เรื่องเล่า ห ลั ง เกษียณ
๓.รู้ สึ ก ดี ต่ อ ใ จ ครู
กว่าจะปั้นดินแต่ละก้อน ให้เป็นรูปเป็นร่างได้นั้น ครู ส า ย อา ชี พ
ผ่านเรื่องที่ ท ำ ร้ า ย ความรู้สึกของตนเองมาไม่น้อย
ครูเศร้า.........
เมื่อระบบการศึกษาที่ไม่ยืดหยุ่น ทำให้เขาหรือเธอต้องออกกลางคัน
เมื่อปัญหาในครอบครัวของนักเรียนเอง ทำร้ายเขา
เมื่อครูบางท่าน ข า ด เ ม ต ต า ไม่เข้าใจเขา
หรือ เพราะความ เ ข ล า ของตัวนักเรียนเอง
ในระยะหลัง การพัฒนา ระบบ ค รู ที่ ป รึ ก ษ า ทำให้สถานการณ์ ดีขึ้น
ครูได้รู้ปัญหา ของนักเรียนโดยเฉพาะ ก า ร เ ยี่ ย ม บ้ า น
จำนวนหนึ่ง..... ครอบครัวแ ต ก แ ย ก บุพการีต่างไปมีครอบครัวใหม่ อยู่กับ ปู่ ย่า/ตายาย
หรือ ครอบครัวแตกแยก ...........อยู่กับครอบครัว ที่มี บิดาเลี้ยง-มารดาเลี้ยง
จำนวนหนึ่ง...... บุพการีไปทำงานที่อื่น อยู่กัน พี่ๆน้องๆ
จำนวนหนึ่ง......... ไม่มีครอบครัว-อยู่กับญาติ หรือ.......ไม่มีญาติ อาศัยเขาอยู่
บ้านอยู่ไกลมาก........เ ดิ น ท า ง ล ำ บ า ก มาเรียนสายประจำ
อยู่ ห อพั ก ร ว ม ที่มีทั้งหญิงและชาย .....บ้าง อยู่กินกันฉันท์สามี-ภรรยา
บ้างทำงานพ า ร์ ท ไ ท ม์ มักเป็นอาชีพเสิร์ฟ หรือเชียร์เบียร์ เลิกงานหลังเที่ยงคืน
หรือ ช่วยบุพการีขายของตอนเช้า มาสายประจำ....นี่คือ .......เด็กสายอาชีพ
ครอบครัว ร้อยละ ๕๐ เป็นเกษตรกร อีก ๔๕ ค้าขายและรับจ้าง
ร้อยละ ๕ ข้าราชการ นักธุรกิจ
ความเป็นอยู่...... มีครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าประมาณ ร้อยละ ๑๕-๒๐
กว่านักเรียน ส า ย อ า ชี พ จะจบการศึกษา เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
ภาษาเราๆเรียกกันว่า ป า ก กั ด ตี น ถี บ
พวกครู ครู ต้ อ ง ทุบ ตี จิก ถอง ประคับประคองกันทุกวิถีทาง
....................ทั้ ง รัก ทั้ งเ ก ลี ย ด..............................
แต่... เมื่อเขาจบการศึกษาออกไป ทำการงานพอเลี้ยงตัว
..........ได้เห็นรอยยิ้มของเขา กับ ครอบครัวเขา-เธอในเพจ.............
.
แค่นั้น............ก็ รู้ สึ ก ดี ต่ อ ใ จ ครู เหลือล้นแล้ว
๓.รู้ สึ ก ดี ต่ อ ใ จ ครู
๓.รู้ สึ ก ดี ต่ อ ใ จ ครู
กว่าจะปั้นดินแต่ละก้อน ให้เป็นรูปเป็นร่างได้นั้น ครู ส า ย อา ชี พ
ผ่านเรื่องที่ ท ำ ร้ า ย ความรู้สึกของตนเองมาไม่น้อย
ครูเศร้า.........
เมื่อระบบการศึกษาที่ไม่ยืดหยุ่น ทำให้เขาหรือเธอต้องออกกลางคัน
เมื่อปัญหาในครอบครัวของนักเรียนเอง ทำร้ายเขา
เมื่อครูบางท่าน ข า ด เ ม ต ต า ไม่เข้าใจเขา
หรือ เพราะความ เ ข ล า ของตัวนักเรียนเอง
ในระยะหลัง การพัฒนา ระบบ ค รู ที่ ป รึ ก ษ า ทำให้สถานการณ์ ดีขึ้น
ครูได้รู้ปัญหา ของนักเรียนโดยเฉพาะ ก า ร เ ยี่ ย ม บ้ า น
จำนวนหนึ่ง..... ครอบครัวแ ต ก แ ย ก บุพการีต่างไปมีครอบครัวใหม่ อยู่กับ ปู่ ย่า/ตายาย
หรือ ครอบครัวแตกแยก ...........อยู่กับครอบครัว ที่มี บิดาเลี้ยง-มารดาเลี้ยง
จำนวนหนึ่ง...... บุพการีไปทำงานที่อื่น อยู่กัน พี่ๆน้องๆ
จำนวนหนึ่ง......... ไม่มีครอบครัว-อยู่กับญาติ หรือ.......ไม่มีญาติ อาศัยเขาอยู่
บ้านอยู่ไกลมาก........เ ดิ น ท า ง ล ำ บ า ก มาเรียนสายประจำ
อยู่ ห อพั ก ร ว ม ที่มีทั้งหญิงและชาย .....บ้าง อยู่กินกันฉันท์สามี-ภรรยา
บ้างทำงานพ า ร์ ท ไ ท ม์ มักเป็นอาชีพเสิร์ฟ หรือเชียร์เบียร์ เลิกงานหลังเที่ยงคืน
หรือ ช่วยบุพการีขายของตอนเช้า มาสายประจำ....นี่คือ .......เด็กสายอาชีพ
ครอบครัว ร้อยละ ๕๐ เป็นเกษตรกร อีก ๔๕ ค้าขายและรับจ้าง
ร้อยละ ๕ ข้าราชการ นักธุรกิจ
ความเป็นอยู่...... มีครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าประมาณ ร้อยละ ๑๕-๒๐
กว่านักเรียน ส า ย อ า ชี พ จะจบการศึกษา เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
ภาษาเราๆเรียกกันว่า ป า ก กั ด ตี น ถี บ
พวกครู ครู ต้ อ ง ทุบ ตี จิก ถอง ประคับประคองกันทุกวิถีทาง
....................ทั้ ง รัก ทั้ งเ ก ลี ย ด..............................
แต่... เมื่อเขาจบการศึกษาออกไป ทำการงานพอเลี้ยงตัว
..........ได้เห็นรอยยิ้มของเขา กับ ครอบครัวเขา-เธอในเพจ.............
.
แค่นั้น............ก็ รู้ สึ ก ดี ต่ อ ใ จ ครู เหลือล้นแล้ว