สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้ง จากกระทู้ก่อนที่เราได้พาไปชมบรรยากาศในฤดูหนาว ของประเทศสวีเดนกันแล้วนะคะ วันนี้เราก็จะพามาชมบรรยากาศในช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิกันบ้างค่ะ
ใครสนใจสามารถไปอ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี่ค่ะ >>
https://pantip.com/topic/36488399
ก่อนอื่นต้องขอพูดเรื่องออแพร์สักนิด แต่ขอใส่ไว้ใน Spoil แล้วกันนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ออแพร์ จะพูดกันง่ายๆ ก็คืองานเป็นพี่เลี้ยงเด็กนั่นเองนะคะ ซึ่งเราต้องไปอาศัยอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ นอกจากจะมีงานเลี้ยงเด็กแล้ว
แน่นอนงานบ้านก็มีค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับโฮสต์นะคะ ว่าเค้าต้องการให้เราทำอะไรบ้าง ซึ่งก็ตกลงกันก่อนไป ตรงนี้ให้คิดว่าเรามาเล่าสู่กันฟังดีกว่า อย่าคิดว่ามาบ่นเลยค่ะ 55 ในส่วนของเงินเดือนนั้นไม่เยอะค่ะ แต่เราอาศัยอยู่บ้านโฮสต์ กินอาหารที่บ้านเค้า ก็คือประหยัดไปหน่อยค่ะ
มีคนเคยถามเราว่าจะไปทำไม เงินเดือนก็นิดเดียว ทำงานอยู่ไทยดีกว่า แต่ในความคิดเราคือ 1 . เราได้ประสบการณ์ แม้เงินจะน้อยนิดก็เถอะ
2. เราได้มีโอกาสท่องเที่ยว เปิดหูเปิดตา ได้เจออะไรที่แปลกใหม่ ซึ่งเราคิดว่าคุ้มค่า หลายคนอาจคิดว่า ดูชีวิตดีจัง อยู่เมืองนอก ได้เที่ยว แต่ ! ชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นแบบที่คิดนะคะ บางคนอาจจะได้เจอ โฮสต์ทีดีมาก จนไปถึง แย่มาก เพื่อนๆออแพร์ ก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันไป
เราขอมาเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราดีกว่า เรียกได้ว่าช่วงแรกนั้นเป็นช่วงปรับตัวของทั้งโฮสต์ และ ออแพร์ ก็ต้องค่อยๆ ศึกษาดูกันไป อย่างที่เราเคยบอกไปว่าโฮสต์แม่เป็นมุสลิม ฉะนั้น ห้ามนำเนื้อหมูเข้าบ้าน ตอนเราจัดกระเป๋าไป คือเราไม่สามารถพกหมูฝอย หรือ หมูหยอง ไปได้เลย แม้แต่กระเป๋าที่เป็นรูปน้องหมู น่ารักๆ เพราะเรากลัวโฮสต์จะว่าเอา แต่พอเราไปถึงคือ เอ๊ะ ! ชุดนอนเด็กเป็นรูป Peppa pig และ ตุ๊กตา Peppa pig
สำหรับเราแล้ว การห้ามนำเนื้อหมูเข้าบ้านไม่ใช่ปัญหา เลย แต่ปัญหาแรก ปัญหาหนักใจคือ เด็กไม่เคยมีออแพร์ มาก่อน เด็กไม่เอาเราค่ะ --“ บ้านโฮสต์เราใช้ภาษาอังกฤษทั้งบ้าน ไปถึงโฮสต์ก็บอกพยายามเข้าหาเด็กนะ เด็กชอบเล่นวิ่งไล่จับ ชอบเล่นซ่อนแอบ เราก็พยายามทำ แต่มันก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เด็กคนโตบอกเราว่า ชั้นจะบอกแม่ให้ไล่เธอกลับบ้านเธอไป ที่นี่มันบ้านของพวกเราไม่ใช่ของเธอ ชั้นไม่ชอบเธอ โห บอกเลยน้ำตาไหล ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เศร้ามากรู้สึกท้อใจ จนโฮสต์กลับมาก็ถามว่าเป็นไงบ้างเด็กๆ วันนี้ ลูกก็บอกว่าพวกเราเป็นเด็กดีน่ารัก และ เชื่อฟัง ค่ะ ( นี่แอบเบะปากเบาๆ 55 ) โฮสต์ก็เรียกเราไปคุย ถามว่าเป็นยังไง เราก็บอกไปตามความจริงนะ ว่าลูกคุณพูดกับเราแบบนี้นะ โฮสต์ก็ขำ แล้วบอกเราว่า ต่อไปนี้เธอเป็น บอสนะ พวกเค้าต้องทำตามคำสั่งเธอ ถ้าเค้าไม่เชื่อฟังให้โทรหาพ่อเค้าได้เลย
เราก็รับฟัง แล้ว ลองทำตาม เด็กก็ยังคงไม่เอาเราอยู่ดี จนเราคิดว่าเออ จะไปเอาอะไรกับเด็กเนอะ ก็เพราะเค้ายังเด็กไง เราก็เลยเฉยๆ เวลาเค้าไล่เรา เราก็บอกว่า เอาแบบนี้ดีมั้ย เนี่ยเดี๋ยวชั้นเก็บของออกไปเลย แล้วเธอก็อยู่กับน้องสองคน เด็กบอกไม่ได้หรอกนะ พวกเราเป็นเด็ก อยู่กันเองไม่ได้หรอก เดือนแรกเป็นเดือนที่หนักใจที่สุด กับการปรับตัวเข้าหาเด็ก แต่โฮสต์เราให้อิสระ เราอยู่กับเด็กเต็มที่ เราไปได้ประมาณอาทิตย์นึง โฮสต์ขอออกไปปาร์ตี้ แล้วเด็กดันตื่นมากลางดึก แล้วไม่เจอพ่อแม่ เลยเดินมาหาเราที่ห้อง ถามว่าพ่อแม่ไปไหน ไม่รักเราแล้วหรอ ทำไมทิ้งเราไป ก็อธิบาย + โอ๋ กันไปจนหลับ เราใช้เวลาหนึ่งเดือนปรับตัวอยู่กับเด็ก เด็กก็เปิดใจกับเรามากขึ้น แรกๆ เวลาพ่อแม่ไปทำงาน หรือ ไปข้างนอก เด็กๆก็จะร้องตาม วิ่งไปกอด ไปหอมบ้าง พอหลังๆ พ่อแม่จะออกบ้านนี่ไม่วิ่งไปกอด แล้ว แค่ Bye เฉยๆ
ปัญหาที่สองคือ ทำงานเกินเวลา
เรายอมรับเลยว่าไม่ได้คุยเรื่องวันหยุดกับโฮสให้ดีๆ ก่อน พอมาถึงกลับเป็นว่า วันหยุดของเราขึ้นกับตารางงานของเค้า ซึ่งแน่นอน ลืมวันเสาร์ – อาทิตย์ ไปได้เลย เราก็จะได้หยุดแค่อาทิตย์ละวัน เราก็โอเค เพราะแรกๆ งานไม่หนักไง สบายๆ แต่พอสักพัก มันเริ่มทำงานเกินเวลาแล้ว โดยตามปกติตามสัญญา มันต้อง 5 ชั่วโมง แต่เรานี่ทำเกินตลอด เลยคุยกับเพื่อน เพื่อนก็แนะนำว่า ให้ไปคุยกับโฮสต์ ตอนแรก เราไม่กล้า แต่เอาเหอะ คุยดีกว่าไม่คุย เราก็ไปบอกเค้า เค้าก็ทำมึนๆ บอกไม่เกินนะเนี่ย เธอนับดูสิ เด็กไปโรงเรียนเธอว่างทั้งวันเลยนะ เราก็แบบมีของขึ้นนิดนึง ไม่อยากเถียง เพราะ ภาษาอ่อนแอ ถ้าเราไม่พูด เค้าก็ไม่รู้อีก เราเลยบอกไปว่าวันนึงๆ ทำอะไรบ้าง ตั้งแต่เช้า สาย ยันไปรับเด็ก แล้วเราเลยบอกไปว่า แล้วอีกอย่างวันหยุดอะ ตามสัญญามันจะต้องได้อย่างน้อย 1 วัน โฮสต์เราก็มีความเถียงจ้า บอกไม่จำเป็น นี่เลยไปเอาสัญญามากางให้ดูเลย โฮสต์เลยบอกว่า เดี๋ยวขอไปคุยกะเอเจนซี่ทางสวีเดนก่อนนะ ( ก่อนหน้านี้เราได้ถามไปที่เอเจนซี่ เหมือนกัน เกี่ยวกับเรื่องเวลาการทำงาน เอเจนซี่ตอบมาประมาณว่า ส่วนใหญ่ก็ทำเกิน 5 นะ มันยากที่นับ )
หลังจากที่โฮสต์ไปคุยกับเอเจ้น แล้ว ก็มีท่าทีอ่อนลงนิดนึง บอกว่าชั้นเข้าใจแล้วนะ แต่เราให้วันหยุดเธอสองวันไม่ได้จริงๆ เราเลยต่อรองไปว่า ถ้างั้น ขอวันหยุดแบบติดกันสองวัน แค่เดือนละครั้งก็ยังดี แต่ก็ไม่เป็นผล โฮสเลยบอกว่า เอางี้แล้วกันเดี๋ยวมันจะมีช่วงที่พวกนางหยุดพักร้อนกัน ก็ให้เราหยุดด้วย เราก็เลยตกลง เพราะดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ลืมบอกไปว่าโฮสต์เรานั้นทำงานโรงพยาบาล ซึ่งวันเวลา ไม่แน่นอน วันดีคืนดี on call ทั้งคู่ ออแพร์ก็เฝ้าเด็กไปจ้า และ มีช่วงนึงคนพ่อต้องไปทำงานต่างประเทศ 2 อาทิตย์ นั่นคือสองอาทิตย์ ที่เราทำงานโดยไม่มีวันหยุดเลย เราก็ไปคุยอีก ถามเรื่องวันหยุด คำตอบที่ได้คือ ขอเช็คก่อน และ เราก็ไม่ได้หยุดจ้า จนเราไม่ไหวแล้ว มันเหนื่อย หมดสภาพมาก ทั้งรับส่งเด็ก ทำอาหาร ทำงานบ้านอื่น จนกระทั่งเด็กเข้านอน วนๆ แบบนี้อยู่ สองอาทิตย์ ( คิดในใจว่าตกลงใครเป็นแม่เด็กแน่เนี่ย ) ความพีค คือ เราไปรับเด็ก แล้ว น้องคนเล็กเรียกเราว่า มามี้ พอสิ้นเดือน เงินเดือนออก ได้เพิ่มมาอีกหน่อย ค่อยมีแรงหน่อย แล้วพอช่วงโฮสพักร้อนเค้าพากันไปเที่ยวเมืองไทย เราก็เลยได้วันหยุดยาวมาสิบกว่าวัน
นี่แค่ช่วง 3-4 เดือนแรกนะจ๊ะ หลังจากนั้นจะเป็นไง ไว้จะมาเล่าต่อ
ปล. ใครมีปัญหา อะไรข้องใจ สงสัยตรงไหน เปิดใจคุยกับโฮสต์ไปเลยดีที่สุด
ถ้าอ่านยากไปหน่อยต้องขอโทษด้วยนะคะ
Gothenburg , Sweden : 11 เดือน 4 ฤดู ตามไปดูกันว่ามีอะไร << ตอนที่ 2 >>
ใครสนใจสามารถไปอ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี่ค่ะ >> https://pantip.com/topic/36488399
ก่อนอื่นต้องขอพูดเรื่องออแพร์สักนิด แต่ขอใส่ไว้ใน Spoil แล้วกันนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าอ่านยากไปหน่อยต้องขอโทษด้วยนะคะ