เมื่อคนดีๆเข้ามาในชีวิต...

สวัสดีค่ะทุกคน เรื่องราวของเรามันเริ่มจากการได้รู้จักผู้ชายคนนึงตอนเรียนม.3ค่ะ
ตอนเรารู้จักกันเราก็เป็นเพื่อนกันปกตินี่แหละค่ะ
ตอนนั้นเรามีแฟน เรารักกับแฟนมาก แต่แฟนเราเป็นพวกอารมณ์ร้อน
จะไม่ชอบให้เราเข้าไปยุ่งกับเพื่อนผู้ชายซักเท่าไหร่ หรือถ้ามีเพื่อนผู้ชายเข้ามายุ่ง
นางก็พร้อมจะไล่ให้หายไปทันที จนเราทนนิสัยแฟนในหลายๆเรื่องไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเลิก
แล้วหลังจากนั้นเราก็เริ่มสนิทกับเพื่อนคนนี้มากขึ้นค่ะ มากจนขนาดทุกคนยกให้เป็นคู่จิ้นกัน
ตอนนั้นเราก็แค่รู้สึกว่ามันก็แค่คู่จิ้นไม่ได้มีอะไร เพราะเราก็ไม่ได้ชอบเพื่อนคนนี้แบบคนรักอยู่แล้ว
เราก็ให้เพื่อนมันจิ้นๆกัน ก็มีถ่ายรูปคู่ลงโซเชียลบ้าง แต่เพื่อนๆก็จะรู้ว่าเรากับเค้าแค่สร้างกระแสกันเล่นๆเฉยๆ
จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเข้ามหาวิทยาลัย เรา2คนได้เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันค่ะ
แต่อยู่คนละคณะ เราก็จะมีเจอกันบ้างเวลาเดินผ่านตึกของคณะ ก็ทักทายกันตามปกติแบบเพื่อนอ่ะค่ะ
ซึ่งตอนนั้นเราก็มีคนที่เราแอบชอบอยู่แล้ว เป็นรุ่นพี่เราปีนึง
ช่วงนั้นเราคุยกับรุ่นพี่คนนั้นบ่อยเพราะต้องมีทำกิจกรรมของคณะด้วยกัน เรารู้สึกชอบพี่เค้ามากขึ้น
พี่เค้าก็รู้นะคะ แต่เค้าก็จะเฉยๆกับสิ่งที่เราให้เค้า ทั้งความรู้สึกแล้วก็ของต่างๆ
เราทุ่มเทกับพี่เค้ามาก เพราะพี่เค้าเป็นรักแรกพบของเราค่ะ เราชอบพี่เค้าตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก
แล้วพอมีโอกาสได้คุย เราก็ยิ่งชอบขึ้นมาก ถ้านับมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ5ปีได้แล้วค่ะ
ช่วงนั้นมันก็จะมีช่วงห่างจากพี่เค้าบ้าง บางทีเราน้อยใจเราก็ถอยออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องกลับไป
แต่ระหว่างที่เราถอยก็จะมีคนเข้ามาคุยนะคะ ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ก็มาๆหายๆ
จนเราเริ่มสร้างกำแพงให้กับตัวเองสูงขึ้นและหนาขึ้น
จนมาถึงตอนเราเรียนจบพี่เค้าก็มาหาเรา มาถ่ายรูปด้วยกันค่ะ
มันเหมือนการทำลายกำแพงตัวเองลงในทันที เหมือนพี่เค้ายังให้ความสำคัญกับเราอยู่
เราก็เรียกความรู้สึกตัวเองกลับมาง่ายมาก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกันอีกเลยจนถึงตอนนี้
แต่กลับเป็นว่าเพื่อนเราคนที่เราได้เกริ่นไปตอนแรกที่เป็นคู่จิ้นกับเรา
กลับมาขอจีบเราและขอศึกษาดูใจ เราตกใจมาก เพราะไม่คิดว่ามันเนี่ยนะจะชอบเราจริงๆ
มันบอกว่ามันชอบเรามาตั้งแต่ตอนที่เราเป็นคู่จิ้นกันแล้วหรืออาจก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ
แต่ตอนนั้นเรามีแฟน มันเลยไม่กล้าเข้ามา จนถึงตอนมหาลัยมันก็เคยคิดว่าจะมาขอ
แต่สุดท้ายมันก็ต้องตัดใจให้เป็นเพื่อนกัน จนตอนนี้เรียนจบแล้วมันก็เห็นว่าเรายังโสด
ก็เลยลองมาขอคบ เราก็ได้แต่บอกว่างั้นก็ลองคุยๆไปก่อนแล้วกัน
หลังจากนั้นเราก็คุยกันทุกวันค่ะ ศึกษานิสัย การใช้ชีวิต
ก็ดันมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายและเหมือนกัน มันเทคแคร์เราดีมาก
ถามตลอดตอนเราไม่สบายก็จะให้บอกให้เรากินยา เวลาเราไปไหนก็จะคอยถามว่าถึงไหนแล้ว
ทุกเช้าก็จะทักมามอนิ่งตลอด แล้วนิสัยตัวจริงๆของมันก็ค่อนข้างดีมากๆเลยแหละ
ไม่บังคับ ให้ใช้ชีวิตแบบเดิมได้ จะติดเพื่อนแค่ไหนก็เข้าใจ มีชีวิตอิสระแบบตอนโสดได้
แต่แค่ต้องบอกกัน ตอนแรกเราก็รู้สึกดีนะ รู้สึกว่าโชคดีจังที่มีคนดีๆเข้ามา
แต่พอเรากลับมาทบทวนตัวเอง ทำไมเราถึงรู้สึกอึดอัดก็ไม่รู้
เราเริ่มมีความรู้สึกที่ชัดขึ้นว่า เราไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนเราคนนี้เลย
เรายังรู้สึกกับมันแค่เพื่อน แบบแค่เพื่อนที่หวังดีกันจริงๆ
คือพอทุกวันยิ่งคุยกัน เราก็สัมผัสได้มากขึ้นว่ามันกำลังชอบเรามากขึ้นๆๆๆ
แต่เรากลับน้อยลงๆๆๆๆ ตอนนี้เราเลยสับสนว่าเราควรจะบอกไปตรงๆเลยดีไหม
เพราะเราก็ยังรู้สึกว่าเรายังรักพี่คนนั้นอยู่ เราไม่อยากเอาเพื่อนเรามาเป็นแฟน
ทั้งๆที่เรายังรักคนอื่นอยู่ เราไม่อยากทำร้ายความรู้สึกดีๆที่มีคนมอบให้แบบนี้เลย
แต่เราควรบอกใช่ไหมคะ เราควรทำยังไงให้มันดูไม่เป็นการทำร้ายใจเค้ามากที่สุด
ขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่