***สมเด็จพระสังฆราช ประทานปริญญาบัตร พร้อมประทานพระโอวาท ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา คือพลังในการพัฒนา***



          บ่ายวันอาทิตย์ ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปในการประทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ หอประชุม มวก.๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวันที่สอง



          การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ตามมติสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เช่น Most,Ven. Warakagoda Dhammasiddhi Sri Pannananda Gananarathanadhidhana Mahanayaka Thero มหานายกฝ่ายอัสคิริยะแห่งนิกายสยามวงศ์ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา, Most,Ven. Bhuddata Acinna จากสหภาพเมียนมาร์, Ven. Sik Kin Clieu จากสาธารณรัฐประชาชนจีน, Ven. Hwang Young Dae จากสาธารณรัฐเกาหลี เป็นต้น



         โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่ง ว่า

       "เมื่อวานนี้ ได้ปรารภข้อคิดเรื่องการพัฒนาตนให้งอกงามยิ่งๆ ขึ้น โดยไม่หยุดยั้ง เพราะการหยุด ก็เสมอด้วยการถอยหลัง คนอื่นเขาก้าวล้ำนำหน้าคนอยู่กับที่ไปหมด บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจึงจะหยุดพัฒนาตนให้มีคุณภาพยิ่งๆ ขึ้นไปไม่ได้เลย

       วันนี้จะขอปรารภวิธีสร้างพลัง สำหรับพัฒนาตนให้งอกงามยิ่งขึ้นเป็นข้อคิดให้แก่บัณฑิตใหม่ไว้ นำไปพินิจพิจารณาต่อไป

       พลังสำคัญที่จะผลักดันตนไปสู่การพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไปนั้นมีอยู่ ๕ ประการ

       ประการแรก บัณฑิตต้องมีความเชื่อมั่นหรือ "ศรัทธา" ในสิ่งที่ดีงามตนเองจะกระทำ หรือกระทำอยู่

        ครั้นมีความเชื่อมั่นแล้วก็จะมี "วิริยะ" มีแรงบันดาลใจให้บังเกิดความพากเพียร สามารถตั้งตนไว้ให้ปราศจากความเกียจคร้าน

       เมื่อบำเพ็ญกรณียกิจไปด้วยความขยันหมั่นเพียร ก็ต้องมี "สติ" ความระลึกได้อยู่ทุกขณะ ต้องไม่ประมาทเผลอไผลในหน้าที่การงานของตน เป็นกำลังประการที่สาม

       พอมีสติระลึกได้ในสิ่งที่ตนทำ ก็จะมี "สมาธิ" ตั้งมั่นจดจ่อแน่วแน่ในกิจการทั้งปวง เป็นประการต่อมา

       ส่วนพลังสำคัญประการสุดท้ายที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และดีงาม ก็คือ พลัง "ปัญญา" ได้แก่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่กระทำ

บุคคลใดมีธรรมทั้ง ๕ ประการนี้ ย่อมได้ชื่อว่ามีพละกำลังอันวิเศษ ที่จะนำพาความรุ่งเรืองสำเร็จมาสู่ตนได้อย่างแน่นอน"







ขอบคุณ      http://www.tnews.co.th/contents/321171
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่