สวัสดีค่ะ วันนี้ว่างๆก็เลยอยากจะมาเล่าเรื่องที่เกิดกับเราตอนเด็กค่ะ มันยังเป็นตราบาปของเราไป
ตอนที่เราอายุได้ประมาณ 7-8 ขวบ พ่อกับแม่ของเรามีปัญหากับทำให้ต้องเลิกกับแล้วแม่ก็ไปทำงานในกทม เราจึงต้องอยู่กับตา ยาย ซึ่งยอมรับเลยว่าถูกเลี้ยงมาแบบตามใจมาก อยากกินอะไร อยากได้อะไร ก็ต้องได้ พอไม่ได้ก็จะโมโห ขึ้นเสียง มองด้วยหางตา ซึ่งตอนนั้นคิดว่า มันเป็นการกระทำที่ทำให้ตากับยายรู้ว่าเราไม่พอใจ ซึ่งมันก็ได้ผลมาตลอด
บ้านเราอยู่ด้วยกัน 4 คนค่ะ มีตา ยาย พี่ชาย แล้วก็เรา วันนั้นกำลังนั่งทานข้าวเย็น แต่เราจะทานแค่ 3 คน ยกเว้นตา ( เพราะตาเราพิการค่ะ ต้องนั่งกินเองที่โต๊ะส่วนตัว ตาจะทานก่อนคนในบ้านค่ะ) ตอนที่เรากำลังนั่งทานกันอยู่ตาก็นั่งดูทีวีอยู่ใกล้ๆ ตอนนั้นตากำลังดูข่าวช่อง 5 และเป็นช่วงที่ละครหลังข่าวกำลังจะมา เราก็บอกตาว่า ขอดูช่อง 7 ละครจะมาแล้ว ตาก็ใช้นิ่วชี้(คือนิ้วของตาเรา ด้วนเหลือประมาณ 1 ข้อค่ะ บางนิ้วก็งอ อีกข้างก็งอใช้การไม่ได้ค่ะ)กดที่ปุ่มหน้าทีวี พอกดมันก็ไปที่ช่อง 9 เราก็บอกว่าไม่ใช่จะดูช่อง 7 พอตากดอีกก็กลับมา ช่อง 5 ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหตาค่ะ ลุกออกจากโต๊ะกินข้าวแล้วก็ร้องไห้วิ่งขึ้นไปที่ห้องชั้นบน จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงยายทะเลาะกับตาค่ะ (ตรงนี้เราจำไม่ได้แล้วค่ะว่าทะเลาะอะไรกันบ้าง) พอผ่านไปซักพักเราก็เริ่มใจเย็นลง หายโกรธแล้ว ซึ่งปกติเราจะเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว เมื่อเราอารมณ์ดีขึ้น เราก็นั่งเล่นคอมอยู่ในห้อง
ซักพักเราได้ยินเสียงมีคนเขวี้ยงแก้วน้ำ แล้วพี่ชายก็วิ่งออกจากบ้านร้องไห้ เราก็รีบวิ่งลงมาดู เราเห็นแก้วน้ำมีของเหลวสีเขียวอยู่ข้างใน เราได้กลิ่นชัดเจนมาก ว่ามันคือยาฆ่าหญ้า เราก็รีบวิ่งไปหาตา แล้วตาก็พูดว่า ตากินยาฆ่าหญ้าไป ตาขอโทษนะ แล้วตาก็อ้วกออกมาเยอะมาก เราก็ร้องไห้ ตะโกนให้คนมาช่วยพาตาไปโรงพยาบาล แต่เชื่อไหมคะ ว่าคนแถวบ้านไม่มีใครอยากพาไป เพราะเค้ากลัวว่า ตาจะตายบนรถเค้า เรากับพี่ชายก็วิ่งไปบ้านนั้นบ้านนี้ที่เค้ามีรถยนต์เพื่อให้พาไป จนเจอลุงใจดี บ้านนึงเค้าก็รับปากแล้วมารับตาเราที่บ้านไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเรากับพี่ชายต้องเฝ้าบ้าน
ช่วงที่ตากำลังไปโรงพยาบาล เรากับพี่ชายก็ทำความสะอาดอ้วกของตา แล้วก็นั่งรอฟังข่าวจากยาย ระหว่างนั้นเราก็ได้แต่คิดว่าเราไม่น่าออกจากโต๊ะทานข้าว ไม่น่าเดินขึ้นบ้าน ไม่น่าร้องไห้ ทำไมต้องอยากดูละคร ทำไมไม่เดินไปกดทีวีเอง มันวนเวียนอยู่ในหัวเราตลอด เราข้องใจเรืองทีวีว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น เราก็เลยลองเปิดทีวี ลองเปิดช่อง 5 แล้วจะกดไปช่อง 7 พอเรากดเท่านั้นแหละ น้ำตาไหลพรากได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเรานิสัยแบบนี้ ทีวีมันไม่ไปช่อง 7 ค่ะ มันไปช่อง 9 พอเรากดอีกมันก็กลับมาช่อง 5 เราก็ได้แต่คิดว่าเราทำอะไรลงไป เราทำให้ตาต้องกินยาแบบนี้
ผ่านไปหลายชั่วโมง ยายโทรมาบอกว่า หมอบอกว่า ตาเป็นโรคเบาหวาน ทำให้ยาฆ่าหญ้าที่กินเข้าไปมันออกฤทธิ์ไว กระเพราะเสียหายมาก ให้ตามญาติๆมาให้เร็ว เราก็โทรหา แม่ ป้า และก็ลุง ที่ทำงานอยู่กทม รีบมา (ลืมบอกค่ะ ว่าบ้านเราอยู่ทางภาคเหนือ) ซึ่งมันต้องใช้เวลาอยากน้อยก็ 8 ชั่วโมง สุดท้ายก็มาไม่ทันค่ะ ตาเราเสียตอนประมาณ ตี 4 ตอนที่เรารู้ว่าตาเราเสีย เราไม่รู้ว่าจะมีใครเข้าใจความรู้สึกของเราไหม เราได้แต่คิดโทษตัวเอง จนทุกวันนี้มันก็เป็นเรื่องที่เวลาเรากลับมานึกถึงเรื่องนี้เราก็ร้องไห้ทุกครั้ง ตอนนี้เราอายุ 25 ปี เราได้แต่นึกว่า ในวันที่เราสอบติดมหาลัยดีๆได้ วันที่เรารับปริญญา วันที่เรามีงานที่ดี วันที่เราอยากจะพาคนที่เรารักไปเที่ยว เราอยากให้ตามาอยู่ตรงนี้
ขอบคุณนะคะสำหรับคนที่อ่านเรื่องของเรา เราแค่อยากจะเล่าให้คนอื่นได้ฟัง ถ้ามีคนที่รักอยู่ ดูแลเค้าให้ดีๆนะคะ
ปล.ไม่รู้จะแท็กห้องไหนดี
ตราบาป
ตอนที่เราอายุได้ประมาณ 7-8 ขวบ พ่อกับแม่ของเรามีปัญหากับทำให้ต้องเลิกกับแล้วแม่ก็ไปทำงานในกทม เราจึงต้องอยู่กับตา ยาย ซึ่งยอมรับเลยว่าถูกเลี้ยงมาแบบตามใจมาก อยากกินอะไร อยากได้อะไร ก็ต้องได้ พอไม่ได้ก็จะโมโห ขึ้นเสียง มองด้วยหางตา ซึ่งตอนนั้นคิดว่า มันเป็นการกระทำที่ทำให้ตากับยายรู้ว่าเราไม่พอใจ ซึ่งมันก็ได้ผลมาตลอด
บ้านเราอยู่ด้วยกัน 4 คนค่ะ มีตา ยาย พี่ชาย แล้วก็เรา วันนั้นกำลังนั่งทานข้าวเย็น แต่เราจะทานแค่ 3 คน ยกเว้นตา ( เพราะตาเราพิการค่ะ ต้องนั่งกินเองที่โต๊ะส่วนตัว ตาจะทานก่อนคนในบ้านค่ะ) ตอนที่เรากำลังนั่งทานกันอยู่ตาก็นั่งดูทีวีอยู่ใกล้ๆ ตอนนั้นตากำลังดูข่าวช่อง 5 และเป็นช่วงที่ละครหลังข่าวกำลังจะมา เราก็บอกตาว่า ขอดูช่อง 7 ละครจะมาแล้ว ตาก็ใช้นิ่วชี้(คือนิ้วของตาเรา ด้วนเหลือประมาณ 1 ข้อค่ะ บางนิ้วก็งอ อีกข้างก็งอใช้การไม่ได้ค่ะ)กดที่ปุ่มหน้าทีวี พอกดมันก็ไปที่ช่อง 9 เราก็บอกว่าไม่ใช่จะดูช่อง 7 พอตากดอีกก็กลับมา ช่อง 5 ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหตาค่ะ ลุกออกจากโต๊ะกินข้าวแล้วก็ร้องไห้วิ่งขึ้นไปที่ห้องชั้นบน จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงยายทะเลาะกับตาค่ะ (ตรงนี้เราจำไม่ได้แล้วค่ะว่าทะเลาะอะไรกันบ้าง) พอผ่านไปซักพักเราก็เริ่มใจเย็นลง หายโกรธแล้ว ซึ่งปกติเราจะเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว เมื่อเราอารมณ์ดีขึ้น เราก็นั่งเล่นคอมอยู่ในห้อง
ซักพักเราได้ยินเสียงมีคนเขวี้ยงแก้วน้ำ แล้วพี่ชายก็วิ่งออกจากบ้านร้องไห้ เราก็รีบวิ่งลงมาดู เราเห็นแก้วน้ำมีของเหลวสีเขียวอยู่ข้างใน เราได้กลิ่นชัดเจนมาก ว่ามันคือยาฆ่าหญ้า เราก็รีบวิ่งไปหาตา แล้วตาก็พูดว่า ตากินยาฆ่าหญ้าไป ตาขอโทษนะ แล้วตาก็อ้วกออกมาเยอะมาก เราก็ร้องไห้ ตะโกนให้คนมาช่วยพาตาไปโรงพยาบาล แต่เชื่อไหมคะ ว่าคนแถวบ้านไม่มีใครอยากพาไป เพราะเค้ากลัวว่า ตาจะตายบนรถเค้า เรากับพี่ชายก็วิ่งไปบ้านนั้นบ้านนี้ที่เค้ามีรถยนต์เพื่อให้พาไป จนเจอลุงใจดี บ้านนึงเค้าก็รับปากแล้วมารับตาเราที่บ้านไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเรากับพี่ชายต้องเฝ้าบ้าน
ช่วงที่ตากำลังไปโรงพยาบาล เรากับพี่ชายก็ทำความสะอาดอ้วกของตา แล้วก็นั่งรอฟังข่าวจากยาย ระหว่างนั้นเราก็ได้แต่คิดว่าเราไม่น่าออกจากโต๊ะทานข้าว ไม่น่าเดินขึ้นบ้าน ไม่น่าร้องไห้ ทำไมต้องอยากดูละคร ทำไมไม่เดินไปกดทีวีเอง มันวนเวียนอยู่ในหัวเราตลอด เราข้องใจเรืองทีวีว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น เราก็เลยลองเปิดทีวี ลองเปิดช่อง 5 แล้วจะกดไปช่อง 7 พอเรากดเท่านั้นแหละ น้ำตาไหลพรากได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเรานิสัยแบบนี้ ทีวีมันไม่ไปช่อง 7 ค่ะ มันไปช่อง 9 พอเรากดอีกมันก็กลับมาช่อง 5 เราก็ได้แต่คิดว่าเราทำอะไรลงไป เราทำให้ตาต้องกินยาแบบนี้
ผ่านไปหลายชั่วโมง ยายโทรมาบอกว่า หมอบอกว่า ตาเป็นโรคเบาหวาน ทำให้ยาฆ่าหญ้าที่กินเข้าไปมันออกฤทธิ์ไว กระเพราะเสียหายมาก ให้ตามญาติๆมาให้เร็ว เราก็โทรหา แม่ ป้า และก็ลุง ที่ทำงานอยู่กทม รีบมา (ลืมบอกค่ะ ว่าบ้านเราอยู่ทางภาคเหนือ) ซึ่งมันต้องใช้เวลาอยากน้อยก็ 8 ชั่วโมง สุดท้ายก็มาไม่ทันค่ะ ตาเราเสียตอนประมาณ ตี 4 ตอนที่เรารู้ว่าตาเราเสีย เราไม่รู้ว่าจะมีใครเข้าใจความรู้สึกของเราไหม เราได้แต่คิดโทษตัวเอง จนทุกวันนี้มันก็เป็นเรื่องที่เวลาเรากลับมานึกถึงเรื่องนี้เราก็ร้องไห้ทุกครั้ง ตอนนี้เราอายุ 25 ปี เราได้แต่นึกว่า ในวันที่เราสอบติดมหาลัยดีๆได้ วันที่เรารับปริญญา วันที่เรามีงานที่ดี วันที่เราอยากจะพาคนที่เรารักไปเที่ยว เราอยากให้ตามาอยู่ตรงนี้
ขอบคุณนะคะสำหรับคนที่อ่านเรื่องของเรา เราแค่อยากจะเล่าให้คนอื่นได้ฟัง ถ้ามีคนที่รักอยู่ ดูแลเค้าให้ดีๆนะคะ
ปล.ไม่รู้จะแท็กห้องไหนดี