เรื่องนี้ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเอามาลงดีมั้ย ทั้งรูป ทั้งเรื่องราวช่างขัดกับธีมตัวเองเหลือเกิน แต่ก็ตัดสินใจเอามาเล่าดีกว่า ใครไม่ชอบรูปประกอบต้องขออภัยไว้ด้วยจริงๆ เป็นรูปเดียวที่ถ่ายมาตอนอยู่ในนั้น

เมื่อช่วงสงกรานต์ปีที่แล้วชั้นได้ไปเที่ยวไทเปและถือโอกาสแวะไปเยี่ยมเพื่อนที่เรียนภาษาจีนอยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งก็นัดแนะเที่ยวผับกัน 2 เดือนล่วงหน้าเลยทีเดียว และมีความรู้สึกที่ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

ตอนแรกตกลงกันว่าจะเข้าผับที่ชื่อ OMNI ซึ่งเป็นผับที่ดังมากและขึ้นชื่อว่าสนุกมากกก ค่าเข้าสำหรับผู้หญิงรู้สึกจะอยู่ที่ 800TWD ก็ประมาณ 8 ร้อยกว่าบาท แต่ด้วยความอีโค่ของเราทั้งสองคนก็ตัดสินใจเข้าผับที่ไม่เสียค่าเข้าดีกว่า

ผับที่เราเลือกไปคือ Wave Club Taipei อยู่ในระแวกรอบๆ ตึก Taipei101 สำหรับวันศุกร์ผู้หญิงที่เข้าก่อน 5 ทุ่มจะได้เข้าฟรี ดริ๊งค์ก็ฟรี ซึ่งชั้นกับเพื่อนได้ทำ Research กันมาแล้วว่าเราควรต้องไปต่อคิวก่อนเวลาเปิดผับนั่นคือ 4 ทุ่มครึ่ง ถึงแม้ว่าเราจะไปต่อคิวก่อน 5 ทุ่มก็จริง แต่หากแถวมันขยับช้าแล้วทำให้ไปถึงทางเข้าหลัง 5 ทุ่ม เราก็ต้องจ่ายค่าเข้า

และด้วยความกระหายของฟรีของเราทั้งสองก็ทำให้เราไปยืนอยู่หน้าประตูตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่ง ซึ่งเป็นคิวแรกของวันนั้น ได้เข้าฟรีแน่นอนสบายหายห่วงไปเลย ระหว่างยืนรอเปิดประตูเป็นคิวแรกสายตาของเราก็กวาดส่องไปทั่ว ทั้งฝรั่งทั้งจีนที่ต่อแถวอยู่นั้นบอกเลย งานดีงานแน่นมากๆ

และเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ประตูเปิดแล้วจ้า!! ยื่น Passport ให้นางสแกน พร้อมรับสายข้อมือและคูปองแลกดริ้งค์ฟรี เดินเข้าเป็นคู่แรกสวยๆ ไปเลย สามารถจองที่ยืนได้อย่างอิสระเสรีมาก แต่นั่งไม่ได้สักที่เพราะเขาจองกันหมดแล้ว

ที่นั่นรับฝากกระเป๋าใบละ 300TWD แนะนำว่าอย่าเอากระเป๋าไปได้จะดีที่สุด ถ้าจำเป็นควรเอาแบบสามารถอยู่ติดตัวกับเราได้ไม่เกะกะ ในระดับที่ไม่จำเป็นต้องเอาไปฝาก ถ้าเอากระเป๋าไปฝากแล้วเกิดนึกขึ้นได้ว่าลืมของไว้ในกระเป๋าแล้วแค่จะไปเบิกเอาของแล้วฝากเข้ากระเป๋าเข้าไปใหม่ต้องจ่ายใหม่อีก 300TWD

คนเริ่มทยอยเข้าผับกันมาเรื่อยๆ ชั้นก็สั่งคอกเทลที่ดูแล้วกินเท่าไหร่ก็ไม่น่าจะเมามาจิบเรื่อยๆ ยืนดูคนค่อยๆ เดินเข้ามา
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เหล่าหนุ่มแซ่บๆ ที่เราเห็นกันตอนต่อคิวนั้นมันหายไปไหนกันหมด ไม่เห็นจะเข้ามากันเลย มายืนต่อแถวกันเฉยๆ หรืออะไร
เพลงก็เริ่มเปิดแนวตลาดทั่วไป ซึ่งก็เป็นแนวที่ชั้นชอบเนี่ยแหละ อารมณ์ประมาณเปิดแถวข้าวสาร ก่อนจะค่อยกลายมาเป็น EDM ซึ่งเป็นแนวที่ชั้นไม่ค่อยจะมันส์กับมันสักเท่าไหร่

Floor ด้านหน้าก็เริ่มแน่นไปด้วยผู้คนที่ทั้งปกติ เมาจริง เมาดิบ เต้นกันอย่างเมามันส์ หลังจากที่สังเกตุการณ์กับเพื่อนอยู่รอบนอก ก็เริ่มเข้าไปแจมด้วยและพบว่าหญิงชายทั้งหลายต่างเริ่มนัวกันอย่างไม่สนใจอะไรใครทั้งนั้น สายตาผู้ชายส่วนใหญ่ต่างสอดส่ายประดุจหาเหยื่อกันอย่างมุ่งมั่น

ยิ่งดึกมากเท่าไหร่ ความกล้าความเปิดเผยก็เริ่มออกมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับชั้นที่มาในฐานะนักสังเกตุการณ์นั้น ต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์อะไรหลายๆ อย่าง ทั้งสาวเกาหลีที่ชั้นเจอเธอในแต่ละครั้งไม่เคยอยู่กับผู้ชายคนเดิมเลย ทั้งหนุ่มฝรั่งทั้งหลายที่ทั้งต่างมุ่งมั่นเข้าหาสาวเอเชียและทั้งสาวเอเชียที่แย่งกันเข้าหา ทั้งคู่ที่เพิ่งแนะนำตัวกันก็ประกบตัว ประกบปากแนบผนังกันในไม่กี่วินาที บรรยากาศในที่นั่นเริ่มสร้างความงุนงงให้กับชั้นมากขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งตีหนึ่งครึ่ง ไฟก็เปิดพรึ่บ เพลงหยุดเล่น และลิฟต์ที่เปิดออกมาพร้อมกับตำรวจกลุ่มใหญ่ๆ นั่นไง....ตำรวจลง

ตำรวจทยอยขอ Passport หรือ ID Card แต่ละคนดูเรื่อยๆ ก็แค่เช็คอายุเฉยๆ ไม่มีอะไรมาก ชั้นเก็บ Passport เอาไว้ในกระเป๋าและยังไม่คิดจะเอาออกมาเพราะไม่อยากจ่ายค่าฝากใหม่ ให้ขอดูก่อนแล้วค่อยไปขอเบิกมา และอย่างที่คิด มองหน้าชั้นแล้วเดินผ่านไปเลย ประดุจว่าดูจากหน้าแล้วก็ขอไม่เสียเวลาดู Passport อีกเลย

เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง คุณตำรวจทั้งหลายก็จากไป ไฟดับ เพลงเริ่มเปิดสนั่นอีกตามเคย เหล่าโคโยตี้ที่เรียกกันว่า Wave Angel ก็ขึ้นมาเต้นรูดเสากันอย่างเมามันส์ เชื่อมั้ยว่าจากการสังเกตุการณ์ของชั้นหนุ่มในนั้นแทบไม่มีใครสนใจโคโยตี้นี้เลยเพราะจดจ้องอยู่กับการหาสาวทั่วไป อารมณ์ประมาณคืนนี้ต้องได้สักคน

เวลาเข้าตีสอง บรรยากาศเริ่มไม่ค่อยปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ การยืนเฉยๆ ไม่สนใจใครไม่ทำให้คุณรอดพ้นความไวของผู้ชายในนั้นได้ จะเดินจะหลบไปไหนก็จะเจอแต่คนพวกนี้ แค่บังเอิญไปมองตาพวกเขาสักสองสามที เท่านั้นล่ะ ดิ่งมาแบบไม่ได้เชื้อเชิญเลย หรือไปยืนใกล้ๆ ใครมือของเขาจะมาล้อมเราแบบไม่ทันตั้งตัว จนชั้นเริ่มทนไม่ได้กับบรรยากาศในตอนนั้น ชั้นกับเพื่อนจึงถอยทัพกลับบ้านนอน เพราะรู้สึกเพียงพอสุดๆ แล้วกับการที่ได้มาเปิดประสบการณ์ในครั้งนี้ ถึงกับนั่งมึนกันในแท็กซี่กันอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เข้าไปอ่านเรื่องราวการเดินทางคนเดียวในแบบฉบับผู้หญิงเสพติดความเหงาได้ที่ https://www.facebook.com/lonelyhappygirl/