เคยคิดว่าจะเขียนกระทู้ในแท็กนี้แค่ 2 กระทู้ก็พอแล้วเพราะไม่อยากนอนดึกเลยจริงๆ ( และไม่อยากมีดราม่าว่าตั้งกระทู้อวยเยอะ 5555 ) แต่วันนี้ถ้าไม่ได้เขียนขอบคุณคนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆของศิลปินที่เรารักคงนอนไม่หลับแน่ๆ
เพราะวันนี้มันอีกวันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าสิ่งที่เรา และ แฟนคลับผลิตโชค ( PFC ) รู้และเห็นจนชินตาจนรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของเป๊กผลิตโชคไปแล้ว กับการที่เป็นคน friendly จิตใจดี ให้เกียรติผู้อื่นเสมอ และรักเด็กมาก มันได้ถูกเปิดเผยและทำให้อีกหลายคนๆได้เปิดใจและเห็นอย่างที่พวกเราเห็น ซึ่งขอขอบคุณมากจริงๆกับทุกๆเสียงชื่นชมผลิตโชคเหมือนที่แฟนคลับอย่างพวกเราชื่นชมและหลงรักเค้ามากกว่าการเป็นหน้ากากจิ้งโจ้ มันบอกไม่ถูกจริงๆว่าภูมิใจและปลื้มใจแค่ไหนที่ได้ฟีดแบ็คที่ดีจากกลุ่มคนที่ไม่ใช่ fc
ก็เหมือนกับที่เราสามารถชื่นชมลูกตัวเองได้ตลอดเวลาเพราะมันอาจจะมีความสปอยด์เล็กๆเพื่อให้กำลังใจลูกตัวเอง แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ความภูมิใจที่แท้จริง เพราะความภูมิใจที่แท้จริงมันต้องมาจากเสียงชื่นชมจากคนรอบข้างที่เค้าเห็นว่าลูกเราเก่งและดีจริงๆ
เราก็เลยคิดว่าเราเป็นแค่แฟนคลับเค้าเรายังรู้สึกปลื้มและภูมิใจขนาดนี้แล้วคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่จริงๆ เค้าคงมีความรู้สึกหลายร้อยเท่ากว่าแฟนคลับแน่ๆ แต่ทว่าลองย้อนกลับไป 10 ปีที่ผ่านมาซิ ???? ..... ชีวิตผู้ชายธรรมดาๆที่ชื่อ เป๊ก ผลิตโชค มันไม่ได้มีเสียงชื่นชมแบบในวันนี้มานานเท่าไรแล้ว เรียกว่าอาจจะมีแค่เสียงชื่นชมแบบไม่เต็มปากด้วยซ้ำ..อ๋อ เป๊ก ผลิตโชค อืมร้องเพลงเพราะดีนะ.....นอกนั้น..ก็คงอย่างที่รู้กัน....
จนวันนี้มันทำให้เราคิดว่าจริงๆ ...เป๊ก ผลิตโชค เค้าเป็นผู้ชายธรรมดาๆนะ เค้าไม่ได้เป็นคนดีเลิศไปซะทุกอย่าง ไม่ได้วิเศษวิโสกว่าใครๆ เค้าก็เป็นแค่คนสีเทาๆอย่างพวกเรานี่แหละ ชอบเที่ยว เฮฮาปาร์ตี้ ตลกลามกตามประสาผู้ชาย เกเร ขี้เมาบ้าง พูดจากูโว้ยวะเป็น แบดบอยในหมู่สาวๆ ด้าน bad side ก็มีเหมือนคนปกติ เพียงแต่ bad side ของเค้ามันไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่น ไม่ได้ความเป็นคนในวงการเหนืออภิสิทธิ์คนอื่น ไม่เคยแสดงความก้าวร้าวกับใคร
เค้าก็แค่คนๆหนึ่งที่จริงใจเพียรพยายามเข้ามาในวงการบันเทิงเพียงแค่อยากร้องเพลงที่เค้ารักเป็นอาชีพ แต่ก็นั่นแหละเค้าก็รู้ตัวว่าเค้าต้องแลกกับอะไรมา ต้องแลกกับการเอาชีวิตตัวเองมาปูบนถนนบันเทิงให้คนมาเหยียบย่ำเล่นด้วยคำวิจารณ์ที่ไม่เกี่ยวกับความสามารถเพียงเพราะคนเหล่านั้นมีข้ออ้างว่าผลิตโชคคือคนในวงการและเป็นบุคคลสาธารณะของสังคม ทุกคนมีสิทธิ์เหยียบย่ำด้วยคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกเค้าได้ทั้งๆที่หลายคนยังไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่....แต่สิ่งที่ผลิตโชคเลือกที่จะโต้ตอบมาตลอด 10 ปี หรือแม้กระทั้งจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ ....
การให้เกียรติผู้อื่น....เค้าเลือกที่ไม่ตอบโต้ ไม่แสดงความก้าวร้าวออกมา หรือว่าอาจเป็นเพราะความโชคร้ายของเค้าเองที่หลงใหลกับการร้องเพลงมากเกินไปจนต้องยอมแลกกับเจ็บปวดแบบนี้ในวงการบันเทิง มันเลยทำให้เค้าต้องเลือกที่จะ...ให้เกียรติ...กับคำวิจารณ์จากผู้อื่นโดยไม่โต้ตอบ
คำว่าการให้เกียรติผู้อื่น ..ฟังเป็นคำพูดที่สวยหรูดูเหมือนทำง่ายนะ แต่จริงๆมันทำยากมากๆ ลองดูในสังคมที่เราอยู่ทุกวันนี้ซิ บางครั้งเรารักเกียรติศักดิ์ศรีตัวเองมากจนเราลืมการให้เกียรติผู้อื่นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะล้อเลียนรูปร่างลักษณะทางกายภาพผู้อื่นอย่างสนุกปาก การดูถูกสถานะทางสังคม และอีกหลายอย่างที่เราอาจทำโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ
แต่วันนี้ผลิตโชคอาจจะได้มีโอกาสได้ทำเป็นตัวอย่างให้สังคมวงกว้างได้เห็นว่าการให้เกียรติ และการไม่ดูถูกผู้ที่ไม่ได้มีสถานะที่เพียบพร้อมเหมือนคนอื่นๆ ต้องควรทำและปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่จำเป็นแสดงอาการสงสารหรือเห็นใจ เพียงแค่ยื่นมิตรไมตรีแบบเพื่อนมนุษย์ที่ดีต่อกันแค่นั้น เพียงแต่มทุกอย่างมันต้องมาจากความจริงใจก็พอ คุณก็จะได้รับเสียงความชื่นชมยินดีต่อผู้ที่พบเห็นได้โดยไม่ต้องให้นักข่าวมาทำข่าวสัมภาษณ์
แต่ที่ผ่านมาผลิตโชคจะรู้สึกยังไงกับการที่คนอื่นหรือสื่อต่างๆไม่ให้เกียรติเค้าบ้างนะ.....เค้าจะรู้สึกเจ็บไหม รู้สึกเสียใจบ้างไหม..ก็อย่างที่บอกเนอะ เป๊กผลิตโชค ก็คนธรรมดาๆนะ มีเลือดมีเนื้อ .เค้าก็น่าจะเจ็บเป็น...แต่ยิ่งกว่านั้นลองคิดดูว่าแล้วคนเป็นพ่อแม่เค้าจะรู้สึกยังไง
ฉะนั้นกระทู้นี้จึงอยากจะขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ชื่อเป๊กผลิตโชค ขอบคุณที่เป็นต้นแบบที่ดีและหล่อหลอมให้ผลิตโชคโตมาเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจที่ดีให้กับอีกหลายๆคนในตอนนี้ ( เพราะถ้ามีใครสักคนที่น่าชื่นชมเราก็มักจะนึกถึงว่าพ่อแม่เค้าว่าคงเลี้ยงมาดีเนอะ เช่นเดียวกันเลยค่ะ อยากบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกชายคนนี้มาดีจริงๆค่ะ ) ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่เข้มแข็งและช่วยประคับประคองผลิตโชคมาจนถึงวันนี้ให้มาถึงมือพวกเรา ( PFC ) โดยที่ผลิตโชคไม่บุบสลายไปกับความยากลำบากในวงการบันเทิงเป็นสิบๆปี ต่อจากนี้ไปคิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่เป็นห่วงผลิตโชคแล้วค่ะ เพราะลูกชายของคุณมีมืออีกหลายล้านมือที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ประคับประคองและปกป้องเค้าไปพร้อมๆกับคุณพ่อคุณแม่ตลอดไปแน่ๆ
สุดท้ายต่อจากนี้ก็อยากให้เคสของผลิตโชคเป็นเคสตัวอย่างของการให้เกียรติของกันและกันในสังคม หรือ คนในวงการบันเทิงหรือศิลปินกับสื่อมวลชน เพราะต้องยอมรับว่าการถูกลืมของผลิตโชคในวงการบันเทิงในอดีตมันมาจากการสื่อสารที่ไม่ให้เกียรติกันของสื่อบางสื่อ แต่ทั้งนี้มันแก้ไขข้อผิดพลาดหรือรื้อฟื้นอดีตมาไม่ได้และก็ไม่มีประโยชน์ แต่เราสามารถเริ่มทำปัจจุบันและอนาคตได้เนอะ เชื่อว่าประชาชนหรือหลายคนที่ต้องเสพสื่ออยู่ทุกวันไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศิลปินไทยที่มีความสามารถหรือเป็นคนดีต้องถูกลืมอีกต่อไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองแต่ต้องให้เกียรติและเคารพผู้อื่น สังคมจะได้น่าอยู่ขึ้นเนอะ
ขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของผู้ชายธรรมดาๆที่ชื่อ เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร
เพราะวันนี้มันอีกวันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าสิ่งที่เรา และ แฟนคลับผลิตโชค ( PFC ) รู้และเห็นจนชินตาจนรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของเป๊กผลิตโชคไปแล้ว กับการที่เป็นคน friendly จิตใจดี ให้เกียรติผู้อื่นเสมอ และรักเด็กมาก มันได้ถูกเปิดเผยและทำให้อีกหลายคนๆได้เปิดใจและเห็นอย่างที่พวกเราเห็น ซึ่งขอขอบคุณมากจริงๆกับทุกๆเสียงชื่นชมผลิตโชคเหมือนที่แฟนคลับอย่างพวกเราชื่นชมและหลงรักเค้ามากกว่าการเป็นหน้ากากจิ้งโจ้ มันบอกไม่ถูกจริงๆว่าภูมิใจและปลื้มใจแค่ไหนที่ได้ฟีดแบ็คที่ดีจากกลุ่มคนที่ไม่ใช่ fc
ก็เหมือนกับที่เราสามารถชื่นชมลูกตัวเองได้ตลอดเวลาเพราะมันอาจจะมีความสปอยด์เล็กๆเพื่อให้กำลังใจลูกตัวเอง แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ความภูมิใจที่แท้จริง เพราะความภูมิใจที่แท้จริงมันต้องมาจากเสียงชื่นชมจากคนรอบข้างที่เค้าเห็นว่าลูกเราเก่งและดีจริงๆ
เราก็เลยคิดว่าเราเป็นแค่แฟนคลับเค้าเรายังรู้สึกปลื้มและภูมิใจขนาดนี้แล้วคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่จริงๆ เค้าคงมีความรู้สึกหลายร้อยเท่ากว่าแฟนคลับแน่ๆ แต่ทว่าลองย้อนกลับไป 10 ปีที่ผ่านมาซิ ???? ..... ชีวิตผู้ชายธรรมดาๆที่ชื่อ เป๊ก ผลิตโชค มันไม่ได้มีเสียงชื่นชมแบบในวันนี้มานานเท่าไรแล้ว เรียกว่าอาจจะมีแค่เสียงชื่นชมแบบไม่เต็มปากด้วยซ้ำ..อ๋อ เป๊ก ผลิตโชค อืมร้องเพลงเพราะดีนะ.....นอกนั้น..ก็คงอย่างที่รู้กัน....
จนวันนี้มันทำให้เราคิดว่าจริงๆ ...เป๊ก ผลิตโชค เค้าเป็นผู้ชายธรรมดาๆนะ เค้าไม่ได้เป็นคนดีเลิศไปซะทุกอย่าง ไม่ได้วิเศษวิโสกว่าใครๆ เค้าก็เป็นแค่คนสีเทาๆอย่างพวกเรานี่แหละ ชอบเที่ยว เฮฮาปาร์ตี้ ตลกลามกตามประสาผู้ชาย เกเร ขี้เมาบ้าง พูดจากูโว้ยวะเป็น แบดบอยในหมู่สาวๆ ด้าน bad side ก็มีเหมือนคนปกติ เพียงแต่ bad side ของเค้ามันไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่น ไม่ได้ความเป็นคนในวงการเหนืออภิสิทธิ์คนอื่น ไม่เคยแสดงความก้าวร้าวกับใคร
เค้าก็แค่คนๆหนึ่งที่จริงใจเพียรพยายามเข้ามาในวงการบันเทิงเพียงแค่อยากร้องเพลงที่เค้ารักเป็นอาชีพ แต่ก็นั่นแหละเค้าก็รู้ตัวว่าเค้าต้องแลกกับอะไรมา ต้องแลกกับการเอาชีวิตตัวเองมาปูบนถนนบันเทิงให้คนมาเหยียบย่ำเล่นด้วยคำวิจารณ์ที่ไม่เกี่ยวกับความสามารถเพียงเพราะคนเหล่านั้นมีข้ออ้างว่าผลิตโชคคือคนในวงการและเป็นบุคคลสาธารณะของสังคม ทุกคนมีสิทธิ์เหยียบย่ำด้วยคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกเค้าได้ทั้งๆที่หลายคนยังไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่....แต่สิ่งที่ผลิตโชคเลือกที่จะโต้ตอบมาตลอด 10 ปี หรือแม้กระทั้งจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ ....
การให้เกียรติผู้อื่น....เค้าเลือกที่ไม่ตอบโต้ ไม่แสดงความก้าวร้าวออกมา หรือว่าอาจเป็นเพราะความโชคร้ายของเค้าเองที่หลงใหลกับการร้องเพลงมากเกินไปจนต้องยอมแลกกับเจ็บปวดแบบนี้ในวงการบันเทิง มันเลยทำให้เค้าต้องเลือกที่จะ...ให้เกียรติ...กับคำวิจารณ์จากผู้อื่นโดยไม่โต้ตอบ
คำว่าการให้เกียรติผู้อื่น ..ฟังเป็นคำพูดที่สวยหรูดูเหมือนทำง่ายนะ แต่จริงๆมันทำยากมากๆ ลองดูในสังคมที่เราอยู่ทุกวันนี้ซิ บางครั้งเรารักเกียรติศักดิ์ศรีตัวเองมากจนเราลืมการให้เกียรติผู้อื่นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะล้อเลียนรูปร่างลักษณะทางกายภาพผู้อื่นอย่างสนุกปาก การดูถูกสถานะทางสังคม และอีกหลายอย่างที่เราอาจทำโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ
แต่วันนี้ผลิตโชคอาจจะได้มีโอกาสได้ทำเป็นตัวอย่างให้สังคมวงกว้างได้เห็นว่าการให้เกียรติ และการไม่ดูถูกผู้ที่ไม่ได้มีสถานะที่เพียบพร้อมเหมือนคนอื่นๆ ต้องควรทำและปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่จำเป็นแสดงอาการสงสารหรือเห็นใจ เพียงแค่ยื่นมิตรไมตรีแบบเพื่อนมนุษย์ที่ดีต่อกันแค่นั้น เพียงแต่มทุกอย่างมันต้องมาจากความจริงใจก็พอ คุณก็จะได้รับเสียงความชื่นชมยินดีต่อผู้ที่พบเห็นได้โดยไม่ต้องให้นักข่าวมาทำข่าวสัมภาษณ์
แต่ที่ผ่านมาผลิตโชคจะรู้สึกยังไงกับการที่คนอื่นหรือสื่อต่างๆไม่ให้เกียรติเค้าบ้างนะ.....เค้าจะรู้สึกเจ็บไหม รู้สึกเสียใจบ้างไหม..ก็อย่างที่บอกเนอะ เป๊กผลิตโชค ก็คนธรรมดาๆนะ มีเลือดมีเนื้อ .เค้าก็น่าจะเจ็บเป็น...แต่ยิ่งกว่านั้นลองคิดดูว่าแล้วคนเป็นพ่อแม่เค้าจะรู้สึกยังไง
ฉะนั้นกระทู้นี้จึงอยากจะขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ชื่อเป๊กผลิตโชค ขอบคุณที่เป็นต้นแบบที่ดีและหล่อหลอมให้ผลิตโชคโตมาเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจที่ดีให้กับอีกหลายๆคนในตอนนี้ ( เพราะถ้ามีใครสักคนที่น่าชื่นชมเราก็มักจะนึกถึงว่าพ่อแม่เค้าว่าคงเลี้ยงมาดีเนอะ เช่นเดียวกันเลยค่ะ อยากบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกชายคนนี้มาดีจริงๆค่ะ ) ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่เข้มแข็งและช่วยประคับประคองผลิตโชคมาจนถึงวันนี้ให้มาถึงมือพวกเรา ( PFC ) โดยที่ผลิตโชคไม่บุบสลายไปกับความยากลำบากในวงการบันเทิงเป็นสิบๆปี ต่อจากนี้ไปคิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่เป็นห่วงผลิตโชคแล้วค่ะ เพราะลูกชายของคุณมีมืออีกหลายล้านมือที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ประคับประคองและปกป้องเค้าไปพร้อมๆกับคุณพ่อคุณแม่ตลอดไปแน่ๆ
สุดท้ายต่อจากนี้ก็อยากให้เคสของผลิตโชคเป็นเคสตัวอย่างของการให้เกียรติของกันและกันในสังคม หรือ คนในวงการบันเทิงหรือศิลปินกับสื่อมวลชน เพราะต้องยอมรับว่าการถูกลืมของผลิตโชคในวงการบันเทิงในอดีตมันมาจากการสื่อสารที่ไม่ให้เกียรติกันของสื่อบางสื่อ แต่ทั้งนี้มันแก้ไขข้อผิดพลาดหรือรื้อฟื้นอดีตมาไม่ได้และก็ไม่มีประโยชน์ แต่เราสามารถเริ่มทำปัจจุบันและอนาคตได้เนอะ เชื่อว่าประชาชนหรือหลายคนที่ต้องเสพสื่ออยู่ทุกวันไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศิลปินไทยที่มีความสามารถหรือเป็นคนดีต้องถูกลืมอีกต่อไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองแต่ต้องให้เกียรติและเคารพผู้อื่น สังคมจะได้น่าอยู่ขึ้นเนอะ