นมาเราก็รีบไปสถานีShinjuku เนื่องจากเราจะไปฟูจิกันนน
จองตั๋วรถบัสไปฟูจิเอาไว้จากเมืองไทยเลือกเวลาออกเดินทาง10.15
เลยวางแผนต้องออกจากโรงแรมประมาณ8 เผื่อหาร้านกินข้าวเช้า
และเดินทางใช้รถไฟสายYamanoteสีเขียว ตรงยาวจากUenoไปShinjukuประมาณ30นาที

มากันเอง2คน บางสถานีไม่มีบันไดเลื่อน ก็ใช้แรงงานคุณผู้ชายกันไปนะคะ
เห็นใจแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงจริงๆ ยิ้มอ่อนๆ บอก ฝากด้วยนะตะเอง ได้อย่างเดียว อิอิ


ระหว่างทางก่อนจะขึ้นไปขึ้นรถ เจอร้านขนมปังอร่อยๆมาแนะนำกันค่ะ
ร้าน Gontran Cherrier ขนมปังเขาสุโค่ยมาก อยู่ตรงข้ามตึก JR station
เยื้องขวาไปนิดๆ หากไม่เจอให้หา Starbuck อยู่ไม่ไกลกันค่ะ


ใครได้ไปให้ลองจัด Ham cheese มาเลยค่ะ โคตรอร่อยย
ด้านบนเหมือนเป็นครีมน้ำซุป ด้านในขนมปังเป็นแฮมชีสเต็มๆคำ
กินตอนร้อนๆ บอกเลยว่า ขากลับ ต้องวนมาซื้อกินอีก


แล้วเราก็มาขึ้นรถที่ตึกนี้ค่ะ Shinjuku station ตรงข้ามJR station เลย
ขึ้นไปที่ชั้น4 จะเป็นที่ขึ้นรถ ที่ขายตั๋ว และมีที่ฝากกระเป๋าด้วยค่ะ
จำราคาฝากมาคร่าวๆได้ว่า ใบเล็กๆ 2ชม.¥100 / ใบกลาง2ชม. ¥200 / ใบใหญ่ 2ชม.¥300

รถบัสที่นั่งไปเราจองจากเวปนี้ไปค่ะ http://highway-buses.jp/thai/

เราเลือกขึ้นที่Shinjukuเนื่องจากขากลับมาเราก็จะพักที่Shinjuku เลยสะดวกดี
พอจองแล้วก็แค่ปริ้นใบจองไป เอาไปยื่นและจ่ายเงินหน้าเคาท์เตอร์ได้เลย
เที่ยว/คน ละ ¥1,750 เป็นทั้งหมดไป-กลับ 2คน ¥7,000 (ประมาณ2พันบาท)

เราจองเวลาขึ้นรถ10.15 ใกล้ๆเวลาก็ไปรอหน้าประตูทางขึ้นรถได้เลยค่ะ
เจ้าหน้าที่จะบอกตอนขายตั๋วว่าให้ไปรอประตูไหน (ของเราB5ค่ะ)
ก่อนขึ้นไม่แน่ใจก็ถามเจ้าหน้าที่ตรงประตูอีกทีก็ได้ค่ะว่าไปKawaguchikoใช่ไหม
เราขนกระเป๋าไปหมดเลยเนื่องจากใต้รถมีที่ให้เก็บสัมภาระ มีคนขนให้ ไม่ลำบากเลยค่ะ


ใช้เวลานั่งไปประมาณ2ชม.นิดๆ (คิดซะเหมือนว่านั่งจากกทม.ไปหัวหิน)
นั่งสบายๆ เขามีห้องน้ำในตัวรถด้วย
วิว2ข้างทางสวยมากค่ะตอนออกไปเขตต่างจังหวัด ธรรมชาติสุดๆ


ถึงแล้วว Kawaguchiko Station เราจะลงรถและขึ้นรถกลับที่สถานีนี้
ถ้าอากาศดีเราจะสามารถมองเห็นฟูจิได้จากตรงนี้เลย
เสียดายตอนเราไปอากาศครึ้มๆ เมฆบังหมดเลย TT

ที่พักที่ญี่ปุ่นเขาจะCheck in กันบ่าย3
เราไปบอกที่สถานีให้เขาโทรหาโรงแรมให้มารับ
เขาบอกต้องเลยเวลาcheck in คือหลังบ่าย3รถถึงจะมารับค่ะ แต่เราไปถึงบ่ายโมงนิดๆ
เช็คจากแผนที่ โรงแรมก็อยู่ไม่ได้ไกลเกินกว่าจะเดินไปถึง
คือประมาน1.2โล เดินเท้าประมาณ10นาที แฟนเราเลยบอก เดินกันเถอะ!

แต่ด้วยที่อากาศมันเย็นสบายดี เราเลยยอมเดินโดยดี ไม่มีปัญหา : )


ระหว่างทาง ดอกไม้สวยๆ เราก็เดินไปถ่ายรูปไป


ที่พักเราคืนนี้คือ Kawaguchiko hotel
โรงแรมหันหน้าเข้า ติดริมทะเลสาปเลย วิวสวยมากก
เรามาถึงแล้วก็เอากระเป๋าฝากที่Frontไว้ก่อน
และก็ออกไปเดินเล่นรอเข้ามาcheck in ตอนบ่าย3

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเก่าแก่ของที่นี่
อยู่มานานมาก แต่ภายในโรงแรมยังดูแลดีอยู่เลยค่ะ


วิวรอบๆทะเลสาป เดินเล่นชิวๆ อากาศรอบๆตัวดีงามมาก
สวยยย เย็น ดีไปหมดด เดินจูงมือกับแฟนมีความสุขมากค่าา


กลับเข้ามา Check in เราเลือกห้องพักแบบ Japanese room
ในห้องพักเรา จะไม่มีเตียงนะคะ แต่จะมีแม่บ้านญี่ปุ่นมาปูฟูกให้ตอนเย็นๆ

(สำหรับค่าห้องพักที่นี่ รวมอาหารเช้า คืนละ4,900ค่า เราจองผ่านAgodaเหมือนเดิม)

รูปห้องพักเราค่ะ เหมือนในรูปนี้เลย เครดิตจากเวปโรงแรมเลยค่า
http://www.kawaguchikohotel-fuji.com


วิวจากในห้อง หน้าต่างเราเปิดไปเจอมุมนี้เลย
สามารถเปิดให้ลมเย็นๆเข้ามาได้ ไม่มีแอร์ แต่เย็นสบายดีค่ะ
นี่ขนาดไม่ใช่หน้าหนาว ถ้าหน้าหนาวคงหนาวมากๆ


สักพักแม่บ้านก็เอาฟูกมาปูให้ นุ่ม อุ่นมากค่าา


ฝนตกปรอยๆ เดินเอาร่มโรงแรมกางเดินออกมาหาข้าวเย็นกินกันอีกรอบ


บรรยากาศรอบๆ ธรรมชาติมากๆเลยค่ะ
ใครเบื่อความวุ่นวายจากเมืองหลวง แนะนำให้มาลองเที่ยวแนวธรรมชาติ รับรองว่าสดชื่น ถูกใจกันแน่นอนน


แถวๆนั้นตอนเย็นร้านที่เคยเปิดกลางวันปิดหมดเลย

เดินไปเรื่อยๆเจอร้านนึงเปิดอยู่ ชื่อร้านKonami ค่อนข้างไกล
ไม่แนะนำให้เดินค่ะ5555 เราเดินไปบ่นไปมาก
ถ้าใครจะมาพักแถวนี้ แต่ไม่ได้ซื้ออาหารเย็นกับทางโรงแรมไว้
ถ้าไม่เตรียมมาก็แนะนำมาม่าLawsonค่ะ ต้มกินร้อนๆ สบายกว่าเดินหาร้านกินเยอะ

ถ่ายไว้เท่านี้แต่กินกันเยอะอยู่ ไม่ค่อยแพงมากแต่ก็ไม่ได้ถูกไป
อันนี้เป็นเมนู Salmon Sashimi และ Horse Sashimi
ใช่ค่ะ สีแดงๆมันคือเนื้อม้าดิบๆ คุณแฟนอยากจัด เราก็ไม่ขัดแต่เราไม่กินค่ะ > <


ตื่นเช้ามาใครอยากไปแช่ออนเซ็นยามเช้าดูฟูจิก็ได้นะคะ
เขามีชุดยูกาตะให้เราในห้องไว้ใส่เวลาจะไปแช่ออนเซ็นด้วย
คู่เราวางแผนกันไว้เหมือนกัน แต่ไม่มีใครตื่นค่ะ 5555

ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่